คาบเรียนของชั้นมัธยมปลายปีสองถูกจัดอย่างอัดแน่น ถึงแม้ซูหว่านจะไม่มีความกดดันเลยเกี่ยวกับการโดดเรียน แต่ว่าไม่ว่ายังไงข้างกายเขาก็มีนางเอกที่เป็น “นักเรียนดีเด่น” เมื่อเห็นซูหว่านจะโดดเรียนเป็นเพื่อนซูรุ่ยและเซียวหยุนอี้ เจี่ยงโยวก็พูดเกลี้ยกล่อมไม่หยุด สุดท้ายเมื่อเกลี้ยกล่อมซูหว่านให้ “กลับตัวกลับใจ” ไม่ได้เลยอิงอยู่ข้างๆ ไม่ยอมไปไหน เธอก็เลยต้อง “เอาตัวเองเป็นตัวประกัน” ซะเลย
นายท่านหญิงที่ “ใจดีและดื้อรั้น” เช่นนี้ ซูหว่านก็เคลิบเคลิ้มตามไปบ้าง
สุดท้ายซูหว่านก็เลยกลับไปเรียนอย่างจำใจ ซูรุ่ยมาส่งซูหว่านจนถึงหน้าประตูโรงเรียน ก่อนแยกกัน จู่ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หรี่ตาเล็กลงและยื่นมือไปหาซูหว่าน “ตอนนี้ผมกลับมาเลี้ยงดูคุณแล้ว ให้ทิปหน่อยสิ คุณนายหญิง? ”
แม่ทัพซู คุณดื้ออีกแล้วนะ!
“พี่ใหญ่เซียว? ”
เจี่ยงโยวที่ยืนอยู่ด้านข้างตาโตและมองซูรุ่ยอย่างไม่เชื่อ “พี่ใหญ่เซียว พวกคุณ… พวกคุณไม่ค่อยมีเงินเหรอคะ? ฉัน……ฉันยังพอมีเงินอยู่บ้าง”
พูดไปเจี่ยงโยวก็เริ่มพลิกกระเป๋าของตัวเองไป พลิกไปสักพัก ก็หยิบเงินสามร้อยห้าสิบหยวนออกมา
แม่ทัพซู “…….”
นี่มันยังไม่พอที่จะให้คนทั่วไปซื้อเนกไทสักเส้นเลยนะ?
เมื่อเห็นแววตาของซูรุ่ยดูแปลกๆ เจี่ยงโยวกำแบงก์ร้อยในมือตัวเองแน่นอย่างไม่รู้ตัว “มันไม่พอใช่ไหมคะ? ที่บ้านของคุณเกิดปัญหาขึ้นใช่ไหม? ฉัน……ฉันกลับไปเอาเงินที่บ้านได้นะ”
“เอ่อ?”
ได้ยินคำพูดของเจี่ยงโยว แววตาซูรุ่ยก็เป็นประกาย ทันใดนั้นก็ยื่นมือใหญ่ออกมาดึงเงินสามร้อยในมือของเธอ “ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ผมกลับคิดออกแล้วว่า ตอนที่ป้าจ้าวอยู่ที่โรงพยาบาลและเสียชีวิต ผมได้ให้เงินคุณยืมสามหมื่นหยวน ตอนนี้คุณเป็นคุณหญิงตระกูลซูแล้ว คงไม่ปัดหนี้สินกับคนจนแบบผมหรอกนะ? ”
ได้ยินซูรุ่ยพูดถึงเรื่องในอดีต สีหน้าของเจี่ยงโยวก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที “พี่ใหญ่เซียว คุณ คุณอย่าเข้าใจผิด! ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่คืนเงิน ความจริงฉัน……ฉัน…….”
เจี่ยงโยวรีบร้อนอธิบาย กลับถูกซูรุ่ยขัดจังหวะขึ้นก่อน “เศษเงินพวกนี้ถือว่าเป็นดอกเบี้ย เงินที่เหลือคุณให้ซูหว่านโดยตรงก็พอแล้ว”
พูดไปซูรุ่ยก็โยนเงินที่อยู่ในมือตัวเองให้เซียวหยุนอี้ที่อยู่ด้านหลังแบบไม่เหลียวหลัง “ถือไว้ เอาไว้ไปซื้อแอปเปิลกิน”
เซียวหยุนอี้ “…….”
พี่ใหญ่ ฉันจะบอกว่าฉันเกลียดการกินแอปเปิลได้ไหม?
ถึงแม้ว่าเซียวหยุนอี้จะเฉื่อยชาแต่เขาก็เห็นท่าทีของพี่ใหญ่ที่มีต่อเจี่ยงโยวเปลี่ยนไปนานแล้ว ตอนแรกเซียนหยุนอี้รู้สึกว่าตัวเองคงรู้สึกไปเอง ตอนนี้ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะ…….เหมือนจะเกลียดเจี่ยงโยวจริงๆ ?
นี่มันทำไมนะ?
เซียวหยุนอี้ค่อยๆ รับเงินมา ถึงแม้ในใจจะมีคำว่าทำไมเป็นหมื่นคำ แต่ว่าเขากลับไม่ได้เปิดปากพูดออกมา เพียงแค่แสดงเป็นคนกินจุคนหนึ่งแค่นั้น
“ฉันเข้าไปก่อนนะ ใกล้เข้าเรียนแล้ว”
ตอนนี้ซูหว่านที่อยู่ด้านข้างมองนาฬิกาข้อมือ เธอทั้งพูดไปทั้งควักบัตรเครดิตที่เมื่อเช้าเจอตอนกลับบ้าน แล้วเอาออกมาจากกระเป๋านักเรียน “ฉันให้สมบัติทั้งหมดแก่คุณเลยนะ รหัสคือเลขหกทั้งหมดหกตัว คุณพาหยุนอี้ไปเปลี่ยนชุดก่อนเลย รอฉันเลิกเรียนเราค่อยไปดูห้องด้วยกัน”
ระหว่างพูดซูหว่านกำลังจะหมุนตัวจากไป แต่ตอนที่ซูรุ่ยรับบัตรเครดิต ก็ได้จับมือซูหว่านเอาไว้ ใช้แรงดึงข้อมือ ซูหว่านจึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ค่อยๆ จูบลงที่ริมฝีปากของซูหว่าน หน้าผากของทั้งสองคนเยื้องกัน ซูรุ่ยถึงได้พออกพอใจยิ้มอย่างอบอุ่นให้ซูหว่าน “เลิกเรียนแล้วเจอกัน”
“อืม”
ซูหว่านเม้มริมฝีปากพยักหน้ารับ ถึงได้ออกจากอ้อมกอดของซูรุ่ย หมุนตัวเดินเข้าไปในโรงเรียน
เจี่ยงโยวยืนอยู่ด้านข้าง ตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูทั้งสองคนอย่างโง่ๆ
ถ้าหากถึงตอนนี้ เธอยังมองไม่ออกว่าระหว่างทั้งสองคนมีลับลมคมในอะไรกัน เธอก็คงจะเป็นคนโง่แล้วจริงๆ
“พี่ใหญ่เซียว พี่กับเสี่ยวหว่าน……”
“ก็อย่างที่เห็น”
ซูรุ่ยยกบัตรเครดิตที่อยู่ในมือขึ้น “รู้จักว่ารักแรกพบคืออะไรไหม? เอาละ ไปเรียนเถอะ จริงสิ อย่าลืมคืนเงินฉันให้ซูหว่านอย่างเด็ดขาด! ”
พูดไปซูรุ่ยก็เอาบัตรเครดิตตีเบาๆ ที่หัวของเซียวหยุนอี้ “หยุนอี้! ไปกันเถอะ พี่ใหญ่จะพาไปช้อปปิ้ง พี่สะใภ้เป็นคนจ่าย”
เซียวหยุนอี้ ช้อปปิ้งอะไรนี่มันดีจังเลย ว่ากันว่ามีถนนของกินใกล้ๆ ศูนย์การค้าใจกลางเมืองD
เมื่อเห็นพี่น้องตระกูลเซียวหันหลังจากไป เจี่ยงโยวใช้แรงดึงมุมชุดนักเรียนของตัวเองไว้แน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความน้อยใจ
พี่ใหญ่เซียวดูเหมือนต้องการเงินมาก หรือเพราะว่าเขารู้ว่าเธอเองเปลี่ยนเป็นคุณหนูเศรษฐี เข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐี ก็เลยโมโหไม่เลือกหน้า จึงตั้งใจขีดเส้นกับเธอใช่ไหม?
ในตอนนี้เสียงระฆังเตรียมเข้าห้องเรียนดังขึ้นพอดี เจี่ยงโยวเรียกสติกลับมาได้และจำได้ว่าคาบแรกเป็นคาบเรียนของอาจารย์ประจำชั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวกลับและวิ่งเข้าไปที่อาคารเรียนอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเจี่ยงโยววิ่งเร็วเกินไป ตอนที่ผ่านมุมแปลงดอกไม้ เลยเกือบจะชนกับคนที่อยู่ตรงหน้า ยังดีที่เจี่ยงโยวมีทักษะในเรื่องนี้ ความยืดหยุ่นของร่างกายก็ดีมากด้วย ก่อนที่จะชนเข้ากับอีกฝ่าย เจี่ยงโยวใช้มือข้างเดียวประคองตัวเองกับแปลงดอกไม้ข้างๆ ตีลังกาข้าง คนทั้งคนตีลังกาผ่านร่างคนคนนั้นไป
เท้าคู่งามแตะพื้น เจี่ยงโยวสูดหายใจเข้าลึก เงยหน้าขึ้นมาขอโทษ “เพื่อนนักเรียน ฉันไม่……อาจารย์เวิน?”
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันสวมแว่นตาสีทอง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ชายเสื้อถูกจัดอย่างเรียบร้อย นอกจากนี้ในมือขวาของเขายังถือแผนการสอนไว้อย่างเป็นระเบียบ
ผู้ชายที่อ่อนโยนและหล่อเหลาตรงหน้าคนนี้ คือเวินเหวินเฮ่าอาจารย์ประจำชั้นของเจี่ยงโยว
“เจี่ยงโยวเหรอ?”
เวินเหวินเฮ่ามองเจี่ยงโยว และยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ทักษะไม่เลว!”
เอ่อ
ใบหน้าของเจี่ยงโยวแดงก่ำ แกล้งลูบผมของตัวเองด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “อาจารย์เวินคะ ฉัน……ฉันไม่ได้ตั้งใจ! อุ๊ย! ฉันเข้าเรียนสายแล้ว! เข้าสายจะโดนอาจารย์ตำหนิเอา! ไปก่อนนะคะอาจารย์เวิน! ”
เห็นเจี่ยงโยวจากไปอย่างลุกลี้ลุกลน เวินเหวินเฮ่ายิ้มและกระชับกรอบแว่นตรงสันจมูก
ดูเหมือน อาจารย์คนนั้นที่เธอพูดถึงก็คือเขาสินะ?
สาวน้อยเจี่ยงโยวคนนี้ช่างเลอะเลือนเสียจริง
ตอนบ่ายสอง นักเรียนทุกระดับชั้นของโรงเรียนเฟิงเหิงกำลังเข้าเรียนกันอยู่ ในตอนนี้จู่ๆ ก็มีโพสต์นิรนามปรากฏขึ้นใน BBS ที่ร้อนแรงที่สุดในโรงเรียน หัวข้อของโพสต์ดึงดูดความสนใจของคนมากมาย และตัวหลักของโพสต์มีแค่คนเดียว นั่นก็คือซูหว่าน
ดาวโรงเรียนซูหว่านจูบร้อนแรงกับชายหนุ่มปริศนา
จูบแรกของดาวโรงเรียนมอบให้ใครไป?
สาวสวยทุ่มทุนจัดหนักเลี้ยงหนุ่มหล่อ มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?
หนึ่งร้อยวิธีจูบอย่างร้อนแรงในโรงเรียน
เดิมทีในโรงเรียนก็ไม่มีความลับ และเว็บของโรงเรียนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เรื่องอื้อฉาวนับไม่ถ้วน เรื่องของซูหว่านและซูรุ่ย มีรูปเป็นหลักฐาน ดังนั้นไม่นานก็กลายเป็นหัวข้อฮิตที่สุดในโรงเรียน ไม่แปลกใจเลยที่ซูรุ่ยปรากฏตัวอยู่ด้านนอกโรงเรียนในตอนเลิกเรียนด้วยชุดสูทที่เพิ่งซื้อมาใหม่ และพบกับไทยมุงที่เข้ามาล้อมไว้อีกรอบอย่างหนาแน่น
แม่ทัพซูที่ชื่อเสียงดังระเบิดบอกว่าเจ้าตัวกดดันมาก