เซวียนหยวนรุ่ยไม่เห็นพ้องต้องกันกับฮ่องเต้ในเรื่องของซูหว่าน ไม่รู้ว่าข่าวลือซุบซิบนินทาเกี่ยวกับซูหว่านและเซวียนหยวนรุ่ยเริ่มแพร่กระจายไปตั้งแต่เมื่อไร ข่าวบอกว่าเหตุผลเดียวที่เซวียนหยวนรุ่ยทิ้งอดีตพระชายาผู้เป็นรักในวัยเด็กนั้นเพราะถูกเยี่ยจือหวาปั่นหัว เช่นกัน เหตุผลเดียวที่เยี่ยจือหวาไต่เต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้สำเร็จเพราะนางใช้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และในบรรดาเล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้ที่น่าประทับใจที่สุดคือการใช้ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปไกลและยังบอกว่าเซวียนหยวนรุ่ยได้เป็นท่านอ๋องที่อารมณ์แปรปรวน มีตัณหาราคะไม่รู้จักพอ ซ้ำยังเจ้าชู้ประตูดิน เยี่ยจือหวาเองก็เปลี่ยนไปจากนักปราชญ์หญิงผู้มีความสามารถ เป็นที่รักของทุกคน กลายเป็นคนที่มีแต่คนเกลียดชัง
ข่าวลือพวกนี้รั่วไหลออกไปอย่างเงียบๆ จากคนที่ซูหว่านส่งไป ตอนที่เซวียนหยวนรุ่ยโกรธ ทิศทางของข่าวลือนี้ก็เปลี่ยนไป ข่าวจาก “วงในจวนอ๋องเย่ว์” เล็ดลอดออกมาว่าสาเหตุหลักที่เยี่ยจือหวาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเพราะร่างกายของซูหว่าน และในช่วงสี่ปีมานี้ซูหว่านมีสุขภาพไม่ดี นางจึงไม่เคยมีสัมพันธ์กับท่านอ๋องเย่ว์เลย!
ในช่วงที่ข่าวนี้ออกมา ราวกับหินก้อนเดียวกวนน้ำให้เกิดคลื่นนับพัน
เดิมทีซูหว่านกำลังพักฟื้นอยู่ที่บ้านเพื่อรักษาตัว แต่ข่าวลือนี้ก่อปัญหา จึงไม่มีใครแวะเวียนมาเยี่ยมนางเลย อย่างไรก็ดีข่าวล่าสุดในช่วงนี้ มีองค์ชายองค์อื่นที่พร้อมจะก่อปัญหา แต่งตัวไปหานางที่จวนท่านแม่ทัพ
ซูหว่านผู้ถูกเซวียนหยวนรุ่ยทิ้งไม่มีทางเลือก จำต้องปล่อยเลยตามเลย
แต่ซูหว่านที่เซวียนหยวนรุ่ยไม่เคยได้แตะเนื้อต้องตัว….กลับได้เป็นถึงพระชายา!
เชื้อพระวงศ์มักเห็นแก่ตัว พวกเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและผลประโยชน์ ในอดีต จวนท่านแม่ทัพซูต้อนรับแขกระดับสูงมากมาย องค์ชายหลายพระองค์แสดงความชอบพอในตัวของซูหว่าน แต่ซูหว่านชมชอบเซวียนหยวนรุ่ยมาตลอด ตอนนี้เซวียนหยวนรุ่ยเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ องค์ชายองค์อื่นๆ จึงได้แต่มองซูหว่านแต่งงานเข้าจวนอ๋องเย่ว์อย่างหมดหวัง ใครจะคิดว่าสี่ปีผ่านไป ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปจนมีแนวโน้มที่ดี!
หลังจากได้รับการรักษาอย่างสะดวกสบายและเอาใจใส่ ผิวพรรณและสุขภาพของซูหว่านก็ดีขึ้นมาก หลังจากองค์ชายสี่และองค์ชายหกไปเยี่ยม ซูหว่านก็นั่งชิงช้าเล่นอยู่ในสวนดอกไม้
บนบัตรสีทองเขียนด้วยลายมือของบุรุษที่กดหนักและทรงพลัง
“ซื่อเปี่ยวเกอกลับมาเมืองหลวงแล้วหรือเพคะ?”
