บทที่ 69 เมียน้อย
“ พี่ ได้ยินที่ฉันพูดไหม?”
“หา?” หานหยู่เยนดูมึนๆงงๆ “เอ่อ ได้ยินแล้ว”
เห็นแบบนี้ หานหยู่ถิงก็ทั้งโกรธทั้งร้อนใจ พี่ ทำไมยังมามัวแต่งงๆงันๆอยู่ได้ คนมาหาถึงหน้าประตูแล้ว คิดจะเปิดตัวเป็นทางการ ทำไมพี่ถึงไม่ร้อนใจเลยสักนิด!”
“ หยู่ถิง เธอคงเข้าใจผิดไปแน่ๆ”
“ไม่ผิด ครั้งนั้นพี่เขยกับเธออยู่ในห้องด้วยกันครึ่งชั่วโมงที่บริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อ คนรับใช้เข้าไปเตรียมอ่างอาบน้ำ ตอนออกมา ผู้หญิงคนนี้ใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำ นี่ยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาอาบน้ำด้วยกัน สวมเขาให้พี่อีกหรือ! ”
สำหรับน้องภรรยาคนนี้ โล่เฉินหมดคำพูดใด ๆจะเอ่ย
แต่นี่ก็สามารถเข้าใจได้
ฉากในคืนนั้น เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเข้าใจผิด
“หยู่ถิง ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด”
“ แล้วนั่นมันอะไรกัน?” ดวงตากลมโตของหานหยู่ถิงจับจ้องไปที่โล่เฉิน ฟันเขี้ยวเผยออกมาให้เห็น ท่าทางดูเอาเรื่องอย่างยิ่ง
“เมื่อครู่เพิ่งจะรู้สึกชื่นชมนายอยู่บ้าง ตอนนี้สักนิดก็ไม่เหลือแล้ว พี่สาวฉันไม่รังเกียจนาย แต่นายกลับมีชู้ลับหลังพี่สาว นายคอยดูเถอะ ฉันจะให้แม่มาเดี๋ยวนี้”
พูดไป หานหยู่ถิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาเพื่อโทรออก
หานหยู่เยนรีบฉวยโทรศัพท์มือถือมาและพูดอย่างจริงจัง: “พอแล้ว อย่าเอะอะ ไม่มีหลักฐานแล้วจะไปใส่ร้ายคนอื่นง่ายๆได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้เธอก็ช่วยพวกเราไว้ ทำไมถึงไม่มีมารยาทเลยสักนิด!”
“พี่ เธอเป็นเมียน้อย จะไปสุภาพกับเธอทำไม ทำไมพี่ถึงไม่เชื่อฉัน ฉันเป็นน้องสาวสุดที่รักของพี่นะ ฉันจะโกหกพี่หรือไง”
หานหยู่ถิงโกรธจนแทบจะร้องไห้ สองเท้ากระทืบไปมาไม่หยุด
ทันใดนั้น เธอก็ชี้ไปที่เซี่ยซือหานและเอ่ยหอบ “ไม่คิดเลยนะ หน้าตาก็ดีแต่ดันหน้าด้านขนาดนี้ โล่เฉินมีอะไรดี เงินก็ไม่มีงานก็ไม่มี สมองเธอป่วยหรือไงถึงได้อยากอยู่กับเขา”
“ฉันมีความสุข!”
พรูด
โล่เฉินแทบกระอักเลือด ยัยบ้านี่ยังก่อเรื่องไม่พออีกหรือไง ถึงได้ตอบกลับไปอย่างนั้น!
จบเห่
กระโดดแม่น้ำฮวงโหยังล้างตัวให้บริสุทธิ์ไม่ได้แล้ว
หานหยู่ถิงกลับหัวเราะและหันกลับไป “พี่ ได้ยินแล้วหรือยัง ตอนนี้เชื่อหรือยังว่าเธอคือเมียน้อย โล่เฉิน นายมันไอ้ชั่วสารเลว”
หานหยู่เยนแอบขมวดคิ้ว เธอมองไปที่โล่เฉิน ท่าทางไม่เชื่ออยู่บ้าง
“สวัสดีค่ะ ฉันยังไม่รู้ชื่อคุณเลย?”
“เซี่ยซือหาน”
“คุณเป็นเพื่อนกับโล่เฉินหรือ รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่หรือคะ ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินโล่เฉินเอ่ยถึงมาก่อน?” หานหยู่เยนเริ่มที่จะป้องกันและไล่ถาม
ใครจะรู้ เซี่ยซือหานกลับไม่ยอมอ่อนข้อ เธอเพยิดคางอันบอบบางและเอ่ย “พวกเรารู้จักกันไม่นาน แต่ได้ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน”
บูม
หานหยู่เยนหน้าเปลี่ยนสี
ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันประโยคนี้มากพอที่จะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้
“เธอช่วยหยุดหน่อย”
โล่เฉินดุ เขารีบอธิบายด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น: “หยู่เยน อย่าไปฟังเธอเลย ผมเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ครั้งหนึ่ง เธอรู้สึกขอบคุณก็เลยมาที่บริษัท อย่าได้คิดมาก”
“งั้นสิ่งที่ฉันเห็นที่บริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อหมายความว่ายังไง?” หานหยู่ถิงยังไม่ยอมหยุด
“คืนนั้นฉันกำลังรักษาเธอ”
หานหยู่ถิงเย้ยหยัน “รักษา? เจ็บป่วยแบบไหนถึงต้องแช่อ่าง รักษาอาการป่วยะไร? โรคความต้องการทางสรีระน่ะสิ”
“ สาวน้อย หาเรื่องหรือไง”
“เธอกล้า”
มองดูสองคนที่กำลังทำสงครามน้ำลายกัน หานหยู่เยนก็ปวดหัว เธอโบกมือ “พอแล้วพอแล้ว หยุดพูดเถอะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ พี่ นี่ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกหรือ?” หานหยู่ถิงรู้สึกเหลือเชื่อ
“โล่เฉินกับคุณเซี่ยไม่มีอะไรระหว่างกันย่อมดีที่สุด แต่ถ้ามีก็ช่วยไม่ได้ จะให้ฆ่าทั้งคู่หรือไง? เอาเป็นว่าในใจพี่มีกฎเกณฑ์ดี เธออย่าได้ยุ่งอีกเลย”
“ใครจะอยากไปยุ่ง อยากทำอะไรก็ทำเถอะ รอให้พี่โดนเจ้าชั่วโล่เฉินนี่หลอกจนไม่เหลืออะไรแล้วนั่งร้องไห้ซะเถอะ”
หานหยู่ถิงโกรธจนออกจากบริษัทไป
หานหยู่เยนได้รับการอบรมอย่างดียิ่ง เธอรินน้ำชาให้กับเซี่ยซือหานแก้วหนึ่ง “ขออภัยด้วย น้องสาวของฉันอายุน้อยไม่รู้ความ คุณเซี่ยอย่าได้ถือสา”
“ คุณเชื่อในตัวโล่เฉินมากขนาดนี้เชียว?” เซี่ยซือหานประหลาดใจ
“แน่นอน”
“ฉันนับถือเลย”
เซี่ยซือหานปรบมือและอุทานชม
โล่เฉินลูบจมูก สีหน้ามีรอยยิ้มแขวนอยู่บางๆ ในใจไหลเวียนได้ด้วยกระแสความอบอุ่น
“ขออธิบายเลยแล้วกัน ร่างกายของฉันถูกโล่เฉินมองจนหมดเปลือกแล้วจริงๆ แต่ว่าเขาจริงจังอย่างยิ่ง ทำแค่รักษาฉันเท่านั้น ไม่ได้แตะต้องตัวฉันเลย”
แม่เจ้าโว้ย ผู้หญิงคนนี้ จะสารภาพแล้วทำไมต้องพูดถึงเรื่องมองจนหมดเปลือกไปทำไมกัน
โล่เฉินแอบด่าในใจ
หานหยู่เยนแววตาสว่างวาบ เธอรู้ว่าโล่เฉินรักษาโรคเป็น ครั้งที่แล้วที่ตึกซิงหยุน พ่อของฉู่เฟิงก็ได้เขารักษา
“พี่เซี่ย ยังไงคุณก็เป็นผู้เสียหายนะ!”
หานหยู่เยนฉลาดอย่างยิ่ง
คำว่า “พี่สาว” ช่วยดึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเข้ามา
“ก็นั่นน่ะสิ แต่ช่วยไม่ได้นี่ ฉันสู้เขาไม่ได้ คุณเป็นภรรยาของเขา จะต้องช่วยฉันระบายความโกรธนี้นะ”
“ไม่มีปัญหา ฉันจะกลับไปสั่งสอนเขาคืนนี้”
เซี่ยซือหานเอ่ยต่อ “ฉันยังไม่หายจากอาการป่วย ยังต้องให้เขาช่วยลงมือรักษา ดังนั้นจากนี้ไปอีกสักพัก ก่อนที่ฉันจะหายดีฉันยังต้องติดตามเขา คุณอย่าได้ถือสา”
“แบบนี้นี่เองหรือ วางใจเถอะ ฉันจะจะไม่เข้าไปยุ่ง”
หานหยู่เยนมีเหตุผลอย่างมาก เธอเชื่อใจโล่เฉินอย่างมาก เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้แน่
แต่งงานสามปี นอนห้องเดียวกัน
โล่เฉินล้วนอยู่ตามกรอบอย่างยิ่งไม่เคยสัมผัสเธอมาก่อน นี่เห็นว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ
“พี่สาว คุณอยากเป็นศิลปินในบริษัทจริงๆหรือ?”
“ว่าตามที่โล่เฉินจัดการเถอะ” เซี่ยซือหานมองไปที่โล่เฉินและถาม “คุณจะจัดการฉันยังไง บริษัทคงไม่ใช่ว่ามีฉันเป็นพนักงานแค่คนเดียวหรอกนะ นี่มันออกจะหยาบกระด้างเกินไปแล้ว”
หานหยู่เยนก็อยากรู้เช่นกัน
โล่เฉินนั่งลงและมองไปที่เซี่ยซือหานอย่างประเมิน เขานิ่งคิด ก่อนจะเอ่ยปาก “เธออยากเป็นสตรีมเมอร์หรือเปล่า?”
“หา?”
“เป็นสตรีมเมอร์น่ะ ถือเป็นเส้นทางง่ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะใบหน้าและความสามารถของเธอล้วนอยู่ในระดับสูงสุด เป็นผู้สตรีมเมอร์สามารถดังขึ้นมาได้ง่าย”
โล่เฉินพูดจบก็มองไปที่หานหยู่เยน เธอเองก็พยักหน้า
เซี่ยซือหานนิ่งเงียบไปนาน
“เธอไม่ยินดี?”
“นั่นเท่ากับให้ฉันขายใบหน้าไม่ใช่หรือไง! ให้มาทำท่าทางสะออดสะอ้อนต่อหน้ากล้อง คิกๆคักๆ ฉันไม่ได้หน้าด้านหน้าทนขนาดนั้น” เซี่ยซือหานเหยียด
โล่เฉินหน้านิ่ง “เธอแน่ใจว่าจะไม่เป็นสตรีมเมอร์?”
“ไม่เป็น ตีให้ตายก็ไม่ทำ!”
สามนาทีต่อมา
“ก็ได้ ฉันยอมตกลง”
เซี่ยซือหานขบเม้มริมฝีปากสีแดงของตน ท่าทางรันทดอย่างยิ่ง
ไม่มีทางเลือก เธอยังต้องการความช่วยเหลือจากเขาอยู่นี่
ถ้าไปทำให้เขาขุ่นเคืองเข้าจริงๆ
ชีวิตก็คงจบเห่
“มามามา พวกเรามาแสดงความยินดีกับว่าที่สตรีมเมอร์ชื่อดัง ต่อไปเธอจะต้องว่าที่เทพธิดาบนโลกออนไลน์ เป็นเทพธิดาแห่งชาติ” โล่เฉินยกถ้วยชาขึ้น
หานหยู่เยนก็เห็นความหวังเช่นกัน เธอคิดว่าด้วยคุณสมบัติของเซี่ยซือหานจะต้องดังจนลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน
ตอนนี้มันเป็นยุคของอินเทอร์เน็ต
สตรีมเมอร์ชื่อดัง สามารถทำเงินได้เร็วกว่าการพิมพ์เงินเสียอีก
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หานหยู่เยนเองก็ยิ้มกว้าง เธอถือถ้วยชาขึ้นและเอ่ยอย่างรอคอย “พี่สาวสู้ๆนะคะ หวังว่าคุณจะดังขึ้นมาได้โดยเร็ว”
เซี่ยซือหานไร้ความสนใจใด ๆอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยอมจำนน
หลังหานหยู่เยนจากไป โล่เฉินก็ตรวจสอบสภาพร่างกายของเซี่ยซือหาน เมื่อยืนยันว่าไม่มีความผิดปกติอะไร เขาจึงค่อยขับรถพาเธอไปที่ห้างสรรพสินค้า
เป็นสตรีมเมอร์จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ และยังต้องตกแต่งพื้นที่ รวมถึงต้องซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของอื่น ๆ อีกมากมาย
หลังจากเดินเลือกซื้อตั้งแต่เช้าจนบ่าย ของใช้ก็เต็มคันรถ
“แชะ แชะ แชะ”
ในมุมหนึ่ง มีเสียงถ่ายภาพดังขึ้น
หานหยู่ถิงติดตามพวกโล่เฉินมาตลอดทาง และถ่ายรูปท่าทางสนิทสนมของคนทั้งสองเอาไว้ เธอตัดสินใจจะให้หานหยู่เยนได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของโล่เฉิน
“รอไปก่อนเถอะ ไอ้คนชั่ว ทำผิดต่อพี่สาวฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่” เมื่อมองไปที่รถ BMW หานหยู่เยนก็กุมกำปั้นแน่น ดวงตาเป็นประกายดุร้าย
ในรถ เซี่ยซือหานหัวเราะ “น้องภรรยาของนายดื้อรั้นไม่เลว”
“ อย่าไปสนใจเด็กน้อยนั่นเลย”
โล่เฉินไม่ถือสา
เมื่อกลับเข้ามาในบริษัท เขาและเซี่ยซือหานก็เริ่มจัดการตกแต่ง
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เซี่ยซือหานก็ถาม “Douyu Huya นายจะให้ฉันสตรีมบนแพลตฟอร์มไหน?”
“อันที่จริงฉันต้องการสร้างแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดขึ้นมาเอง แต่การพัฒนาแพลตฟอร์มและโปรโมตจะต้องใช้เงินเพื่อจัดการเรื่องพวกนี้ ตอนนี้ในมือยังมีเงินไม่พอ”
“นายยังขาดแคลนเงินอยู่อีกหรือ?” เซี่ยซือหานกลอกตา
โล่เฉินหัวเราะและไม่พูดอะไร
อันที่จริง แต่หาฟ่านหงชางทุกอย่างก็จะเรียบร้อย แต่แบบนี้ก็ไร้ความหมายไปแล้ว
ประการแรก จะทำให้คนสงสัยอีกทั้งถึงตอนนั้นก็ไม่มีทางอธิบายได้
ประการที่สอง โล่เฉินอยากดูความสามารถของตนเอง หากหลีกเลี่ยงได้ เขาตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปใช้ความแข็งแกร่งของฟ่านหงซาง
นอกจากนี้ ให้ฟ่านหงซางลงมือ แบบนั้นจะเรียกว่าเริ่มต้นธุรกิจอะไรได้อีก ให้เขาให้เงินตนมาหลายสิบหลายร้อยล้านแบบนั้นก็สบายไปแล้ว
“ตอนนี้เธอเปิดแอคเคาท์บนDouyuเถอะ ลองจับทางดูสักหน่อย รอให้เธอดังขึ้นมาแล้วและสร้างเงินให้บริษัทได้ ฉันจะคิดถึงการเปิดแพลตฟอร์มของตัวเอง”
“ก็ได้”
ในช่วงบ่าย โล่เฉินได้รับผู้ช่วยเพิ่มมาอีกสองคน
หลังจากนั้น เขาก็ซื้ออาหารเสริมมากมายรวมทั้งเสื้อผ้าใหม่ของสาว ๆ ขนม หนังสือ จนเต็มท้ายรถและไปยังหมู่บ้านเหอฮัว
“หมู่ตัน!”
“พี่ชาย คุณมาได้ยังไง?”
หมู่ตันที่กำลังให้อาหารไก่ในสวนพอเห็นโล่เฉินก็ดีใจอย่างยิ่ง เธอมองเห็นโล่เฉินกำลังเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากรถและเอ่ยถามขึ้น พี่ชาย พวกนี้ … ”
“ของพวกนี้ให้พวกเธอทั้งหมด อีกทั้งยังซื้อเสื้อผ้าใหม่และขนมมาให้อีกเยอะแยะมากมาย”
โล่เฉินชอบสาวน้อยคนนี้มาก
อายุยังน้อย
แต่เธอกลับใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง
“พี่ชาย คุณช่วยครอบครัวของเรามากเราแล้ว คุณรักษาแม่พวกเราก็ซาบซึ้งอย่างมาก ของพวกนี้เรารับไม่ได้หรอก”
“รอให้เธอโตขึ้น หาเงินได้แล้ว ค่อยคืนฉันแล้วกัน”
โล่เฉินย้ายสิ่งของเข้าไปในบ้านและตรวจสอบสภาพร่างกายของหญิงสาว หลังยืนยันว่าไม่มีอาการอะไร เขาจึงอธิบายการใช้ยาบางอย่างให้สองแม่ลูกฟัง
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย โล่เฉินก็มาที่สุสานอีกครั้ง