แสงไฟสลัวที่ห้องใต้ดิน กลิ่นคาวเลือดกระจายอยู่ทุกที่
สติของเจี่ยงโยวค่อยๆ ฟื้นคืน เธอลืมตาในขณะที่ตัวยังสั่นอยู่ สิ่งที่แสดงให้เห็นอยู่ตรงหน้ากลับเป็นตาสีเลือดของเวินเหวินเฮ่า
“ครูเวิน เหวินเฮ่า คุณ……คุณทำอะไร”
เจี่ยงโยวต่อต้านจากจิตใต้สำนึก ณ เวลานี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองถูกมัดไว้กับเชือกบนเก้าอี้ เป็นเพราะเธอใช้แรงมากเกินไปในการต่อต้าน ทำให้เก้าอี้ล้มลงที่พื้นทั้งอัน และหัวของเธอก็ได้สัมผัสกับที่พื้นอย่างใกล้ชิด เลือดที่เหนียวๆ ติดข้างๆ หน้าของเจี่ยงโยวเต็มไปหมด ของเหลวสีแดงเย็นและเหนียว
นี่มัน……เลือด
“อ๊า! ”
เจี่ยงโยวตะโกนออกมาหนึ่งครั้ง ทั้งหน้าเปลียนเป็นสีขาวซีด
“ตื่นตระหนกอะไร”
เสียงของเวินเหวินเฮ่ามีความแหบและโทนต่ำ “นี่มันเลือดของฉันทั้งหมด”
ขณะที่เวินเหวินเฮ่ากำลังพูด เขาก็ได้นั่งลงพร้อมกับท่าทางที่แปลกประหลาด ใช้นิ้วบีบที่คางของเจี่ยงโยว บังคับเธอให้จ้องตากับตัวเอง
ตอนนี้เจี่ยงโยวเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ถึงแม้ว่าบนตัวของเวินเหวินเฮ่ายังคงสวมใส่เสื้อเชิตสีขาวที่สะอาดสะอ้าน แต่ท่อนล่างของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสดๆ ตั้งนานแล้ว
“คุณ……”
เจี่ยงโยวลืมตาโตอย่าดุร้าย ริมฝีปากที่ขาวซีดสั่นไม่หยุด
“เป็นเพราะคุณทั้งนั้นแหละ”
เสียงของเวินเหวินเฮ่าปรับดังขึ้นอย่างแปลกประหลาด “เจ้าวางแผนทำร้ายซูหว่านไม่ใช่หรือ ยาสลบที่ฉันใช้กับคุณเมื่อกี้ ก็คือยาที่คุณเตรียมไว้ให้กับซูหว่านนั่นแหละ แล้วก็……”
นิ้วมือของเวินเหวินเฮ่าออกแรงหนักเกินไปแบบไม่รู้ตัว บีบจนทำให้คางของเจี่ยงโยวเปลี่ยนรูป “แล้วก็อุปกรณ์เล็ก ๆ พวกนี้ในห้องใต้ดิน ฉันคิดว่าคุณก็น่าจะชอบนะ คุณต้องชอบแน่ๆ”
ได้ยินเสียงเวินเหวินเฮ่ายืนขึ้นกะทันหัน และหยิบแส้หนังที่วางอยู่บนพื้น แล้วฟาดไปที่หน้าของเจี่ยงโยวอย่างแรง
“อ๊า! ”
แรงฟาดมหาศาลบวกกับความเจ็บแสบ ที่เหมือนของแหลมคมมาทิ่มแทง ทำให้เจี่ยงโยวร้องเจ็บปวดจนเสียงหายไปทันที แล้วหน้าขาวชมพูของเธอตอนนี้ ก็โดนแส้หนังฟาดจนเป็นรอยเลือดสีแดงเป็นเส้น
“คนเลว! คนเลว! ทุกอย่างเป็นเพราะคุณ! พังไปหมดทุกอย่างแล้ว! ”
เวินเหวินเฮ่าฟาดเจี่ยงโยวไปด้วย พร้อมกับระบายความในใจที่ผิดหวังและกังวล……
ณ วิลล่าของตระกลูซู
ในขณะที่ซูหว่านและซูรุ่ยกลับถึงบ้านมันก็เที่ยงคืนแล้ว ในห้องที่มืดมิด ซูรุ่ยโอบกอดซูหว่านแบบเงียบๆ “ภรรยา เรารีบออกจากโลกใบนี้กันเถอะ”
ซูรุ่ยไม่ชอบโลกใบนี้ คนที่นี่ไม่สมองเสื่อมก็เป็นคนบ้า
และแค่ดูกินก็ไม่ได้ ไม่มีความสุขเลยสักนิด~
“โอ๊ย”
ซูหว่านขยับไปมาในอ้อมกอดของซูรุ่ย “ซูรุ่ย คุณจัดการเจี่ยงโยวแล้วหรือ”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมเจี่ยงโยวถึงออกไปแบบรีบร้อนแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของซูรุ่ย
“มีอยู่ประโยคหนึ่งที่กล่าวไว้ไม่ใช่หรือ ว่าผู้สร้างกรรมเองนั้นย่อมอยู่ต่อไปไม่รอด” คนที่เหมือนอย่างเขาและเวินเหวินเฮ่า ไม่ต้องรอคนอื่นมาจัดการหรอก ตัวเองก็สามารถทำให้ตัวเองตายได้แล้ว
ถูกต้อง แม่ทัพซูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
เขาก็แค่ตัดอวัยวะเพศของเวินเหวินเฮ่า แล้วหยุดจุดเลือดลมบนร่างกายของเขา ทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดในสองชั่วยามนี้เฉยๆ
สัตว์เดรัจฉานตัวนี้บังอาจมาดูถูกเสี่ยวหว่านของเขา น่าจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว~
เจี่ยงโยวคิดแต่ว่าจะแอบฟังโทรศัพท์ของซูหว่าน แต่เขากลับไม่รู้ตัวว่า โทรศัพท์ของเขาโดนซูรุ่ยแอบฟังมานานแล้ว
จะเทียบความโหดร้ายกับแม่ทัพซู นายท่านหญิงคุณยังอ่อนไปนะ~
ซูรุ่ยไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองด้วยซ้ำ เวินเหวินเฮ่าที่โดนเขากระตุ้นจนเป็นบ้า ต้องต้อนรับเจี่ยงโยวอย่างดีเยี่ยมแน่นอน
และถ้าผ่านสองชั่วยามนี้ไป……
ซูรุ่ยขยับมุมปากขึ้นมาแบบเยาะเย้ย ไม่ว่าจะเวินเหวินเฮ่าหรือเจี่ยงโยว คงหนีไม่รอดสักคน…
เจี่ยงโยวไม่ได้กลับมาทั้งคืน เช้าวันที่สองตำรวจในเมือง D มาถึงบ้านตระกลูซูแต่เช้า เพราะว่าเช้ารุ่งวันนี้พบเห็นศพของเวินเหวินเฮ่า ที่ตายอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านตัวเอง คนที่พบศพเป็นลูกจ้างทำความสะอาดแต่เช้า ที่จ้างมาทำเป็นรายชั่วโมง ตำรวจพบเจอเลือดของอีกคนในที่เกิดเหตุ ส่วนประกอบของผิวหนังและผม ขณะที่ในกล้องวงจรของวิลล่าก็พบเจอร่างของเจี่ยงโยว เพราะฉะนั้นการคาดการณ์ขั้นแรกของตำรวจ คือเจี่ยงโยวเป็นฆาตกรที่ฆ่าทำร้ายเวินเหวินเฮ่า
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เหวินซูสลบลงไปทันที จากการหายตัวไปของเจี่ยงโยว และการตายอย่างอนาถของเวินเหวินเฮ่า คลิปวิดีโอที่โด่งดังของทั้งคู่ ที่ความสัมพันธ์แบบคลุมเครือ ก็โดนทุกคนเอาออกมาวิจารณ์อีกครั้ง และยังมีกลุ่มคนที่สันทัดกรณีในข่าวสาร ก็บอกว่าตำรวจพบเห็นคลิปเสียงที่อัดไว้ในมือถือหลายคลิปที่บ้านของเวินเหวินเฮ่า ในนั้นเป็นคลิปเสียงระหว่างเธอกับเจี่ยงโยวที่วางแผนว่าจะ “ล่อทำร้าย” ซูหว่านอย่างไร จากข้อสันนิษฐานขั้นแรกคือ ที่เวินเหวินเฮ่าตั้งใจอัดเก็บไว้ วางแผนว่าจะเอาไว้ข่มขู่เจี่ยงโยวในอนาคต อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้ทั้งสองเคืองแค้นซึ่งกันและกัน?
เพราะรับไม่ได้กับเรื่องราวแย่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเหวินซูแย่ลงเรื่อยๆ เธอกลายเป็นคนที่บางเวลาก็สลบบางเวลาก็ตื่น ทุกครั้งที่ตื่นมาก็ร้องไห้พร้อมกับเรียกชื่อของลูกสาวตัวเอง ยิ่งเป็นเช่นนี้ ซูไห่เฉิงยิ่งรู้สึกปวดใจกับลูกสาวของตนที่ไม่เอาการเอางาน
หลายค่ำคืนที่นอนไม่หลับ ซูไห่เฉิงอดใจไม่ได้ที่จะคิดอยู่เสมอว่า ถ้าหากตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ไปรับเลี้ยงเจี่ยงโยวกลับมา ถ้าเป็นเช่นนั้นโชคชะตาของคนในบ้านจะเป็นยังไงนะ?
ถ้าเขากับเหวินซูและซูหว่าน มีสมาชิกครอบครัวสามคนเหมือนแต่ก่อน ต่างก็มีความสุขและสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิต
แต่เจี่ยงโยวที่ผลการเรียนดี และเรียนรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะไม่มีตระกูลซู ก็ยังคงเรียนจบได้อย่างปลอดภัย รวมไปถึงชีวิตในวัยทำงานด้วย
แต่ยังไงซะ ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
เพราะว่าเหวินซูอ่อนแอเกินไป หลังจากเปิดเทอม ซูหว่านก็ได้จัดเตรียมเอกสารสำหรับพักการเรียนเพื่อมาเฝ้าเขาที่ข้างเตียงบ่อยครั้ง “คุณรู้สึกผิดบ้างไหม”
ซูรุ่ยมองไปที่ผู้หญิงที่สลบไม่ตื่นบนเตียง แล้วมองไปที่ซูหว่านที่มีแววตาที่เหนื่อยล้า
“รู้สึกผิดเหรอ? ”
ซูหว่านหัวเราะ “ที่คนเลวถูกเรียกว่าคนเลว ก็เพราะว่าในใจพวกเขาไม่เคยที่จะรู้สึกผิด” คนที่ใจอ่อน เป็นผู้ดำเนินภารกิจไม่ได้
สถานการณ์ตอนนี้ของเหวินซูอาจจะเป็นเพราะเรื่องของเจี่ยงโยว และเรื่องของเจี่ยงโยวก็มีความเชื่อมโยงกับซูรุ่ยและซูหว่านแน่นอน แต่ว่า……
ซูหว่านไม่เคยรู้สึกถึงความละอายใจ เขาไม่เหมือนเจี่ยงโยวตรงที่ว่า เมื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะคิดว่าตัวเองโดนบังคับให้ทำ ส่วนตัวเองบริสุทธิ์ ที่ทำเพราะว่าไม่ทำไม่ได้ แล้วคนอื่นต้องให้อภัยตัวเอง!
สิ่งพวกนี้ เป็นเพียงความคิดของพวกอ่อนแอที่หลอกตัวเองและผู้อื่นเท่านั้นเอง
ได้เห็นแววตาของซูหว่านที่ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจ ซูรุ่ยโล่งอกไปเลย สองสามวันที่ผ่านมาเขาเห็นซูหว่านดูแลเหวินซูแบบลืมวันลืมคืน เขากลัวว่าเพราะโลกใบนี้อาจจะทำให้เธอมีปมในใจ แต่ยังดี ที่ใจของซูหว่านยังคงเหมือนแต่ก่อน เวลาที่ควรจะโหดไม่เคยจะใจอ่อนเลย
“แล้ว เราจะจากไปเมื่อไหร่ล่ะ? ”
ตั้งแต่ที่เริ่มออกหมายจับเจี่ยงโยวที่ฆ่าเวินเหวินเฮ่า ซูรุ่ยก็มีแจ้งเตือนมาว่าภารกิจไม่สำเร็จ แบบนี้ก็แสดงว่าภารกิจของซูหว่านสำเร็จแล้ว
ถ้าจากความคิดของซูรุ่ย เขาจะมอบหุ้นส่วนทั้งหมดของบริษัทให้กับตระกูลซู แล้วขอแต่งงานกับซูหว่าน แบบนี้ก็จะออกจากโลกนี้ได้โดยไม่เสียดายอะไรแล้ว
อันที่จริงแล้วอายุของซูหว่านในโลกใบนี้ ก็คงทำได้แค่นี้แหละ ส่วนแต่งงานน่ะเหรอ? ก็คงจะเป็นเรื่องของอีกหลายปีข้างหน้าแหละ
และการที่ได้อยู่ในโลกใบนี้ ได้พบเจอกับเจี่ยงโยวผู้หญิงบ้าคนนั้น แม่ทัพซูอยู่ที่นี่มามากพอแล้ว ไม่คิดที่จะอยู่ต่อไปเลยสักนาทีเดียว เข้าใจไหม?
แต่ว่า ซูหว่านดูเหมือนจะยังไม่อยากออกจากโลกใบนี้ทันที
เมื่อได้ยินคำถามของซูรุ่ย เขาลุกขึ้นมาแล้วจัดผ้าห่มให้เหวินซู แล้วหันหน้ามายิ้ม และมองมาที่ซูรุ่ย “พูดไปเมื่อกี้แล้วนี่? ฉันน่ะ เป็นคนที่ชั่วร้าย”
ในขณะที่พูด รอยยิ้มบนหน้าของซูหว่านเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอันลึกลับ “ซูรุ่ย คุณรู้ไหมว่าเจี่ยงโยวอยู่ที่ไหน? ”
เจี่ยงโยว?
ซูรุ่ยคิ้วขมวด ผู้หญิงคนนั้นหลบเก่งจังนะ จนตอนนี้ตำรวจก็ยังจับตัวเขาไม่ได้
“พรุ่งนี้ไปที่หนึ่งเป็นเพื่อนฉันหน่อย เราไปดูกันว่าเจี่ยงโยวทำอะไรอยู่”
ฟังซูหว่านพูดแบบนี้ ซูรุ่ยพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว พรุ่งนี้เหรอ? วันเวลานี้ หรือว่า…