ซูหว่านหายใจแรง มือลี่ว์จูที่กำลังแกว่งชิงช้าให้ซูหว่านหยุดลงทันที
องค์ชายสี่ เซวียนหยวนเหยี่ย
ในความทรงจำของลี่ว์จูนั้น องค์ชายสี่เป็นคนเย็นชามาก ใบหน้าเข้มขรึมไม่เป็นมิตร พระองค์ไม่ค่อยอยากจะติดต่อกับผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวง เมื่อพระองค์บรรลุนิติภาวะ จึงขอไปประทับในที่ๆ ไกลจากเมืองหลวงที่สุด นั่นคืออวี่โจว ไม่คาดคิดว่าพระองค์จะลอบกลับมายังเมืองหลวง
เซวียนหยวนเหยี่ย…..
ซูหว่านมองบัตรเยือน มองแล้วมองอีก ห่อริมฝีปากจนโค้งแต่ดูมีเสน่ห์
“มีความสุขมากสินะ”
น้ำเสียงขุ่นมัวดังผ่านมาเหนือศีรษะซูหว่านและบัตรเยือนของนางก็ถูกฉกไป
ซูรุ่ยไม่สนใจเนื้อหาในบัตรเยือนและฉีกเป็นชิ้นๆ จนหล่นลงพื้น เขาใช้รองเท้าทางการสีดำเหยียบเศษกระดาษเหล่านั้นจนแหลกละเอียดเป็นผงและฝังลงไปในดิน
เด็กน้อยเอ๊ย
ซูหว่านเบิกตามองเข้าไปในแววตาของซูรุ่ยที่ลึกจนไม่อาจหยั่งถึง
ทั้งสองมองหน้ากันเงียบๆ เช่นนี้ ไม่มีใครลดละ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ลี่ว์จูที่ก้มหน้าก้มตาหลบอยู่ข้างพลันคิดอะไรขึ้นมาได้ ค่อยๆ ก้าวเข้าไปและเอ่ยด้วยเสียงสั่นว่า “นายท่านเจ้าคะ จวิ้นจู่ได้เวลาทานยาแล้ว”
แม้สุขภาพของซูหว่านจะดีขึ้นมาก แต่นางยังต้องกินยาวันละสามเวลา
ซูรุ่ยเหลือบมองแวบหนึ่ง เขาเดินก้าวยาวเข้ามาอุ้มซูหว่านลงจากชิงช้า ซูหว่านรู้สึกอึดอัดและดิ้นเล็กน้อย แต่ยิ่งนางดิ้น ซูรุ่ยยิ่งกอดนางแน่นขึ้น
ครั้นนางเงยหน้า ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอันเย็นเฉียบของซูรุ่ย ซูหว่านก้มศีรษะลงและไม่ดิ้นอีก เมื่อนางกลับมาถึงห้อง คนรับใช้ก็ต้มยาสมุนไพรเสร็จแล้ว น้ำยาสมุนไพรร้อนๆ ส่งกลิ่นฉุน
เมื่อวางซูหว่านลงบนเตียงแล้ว ซูรุ่ยก็ไม่รีรอ รีบไปนำยาสมุนไพรมาป้อนให้ซูหว่าน ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่พูดสักคำ การเคลื่อนไหวของเขากระฉับกระเฉงและเรียบร้อย ทว่าไม่อ่อนโยนเลย
ซูหว่านเริ่มคิดถึงการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากท่านหมอซื่อ
จะถือว่าพี่สาวแสนดีคนนี้คุมเจ้าปีศาจบ้านี่อยู่ได้ไหมนะ ถ้าจะให้ข้ากินอะไรหวานๆ สักหน่อย เจ้าจะตายไหม
ให้ข้ากินยาขมๆ แบบนี้ เจ้าจะฆ่าข้างั้นหรือ
ซูหว่านบึ้งตึงแต่ก็ดื่มยาจนหมดชาม
หลังจากดื่มยาเสร็จ ลี่ว์จูก็เช็ดปากให้นางก่อนถอยออกไปอยู่ด้านหนึ่ง ซูหว่านมองซูรุ่ยที่ยังนั่งอยู่ข้างเตียงแวบหนึ่งและหันกลับมานอนลงบนเตียง หันหลังให้ซูรุ่ย ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก
ซูรุ่ยไม่ไปไหนและไม่โกรธ เขายังนั่งอยู่เช่นนั้น จ้องซูหว่านกลับอย่างเลื่อนลอย
เมื่อแน่ใจว่าซูหว่านหลับแล้ว ซูรุ่ยก็ค่อยๆ ลุกขึ้น พูดกับลี่ว์จูไม่กี่ประโยคด้วยเสียงแผ่วเบาและออกจากห้องไป
ตอนบ่ายวันนั้น ซูรุ่ยเขียนจดหมายถึงยังองค์ชายสี่และองค์ชายหกคนละฉบับด้วยข้อความที่แตกต่างกัน ให้เจ้าหน้าที่เดินสารลับส่งออกจากจวนแม่ทัพ…..
ช่วงนี้เมืองหลวงคึกคักขึ้นมาก เหล่าองค์ชายพร้อมแล้วที่จะมาสร้างความปั่นป่วน เซวียนหยวนรุ่ยกำลังเศร้าโศก เหตุการณ์ดำเนินไปโดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าองค์ชายห้าที่ต้องถูกตัดหัวแอบหนีไปแล้ว เมื่อพระองค์ออกจากเมืองหลวงไปไกลแล้วก็ติดต่อกับพรรคพวกในไหวโจว
เยี่ยจือจิ่นไม่ได้ไปกับเซวียนหยวนชิงด้วยเหตุสองประการ ประการแรก จะพาสตรีไปในค่ายทหารนั้นไม่สะดวก ประการที่สอง นางอยู่ในเมืองหลวงเพราะอยากติดต่อกับเยี่ยจือหวา
ข่าวลือพวกนี้นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น ชื่อเสียงเยี่ยจือหวาเสื่อมเสีย ทำให้นางทุกข์ใจมากและอาการยิ่งเลวร้ายลง
วันนี้เยี่ยจือหวากินยาและอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น พลันได้ยินเสียงลมพัดมาวูบหนึ่งจนหน้าต่างเปิด
“ชิงหลิว ชิงหลิวใช่หรือไม่”
เยี่ยจือหวาร้องเรียกสาวใช้แต่ไร้เสียงตอบ
นางลืมตาขึ้นอย่างสับสน ท่ามกลางความมืดสลัวนั้นนางเห็นเงาดำจางๆ
“ชิงหลิวใช่ไหม”
เยี่ยจือหวาร้องเรียกและเงานั้นก็ค่อยๆ เข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ท่านพี่ ท่านพี่ ท่านทำให้ข้าเจ็บปวดมาก ข้าทุกข์ใจเหลือเกิน!”
“อ๊า!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด เยี่ยจือหวาก็กรีดร้องตกใจจนตาเหลือกและสลบไป
“จุ๊ๆ”
เยี่ยจือจินมองเยี่ยจือหวาที่สลบไปเพราะตกใจนาง ใจเสาะแบบนี้ยังจะกล้ามาต่อกรกับข้างั้นหรือ
นางยิ้มมุมปากอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ล้วงหยิบห่อเลือดที่เตรียมมาออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือของขวัญสำหรับการกลับมาเจอกันครั้งแรกนะ! เยี่ยจือหวา เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้วงั้นหรือ ง่ายไปหน่อยกระมัง….น่าขันสิ้นดี!”
ช่วงเช้าตรู่ของวันต่อมา มีเสียงกรีดร้องตะโกนออกมาจากห้องของเยี่ยจือหวา เมื่อเซวียนหยวนรุ่ยวิ่งมาดู ก็เห็นเยี่ยจือหวาผมกระเซิงเลือดท่วมตัว นั่งคุดคู้ตัวสั่นเทาอยู่ด้านในสุดของเตียง
มือหนึ่งถือหอก อีกมือหนึ่งถือโล่ ตอนแรกนางทิ้งเยี่ยจือจิ่นกับเซวียนหยวนชิงเพราะซูหว่านวางแผนจะให้เยี่ยจือจิ่นกับเยี่ยจือหวาต่อสู้กัน ส่วนนางดูอยู่ห่างๆ ก็พอ
ตอนนี้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ยกเว้น…..
ในจวนท่านแม่ทัพ ซูหว่านสับสนเล็กน้อย ตั้งแต่วันนั้นที่นางได้รับบัตรเยือน แต่ไม่มีใครมาเยือน
องค์ชายสี่และองค์ชายหกหยุดทุกอย่าง
ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวัง
เซวียนหยวนเหยี่ย
ซูหว่านจำได้ว่าเขาเป็นคนที่มีใบหน้านิ่งขรึม เป็นบุรุษที่ฉลาดรู้จักวางตัว สงบนิ่งและเก็บความรู้สึกได้ดี เขาเป็นตัวทำคะแนนให้ฮ่องเต้
ไม่อาจรอให้เซวียนหยวนเหยี่ยมาเยือนได้แล้ว ซูหว่านคิดว่าซูรุ่ยขัดขวางแผนการของนาง คนในทีมเดียวกันยังหลอกลวงนางได้ นางไม่มีทางเลือกต้องเขียนจดหมายถึงเซวียนหยวนเหยี่ยเลียบๆ เคียงๆ ถามเขา จะร่วมมือกันวางแผนงานใหญ่ได้ ต้องรอคำตอบจากอีกฝ่ายหนึ่งก่อน…