ปานเหิงกำลังปรับลมหายใจ เมื่อได้ยินคำพูดของโจ่ถิงฟางเขาก็ลืมตาขึ้น จากนั้นจึงเดินไปที่หน้าต่างบานจรดพื้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชาย คุณคิดได้แล้ว”
“ถอนหมั้น ก็เพื่อเอาใจจิ่งเทียน แล้วถ้าเขาไม่เห็นค่าล่ะ อย่างนั้นจะทำยังไง?” โจ่ถิงฟางถาม
“คุณชาย ลู่เฟิงและจิ่งเทียนรู้จักกัน และดูเหมือนความสัมพันธ์จะไม่ใช่ตื้นเขินอีกด้วย หากอาศัยเส้นสายนี้ พวกกับพวกเราเอาอกเอาใจเขาให้ดี จิ่งเทียนเองก็จะต้องรู้สึกใกล้เข้ามาด้วยเช่นกันแน่”
โจ่ถิงฟางพยักหน้าเล็กน้อย
ปานเหิงหันมามองแล้วพูดว่า “คุณชาย ผมรู้ดีถึงความกังวลของคุณ ไม่อยากให้ตระกูลโจ่ต้องกลายไปเป็นเรื่องตลก อันที่จริง มีหนทางหนึ่งที่ได้ทางออกที่ดีที่สุดทั้งสองอย่าง”
“อะไร?”
“มอบสินสอดให้คนอื่น”
โจ่ถิงฟางถามอย่างสงสัย “หมายความว่ายังไง?”
ปานเหิงอึกๆอักๆอยู่บ้าง เขาเอ่ย “คุณชาย อาจจะต้องลำบากคุณหน่อยแล้ว ความหมายของผมก็คือ คุณทำการส่งสินสอดไปยังอีกหนึ่งตระกูลในฉู่โจว และเปลี่ยนคู่หมั้น”
โจ่ถิงฟาง “…..”
“คุณชาย นี่เป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ตระกูลโจ่กลายเป็นเรื่องตลกอีกทั้งยังสามารถเอาใจจิ่งเทียนได้ แต่ก็อย่างที่ผมบอก การหาผู้หญิงที่ตนไม่ได้มีความรู้สึกให้ ลำบากคุณชายแล้ว”
ทั้งห้องเปลี่ยนเป็นเงียบลง
เงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงฝีเข็มตกลงบนพื้น
ปานเหิงยืนอยู่ด้านหนึ่ง และรอคำตอบของโจ่ถิงฟาง
เนิ่นนาน โจ่ถิงฟางถอนหายใจอย่างขมขื่นเป็นเวลานาน “ในฐานะลูกชายของตระกูลใหญ่ การแต่งงานไหนเลยจะมีความรักอยู่ ทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะตระกูลซูระยะนี้แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมากและกำลังจะเข้าสู่ตระกูลชั้นสอง บวกกับที่พ่อของฉันเคยเป็นหนี้บุญคุณตระกูลซู ฉันก็คงไม่แต่งงานกับซูหลิงหลง ”
“พูดไปแล้วก็ใช่” ปานเหิงพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “คุณชายกับซูหลิงหลงเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ยังไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน อย่างนั้นความหมายของคุณชายก็คือ….”
โจ่ถิงฟางถามอีกครั้ง “การส่งสินสอดสู่ขอครั้งใหม่ จะให้กับใคร?”
ปานเหิงสีหน้าหยั่งเชิง เขาเหยียดนิ้วออกสามนิ้วแล้วกระซิบกล่าวว่า “สามสาวงามของฉู่โจว ซูหลิงหลงตระกูลซู นิ่งจื่อโหรวตระกูลนิ่ง และเหยียนหรูยู่ของตระกูลเหยียน”
“ซูหลิงหลงถูกคัดออก ยังมีสองคนเหลืออยู่ ในจำนวนนั้น เหยียนหรูยู่ได้รับการยอมรับว่าเป็นดาวประจำมหาวิทยาลัยฉู่โจว เป็นนางฟ้าที่สง่างาม”
“อย่างนั้นก็เหยียนหรูยู่แล้วกัน ฉันชอบชื่อนี้”
ปานเหิงมุมปากยกยิ้ม แอบคิดว่าโจ่ถิงฟางออกจะสบายๆเกินไปหน่อยแล้ว ถึงแม้จะไม่มีความรู้สึกอะไร แต่อย่างไรงานแต่งงานก็ถือเป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน
หรือว่าจะแค่แต่งเข้าบ้านเพื่อเล่นๆเท่านั้น ก่อนจะหย่าร้างภายในเวลาไม่กี่ปี?
“คุณชาย เหยียนหรูยู่ไม่ได้”
“ทำไม?” โจ่ถิงฟางขมวดคิ้ว
ปานเหิงอธิบายว่า “เหยียนหรูยู่มาจากตระกูลชั้นสาม แต่ว่าไม่มีใครในฉู่โจวกล้าคิดอะไรกับเธอ นั่นเพราะเธอถูกคุณชายของตระกูลเฟิงในจีนหลิงถูกตาต้องใจเข้าแล้ว ว่ากันว่าพอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย คุณชายเฟิงก็จะไปสู่ขอเธอ”
“ตระกูลเฟิง?”
“คุณชายน่าจะรู้ว่าเฟิงเทียนตูอันธพาลตัวน้อยในเมืองหลวงนั่น เป็นคุณชายของตระกูลเฟิงในจีนหลิง อาจารย์ของเขาก็คือปรมาจารย์บู๊หงหลงเสี้ยง”
เปลือกตาของโจ่ถิงฟางกระตุกอย่างดุเดือด
เฟิงเทียนตูนั่นเป็นพวกไร้กฎเกณฑ์ใดๆ อายุเพียงยี่สิบปีก็ออกลายในเมืองหลวงมีชื่อเสียงเป็น “อันธพาลตัวน้อย”
นอกจากหงหลงเสี้ยงอาจารย์ผู้ยอดเยี่ยมคนนี้แล้ว ตัวของเฟิงเทียนตูเองก็ชั่วร้ายมากเช่นกัน เมื่อเดือนที่แล้วเขาทะลวงผ่านขอบเขตกำลังภายในขั้นสูง
อายุเพียงยี่สิบปีบรรลุกำลังภายในขั้นสูง นี่ช่างเหนือกว่าจินตนาการได้
ต้องรู้ว่า ปานเหิงอายุสี่สิบสามปีถึงบรรลุสู่ขั้นกำลังภายในขั้นสูงได้ ซึ่งก็ถือว่ามีความสามารถมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับเฟิงเทียนตู เขาก็เป็นเพียงคนโง่
“ดังนั้นคุณชาย เหยียนหรูยู่ไม่สามารถแตะต้องได้”
โจ่ถิงฟางยิ้มเยาะตัวเองและพูดว่า “ที่เล็กๆอย่างฉู่โจวดันมีฟ้าร้องอยู่ทุกที่แบบนี้ คุณชายจากเมืองหลวงอย่างฉัน ทุกฝีก้าวยากจะเคลื่อนไหว”
“ลุงปาน ผมมีความคิดอยู่บ้าง”
“ลองบอกมา”
“น้องเมียของจิ่งเทียนคนนั้นฉลาดเจ้าเล่ห์ ผมชอบมาก แบบนี้ผมไม่สู้สู่ขอเธอโดยตรงเอาซะเลย คุณคิดว่ายังไง?”
หนังศีรษะของปานเหิงชาขึ้นมา เขารีบสั่นหัวเหมือนเสียงที่สั่นเทา “คุณชาย อย่าได้ทำเชียว”
“ทำไม?”
“นี่มันกะทันหันเกินไป อีกทั้งคุณหนูหานก็ยังเด็ก ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการแต่งงาน หากเกิดไปทำให้จิ่งเทียนรำคาญเข้า แบบนี้ไม่เท่ากับยกหินทุ่มเท้าตัวเองหรอกหรือ?”
โจ่ถิงฟางก็รู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้างเช่นกัน เขาแค่นเสียง “นี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ได้! แล้วนิ่งจื่อโหรวล่ะ อย่าบอกฉันว่านี่ก็ไม่ได้เหมือนกัน”
“ผู้หญิงคนนี้ทำได้”
ในที่สุดปานเหิงก็ยิ้มและอธิบายว่า “คุณชาย ตอนที่อยู่ในโรงแรมสวอนเลคผมคิดเอาไว้มากมาย อีกทั้งยังได้สังเกตนิ่งจื่อโหรวด้วย ผู้หญิงคนนี้หน้าตางดงามอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีบุคลิกอ่อนโยน ดีกว่าซูหลิงหลง ตระกูลนิ่งเองก็เป็นตระกูลชั้นหนึ่งในฉู่โจว ภูมิหลังของตระกูลก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน”
โจ่ถิงฟางหลับตาลงและคิดถึงภาพของนิ่งจื่อโหรว
ผู้หญิงที่อ่อนโยน ผู้ชายมักจะเกิดความรู้สึกที่ดีได้ง่ายอย่างยิ่ง
“อย่างนั้นก็เธอแล้วกัน”
“คุณชาย คุณแน่ใจแล้วนะ?”
“แน่ใจ”
ปานเหิงกัดฟันและถามอย่างระมัดระวัง “คุณชาย สุดท้ายแล้วการแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ คุณไม่ลองคิดอีกสักหน่อยหรือ? อย่าได้แต่งงานกับนิ่งจื่อโหรวแล้วจากนั้นอีกไม่กี่ปีก็ไม่ต้องการเธอแล้ว จิ่งเทียนกับตระกูลนิ่งมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวต่อกัน”
“ทำไมคุณถึงพูดมากขนาดนี้ ในเมื่อแน่ใจว่าเป็นนิ่งจื่อโหรวแล้ว ผมย่อมต้องดูแลเธออย่างดี เอาตามนี้แหละ พรุ่งนี้ส่งคนไปถอนสินสอดที่ตระกูลซู”
โจ่ถิงฟางอารมณ์ไม่ได้ดีมากนัก เขาเดินกลับไปที่ห้อง ขณะที่ปากยังคงพึมพำ
“ช่างเป็นวันซวยๆจริงๆ อยู่ในเมืองหลวงถูกกดขี่จะบ้าตาย มาที่ฉู่โจวอุตส่าห์เตรียมมาทำตัวสบายๆ แสร้งทำอวดเบ่งสักหน่อย แต่ดันกลับต้องมามีสภาพอดทนอดกลั้นน่าสมเพช”
“ฉันไปนอนก่อนนะ อย่ามารบกวน”
……
เช้าวันรุ่งขึ้น
คฤหาสน์ตระกูลซู สวนหลังบ้าน
ในศาลา มีคุณหญิงเจ็ดหรือแปดคนกำลังนั่งอยู่รอบโต๊ะหิน รอบๆรายล้อมด้วยกลุ่มสาวใช้
“พี่ซู งานแต่งงานของหลิงหลงจะจัดขึ้นเมื่อไหร่คุณหญิงคนหนึ่งถามขึ้น
คุณหญิงท่าทางสง่างามที่สุดคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ทางทิศใต้ คมคิ้วแฝงความเยือกเย็นและหยิ่งยโส เธอยิ้มจางๆแล้วตอบว่า “ยังไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน แต่น่าจะเป็นเดือนถัดไป”
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงเดือนตุลาคมแล้ว อย่างนี้งานแต่งก็ใกล้เข้ามามากแล้วสิ”
“ยินดีด้วย ยินดีด้วย”
“พี่ซู ตั้งแต่เล็กฉันก็รู้แล้วว่าหลิงหลงจะต้องได้แต่งเข้าตระกูลที่ดีแน่ ยัยหนูคนนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ ในอนาคตได้เป็นคุณนายน้อยตระกูลโจ่แล้วจะต้องเปล่งประกายในเมืองหลวงอย่างแน่นอน”
“ใช่ หลังจากนี้หากพี่ซูไปเมืองหลวง ก็กลายเป็นคนใหญ่คนโตไปแล้ว อย่าได้ลืมน้องสาวอย่างฉันนะ”
กลุ่มหญิงวัยกลางกำลังยกยอ ประจบสอพลออย่างยิ่ง
ใบหน้าของคุณหญิงซูแดงก่ำ บนหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและสมใจคิด เธอพยักหน้าให้ทีละคน ก่อนสุดท้ายสายตาจะไปตกอยู่ที่คุณหญิงหน้าตางดงามที่นั่งอยู่ข้างหลังคนหนึ่ง
“ดาวมหาวิทยาลัยฉู่โจวทั้งสามคน หลิงหลงกำลังจะแต่งเข้าตระกูลโจ่แล้ว เหยียนหรูยู่ก็ถูกคุณชายเฟิงหมายตา ไม่รู้ว่าในอนาคตจื่อโหรวจะแต่งให้ใคร?”
หญิงงามวัยกลางคนก็คือมารดาของนิ่งจื่อโหรว
ดูช้างให้ดูหาง ดูนางย่อมต้องดูแม่
คุณหญิงนิ่งเป็นคนอ่อนโยนอย่างยิ่งเช่นกัน เธอตอบด้วยรอยยิ้มเบาๆ “จื่อโหรวยัยหนูคนนั้นไม่มีอุดมการณ์ใหญ่อะไร แถมยังไม่ให้ความสำคัญกับตระกูล ฉันแค่หวังว่าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ชายธรรมดาทั่วไป รักเธอไปตลอดชีวิต”
“โอ้ นี่ไม่เหมือนเธอเลย ตอนแรกเธอตกคุณชายนิ่งได้ ไก่ฟ้าจึงกลายเป็นหงส์ ตอนนี้ดีนี่ กลับมาบอกว่าอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนธรรมดาดีกว่า คิดกลับสู่จุดเดิมหรือไง” มีคุณหญิงปากร้ายคนหนึ่งเอ่ยเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า เธอคือมารดาของโม่หาน
สีหน้าของคุณหญิงนิ่งดูอึดอัด
คุณหญิงนิ่งแตกต่างจากคุณหญิงเหล่านี้ พวกผู้หญิงเหล่านี้แต่เดิมก็เป็นคุณหนู ส่วนตัวเธอนั้นเป็นแค่หญิงสาวชนบทเท่านั้น ยี่สิบกว่าปีที่แล้วโชคดีถูกคุณชายตระกูลนิ่งหมายตา ดังนั้นจึงได้แต่งงานเข้าสู่ตระกูลเศรษฐี
และในนั้นยังมีความแค้นแฝงอยู่ด้วย
พ่อของนิ่งจื่อซวน คุณชายตระกูลนิ่งในขณะนั้น จัดว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่มีชื่อเสียงในฉู่โจว ทำให้คุณหนูมากมายหลงเสน่ห์เข้าให้ และคุณหญิงซูก็ไม่มีข้อยกเว้น
แต่เดิมแวดวงสังคมของฉู่โจวคิดว่าพวกเขาจะลงเอยกัน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะมีเด็กสาวชาวนาคนหนึ่งเข้ามาขวาง
ผลลัพธ์สุดท้ายทำเอาทุกตระกูลในฉู่โจวล้วนประหลาดใจ ที่น่าแปลกก็คือ ท่านนิ่งก็ยังชอบหญิงสาวที่เดินออกมาจากถ้ำผู้นี้เป็นอย่างมาก
หญิงสาวจากตระกูลเศรษฐีดันสู้ไม่ได้กับหญิงสาวชาวนาคนหนึ่ง
สิ่งนี้ทำให้คุณหญิงซูรู้สึกอับอายเป็นทวีคูณ
“จื่อโหรวหน้าตาไม่เลว หากแต่งงานกับคนธรรมดาๆละก็อย่างนั้นก็เท่ากับเสียหน้าไปอย่างเปล่าประโยชน์
คุณหญิงซูหรี่ตาหงส์คู่นั้นลง ท่าทางราวกับกำลังบอกว่า “ฉันเป็นคนตัดสินใจให้” และเอ่ยพูดอย่างเย็นชา
“ฉันรู้จักตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่งในจีนหลิง ลูกชายของเขามีปัญหาทางสมองอยู่สักหน่อย แต่ว่าก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก จื่อโหรวแต่เดิมไม่มีคุณสมบัติพอ แต่เห็นแก่ที่เป็นตระกูลใหญ่ในฉู่โจว ฉันจะเป็นคนกลางและแนะนำจื่อโหรวให้กับลูกชายของเขาในวันหลัง”
“ไม่จำเป็น ตระกูลนิ่งของเรายังไม่อ่อนแอถึงขึ้นนั้น” คุณหญิงนิ่งโกรธขึ้นมา เธอแอบกำมืออย่างลับๆ “อาศัยทรัพยากรทางการเงินของตระกูลนิ่ง ฉันเชื่อว่าฉันสามารถเลี้ยงดูลูกสาวของฉันได้ เธอสามารถไล่ตามความรักของเธอเอง ไม่จำเป็นต้องมาคำนึงถึงภูมิหลังตระกูลของอีกฝ่าย”
คุณหญิงซูเยาะเย้ย “ดูสิ นี่เป็นความคิดที่ต่ำต้อยของเธอที่หลุดออกมาจากในถ้ำ ยี่สิบกว่าปีแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง”
“น้ำไหลลงที่ต่ำ คนไต่ขึ้นที่สูง”
“อย่าคิดว่าตอนนี้มีทรัพยากรทางการเงินอยู่หน่อยก็ไร้กังวลอะไรได้ ไม่น่าว่าบางทีวันหนึ่งทุกอย่างอาจจะกลายเป็นว่างเปล่า มีเพียงการไล่ตามสู่สถานะที่สูงขึ้น และมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น ที่จะสามารถรักษาสิ่งที่มีอยู่และก้าวหน้าไปได้”
คุณหญิงซูส่ายหัวและพ่นลมหายใจด้วยความรังเกียจ “เรื่องพวกนี้เธอล้วนไม่เข้าใจ พวกเราอยู่กันคนละชั้น คนละโลก”
คุณหญิงนิ่งพูดไม่ออก
เธอพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว
คุณหญิงคนอื่นๆล้วนหัวเราะขึ้นมา ในน้ำเสียงหัวเราะแฝงด้วยความดูถูกและดูหมิ่น
“คุณหญิง”
ในเวลานี้เอง พ่อบ้านก็รีบเข้ามาและพูดว่า “คุณหญิง ตระกูลโจ่ส่งคนมาแล้ว”
“จริงหรือ!”
คุณหญิงซูดีใจอย่างมาก เธอลุกขึ้นและเหลือบมองคุณหญิงนิ่ง ก่อนจะเดินออกจากศาลาไปอย่างเย่อหยิ่งภาคภูมิใจ
“ถิงฟางเจ้าเด็กคนนี้ รีบร้อนหารือเรื่องการแต่งงานขนาดนี้เชียว น้องสาวทุกท่าน ทำไมไม่ตามไปที่ห้องโถงนั่งฟังสักหน่อยล่ะ”