ตอนที่ 40 ขโมย
เมื่อครู่นี้ หมาป่าได้เห็นฝีมือการใช้มีดสั้นของหลินหนานในระยะกระชั้นชิด ทำให้มันเข้าใจในคำพูดหนึ่งได้ดีขึ้นมาก
เหนือฟ้ายังมีฟ้า!
หากเปรียบเทียบฝีมือการใช้มีดสั้นของหลินหนานกับตนเองแล้ว หมาป่ารู้ได้ทันทีว่า ฝีมือของตนเองนั้นไม่เพียงแค่เรียกว่ากาก แต่ต้องเรียกว่าไม่ได้เศษเสี้ยวของหลินหนานเลยแม้แต่น้อย
เพราะทั้งท่วงท่าที่เคลื่อนไหว การควบคุมน้ำหนักของการลงมีด และองศาของการบิดข้อมือ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบอย่างหาที่ติไม่ได้!
สิ่งที่หลินหนานทำเมื่อครู่ แทบไม่อาจเรียกว่าการใช้มีดสั้นได้ แต่มันคือศิลปะชั้นสูง!
ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันแน่?
หลินหนานไม่สนใจหมาป่าอีก เขาหันไปมองจางผิงด้วยแววตาเย็นชา และเพียงแค่ปรายตามอง จางผิงก็ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
สายตาของมันโคตรน่ากลัว!
ทั้งเย็นชา โหดเหี้ยม แล้วก็อวดดี!
จางผิงรีบหลบตาหลินหนานทันที เพราะไม่คิดที่จะสบสายตาที่น่ากลัวของเขาอีก และหากเป็นไปได้ มันก็อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!
จางผิงสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรง และเวลานี้มันก็ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง เมื่อเห็นเท้าของหลินหนานที่ก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ
จางผิงรู้สึกราวกับว่า ความตายได้ค่อยๆคืบคลานเข้ามาเยือนตนเองทีละเล็กทีละน้อย..
เมื่อเดินไปถึงหน้าจางผิง หลินหนานก็ได้ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง คล้ายกำลังต้องการจะหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมา
จางผิงเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับเข่าทรุดลงไปกองกับพื้นทันที เพราะคิดว่าหลินหนานคงจะหยิบมีดสั้น หรืออาวุธอย่างอื่นออกมาจัดการกับตนเอง
“เพื่อนหลิน.. มะ.. ไม่ใช่.. พี่หลิน.. ผมผิดไปแล้ว! ผมผิดไปแล้วจริงๆ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะครับ!” จางผิงร้องอ้อนวอน
เวลานี้ สภาพของจางผิงไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง..
หลินหนานดึงมือออกมาจากกระเป๋า แต่สิ่งที่เขาหยิบออกมานั้น กลับเป็นแค่บุหรี่ราคาถูกๆซองหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่อาวุธอย่างที่จางผิงหวาดกลัว
จางผิงถึงกับทำหน้าไม่ถูก..
ฉันคิดว่าแกจะฆ่าฉันซะอีก! ที่แท้ก็แค่อยากสูบบุหรี่!
หลินหนานจุดบุหรี่สูบพร้อมกับพ่นควันใส่ใบหน้าหล่อเหลาของจางผิง
แค๊ก.. แค๊ก..
จางผิงถึงกับสำลักควันบุหรี่ถูกๆของหลินหนาน แต่เขาก็ไม่กล้าหลบ และไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นยืน
จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ หลินหนานจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “นายยังคิดจะล้างแค้นฉันอยู่อีกมั๊ย?”
“ไม่.. ไม่คิด! ไม่คิดอย่างแน่นอน!” จางผิงรีบโบกไม้โบกมือพร้อมกับร้องตะโกนตอบกลับไปทันที
เวลานี้ทั้งหมาป่าและลูกน้องคนสนิทยังอยู่ในสภาพย่ำแย่ แล้วฉันจะกล้าคิดยังไงเล่า?
อยู่ต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ยังมีใครอีกบ้างที่จะกล้าคิดอะไรแบบนั้น?
“ใครจะเป็นคนจ่ายค่าอาหารกับเครื่องดื่มในคืนนี้?” หลินหนานจงใจลากเสียงยาวขณะที่เอ่ยถาม
“ผะ.. ผมเองครับ! ผมจะจ่ายค่าอาหารทั้งหมดเอง” จางผิงตอบกลับด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย และรีบหยิบบัตรเงินสดในกระเป๋าเงินออกมา
ไม่มีทาง.. เขาไม่สามารถต่อรองให้หมาป่าจ่ายได้แน่!
