การหมดสติของเหวินซูมีความแปลกประหลาดเล็กน้อย ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร ซูหว่านและซูรุ่ยก็จำเป็นต้องตรวจสอบให้กระจ่างชัด ไม่ว่าภารกิจอะไรในโลกใบนี้การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทั้งหมดต่างสามารถนำความยุ่งยากวุ่นวายที่คาดเดาไม่ได้มาสู่ผู้ทำภารกิจ และสิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้ก็คือ กำจัดปัญหาและอันตรายทั้งหมดในแหล่งกำเนิดอารยธรรม…
“ซูหว่าน” ลูกสาวในความทรงจำของซูไห่เฉิง ตั้งแต่เด็กถูกปรนเปรอจนเคยชิน เธอเคยโกรธคนตรงหน้าของตนอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าสายตาลักษณะที่คงเยือกเย็นเช่นนี้ ทำให้ซูไห่เฉิงไม่เคยได้มองเห็นซูหว่านที่ยื่นอยู่ตรงหน้าในลักษณะเช่นนี้มาก่อน
เมื่อได้เห็นแล้วจึงรีบล็อกประตู สุดท้ายเขายังคงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ใครก็ตามแม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ว่า เสี่ยวเซียวเขามีความรู้ทางการแพทย์หรือเปล่า”
มีหลายสำนวนที่เรียกว่า “เห็นม้าตายแล้วรักษาดุจม้าเป็น” ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคนล้วนต่างรอคอยปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้น ในเวลานี้ซูไห่เฉิงก็อาจจะรู้สึกเช่นเดียวกัน
ความรู้ทางการแพทย์เหรอ?
ขอโทษนะ 1001 วิธีที่จะฆ่าคน แม่ทัพซูก็จัดการได้อยู่แล้วส่วนเรื่องช่วยชีวิตคนงั้นหรือ….
“เขาทำได้ค่ะ”
ซูหว่านตอบกลับไปด้วยใบหน้าอันเย็นชา เหมือนไม่รู้สึกผิดใดๆ เลย ส่วนเจี่ยงโยวที่ยืนอยู่ข้างๆ อ้าปากคิดจะพูดออกมา แต่เมื่อสังเกตเห็นซูหว่านกำลังจ้องมองมาด้วยสีหน้าเย็นชา หล่อนจึงทำได้เพียงปิดปากเงียบไว้ แต่จิตใจยังคงกังวลต่อเซียวฉี่
เจี่ยงโยวรู้จักกับเซียวฉี่ก็เกือบสิบปีเต็มแล้ว หล่อนคิดว่าหล่อนเข้าใจเซียวฉี่มากพอ เขาชำนาญกังฟู ทำกับข้าวเป็น เรื่องงานบ้านและดูแลคนล้วนเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่ว่า….เรื่องการแพทย์นั้นเป็นสิ่งที่ยากอย่างมาก พี่เซียวจะทำได้อย่างไรกัน
สามารถใช้วรยุทธ์ช่วยพ่อบุญธรรม ในการดูแลสหายซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเหล่านั้นได้ โดยช่วยนวดรักษาพวกเขาเพียงครู่ ล้วนเป็นสิ่งที่เซียวฉี่ทำมาหมดแล้ว….
ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ด้านนอกประตูนั้นล้วนมีความรู้สึกเดียวกัน ภายในห้อง ซูรุ่ยเพิ่งมาถึงหน้าเตียงผู้ป่วยของเหวินซู
เหวินซูที่เพิ่งจะสี่สิบต้นๆ แม้ว่าเจ็บป่วยเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่เพราะได้รับการดูแลมาตลอด ใบหน้าของหล่อนซึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ดูแล้วก็เหมือนคนวัยสามสิบต้นๆ แม้ว่าจะอยู่ในภาวะโคม่าแต่ยากที่จะปกปิดใบหน้าอันสง่างามได้
ซูรุ่ยเมื่อเห็นสีหน้าของเหวินซู นิ้วที่เรียวยาวอันทรงพลังอดไม่ได้ที่จะคลำข้อมือที่ผอมแห้งซีดของเหวินซูในเวลาเดียวกันนั้น ซูรุ่ยใช้มือซ้ายหยิบมีดผ่าตัดที่หยิบมา นำออกมาจากเอวของตนเอง แล้วค่อยๆกรีดปลายนิ้วชี้ของเหวินซูให้เกิดบาดแผล ใช้เวลาไม่นานนัก เลือดที่ซึ่งมีสีม่วงอ่อนเล็กน้อยหยด ติ๋งๆ ไหลออกมาจากปลายนิ้วของเหวินซู
ซูรุ่ยผู้มีดวงตาอันเปล่งประกาย นำหลอดเก็บเลือดที่อยู่บนโต๊ะมาเก็บเลือด เขาไม่เหมือนกับหมอคนอื่นที่ต้องคอยเก็บอย่างระมัดระวัง ซูรุ่ยใช้ปลายมีดผ่าตัดจุ่มเลือดให้ชุ่มเปียกแล้วนำมาใกล้จมูกของตนแล้วจึงดม
นี่มัน…
เมื่อดมกลิ่นเลือดที่มีลักษณะพิเศษเช่นนั้นแล้ว ซูรุ่ยหลับตาเล็กน้อย ภายในสมองปรากฏโครงสร้างของยาพิษและสารประกอบยาพิษและกลิ่นนับไม่ถ้วน ท้ายสุดเขาก็ลืมตาทันที ดวงตาที่สุกสกาวภายในพลันฉายแววออกมา
“เดิมที….มันเป็นเช่นนี้เอง”
ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะดูเหวินซูที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างเต็มตาอีกครั้ง สีหน้าที่แสดงบนใบหน้าก็แปรเปลี่ยนไป
พร้อมหยิบผ้าขนหนูสีขาวหนึ่งผืนเช็ดรอยเลือดที่อยู่บนมีดผ่าตัดอย่างลวกๆ ซูรุ่ยลังเลอยู่สักครู่ ท้ายสุดแล้วยังนำหลอดแก้วที่อยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของเหวินซูมาเก็บเลือดจากนิ้วหล่อนอีกครั้ง
“ท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับผลการกระทำของฉัน ก็ทำให้เสร็จสิ้นเลยละกัน”
ซูรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ปลายนิ้วขวาของซูรุ่ยกดจี้บนเส้นเลือดใหญ่ของหัวใจทันที เลือดซึ่งมีสีม่วงอ่อนเล็กน้อยหยด ติ๋งๆ ไหลออกมาจากปลายนิ้วของเหวินซู ในเวลาไม่มากนัก เลือดก็หยดเต็มหลอด และในเวลานี้กลิ่นแปลกประหลาดที่อบอวลในห้องก็เริ่มจางหายไป
“อืม”
เหวินซูที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ พึมพำออกมา ขนตาที่ยืดยาวค่อยๆ ขยับแล้วจึงลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
ดวงตาตรงหน้ายังคงสับสนและวิงเวียน เมื่อเหวินซูปรับตัวเพียงชั่วขณะจึงคิดได้ว่าตนกำลังนอนอยู่ในห้องนอน รอบตัวเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่คุ้นเคย
นี่คือ…..
หล่อนคิดขึ้นมาได้ ตัวเองดูเหมือนจะยังโคม่าอยู่แต่ตอนนี้….
เหวินซูค่อยๆ หันหน้าไปมองดูชายหนุ่มแปลกหน้าซึ่งยืนอยู่ข้างเตียงขนาดใหญ่ ในเวลานี้มือของเขายังคงถือหลอดแก้วเก็บเลือดที่เต็มไปด้วยเลือดสด
สายตาของทั้งสองคนสบตากันอย่างประหลาดใจ สายตาของชายหนุ่มช่างดูเยือกเย็นและแหลมคม แต่เหวินซูจ้องตาอันเยือกเย็นกลับมาอย่างไม่คิดหวาดกลัว พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ซูรุ่ย “คุณคือ…คือ เซียวฉี่ใช่ไหมคะ”
หล่อนเคยเห็นภาพของเขา รู้ว่าเขาคือคนรักของลูกสาวตนในตอนนี้
น้ำเสียงของเหวินซูกับหล่อนเหมือนกัน โดยเฉพาะความอ่อนโยนและความสนิทชิดเชื้อ
เพียงถามอย่างแผ่วเบา ก็ทำให้สายตาของซูรุ่ยดูอ่อนโยนขี้นมา “ผมคือเซียวฉี่ครับ คุณป้า รู้สึกอย่างไรบ้างครับ”
“ดีขึ้นมากเลยค่ะ”
เหวินซูยิ้มให้กับซูรุ่ยอีกครั้ง สายตาก้มต่ำลงมองเลือดสดในหลอดเก็บเลือดหลอดนั้น “นี่คือ…เลือดของฉันหรอ”
“ครับ คุณถูกวางยา ยาพิษได้เข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ เนื่องจากยานี้เป็นยาที่ไม่ต้องฉีดอย่างต่อเนื่อง อาการจึงโคม่าทันที สารประกอบพิษเหล่านี้ความจริงแล้วเป็น…”
ซูรุ่ยยังพูดไม่ทันเสร็จ เหวินซูก็พูดแทรกอย่างเย็นชา “ฉันรู้แล้ว”
“คุณรู้ว่าเขาทำอย่างนั้นเหรอครับ”
ดวงตาของซูรุ่ยเปล่งประกายมองดูเหวินซูอย่างประหลาดใจ
ผู้หญิงคนนี้ แท้จริงแล้วไม่ใช่คนปกติ