ในตอนนี้เหยียนอวี่นั่วกลายเป็นคนดังอยู่ข้างกายของฮ่องเต้แล้ว แถมตงฟางเย่ายังค่อยๆ แอบรักนางกำนัลที่คอยดูแลอยู่ข้างกายของตัวเองคนนี้ด้วย แต่น่าเสียดายที่เขารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเหยียนอวี่นั่วนั้นชอบพออยู่กับเสิ่นเฉิงเป่ย เขาที่เป็นพระราชาของแผ่นดินก็ไม่อยากที่จะให้หญิงที่ตนเองรักอย่างสุดหัวใจต้องมาถูกกักขังอยู่ในสนามรบที่ไม่หลั่งเลือดในวังหลังแห่งนี้ ตงฟางเย่าอยากที่จะให้ทั้งสองคนได้สมหวัง แต่ใครจะไปคิดละว่าคนที่เบื้องดูเป็นคนรักใคร่พี่น้องของตัวเอง แต่ลับหลังกลับอิจฉาริษยาจนแทบจะบ้าอย่างเหยียนอวี่ชิงจะชิงลงมืออย่างกระทันหันในตอนนี้
เพื่อไม่ให้เหยียนอวี่นั่วสามารถแย่งฮ่องเต้ไปจากข้างกายของตัวเองได้ เหยียนอวี่ชิงจึงลงทุนสร้างฉากละครขึ้นมาเพื่อวางแผนจับคู่ให้กับเหยียนอวี่นั่วและลู่มู่สวิน
ลู่มู่สวินแอบรักเหยียนอวี่นั่วมานานแล้ว ทั้งสองคนมีโอกาสได้พบหน้ากันบ่อยๆ ภายในพระราชวังชั้นใน แต่ทุกครั้งก็เป็นแค่การคุยกันแบบเพื่อนเท่านั้น
หลังจากที่ถูกเหยียนอวี่ชิงวางแผนให้ร้าย ทั้งสองต่างก็ถูกลอบวางยาปลุกกำหนัดอย่างแรง แล้วยังถูกขังเอาไว้ในห้องภายในตำหนักด้วยกันอีก เพื่อความบริสุทธิ์ของคนที่ตัวเองรัก ลู่มู่เสินจึงตัดสินใจทำลายความเป็นชายของตัวเอง สุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่าฝ่าบาทจะทรงพาคนมาช่วยเอาไว้ได้ทันท่วงที แต่ว่าลู่มู่สวินในตอนนั้นก็ได้หมดสติเนื่องจากเสียเลือดมากไปแล้ว และเหยียนอวี่นั่วที่กำลังทรมานจากฤทธิ์ยาก็ถูกตงฟางเย่ารีบอุ้มไปรักษาตัวที่สำนักหมอหลวง
หลังเกิดเรื่อง ตงฟางเย่าก็รีบให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้ เหยียนอวี่นั่วเมื่อเห็นว่าแผนการของตัวเองล้มเหลวและกำลังจะถูกสาวมาถึงตัวเอง จึงไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รีบดึงปิ่นปักผมออกให้เส้นผมกระจายไปทั่วแผ่นหลัง แล้วรีบเร่งวิ่งไปขอร้องอ้อนวอนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของเหยียนอวี่นั่ว และเหยียนอวี่นั่วที่เป็นคนจิตใจดีอยู่แล้วนั้นก็เชื่อในคำพูดของเหยียนอวี่ชิง เธอได้พาร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงดีของตัวเอง ไปขอร้องให้กับน้องสาวของตัวเองต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ โทษของเหยียนอวี่ชิงถึงได้ถูกยกเลิกไป
หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไป ถึงแม้ว่าเหยียนอวี่ชิงจะไม่ถูกส่งตัวเข้าตำหนักเย็น แต่ก็ถูกลดขั้นจากตวนเฟยไปเป็นตวนผิน หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับความโปรดปรานจากตงฟางเย่าอีกเลย
ด้วยความที่เป็นลูกอนุมาตั้งแต่เด็ก เหยียนอวี่ชิงไม่เคยคิดที่จะก้มหัวให้กับโชคชะตาของตัวเอง จนมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ ไม่มีความโปรดปรานของฮ่องเต้ แต่เธอกลับได้รับความสนใจจากรุ่ยอ๋องตงฟางหลีอย่างไม่คาดคิด
ตงฟางหลีเป็นพระโอรสของพระอนุชาในฮ่องเต้องค์ก่อน และก็คือลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ภายนอกของเขาดูเป็นคุณชายเสเพล แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก ตงฟางหลีที่ในใจมีแต่ความคิดที่จะแย่งชิงบัลลังก์ เมื่อเห็นว่าเหยียนอวี่ชิงไม่ได้รับความโปรดปรานอีกแล้วจึงคิดที่จะเข้าหาเธอ ใช้ความรู้สึกเป็นเหยื่อล่อ ค่อยๆ บุกโจมตีเข้าไปในใจของเหยียนอวี่ชิง เมื่อรอถึงตอนที่เธอรักเขาหมดหัวใจแล้ว เขาก็จะบงการให้เธอลงมือตุกติกกับอาหารของฝ่าบาท
เหยียนอวี่ชิงในตอนนี้เนื่องจากไม่ได้รับความโปรดปราน ข้างกายจึงไม่มีคนคอยจับตามองเป็นธรรมดา นี่จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการลงมือของเธอ
ในวันหนึ่ง ตงฟางเย่าถูกวางยาพิษทำให้หมดสติไป หลักฐานทั้งหมดส่อไปที่เหยียนอวี่นั่วเป็นคนร้ายในการลอบวางยาพิษในครั้งนี้
เหยียนอวี่นั่วที่ถูกใส่ร้ายถูกจับกุมตัวไปกักขังอยู่ในคุกหลวงเพื่อรอการประหาร เหยียนอวี่ชิงในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะไปเยาะเย้ยและแสดงอำนาจต่อเธอในคุกหลวง และในเวลาเดียวกัน ตงฟางหลีฉวยโอกาสที่ตงฟางเย่ายังนอนไม่ได้สติอยู่ในการก่อกบฎ ในช่วงเวลาสำคัญ ลู่มู่สวินก็ใช้ร่ายกายของตัวเองในการทดลองยาพิษ และประสบความสำเร็จในการช่วยให้ตงฟางเย่าฟื้นขึ้นมา ในตอนนั้นเองเสิ่นเฉิงเป่ยก็ได้นำทหารฝีมือดีของกองทหารรักษาวังเข้ามาช่วยรักษาบัลลังค์เอาไว้ได้ การก่อกบฎของตงฟางหลีล้มเหลว ตัวเขาเองก็ถูกจับกุมตัวไปกักขังเอาไว้ในคุกหลวง
เหยียนอวี่นั่วที่รอดพ้นจากข้อกล่าวหาจึงได้ถูกปล่อยตัวออกมา หลังจากที่เธอถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก ตงฟางเย่าก็ได้พระราชทานรางวัลให้กับผู้ที่มีผลงาน จึงได้พระราชทานสมรสให้กับเสิ่นเฉิงเป่ยและเหยียนอวี่นั่วด้วยตัวเอง และในตอนนี้เอง เนื่องจากได้ยินคำสารภาพผิดของเหยียนอวี่ชิงที่อยู่ในคุกหลวงและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ดีมากนัก ก็ทำให้เหยียนอวี่นั่วเกิดความสงสารเห็นใจ แล้วจึงได้เข้าไปขอร้องให้กับเหยียนอวี่ชิงต่อหน้าตงฟางเย่าอีกครั้ง (ท่านแม่พระ ช่างเป็นคนดีจริ๊งจริง) เพื่อเห็นแก่เหยียนอวี่ชิง ตงฟางเย่าก็ได้พระราชทานความเมตตา ยกเว้นโทษตายให้กับเหยียนอวี่ชิงอีกครั้ง แค่เปลี่ยนโทษของเธอให้ออกบวชไปปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดตลอดชีวิต
ในวันที่เหยียนอวี่ชิงได้ออกจากคุกเดินทางออกจากเมืองหลวง เหยียนอวี่นั่วก็ได้ไปรอส่งเธออยู่ที่นอกเมือง เดิมคิดว่าจะเป็นการจากลาแบบเศร้าโศกของสองพี่น้อง แต่ใครจะไปคาดคิดว่า เหยียนอวี่ชิงที่เสียสติอย่างบ้าบอไปแล้วนั้น จะดึงกริชออกมาจากในแขนเสื้อของตัวเองแล้วแทงไปที่หน้าอกเหยียนอวี่นั่วอย่างกระทันหัน ในสถานณ์เร่งด่วนนั้น เสิ่นเฉิงเป่ยรีบเร่งพลิกร่างของเหยียนอวี่นั่วมาโอบกอดเอาไว้แน่น ช่วยรับมีดที่อาจจะคร่าชีวิตของเธอเอาไว้แทน
หลังจากเหตุการณ์นั้น เหยียนอวี่ชิงก็ได้ฆ่าตัวตาย และเสิ่นเฉิงเป่ยที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ถึงแม้ว่าจะมีลู่มู่สวินช่วยรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่หลังจากนี้ เขาจะไม่สามารถฝึกยุทธและนำทัพทหารได้อีก
บทละครก็จบลงที่ตรงนี้… เสิ่นเฉิงเป่ยลาออกจากราชการ พาเหยียนอวี่นั่วกลับไปบ้านเกิดของเธอที่จินโจว ทั้งสองคนก็เริ่มต้นใช้ชีวิตฝ่ายชายทำเกษตรและฝ่ายหญิงทอผ้าขายอย่างมีความสุข
นี่ก็คือตอนจบอย่างมีความสุข? มีความสุขน้องเขยเธอสิ
ยังไม่พูดถึงตอนที่แม่พระเหยียนได้เลื่อนตำแหน่งตอนอยู่ในวังหลวง ระหว่างนี้มีนางกำนัลและขันทีที่บริสุทธิ์นับไม่ถ้วนที่ถูกทำลายไป เรามาพูดถึงแค่เสิ่นเฉิงเป่ยและลู่มู่สวินผู้ชายสองคนนี้ อีกคนทำเพื่อเธอได้แม้กระทั้งทำลายตัวเองและใช้ร่างกายของตัวเองทดลองยาพิษ หมอหลวงหนุ่มแน่นอนาคตไกลสุดท้ายแล้วเป็นได้แค่คนป่วยที่ไม่สามารถหยุดใช้ยาได้ และผู้ชายอีกคนหนึ่งเดิมทีควรจะได้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ที่นำทัพทหารพันนายเพื่อปกป้องประเทศ สุดท้ายแล้วเป็นเพราะว่าเธอจึงได้กลายเป็นผู้พิการระดับสามที่ไม่สามารถยกแขนขึ้นมาได้อีก
คุณนางเอกผู้ที่มีจิตใจกว้างขวางดั่งมหาสมุทร คุณเป็นคนดีงาม คุณช่วยเหลือผู้คนมากมาย คุณไม่เอาเปรียบผู้อื่น คุณแค่ทำลายแต่ผู้ชายของคุณเอง!
หลังจากที่ซูหว่านแอบจุดเทียนไว้อาลัยให้กับพระเอกและพระรองในใจไปแล้วนั้น ในใจก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ ในโลกนี้ถ้าจะพูดถึงพระรองที่รักมั่นอย่างลึกซึ้งก็ต้องยกให้กับลู่มู่สวินและตงฟางเย่าแล้วละ
ถ้าหากว่าซูรุ่ยเข้ามาทำภารกิจในโลกนี้ เขาจะอยู่ในฐานะไหนกันนะ?
ถ้าหากว่าเป็นลู่มู่สวินก็แล้วไป แต่ถ้าหากว่าเป็นตงฟางเย่าที่มีนางสนมสามพันนางแล้วละก็…หึหึหึ
แม่ทัพซู นายรู้สึกได้ถึงความมุ่งร้ายจากใจของที่รักของนายแล้วหรือยัง?