นับว่าโชคดีที่ในบัตรเงินสดของเขานั้น ยังมีเงินเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง..
เวลานี้.. ไม่มีส่วนใดของร่างกายที่หลินหนานไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาเจ็บปวดใจ เจ็บปวดไปถึงตับไตไส้พุง เงินตั้งเกือบสองแสนหยวน จะไม่ให้เขารู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไรกันเล่า? เขาไม่น่าขุดหลุมพรางเพื่อให้ตนเองตกลงไปเลย!
จางผิงยื่นบัตรเงินสดให้กับหลินหนาน หลินหนานรับมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ขอบใจนายมากที่เป็นเจ้าภาพในคืนนี้ วันหลังถ้าอยากจะเลี้ยงอะไรดีๆแบบนี้อีกล่ะก็ อย่าลืมชวนฉันด้วยล่ะ รับรองว่าฉันไม่ปฏิเสธแน่!”
จางผิงโมโหจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด..
“บ๋อย!! เข้ามาเก็บเงินได้แล้ว!” หลินหนานร้องตะโกนเรียกบริกรที่ออกไปรออยู่นอกห้อง
บริกรหนุ่มผลักประตูห้องเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพราะด้วยความกลัวว่าหลินหนานกับคนอื่นๆจะหลบหนีไปเสียก่อน เขาจึงไม่กล้าไปไหน และได้ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดเวลา แต่เมื่อเดินเข้ามาเห็นหมาป่าและลูกน้อง ลงไปนอนเกลือกลิ้งอยู่กับพื้นแบบนั้น ก็ถึงกับตกใจอย่างมาก
“ไม่มีอะไร.. พวกเราก็แค่ทะเลาะกันนิดหน่อยเพราะแย่งกันจ่ายเงิน!” หลินหนานอธิบายยิ้มๆ
หมาป่าแทบอยากจะร้องไห้..
พวกเราไม่ได้แย่งแกจ่ายโว้ย! แต่ถูกแกซ้อมต่างหากล่ะ!
แม้บริกรหนุ่มจะยังคงงุนงงไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร เพราะกฏเหล็กในการทำงานที่โกลเดนพาเลซก็คือ การระมัดระวังปากตัวเอง!
“เอ่อ.. ไม่ทราบท่านใดจะเป็นคนจ่ายครับคุณลูกค้า?” บริกรหนุ่มเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“ฉันจ่ายเอง.. เอาบัตรนี้ไปรูดได้เลย!”
หลินหนานยื่นบัตรเงินสดให้กับบริกรหนุ่มทันที และบริกรหนุ่มก็รีบถือบัตรเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนักบริกรหนุ่มก็นำบัตรกลับมาคืนให้หลินหนานพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ขอบคุณลูกค้ามากครับ ค่อยๆเดินนะครับ!”
“เอาคืนไป!”
หลินหนานหันไปบอกจางผิง พร้อมกับโยนบัตรคืนให้กับเขา จากนั้นจึงหันไปพูดกับฉินเสี่ยวยู่ว่า
“ยังจะยืนงงอะไรอยู่อีก ไปกันได้แล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเสี่ยวยู่จึงรีบเดินเข้าไปหาหลินหนาน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เปิดประตูห้องเดินออกไปทันที
หลังจากที่หลินหนานกับฉินเสี่ยวยู่ออกไปได้ไม่นานนัก ชายหนุ่มร่างใหญ่หัวโต ใบหน้าสี่เหลี่ยมก็ได้เดินเข้ามาในห้อง และเมื่อเห็นสภาพของทุกคน รวมทั้งจางผิงที่นั่งหน้าเศร้า ชายหน้าเหลี่ยมจึงได้แต่ถามออกไปว่า
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จางผิงได้ยินชายหน้าเหลี่ยมถามเช่นนั้น ก็รีบร้องบอกไปด้วยใบหน้าน่าสงสาร “ต้าตู.. พวกเราถูกคนรังแกน่ะสิ!”
ชายผู้นี้ก็คือญาติของจางผิงชื่อว่าหลิ่วต้าตูนั่นเอง เขาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลับแห่งนี้ และมีหน้าที่คอยสำรวจตรวจตรา
“มันเป็นใครกัน? ใครกันที่บังอาจรังแกนายในที่ของฉัน” หลิ่วต้าตูร้องตะโกนถามออกไปอย่างไม่พอใจ
จางผิงจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆให้หลิ่วต้าตูฟังทันที และหลังจากที่ได้ฟัง หลิ่วต้าตูก็โกรธมาก เพราะนี่เป็นการกระทำที่หยามหน้าเขามาก
หลิ่วต้าตูยกมือขึ้นตบไหล่จางผิงพร้อมกับประกาศเสียงกร้าว “ไม่ต้องห่วง! เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอาคืนให้กับนายเอง!”
จากนั้น หลิ่วต้าตูก็หยิบวิทยุสื่อสารออกมาสั่งการลูกน้องเสียงดัง “ทุกคน.. ลูกค้าในห้อง 1022 ได้ขโมยของในห้องไป ช่วยกันจับตัวมันกลับมาด้วย อย่าให้มันหนีกลับไปได้!”
“ย้ำอีกครั้ง.. อย่าให้มันหนีออกไปได้!”
……
ระหว่างทางที่ฉินเสี่ยวยู่กับหลินหนานเดินออกจากประตูโกลเดนพาเลซนั้น ในใจของฉินเสี่ยวยู่ก็ได้แต่ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
หลินหนานเป็นใครกันแน่?
ทำไมเขาถึงเก่งไปซะทุกอย่าง?
แม้แต่แก๊งนักเลงที่จางผิงพามาด้วย หลินหนานยังจัดการซะน่วม!
ปกติผู้หญิงมักจะมีประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อนกว่า จึงไม่แปลกที่ฉินเสี่ยวยู่จะรู้สึกสงสัย
“คุณจะให้ผมไปส่งที่บ้านมั๊ย?” หลินหนานเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ..”
ฉินเสี่ยวยู่หน้าแดงขึ้นมาทันที แต่ก็รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก.. แต่ก็ขอบคุณมาก! ฉันกลับบ้านเองได้ เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะหลินหนาน..”
“อืมม.. โชคดี!” หลินหนานโบกมือร่ำลาเช่นกัน
ฉินเสี่ยวยู่ต้องหักห้ามใจที่อยากจะรู้เรื่องราวของผู้ชายคนนี้ไว้ แล้วรีบเดินจากไปทันที ส่วนหลินหนานนั้น ได้หันหลังกลับไปมองโกลเดนพาเลซอีกครั้ง พร้อมกับรำพึงรำพันอย่างนึกเสียดาย
“เฮ้อ.. อุตส่าห์จะเข้าไปหาหนทางหาเงิน จางผิงมันไม่เอาไหนจริงๆ ไร้ประโยชน์ชะมัด!”
หลินหนานเบ้ปากด้วยความผิดหวัง หากไม่ใช่เพราะจางผิงพูดเรื่องการต่อสู้ในกรงกับการเดิมพันแล้วล่ะก็ เขาคงจะไม่มาเหยียบที่นี่แน่
แต่ในระหว่างที่หลินหนานกำลังจะหันหลังเดินจากไปนั้น คนกลุ่มใหญ่ก็วิ่งตรงเข้ามาหาเขา พร้อมกับร้องตะโกนว่า
“นี่!! หยุดก่อน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
หลินหนานได้แต่ยืนนิ่ง แต่ในใจกลับมีความสุขอย่างมาก นั่นเพราะจากชุดที่คนกลุ่มนี้สวมใส่ บ่งบอกว่าพวกเขาทำงานอยู่ในโกลเดนพาเลซนั่นเอง
ค่ำคืนยังอีกยาวนาน หาอะไรทำหน่อยก็ดี!
เวลานี้ฉินเสี่ยวยู่ก็กลับไปแล้ว เขาก็สามารถทำเรื่องอะไรได้อีกมาก!
และเวลานี้ คนกลุ่มนั้นก็ได้วิ่งเข้ามาล้อมร่างของหลินหนานไว้ หลิวต้าตูที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เป็นฝ่ายถามขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน
“คุณคือลูกค้าที่เพิ่งออกมาจากห้อง 1022 ใช่มั๊ยครับ?”
“ใช่ครับ!” หลินหนานพยักหน้า
“พวกเราสงสัยว่าคุณขโมยสิ่งของออกมาจากห้อง กรุณาตามพวกเรากลับไปเพื่อสอบปากคำด้วยครับ” หลิวต้าตูบอกเสียงห้วน
“เหรอครับ? ไม่ทราบว่าผมขโมยอะไรออกมาเหรอครับ?” หลินหนานแกล้งทำเป็นถามกลับไป
“บอกไม่ได้ครับ กรุณาตามพวกเราเข้าไปข้างในเพื่อสืบสวนก่อน!” หลิวต้าเตาตอบกลับไปทันที
พูดง่ายๆก็คือว่า.. คนกลุ่มนี้ต้องการหาเรื่องหลินหนานนั่นเอง และหากหลินหนานกล้าขัดขืน พวกเขาก็พร้อมที่จะลงมือทันทีเช่นกัน