ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 4 วิวาห์สลับตัวองค์หญิง (4)

ตอนที่ 4 วิวาห์สลับตัวองค์หญิง (4)

จวนอ๋องเย่ว์เตรียมพร้อมสำหรับงานมงคล ทั่วทั้งลานบ้านเต็มไปด้วยสีแดงสด ราวกับกลัวคนจะไม่รู้ว่าพวกเขามีความสุขเพียงใด

กำแพงสูงที่กั้นลานบ้านทำให้ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของเจ้าสาว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของอดีตภรรยา

ชาวบ้านทั่วไปไม่รู้เลยว่าจวนอ๋องจะมีพระชายาองค์ใหม่

พระชายาของอ๋องเย่ว์หรือ? ใครกัน? ผู้สูงศักดิ์เช่นนั้นชาวบ้านอย่างเราจำเป็นต้องรู้จักด้วยหรือ

ใช่ ถนนสือหลี่ฉางในเมืองหลวงคึกคักเช่นเคย เฉพาะขุนนางระดับสูงผู้ใกล้ชิดองค์ฮ่องเต้เท่านั้นที่ล่วงรู้ว่าพระชายาคนโปรดของท่านอ๋องเย่ว์ไม่ใช่จวิ้นจู่น้อยที่ป่วยหนัก หากแต่เป็นบุตรีของใต้เท้าเยี่ยที่สุดท้ายก็ได้ตบแต่งเข้าจวนอ๋อง

ปกติฮ่องเต้น่าจะทรงกริ้วแล้ว ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ตระกูลเยี่ยเพิ่งเปิดโปงแผนการร้ายองค์ชายห้า ซึ่งเป็นการทำคุณประโยชน์อัน “ใหญ่หลวงและชอบธรรม” กลบข่าวจวิ้นจู่น้อยที่ป่วยหนักใกล้ตายไปเสียสิ้น

ถึงแม้จวิ้นจู่น้อยจะมีสายเลือดเชื้อพระวงศ์ แต่ผู้ที่อยู่วงในรู้ดีว่าซูหว่านไม่เป็นที่ชอบพอของคนในจวนท่านแม่ทัพ เมื่อนางแต่งเข้าจวนอ๋องเย่ว์ นางก็ตัดสัมพันธ์กับตระกูลซู

ฉะนั้น สำหรับจวิ้นจู่น้อยซูหว่านผู้ที่ทั้งพ่อตัวเองและพ่อสามีต่างไม่ชอบนั้น นางจะสุขหรือทุกข์ อยู่หรือตาย ใครเล่าจะใส่ใจ

ในสมัยราชวงศ์ต้าซย่า สตรีอยู่ในสถานะที่เป็นรองบุรุษ ถึงแม้จะสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ แต่ในยุคสมัยนี้สตรีก็เป็นเพียงตัวหมากรุกบนกระดานที่ใช้เดินไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลอื่นด้วยการแต่งงาน ซูหว่านยิ่งเป็นเพียงตัวหมากรุกที่ไร้ประโยชน์และใกล้ตาย นางจึงถูกทอดทิ้งมาตั้งนานแล้ว

ตำหนักเย็นเป็นส่วนหนึ่งของจวนอ๋องทว่าไม่มีการตกแต่งด้วยสีแดง จึงดูแล้วขัดๆ กับส่วนอื่นๆ ในจวน

ยามอาทิตย์อัสดง เสียงสนุกสนานครื้นเครงจากหน้าลานบ้านดังอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะเงียบลง ซูหว่านสวมเสื้อบางยืนอยู่ตรงลานจวน มองไปไกลในทิศทางของเรือนหลัก

“นายท่านเจ้าคะ อากาศเย็นระวังจะเป็นหวัด”

ลี่ว์จูค่อยๆ บรรจงเอาเสื้อคลุมสีขาวปานหิมะมาคลุมไหล่ให้ซูหว่าน

“อากาศเย็นเช่นนี้ จะทำให้ใจข้าเย็นได้หรือไม่”

ซูหว่านกัดริมฝีปากเบาๆ ร่างกายได้ท่านหมอซือมาดูแลจนอาการดีขึ้นมาก ก็แค่ร่างกายที่อ่อนแอขี้โรค แต่ตอนนี้เธอกำลังแสดงละครบทขมขื่น เวียนศีรษะ แขนขาอ่อนแรงไปหมด

“จวิ้นจู่!”

ร่างบอบบางรีบเดินเข้าประตูพระจันทร์ไป คืนนี้ท่านหมอซือสวมเสื้อคลุมยาวหนาสีน้ำเงินที่ถักทอด้วยเส้นไหมทองสั่งตัดพิเศษโดยช่างเสื้อประจำจวน เพื่องานเลี้ยงฉลองสมรสในครั้งนี้

เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมลวดลายสวยงาม แต่ท่านหมอซือกลับดูเก้ๆ กังๆ เมื่อสวมเสื้อผ้าเหล่านี้โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ยินเพื่อนพูดว่า “อย่างกับชุดของสตรี” และ “ถ้าของเก่าไม่ไป ของใหม่ก็ไม่อาจมาได้” ในระหว่างที่อยู่ในงานเลี้ยง จนท่านหมอซือไม่อาจระงับความขุ่นเคืองใจเอาไว้ได้

พวกเขานำจวิ้นจู่ไปเปรียบกับเสื้อผ้าชุดเก่าโดยที่ไม่รู้อะไรเลยสักนิด!

ท่านหมอซือรู้จักเยี่ยจือหวา เขาเคยตรวจรักษาอาการป่วยของนางมาก่อน เขาคิดว่านางเป็นหญิงที่ใจดีและอ่อนโยนคนหนึ่ง อย่างไรก็ดี คืนนี้เขาได้เห็นนางและอ๋องเย่ว์มีความสุขสนุกสนานจัดงานสมรสใหญ่โตแต่งตั้งพระชายา เขาหวนระลึกถึงความสุขและความอยู่ดีกินดีของนางที่สร้างขึ้นบนความทุกข์ความเจ็บปวดของจวิ้นจู่น้อย ถึงตอนนี้ ความพึงพอใจของเขาที่มีต่อนางก็ลดน้อยถอยลงอย่างเหลือคณา

“ท่านหมอหลวงซือ”

เมื่อเห็นร่างของท่านหมอซือ ซูหว่านก็ตาเบิกโพลงและเงียบงันลงในทันที

“ใต้เท้าซือ ท่านมาได้จังหวะพอดี”

ลี่ว์จูไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนกับบรรยากาศอึมครึมระหว่างสองคนนี้ นางรีบเดินตรงไปยังท่านหมอซือและมองเขาด้วยสายตาวิงวอน “ท่านช่วยพูดกับจวิ้นจู่ได้หรือไม่ว่าให้ระวังสุขภาพ! ร่างกายนางจะทนไม่ไหวหากยังตากลมอยู่เช่นนี้”

“จวิ้นจู่”

ใจท่านหมอซือนั้นเจ็บปวดแทบทนไม่ได้แต่ต้องเดินหน้าต่อไป

“กลับไปที่ห้องเถิดจวิ้นจู่ วันนี้ข้า…นำขนมหร่วนอี้นุ่มๆ ที่ท่านชอบมาด้วย”

พูดพลางก็หยิบของห่อเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อ ซึ่งทำจากร้านเลื่องชื่อในเมืองหลวง

“ข้าไม่หิว”

ซูหว่านจ้องตาเป็นประกายมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลๆ จากนั้นสายตาของนางก็หยุดอยู่ที่ท่านหมอซือ “ท่านหมอซือ ท่าน…..พาข้า…”

แววตาท่านหมอซือเป็นประกายขึ้นมาทันที จวิ้นจู่น้อยจะพูดอะไร

นางขอให้เขาพานางหนีหรือ?

ความคิดแวบเข้ามาในสมองจนเขาไม่อาจสะกดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป

ที่แห่งนี้ทำให้นางเศร้าใจมาก ก็ไม่ผิดอะไรหากนางปรารถนาจะจากที่นี่ไป

และนางก็ไม่ใช่พระชายาของอ๋องเย่ว์แล้ว เหตุใดเขาจะพานางหนีไม่ได้

เมื่อคิดเช่นนี้ ร่างกายท่านหมอซือก็สั่นเทิ้ม เสียงซูหว่านหยุดอยู่เพียงเท่านั้น

คำว่า “หนีไป” ไม่ทันได้พูดออกมา ทันใดนั้นร่างสูงใหญ่กำยำก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืด

คิ้วมืดทะมึน ดวงตากระหายเลือด

ชายผู้ดูร้ายกาจและเย็นชามากยืนเด่นตระหง่านอยู่ภายใต้ประตูพระจันทร์ เขายิ้มให้ซูหว่านด้วยรอยยิ้มประหลาดอย่างปีศาจ “เสี่ยวซูหว่าน ข้ามารับท่าน…..กลับบ้านเถิด!”

เมื่อเสียงนั้นเปล่งออกมา ลี่ว์จูราวกับเห็นผี หน้าซีดเผือด รีบวิ่งไปซ่อนหลังซูหว่าน

“ท่านคือแม่ทัพซูหรือ”

ท่านหมอซืออึ้งไปครู่หนึ่ง เขารีบหันหน้าไปเห็นซูรุ่ยสวมเสื้อเกราะอ่อน

มีคำกล่าวว่าถ้าบิดาเป็นสิงโต บุตรชายไม่อาจเป็นสุนัขได้ ตระกูลซูเป็นตระกูลแม่ทัพที่เก่าแก่มีชื่อเสียง จนมาถึงรุ่นปัจจุบัน ถึงแม้ซูรุ่ยจะเป็นบุตรชายคนเดียว แต่เขาก็ทรงพลังและกระหายเลือดมากกว่าบิดาเขาเสียอีก ในวัยหนุ่ม เขาทำให้คนแปลกใจกันทั้งแว่นแคว้นเพราะเขาเป็นแม่ทัพที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ต้าซย่า

ซูหว่านกำมือแน่นแต่ในที่สุดก็คลายมือ

นางยังกลัว

ท่านหมอซืออยู่ใกล้ชิดกับซูหว่านมาก เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นความผิดปกติของซูหว่านและลี่ว์จู คนภายนอกลือกันว่าซูหว่านถูกขับออกจากตระกูล แล้วสาเหตุที่แท้จริงที่นางถูกขับออกจากตระกูลคืออะไร

เป็นความลับภายในตระกูลที่ไม่มีใครล่วงรู้

“เสี่ยวจวิ้นจู่…”

ท่านหมอซือจับมือซูหว่านโดยไม่รู้ตัว แต่ซูหว่านปัดออก นางหัวเราะอย่างสิ้นหวังให้กับท่านหมอซือ “น้องชาย เจ้ามารับข้าจริงๆ หรือ”

มาตอนนี้เนี่ยนะ!

ให้ตายสิ เจ้ามาตอนนี้จริงๆ น่ะหรือ

ซูหว่านด่าซูลุ่ยลึกๆ อยู่ในใจเป็นร้อยแปดพันเก้าครั้ง หากดูแค่ใบหน้า นางดูนุ่มนวลและอ่อนแอ แต่ในใจลึกๆ ตายด้าน สงบเยือกเย็นดังน้ำนิ่งไหลลึก นางไม่อาจมีความรักให้ใครได้อีกแล้ว

“ท่านยังจำคำที่ข้าพูดได้หรือไม่ตอนที่ท่านแต่งงานออกเรือนไป”

ซูรุ่ยก้าวเดินทีละก้าวอย่างมั่นคงและเปี่ยมอำนาจ แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูหว่านโดยไม่สนใจไยดีท่านหมอซือที่อยู่ข้างๆ รูปร่างกำยำสูงใหญ่บดบังสายตาซูหว่านจนหมดสิ้น แขนสองข้างอันทรงพลังสามารถโอบล้อมและดึงซูหว่านเข้าไปในอ้อมกอดได้อย่างง่ายดาย

อ้อมกอดอันเยือกเย็นแฝงด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง

“เมื่อไรที่เซวียนหยวนรุ่ยทิ้งท่าน เมื่อนั้นข้าจะมารับท่าน”

ซูรุ่ยโน้มตัวลงมาใกล้หูซูหว่านจนริมฝีปากเขาเกือบจะโดนหูของนาง ลมหายอุ่นรินรดเข้าหูซูหว่าน

ให้ตายเถอะ นางขนลุกไปทั้งตัว

ซูหว่านหลับตายอมรับชะตากรรมปล่อยให้ซูรุ่ยกอดนาง ลมหายใจเขาเยือกเย็นราวประสงค์ร้ายทว่าอ้อมกอดของเขานั้นนุ่มนวล

“ลี่ว์จู ทำไมยังไม่มาอีก!”

เสียงต่ำดังขึ้น ลี่ว์จูตกใจกลัวซูรุ่ยอยู่พักหนึ่งก่อนทำตามคำสั่ง รีบกลับไปหาเขาด้วยความตกใจกลัว

“ท่านแม่ทัพซู จวิ้นจู่ ท่าน….”

ท่านหมอซือที่อยู่ด้านหลังอดรนทนไม่ได้จะเปิดปากพูด แต่ถูกซูรุ่ยขัดจังหวะอย่างไร้ความปรานี “ท่านไม่จำเป็นต้องดูแลพี่สาวของข้าแล้ว ตอนนี้นางมีข้าแล้ว”

พี่สาวของเจ้ากำลังเลี้ยงปีศาจร้าย

ซูหว่านได้แต่หลับตาและโน้มตัวเข้าสู่อ้อมกอดของซูรุ่ย นางไม่มีกำลังจะไปเยาะเย้ยใครได้ นางคิดจะสร้างความประทับใจให้ท่านหมอซือให้ได้มากที่สุด แต่ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ท่านหมอซือนะท่านหมอซือ ท่านค่อยรักษาหน้าพี่สาวโดยสร้างความร้าวฉานระหว่างนายท่านกับนายหญิงทีหลังเถอะ พี่สาวคนนี้อยากให้ท่านสู้เขานะ

จากตำหนักเย็นไปยังเรือนหลักนั้นไม่ไกลนัก

ตลอดทางเดินเต็มไปด้วยโคมไฟสีแดง ซูหว่านซบหน้าลงกับอกของซูรุ่ย แม้เขาจะสวมเสื้อเกราะหนา แต่ซูรุ่ยสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของซูหว่านได้อย่างชัดเจน เขาเห็นว่านางกำลังร้องไห้

“จะร้องไห้ให้กับคนใจร้ายหลายใจไปทำไม คุ้มค่าแล้วหรือ?”

เมื่อได้ยินคำพูดเย้ยหยันของซูรุ่ย ทันใดนั้นซูหว่านที่ตาแดงก่ำก็จับแขนของซูรุ่ยไว้มั่น “พาข้าไป!”

“ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ”

ซูลุ่ยเลิกคิ้วหนา พูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความกังวล

“ไม่ นี่ล่ะคือวิธีจะทำให้ข้ายอมแพ้อย่างสิ้นเชิง”

ซูหว่านลดเสียงลงต่ำแต่ซูรุ่ยได้ยินชัดเจน แสงเย็นแวบมาเข้าตาเขา เขายกริมฝีปากยิ้มอย่างกระหายเลือด ทันใดนั้นเขาก็ใช้วิชาตัวเบาทะยานตัวลอยขึ้นไปในอากาศ เหยียบบนกำแพงสูง แขนตระกองกอดซูหว่านเอาไว้

ขณะนี้พิธีการแต่งตั้งพระชายาได้สิ้นสุดลงแล้ว เซวียนหยวนรุ่ยเบิกบานใจกับเยี่ยจือหวาที่อยู่ในชุดสีแดง พวกเขาสนทนาหัวร่อต่อกระซิกกับกลุ่มขุนนาง ทันใดนั้น ทหารองครักษ์หน้าประตูก็ตะโกนร้องขึ้น ทุกคนรู้สึกเหมือนมีลมหนาวมาปะทะอย่างแรง ร่างสูงใหญ่ปรากฏตัวขึ้น

“มีคนบุกรุก! อารักขาท่านอ๋องเย่ว์!”

เหล่าทหารองครักษ์รีบรุดเข้ามาดูว่าใครเป็นผู้บุกรุก แต่แล้วก็ผงะนิ่งอึ้งไป

ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าทุกคนในห้องโถงล้วนตะลึงงัน

ไม่มีใครคาดคิดว่าซูรุ่ยจะมา แถมยังมาแบบนี้อีก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

Status: Ongoing

ซูหว่าน คือเจ้าหน้าที่ทำลายเขตแดนประจำองค์กรแห่งหนึ่งในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ในโลกที่ผู้คนทะลุมิติข้ามภพกันไม่เว้นวัน จิตล่องลอยไปเกิดใหม่ในร่างอื่นอยู่ทุกค่ำคืน ก็ได้เธอนี่แหละที่คอยสะสางดูแลความวุ่นวายและจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดปัญหาใหญ่เข้าจนได้ เมื่อองค์กรพบว่านางรองที่เกิดใหม่ดันไปสอยพระเอกกับนางเอกของภพนั้นร่วงจนทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนจึงได้มอบภารกิจให้ซูหว่านไปเก็บกวาดสถานการณ์นี้ให้เรียบร้อย โดยตัวเธอต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกแห่งนั้น

กระนั้นหลังจากที่เธอจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจของเธอกลับยังไม่จบสิ้น ซูหว่านยังคงลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกอื่นอีกหลายโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกเกมออนไลน์ โลกซอมบี้ หรือโลกเวทมนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอย้ายไปโลกใหม่ บทบาทที่เธอได้รับกลับหยุดอยู่แค่ ‘แฟนเก่า’ ของตัวเอกในเรื่อง

และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือทุกโลกที่เธอเดินทางไปนั้น เธอต้องได้พบเจอกับ ‘เขา’ อยู่ร่ำไป แม้ยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่รูปร่างหน้าตาของเขาคนนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นคนที่ได้รับภารกิจพิสดารนี้เหมือนเธอกันนะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท