ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 22 ตัวแทนคนรัก (22)

ตอนที่ 22 ตัวแทนคนรัก (22)

ตอนที่ 22 ตัวแทนคนรัก (22)
ในห้องพยาบาลเซียวจิ่งมั่วยืนอยู่ข้างๆ ในฐานะผู้ปกป้องจ้องมองซูรุ่ยด้วยใบหน้านิ่งเฉย แต่ซูรุ่ยก็มองไปที่ซูหว่านอย่างมึนงง

“ฟังจื่อมู่”

ซูหว่านดูเหมือนจะสงบสติอารมณ์ของเธอได้แล้วจึงค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า”เธอเป็นคนจ้างคนขับรถที่ก่อเหตุบาดแผลบนร่างกายของเธอก็เป็นแผลปลอมคุณโกหกฉันมาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม”

ทุกครั้งที่เธอพูดอะไรสักคำสีหน้าของซูหว่านก็เศร้าลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายเธอก็น้ำตาคลอ ความไร้เรี่ยวแรงและความผิดหวังที่ถูกคนที่เธอไว้ใจหลอกเขาแสดงออกมาอย่างสมจริง”

“ซูหว่านเธอพูดถึงอะไร”

ซูรุ่ยมองไปที่ซูหว่านโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็หันหน้ามองไปที่เซียวจิ่งมั่วด้วยสายตาโหดเ**้ยม”เซียวจิ่งมั่ว!เธอพูดอะไรกับเขากันแน่”

“ฉันก็แค่พูดเรื่องจริงที่ฉันได้ไปพบและเห็นมา”

น้ำเสียงของเซียวจิ่งมั่วนิ่งมาก”ถึงตอนนี้แล้วฟังจื่อมู่เธอหยุดแสดงได้แล้ว”

“ความจริงนั้นเหรอ ทำไมสิ่งที่เธอพูดถึงเป็นความจริงล่ะ”

ซูรุ่ยที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มอย่างเย็นชา “สิ่งที่นายสืบเจอมันเป็นความจริงเหรอ เธอบอกว่าคนขับรถถูกจ้างโดยฉัน ฉันก็พูดได้ว่านายจ้างเขามาแล้วมาใส่ร้ายฉัน เซียวจิ่งมั่ว เธอเลิกกับซูหว่านแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นแฟนคนปัจจุบันของซูหว่านเรื่องระหว่างเรา คุณช่วยน้อยๆ หน่อยได้ไหม คุณก็แค่คนนอกอย่าเข้ามายุ่งได้ไหม”

“คนนอก”

เวลานี้ประโยคนี้ดูรุนแรงเป็นพิเศษ ตอนได้ยินคำพูดของซูรุ่ยใบหน้าของเซียวจิ่งมั่วดูหมองไปเลย “ฟังจื่อมู่นายก็แค่หาข้อแก้ตัวอยู่ ถ้านายบริสุทธิ์ใจจริงๆ กล้าที่เปิดแผลที่ขาของนายหรือเปล่า ให้พวกเราดูหน่อยสิ”

“นายให้ฉันเปิดฉันก็ต้องเปิดเหรอนายคิดว่านายเป็นใครกัน”

ซูรุ่ยสวนกลับโดยไม่ไยดี ตอนนี้ซูหว่านและเซียวจิ่งมั่วยืนหันหลังให้กับประตูทั้งสองคนจึงไม่ได้สังเกตว่ามีร่างคนยืนอยู่นอกประตูอีกหนึ่งคน ซูรุ่ยเห็นร่างของลั่วชูชูแวบเดียว สายตาประชดประชันของเธอรุนแรงขึ้น “เซียวจิ่งมั่วคุณลืมไปหรือเปล่าว่าคุณมีแฟนอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้นายอยากจะกลับไปคบกับซูหว่าน นายก็ต้องทิ้งลั่วชูชูก่อนไหมมีแฟนอยู่แล้ว แล้วยังจะมายุ่งกับเรื่องของพวกเราอีก นายไม่รู้สึกว่านายมันไร้ยางอายบ้างเหรอ”

“นายนี่มันไร้ยางอายจริงๆ”

เมื่อเห็นซูรุ่ยเถียง ซูหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เซียวจิ่งมั่วกระวนกระวายอยู่พักหนึ่ง ความสุภาพบุรุษในตัวก็หายไปเลยทันใดนั้นเขาก็รีบเดินไปที่เตียงแล้วเปิดผ้าห่มของซูรุ่ย มือเล็งไปที่ท่อนขาที่บาดเจ็บของเขา เขาใช้แรงฉีกผ้าพันแผลออกอย่างรุนแรง

เลือดไหลซึมออกมาไม่หยุด ที่จริงแผลที่เริ่มจะหายอยู่แล้วก็ถูกฉีกออกกะทันหันแบบนี้ จากที่เลือดไหลไม่หยุดจนสามารถมองเห็นกระดูกสีขาวในขาได้เลย

จริง มันเห็นถึงกระดูกเลยนะ เซียวจิ่งมั่วนิ่งอยู่กับที่ แต่สีหน้าของซูรุ่ยที่นอนอยู่บนเตียงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอจ้องมองไปที่เซียวจิ่งมั่วอย่างเย็นชา “แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่มีพิรุธในเรื่องนี้ เซียวจิ่งมั่วถ้าฉันจำไม่ผิดคุณอยู่ที่นั่นในวันที่เกิดอุบัติเหตุใช่ไหม อย่ามาพูดว่าคุณแค่บังเอิญเดินผ่านนะ คุณตามติดซูหว่านเพื่ออะไร คุณเหยียบเรือสองลำแบบนี้ซินเดอเรลล่าในคฤหาสน์ขอนายรู้บ้างหรือเปล่า”

“ฉัน…ฉัน…”

ครู่หนึ่ง เซียวจิ่งมั่วก็พูดอะไรไม่ออก ซูหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะตกใจกับเลือดที่ไหลไม่หยุดบนขาของซูรุ่ย สีหน้าของเธอตื่นตระหนกและรีบหันหลังวิ่งออกไปที่ประตู”

“ฉันจะไปเรียกคุณหมอ!”

ประตูของห้องถูกเปิดออก และซูหว่านจ้องไปที่ลั่วชูชูที่ยืนอยู่หน้าประตูโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ลั่ว…”

ซูหว่านอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ลั่วชูชูที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอได้แต่ยิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ดูเหมือนว่าฉันจะมาไม่ถูกเวลานะ ขอตัวก่อนนะ”

ทันใดนั้น ลั่วชูชูก็รีบหันหลังเดินออกไป และซูหว่านก็วิ่งออกไปเรียกหาหมอประจำของซูรุ่ยทันที

“ทำไมไม่ตามออกไป”

ขาของซูรุ่ยยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด แต่เขาดูเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรเลยจ้องมองเซียวจิ่งมั่วด้วยสายตาที่เยาะเย้ย “ถ้านายยังไม่ตามไป ซินเดอเรลล่าของนายจะหนีไปจริงๆ แล้วนะ”

“นายเรียกเธอมาที่นี่เหรอ”

ในที่สุด เซียวจิ่งมั่วก็สงบสติอารมณ์ลง เขาได้เข้าใจแล้วว่าเขาเป็นเหยื่อในแผนการของ ฟังจื่อมู่ตั้งแต่แรกแล้ว

“ฉันเรียกเขามาเอง”

เมื่อซูรุ่ยได้ยินที่เซียวจิ่งมั่วพูดเธอก็สารภาพทันทีเลยว่า “เซียวจิ่งมั่วเมื่อคุณอยู่กับลั่วชูชูเธอทั้งสองก็มีชีวิตคู่ที่ดีอยู่แล้วไม่ดีหรือ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าซูหว่านคิดแบบไหน แต่ฉันก็รู้ใจฉันดี ฉันรู้ว่าฉันต้องการอะไร และฉันก็รู้ว่าฉันรักเขา เมื่อแปดปีที่แล้วคุณทิ้งเขาไปแล้วรอบหนึ่ง แล้วตอนนี้คุณมีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายความรักของเราสองคน”

มีสิทธิ์อะไร

ดวงตาของเซียวจิ่งมั่วค่อยๆ หมองลง

“ใช่ คุณมีสิทธิ์อะไร”

ณ ตอนนี้ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขอให้ซูหว่านยกโทษให้เขาด้วยซ้ำ

แต่…

จะยอมให้ซูหว่านโดนฟังจื่อมู่หลอกจริงๆ เหรอ เขานิ่งเฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน

เขาคือซูหว่านนะ! คนที่เคยเสียสละทุกอย่างเพื่อฉัน ที่ยอมโง่เพียงเพราะว่าเขารักฉัน

“ฟังจื่อมู่”

ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจ เซียวจิ่งมั่วก็จ้องมองไปบนเตียงด้วยสายตาอันลึกซึ้ง “ฉันจะตามซูหว่านกลับมาให้ได้และฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปให้กับคุณ”

ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับความผิดหรือพยายามที่จะรั้งเขาไว้ ในตอนนี้เซียวจิ่งมั่วก็คิดออก แค่วิธีนี้วิธีเดียว เขาคิดว่าเขาสามารถใช้วิธีนี้ช่วยซูหว่านพ้นจากกับดักอันอ่อนโยนของฟังจื่อมู่…

เมื่อซูหว่านตามหมอเพื่อที่จะมาทำแผลรอบใหม่ให้ซูรุ่ย มาถึงเซียวจิ่งมั่วก็ได้กลับไปนานแล้ว หลังจากทายาและเปลี่ยนผ้าพันแผล คุณหมอและพยาบาลก็ได้กลับไป ในห้องเหลือแค่ซูหว่านกับซูรุ่ยอยู่สองคน ซูหว่านนั่งนิ่งเงียบอยู่ข้างเตียง และมองไปที่ซูรุ่ยด้วยสายตาเย็นชา

ซูรุ่ยไม่ได้พูดอะไร บรรยากาศอาจจะดูอึมครึม แต่กลับกลมกลืนกันอย่างประหลาด

จนกระทั่งเวลาสามทุ่ม ซูหว่านก็ได้ลุกขึ้นโดยไม่มีคำพูดใดๆ และเธอก็กำลังจะกลับ

“เซียวจิ่งมั่วบอกว่าเขาอยากได้เธอกลับมา”

ทันใดนั้นซูรุ่ยก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบากับแผ่นหลังของซูหว่าน”คนคนนี้ เขาไปได้ความมั่นใจจากใครมา”

เขาคิดว่าเขาจะทิ้งก็ทิ้ง เขาอยากจะหาใครมาแทนก็แทน เขาอยากจะได้กลับมาก็ได้กลับมาเหรอ เขาคิดว่าโลกใบนี้หมุนรอบตัวเขาแค่คนเดียวเหรอ แม้ว่าเขาจะเป็นพระเอกของโลกใบนี้ก็เถอะ แล้วไงล่ะ

แม้ว่าซูรุ่ยจะดูละครและอ่านนิยายมานับไม่ถ้วนแล้วก็ตามเขาก็ยังคงไม่เข้าใจชีวิตของตัวละครเอกเหล่านั้นได้ เขาคิดว่าผู้ชายที่รักจริงจะไม่มีทางหาใครเพื่อมาเป็นตัวแทนของเขา ถ้ารักกันจริงๆ เขาควรจะจริงใจกับผู้หญิงที่เขารักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เขายิ่งไม่เข้าใจเรื่องราวความรักที่ทำร้ายกันและเกลียดชังกันแต่สุดแล้วกลับลงเอยกัน

ความรัก ควรเป็นความรักที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่หลอกลวงหรือทำร้ายกัน เพราะคำว่ารักมันเปราะบางเกินไป ความรักเมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลับมารักกัน แต่ก็ไม่สามารถรักกันได้ตลอดไป เรื่องราวของแก้วที่แตกแล้วสามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่เชื่อ

“คนแบบนี้ พวกเขาไปได้ความมั่นใจจากใครมา”

ซูหว่านยังคงได้ยินคำพูดของซูรุ่ยก้องอยู่ในหู

ใช่ไง เซียวจิ่งมั่วคุณไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน คุณคิดว่าคุณกำลังช่วยคนรักเก่าของคุณอยู่เหรอ แล้วคุณเอาลั่วชูชูไปไว้ที่ไหน คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วคุณจะเป็นสุภาพบุรุษเหรอ คุณก็แค่กำลังทำร้ายจิตใจผู้หญิงทั้งสองคนนี้อยู่

ซูหว่านหน้านิ่งเฉย และมองด้วยสายตาเย็นชา

มันควรจบแล้วกับโลกใบนี้ เขาเสียเวลากับที่นี่มานานมากแล้ว แล้วยังรออะไรอยู่ เดินไปที่ประตูห้องผู้ป่วย ซูหว่านยืนนิ่ง

“อย่าทำร้ายลั่วชูชู”

ฝากประโยคนี้ไว้ แล้วซูหว่านก็รีบเปิดประตูและเดินจากไป

“ตามที่เธอปรารถนา”

ซูรุ่ยจ้องไปที่ประตูที่โดนปิดแน่นแล้วยิ้มแปลกๆ เขารู้สึกว่าเขาใกล้จะได้ใจของซูหว่านแล้ว โลกใบนี้ก็เหมือนอุปสรรคที่ต้องข้ามผ่าน

เซียวจิ่งมั่ว ลั่วชูชู ไม่รู้ว่าสองคนนี้มีความพิเศษอะไร ถึงทำให้ซูหว่านอ่อนโยนด้วยตลอดเลย ใช่แล้ว ซูหว่านอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานนัก แต่วิธีการของเธออ่อนโยนเกินไปซึ่งไม่เหมือนกับผู้เล่นเบอร์สามที่ไร้ความปรานีในตำนาน

ทำไมต้องเมตตาต่อลั่วชูชู

ทำไมต้องใช้วิธีที่อ่อนโยนแบบนี้เพื่อให้โอกาสเซียวจิ่งมั่ว

คำตอบนั้น มีเพียงซูหว่านเท่านั้นที่รู้…

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

Status: Ongoing

ซูหว่าน คือเจ้าหน้าที่ทำลายเขตแดนประจำองค์กรแห่งหนึ่งในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ในโลกที่ผู้คนทะลุมิติข้ามภพกันไม่เว้นวัน จิตล่องลอยไปเกิดใหม่ในร่างอื่นอยู่ทุกค่ำคืน ก็ได้เธอนี่แหละที่คอยสะสางดูแลความวุ่นวายและจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดปัญหาใหญ่เข้าจนได้ เมื่อองค์กรพบว่านางรองที่เกิดใหม่ดันไปสอยพระเอกกับนางเอกของภพนั้นร่วงจนทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนจึงได้มอบภารกิจให้ซูหว่านไปเก็บกวาดสถานการณ์นี้ให้เรียบร้อย โดยตัวเธอต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกแห่งนั้น

กระนั้นหลังจากที่เธอจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจของเธอกลับยังไม่จบสิ้น ซูหว่านยังคงลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกอื่นอีกหลายโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกเกมออนไลน์ โลกซอมบี้ หรือโลกเวทมนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอย้ายไปโลกใหม่ บทบาทที่เธอได้รับกลับหยุดอยู่แค่ ‘แฟนเก่า’ ของตัวเอกในเรื่อง

และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือทุกโลกที่เธอเดินทางไปนั้น เธอต้องได้พบเจอกับ ‘เขา’ อยู่ร่ำไป แม้ยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่รูปร่างหน้าตาของเขาคนนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นคนที่ได้รับภารกิจพิสดารนี้เหมือนเธอกันนะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท