จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 99

ตอนที่ 99

บทที่99 หายไป

เมืองเจียง ตระกูลหลิน

หลินชิงอี๋ตื่นขึ้นมาช้าๆ ในสภาพที่ดีมากและใบหน้าที่ปราศจากเลือดของเธอก็มีเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย

“เสี่ยวอี๋ ลูกสุดที่รักของแม่ ในที่สุดลูกก็ตื่นแล้ว”

“แม่”

แม่ลูกกอดกันร่ำไห้

ในที่สุดหินก้อนใหญ่ในหัวใจของหลินหยุนเซียวก็ตกลงมา และหันกลับมาพูดว่า”เสี่ยวเฉิน ไม่พูดมาก ตอนเที่ยงอยู่นี่แหละ ไม่เมาไม่กลับ”

“ไม่มีปัญหา”

แม่โอบหลินชิงอี๋ไว้ และถามว่า:”ลูกรัก รู้สึกยังไงบ้าง มีความรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

“แม่ หนูรู้สึกผ่อนคลายมาก แม้กระทั่งรู้สึกมีสุขภาพดีและมีพลังมากกว่าเมื่อก่อน”หลินชิงอี๋บีบกำปั้นของเธอและพูดอย่างมีความสุข

“จริงเหรอ ดีมากเลย”

โล่เฉินยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ

นอกเหนือจากการสลายคาถาแล้ว เขายังใช้พลังจิตของเขาเพื่อจัดการร่างกายของหลินชิงอี๋อีกด้วย

ยัยนี้ชอบเสี่ยง เธอเดินป่าลึกไปทั่วทั้งภูเขา จริงๆแล้วร่างกายของเธอมีโรคร้ายบางอย่างที่ไม่ใหญ่หรือเล็ก ตอนนี้เธอยังเด็กไม่สามารถรู้สึกได้ เมื่อเธออายุมากขึ้น ก็จะรู้เอง

แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ถูกขับออกโดยโล่เฉิน

“แม่ หนูมีข่าวดีจะบอก พี่เฉินตกลงที่จะให้หนูเป็นน้องสาวของเขาแล้ว”

“น้องสาว?”หญิงสาวมองแปลก ๆ

หลินหยุนเซียวลูบจมูก ดูเหมือนจะตระหนักถึงการเรื่องเรียกอาวุโส

โล่เฉินทำลายความอึดอัด และถามว่า:”เสี่ยวอี๋ บอกได้รึเปล่าว่าสถานการณ์ในตอนนั้นไหม? ตอนดึงรากยู่หลง มันเกิดอะไรขึ้น?”

“หา?”

หลินชิงอี๋หดคอ เหมือนว่าจะนึกถึงเรื่องที่น่ากลัวขึ้น บนหน้ายังมีความกลัวเล็กน้อย

“ช่างเถอะ ไม่พูดล่ะ”

โล่เฉินปัดมือ ไม่อยากให้หลินชิงอี๋เข้าสู่ในความกลัวอีกครั้ง

“พี่เฉิน พี่รักษาโรคร้ายให้แล้ว ฉันจะกลัวอะไรอีก!”

หลินชิงอี๋กล้าหาญมาก เอาชนะความกลัวของเธอ และนึกถึงฉากเมื่อสามเดือนก่อน

“ตอนนั้นเพื่อนของฉันสองสามคนและฉัน ได้ค้นพบรากยู่หลง เพราะมันสวยมาก และไม่เคยเห็นมาก่อน จึงคิดว่ามันเป็นสมบัติโดยธรรมชาติ”

“เติบโตบนกำแพงภูเขาสูงจากพื้นดินห้าหรือหกเมตร ฉันใจกล้าพอ เลยบอกจะเอามันออกมาเอง แต่เมื่อฉันดึงรากยู่หลงออก……”

โล่เฉินอยากรู้อยากเห็นมาก และถามว่า:”เกิดอะไรขึ้น?”

“ยังไงซะ มันแปลกมาก”

หลินชิงอี๋ขมวดคิ้ว พยายามที่จะนึก:”ในเวลานั้นดูเหมือนว่าจะมีหัวกะโหลกสีดำอยู่ตรงหน้า มันคำรามและพุ่งเข้ามา ฉันตกใจจนล้มลงจากกำแพงภูเขา โชคดีที่ฉันเพื่อนฉันรับฉันได้”

“หัวกะโหลกศีรษะ?”โล่เฉินหลงอยู่ในความคิด

“ใช่ มันอาจจะเป็นภาพหลอนของฉัน จากนั้น เมื่อฉันกลับถึงบ้านฉันก็เข้าสู่อาการโคม่า และเริ่มมีอาการชัก”

โล่เฉินพยักหน้า:”อย่าพูดอะไรเลย ช่างมันเถอะ”

หลินหยุนเซียวเหลือบมองนาฬิกา และหัวเราะ:”ใกล้ถึงเวลาแล้ว ไปไปไป ไปโรงแรมข้างนอก เราไปดื่มกันเถอะ”

หลังจากวงเหล้าในตอนเที่ยงผ่านไป โล่เฉินอำลาครอบครัวหลินหยุนเซียวทั้งบ้าน และมาที่ชุมชนแออัดของเมืองเจียง

จุดมุ่งหมาย เพื่อมาเยี่ยมแม่ของส้งเชี่ยง

ช่วยไม่ได้ ในเมื่อยื่นมือช่วยเขาแล้ว ก็ต้องช่วยให้สุด

“พี่โล่”

“เสี่ยวเชี่ยง พี่ชายเธอล่ะ?”โล่เฉินถาม

ส้งเชี่ยงทำหน้าเสียดาย แล้วพูดว่า:”พี่ชายออกไปทำงานแล้ว ไปจีนหลิง ไปเมื่อวาน”

“ไปทำงานที่จีนหลิง? เด็กคนนี้นะ! ทำงานในเมืองเจียงไม่ได้รึไง ไปไกลขนาดนั้น แล้วทิ้งแม่ไว้ให้เธอ ไม่มีความรับผิดชอบเลย”

“ไม่ ไม่ใช่นะ”

ส้งเชี่ยงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างจริงจัง:”พี่ชายจะไปทำงานหนัก เขาต้องการสร้างอาชีพ เพื่อให้แม่และฉันมีชีวิตที่ดีและออกจากชุมชนแออัดนี้”

“ช่างเถอะ มันเป็นทางเลือกของเขา ไม่มีใครสามารถเข้าไปยุ่งได้”

โล่เฉินไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อมาที่ห้อง อาการของหญิงสาวก็ดีขึ้นมาก แม้ว่าเธอจะยังคงอ่อนแอและล้มป่วยอยู่มาก แต่การทำงานของร่างกายก็คงที่

ไตแย่ลงเล็กน้อย

เพราะยังไงก็เริ่มคืนชีพมาใหม่ จะต้องใช้เวลาสักพัก ไม่ใช่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ในช่วงนี้การทำงานของไตของหญิงสาวยังแน่กว่าปกติและมีสารพิษบางอย่างในเลือด

โล่เฉินใช้เวลา10นาที ในการทำความสะอาดสารพิษออกจากร่างกายของผู้หญิง

“ขอบคุณหมอเทพมาก ฉันรู้สึกได้ถึงการดีขึ้นฝนร่างกายของฉัน และผลที่ตามมา ก็น่าเหลือเชื่อมาก” หญิงสาวขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า

ส้งเชี่ยงเช็ดตา เธอมีความสุขมาก:”พี่โล่ ฉันไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไง ถ้างั้น ฉันตามพี่ไป ทำงานให้พี่แล้วกัน”

“ตามฉันไป?ไม่เอาแม่แล้วเหรอ?”

“เอ่อ……ถ้าอย่างนั้นรอแม่หายดี ฉันค่อยตามพี่ไป ช่วยพี่ทำงาน ได้ไหม?”น้ำเสียงของส้งเชี่ยงมีความขอร้อง

โล่เฉินคิดอยู่พักหนึ่ง

ส้งเชี่ยงต้องการงานจริงๆ และบริษัทของเขาจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆในอนาคต และยังต้องการกำลังคนด้วย ดังนั้นโล่เฉินจึงตกลง

“โอเค รอวันหลังเธอมาทำงานในบริษัทของเราฉัน”

“ว้าว พี่โล่ พี่มีบริษัทด้วย”ดวงตาของส้งเชี่ยงเย็นชา

โล่เฉินเม้มปากของเขา:”เธอดูถูกฉันเหรอ?”

“เปล่า วันหลังฉันจะไปเยี่ยมบริษัทของพี่ ไปดูล่วงหน้าก่อน แบบนี้ฉันดูแลแม่ไป จะได้เตรียมตัวให้ดีด้วย”

“เธอเตือนฉันพอดี”

โล่เฉินมองไปที่ส้งเชี่ยง ดวงตาของเขาดูเหมือนจะสามารถมองเห็นผ่านร่างกายได้

ใบหน้าของส้งเชี่ยงแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว เธอหลบสายตาและพึมพำ:”พี่โล่ พี่มองฉันแบบนี้ทำไม?”

“เธอมีใบหน้าที่ดี หุ่นดี และเสียงหวาน เธอมีความสามารถอะไรไหมๆ?”โล่เฉินถาม

“ความสามารถ?”

“ฉันเปิดบริษัทเทเลวิชั่นมีเดีย ไม่เธอจะเป็นนักแสดง หรือวีเจในอนาคต ตอนนี้บริษัทมีวีเจสามคน”

วีเจสามคนที่โล่เฉินว่าคือเซี่ยซือหาน หานหยู่ถิงและอู๋จื่อเยว่

อู๋จื่อเยว่เป็นเด็กสาวที่แปลกประหลาด ตอนนี้จุดตันเถียนแตกสลายและไม่สามารถฝึกฝนได้ เลยปล่อยไป

หลังจากรู้ว่าโล่เฉินเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง อู๋จี่อเยว่ก็อยากมีส่วนร่วมทันที

เธอสวยหยาดเยิ้มด้วยเสน่ห์โดยกำเนิด และไม่สามารถหยุดเสน่ห์ของเธอได้แม้กระทั่งผ่านหน้าจอ

ในวันเดียว ก็รวบรวมแฟนคลับ60,000คนได้ จะแซงเซี่ยซือหานแล้ว และเซี่ยซือหานก็ไม่ใช่คนที่ยั่วได้ง่ายๆ ไม่ยอมแพ้

ทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน และการถ่ายทอดสดก็ยากมาก

ภายใต้การแพร่เชื้อของทั้งสอง หานหยู่ถิงผู้ซึ่งไม่เคยไปไหนมาไหนและขี้เกียจ ก็กระตุ้นความไม่เต็มใจที่จะปราบคนอื่นและเริ่มจริงจัง

วีเจไม่ต้องเยอะสี่คนก็เพียงพอแล้ว

โล่เฉินต้องการฝึกราชินีทั้งสี่ และขาดเพียงคนเดียว แม้ว่าแต่ละด้านของส้งเชี่ยงจะอ่อนกว่าพวกอู๋จื่อเยว่นิดหน่อย แต่เธอก็เป็นคนที่ใช้งานได้

“พี่โล่ อยากให้ฉันเป็นวีเจงั้นเหรอ?”

“ฉันฝึกเธอได้ ถ้าเธอดัง ก็จะทำเงินได้มาก นี่ก็คือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ แน่นอน ฉันไม่บังคับเธอ เธอสามารถเลือกที่จะทำงานในบริษัทได้ แต่มันไม่มีช่องว่างสำหรับการพัฒนาและได้เงินไม่มาก”

“เธอต้องเข้าใจความจริง: ไม่มีอะไรตกลงมาจากท้องฟ้า”

“การหาเงิน ต้องพึ่งความพยายามของเธอเอง”

ส้งเชี่ยงงงไปในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นก็พูดอย่างหนักแน่นว่า:”พี่โล่ ฉันเต็มใจที่จะเป็นวีเจ และฉันจะพยายาม”

“ฉันจะให้เลขาส่งประเด็นสำคัญบางอย่างและเอกสารอื่นๆสำหรับวีเจให้เธอ ระหว่างนี้ดูแลแม่เธอไป เรียนรู้ไป อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”

“แน่นอน”

ก่อนที่โล่เฉินจะไปเขาให้แหวนวงหนึ่งกับส้งเชี่ยง ซึ่งเป็นหยกแกะสลักโดยฉินต้าวจื่อ มันมีประโยชน์บางอย่าง และสามารถช่วยชีวิตคนในช่วงเวลาวิกฤตได้

ระหว่างทางกลับบ้าน ก็ซื้อผักข้างทาง

ในตอนเย็น โล่เฉินเริ่มทำอาหาร ทำไปครึ่งทาง ก็มีคนโทรมารับสาย

“ฮัลโหล โล่เฉิน หยู่ถิงอยู่บ้านไหม?”

“ไม่อยู่นะ ทำไมเหรอ?”

หานหยู่เยนเครียดมาก แล้วพูดว่า:”ฉันไปบริษัทนายแล้วไม่เจอหล่อน พี่เซี่ยบอกว่าบ่ายโมงกว่าหยู่ถิงก็ออกจากบริษัทไปเที่ยวแล้ว ฉันโทรไป มันขึ้นปิดเครื่อง”

“จริงเหรอ?”

ในใจโล่เฉินมีไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพูดเสียงแน่น:”หยู่เยนไม่ต้องกังวลรอข่าวจากฉัน”

“ก็ได้”

“จริงสิ ถ้าเธอจะกลับมาให้เซี่ยซือหานมาส่ง อย่าขับรถกลับคนเดียว”

หานหยู่เยนรู้สึกถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ และเธอก็ถามอย่างสั่นๆว่า:”โล่เฉิน นายหมายถึงหยู่ถิงตกอยู่ในอันตราย และถูกจับเหรอ?”

“ฉันยังไม่รู้ แต่เตรียมใจไว้ ฉันจะไม่พูดอะไรมาก เอาล่ะแค่นี้ก่อนนะ วางล่ะ”

โล่เฉินรีบโทรหาฟ่านหงชาง และพูดอย่างรีบร้อนว่า:”หงชาง รีบไปหาคนให้หน่อย หานหยู่ถิงน้องสะใภ้ของฉันหายไป เธอออกจากบริษัทฉันเวลาประมาณบ่ายโมงและขับรถ BMW 540Li สีชมพูที่มีป้ายทะเบียน ******รีบมาก!”

“อาจารย์ ผมจะจัดการให้ครับ”

เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ฟ่านหงชางโทรมา

“เป็นไง”

“อาจารย์ สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก พบรถBMWสีชมพูของหานหยู่ถิงบนถนนที่ไม่ไกลจากถนนเจี่ยฟ่าง จากวิดีโอกล้องวงจร พบว่าถูกกายผิวดำ 2 คนลักพาตัวไป”

ตู้ม

ความโกรธและรังสีอำมหิตผสมกัน และอุณหภูมิของทั้งห้องลดลงหลายเท่า

สีหน้าของโล่เฉินเย็นชามาก และทุกคำพูดที่โพล่งออกมาดูเหมือนจะมีรังสีอำมหิต:”แล้วมีอะไรอีก รู้ยังว่าใครเป็นคนลักพาตัวหยู่ถิง?”

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท