ค่ำคืนนี้ แสงจันทร์กระจ่างสดใส
ซูหว่านนั่งในห้องที่เล็กและชำรุดจนมีลมเข้าทั้ง4ทิศ ที่ไป๋หมัวหมัวเตรียมไว้ให้เธอ เธอนับดาวผ่านหน้าต่างที่พังยับเยินอย่างน่าเบื่อ
เพิ่งจะนับถึงดวงที่101 ประตูไม้ที่ชำรุดนั้นก็ถูกลมพัดจนเปิดออก จากนั้นเงาร่างที่เรียวยาวก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าซูหว่านราวกับวิญญาณ
เธอมองไปที่ซูรุ่ยที่สวมใส่ชุดลำลองและปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซูหว่านยืนขึ้นแล้วส่งยิ้มให้เขา มาแล้วหรือ?
อืม
ขณะที่ซูรุ่ยมองไปที่ซูหว่าน สายตาของเขาก็มองดูทุกอย่างรอบห้องเช่นกัน ที่แบบนี้ ให้คนอยู่ได้อย่างไร?
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ความเย็นชาแวบผ่านดวงตาของเขา
นี่เป็นเพียงการสร้างภาพ แค่แสร้งให้เหยียนอวี่รั่วดูก็เท่านั้นเอง ใครบอกว่าฉันจะอาศัยอยู่ที่นี่?
ซูหว่านเลิกคิ้วให้ซูรุ่ย หรือว่าคุณไม่อยากให้ฉันนอนกับคุณ? หรือว่า… คุณคิดจะเรียกนางสนมคนไหนมาปรนนิบัติที่ตำหนักเฉียงคุนหรือ?
ไม่มีเรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าผมต้องนอนกับที่รักสิครับ อืม ตอนนี้ดึกมากแล้ว ผม…
คุณยังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่หรือ?
ซูหว่านขัดจังหวะการพูดของซูรุ่ยไป เมื่อเช้าตอนที่วังอี้จากไป ซูหว่านกําชับให้เขาบอกกับฝ่าบาทว่า คืนนี้ก่อนที่จะมาไม่ต้องทานอาหารเย็นมา
และซูรุ่ยก็ทําตามที่ซูหว่านพูด พอได้ยินคําพูดของซูหว่าน เขาก็ลูบท้องตัวเองโดยไม่รู้ตัว ผมไม่ได้กินข้าว เสียวหว่านหาอะไรกินเป็นเพื่อนผมไหม?
ตอนนี้ยังมีเวลาเยอะ คุณต้องช่วยฉันทําเรื่องบางอย่าง
ซูหว่านหยิบชุดเครื่องแบบเก่า ๆ ขึ้นมาจากเตียงไม้แคบ ๆ ของตัวเอง คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จากนั้นก็ช่วยฉันทํางานบางอย่าง หากทําได้ดี เย็นนี้ฉันจะลงมือทําอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกินเอง
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบริการที่ดีแบบนี้ด้วย?
เมื่อได้ยินคําพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันที จากนั้นก็มองไปที่ภรรยาของตนด้วยสีหน้าอ่อนโยน เสียวหว่าน คุณอยากให้ผมช่วยทำอะไร? กวาดลานหน้าบ้านหรือว่าตัดฟืน?
อืม ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ล้างห้องน้ำแถว ๆ พระราชวังนี้ให้หน่อย
ซูหว่านกะพริบตาที่ดําเงาแจ่มใส แล้วมองไปที่ซูรุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง น้ำเสียงของเธอยังคงสงบนิ่งเช่นเคย
ล้าง…..ล้างห้องน้ำ?
ที่รักครับ คุณล้อเล่นใช่ไหม?
มองตาฉันสิ ฉันจริงจังนะ
ซูหว่านจ้องไปที่ซูรุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เราเล่นละครต้องเล่นให้ครบชุด ตอนนี้ทุกคนในหอแรงงานต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าฉันได้ล่วงเกินไป๋หมัวหมัว เป็นเรื่องปกติที่เหล่างานสกปรกและเหนื่อยที่สุดต้องให้ฉันเป็นคนทํา
ถึงแม้จะฟังดูมีเหตุผล แต่ซูรุ่ยกลับรู้สึกว่าสายตาที่ภรรยามองมาที่ตนนั้นมันแปลก ๆ หรือว่าจะมีเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง?
เอ่อ ก็แค่ ก็แค่ล้างห้องน้ำเองไม่ใช่เหรอ? ดีกว่าเทสิ่งขับถ่ายเยอะเลยจริงไหม?
ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถทำให้แม่ทัพซูของเรายอมแพ้ได้!
เพื่อภรรยาของตน เพื่ออาหารแสนอร่อยที่ภรรยาทําเองกับมือ แม่ทัพซูเองสู้อย่างสุดกําลัง
เมื่อเห็นว่าซูรุ่ยถือเครื่องมือที่อยู่ในสวยหน้าบ้านออกไปจริง ๆ ซูหว่านไม่ได้ตามมา เธอรู้ว่าซูรุ่ยทําอะไรก็ว่าอย่างนั้น เขาไม่โกหกและรังเกียจที่จะโกหกใคร
ไม่นาน ซูรุ่ยก็กลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา พอเข้ามาในห้องก็พากลิ่นเหม็นเคืองกลับมาด้วย มองดูเขาที่ทำหน้ารังเกียจ ซูหว่านเอามือปิดปากแล้วยิ้มออกมา อย่าทําหน้าบึ้งเลย ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณเอง พวกเรากลับไปที่ตำหนักเฉียงคุนไหม?
อืม
ซูรุ่ยตอบกลับไปอย่างเอื่อย ๆ กลับไปแล้วเขาจะต้องอาบน้ำให้สะอาด…
ดวงจันทร์ขึ้นบนฟ้า ด้านในตำหนักเฉียงคุนมีไอน้ำสลัว ๆ หลังจากที่ซูรุ่ยพาซูหว่านกลับมา เขาก็สั่งให้บริวารถอยไป ทั้งตำหนักนี้ นอกจากวังอี้แล้วคนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าในตำหนักนี้มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ซูรุ่ยแช่ตัวอยู่ในน้ำอุ่น แล้วสูดดมกลิ่นของเครื่องเทศของน้ำอาบ ในที่สุดซูรุ่ยก็หายใจออกมาอย่างสบาย
อาบเสร็จหรือยัง?
ทันใดนั้นเสียงของซูหว่านก็ดังขึ้น ซูรุ่ยเงยหน้าขึ้นก็เห็นซูหว่านที่สวมเพียงชุดสีขาว แล้วปล่อยผมยาวถือน้ำซุปชามหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เจ้าของร่างนี้ซูหว่านอายุยังไม่ถึง15ปี ถึงแม้เมื่ออยู่ในราชวงศ์ต้าซางอายุเธอพร้อมที่จะแต่งงานแล้ว แต่ใบหน้าของเธอยังคงอ่อนเยาว์เล็กน้อย สรีระร่างกายยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ ภายใต้เสื้อผ้าชุดสีขาวราวหิมะนั้น รูปร่างที่ดูประณีตของหญิงสาวทําให้แม่ทัพซูอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนีไป บ้าเอ๊ย มองต่อไปไม่ได้แล้ว ดูนานเกินไปอาจจะก่ออาชญากรรมได้ง่าย
หิวแล้วใช่ไหม?
ขณะนี้ซูหว่านมานั่งข้าง ๆ อ่างอาบน้ำแล้ว เท้าที่ขาวผ่องของเธอทำให้เกิดเคลื่อนน้ำขึ้นบนผิวน้ำ มานี่สิ ฉันป้อนน้ำซุปให้คุณกิน ฉันทําเองกับมือเลยนะ!
อ้อ
ซูรุ่ยว่ายไปข้าง ๆ ซูหว่านด้วยร่างกายเปลือยเปล่า เมื่อเห็นเขาเงยหน้าขึ้นมองดูตัวเองด้วยดวงตาเป็นประกาย ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่อารมณ์ดี และหยิบช้อนขึ้นมาตักน้ำซุปแล้วยื่นให้ซูรุ่ยเบา ๆ
พอเห็นซูรุ่ยดื่มน้ำซุปหมดแล้ว ซูหว่านก็ยิ้มให้เขา อร่อยไหม?
อร่อยมาก
ซูรุ่ยพยักหน้า น้ำซุปที่ภรรยาของเขาทำเป็นน้ำซุปที่อร่อยที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
อร่อยมาก คุณก็ต้องกินให้หมด
พูดไปซูหว่านก็ตักน้ำซุปให้ซูรุ่ยอีกหนึ่งช้อน มองจากม่านไข่มุกที่สั่นไหวไปยังห้องอาบน้ำที่ปกคลุมไปด้วยหมอกไอน้ำ ภาพที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันกลับอบอุ่นเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่าอีก15นาทีต่อมา…
ที่รักครับ
เสียงของซูรุ่ยแหบพร่าเล็กน้อย สายตาที่มองซูหว่านก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มเล็กน้อย คุณใช้อะไรต้มน้ำซุปกันแน่?
ฮื้ม คุณชิมไม่ออกเหรอ?
ซูหว่านก้มตาลงเล็กน้อย มองไปที่ซูรุ่ยที่อยู่ในน้ำ ใช้ยาบํารุงที่เจอได้ทั่วไป อืม พวกโสม แส้กวางอะไรประมาณนั้น เมื่อก่อนตอนอยู่จวนจิ้นชินอ๋อง คุณชอบมากไม่ใช่หรือ?
ชอบ ซูหว่านกัดคำสองคำนี้หนักมาก พอได้ยินคําพูดของซูหว่านแล้ว สีหน้าของซูรุ่ยก็เปลี่ยนไป
ไหนภรรยาที่อ่อนโยนแม่ศรีเรือน แล้วเข้าใจเราดีที่คุยกันไว้?
ซูเสี่ยวหว่าน เธอตั้งใจ เธอจงใจอย่างแน่นอน!
ที่รัก…
ซูรุ่ยปีนขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำเขาไม่ทันได้ไปสวมเสื้อคลุมยาว ก็ไปกอดร่างกายที่เย็น ๆ ของซูหว่านไว้ทันที ผมรู้สึกไม่สบายตัว
ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกไม่สบายตัว
ซูหว่านพลิกตัวแล้วดิ้นหลุดจากอ้อมกอดของซูรุ่ยมา จากนั้นก็เงยหน้ามองไปที่วังอี้ที่คิดว่าตัวเองเป็นแผ่นประกอบฉากหลังอยู่ตลอดที่อยู่ไม่ไกลนัก ขันทีวัง ไปเอาป้ายชื่อของพระสนมวังหลังมา!
วังอี้ ……
ความรู้สึกที่อยู่ดี ๆ ก็โดนเล่นงานไปด้วยนี่มันเป็นยังไงกัน?
วังอี้ ไสหัวออกไปซะ!
ยังไม่รอให้วังอี้เคลื่อนไหวใด ๆ ซูรุ่ยก็หยิบเสื้อคลุมยาวบนพื้นขึ้นมา แล้วดึงซูหว่านเดินไปที่เตียงมังกร พลางตะโกนด้วยเสียงต่ำ
ขอรับ
วังอี้ปาดเหงื่อบนหน้าผากออกแล้วรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนถึงเตียงมังกร ซูรุ่ยโยนซูหว่านลงบนขอบเตียง พูดมาเลย ยังมีกลอะไรต่ออีกไหม?
ไม่มีแล้ว
ซูหว่านแบมือออกอย่างไร้เดียงสา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสามีของตัวเอง เธอไม่สามารถลงมืออย่างโหดเหี้ยมได้
วันนี้ทรมานเขาขนาดนี้…… ก็เพราะ….ความหึงหวงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหัวใจของเธอนั่นแหละ
ผู้ชายของเธอ เธอไม่อนุญาตให้ใครมาแตะต้อง
ไม่มีกลอะไรต่อแล้วเหรอ?
พอได้ยินคําตอบของซูหว่าน และเห็นเธอนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา ซูรุ่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อย่างอดไม่ไหว ในเมื่อคุณไม่ได้เตรียมจะทำอะไรต่อ ฉะนั้นก็…ไปนอนซะ
พูดไปเขาก็ยกมุมผ้าห่มขึ้น ใช้ผ้าห่มห่อตัวซูหว่านไว้อย่างชํานาญ แล้วผลักเธอไปอยู่ด้านในสุดของเตียง
ผมจะฝึกวิชาสักครู่นะ คุณนอนก่อนเถอะ
พอเห็นซูรุ่ยนั่งขัดสมาธิเตรียมจะปรับลมหายใจของตัวเอง ซูหว่านก็กลิ้งไปกลิ้งมาในผ้าห่มราวกับดักแด้น้อย ๆ แล้วกลิ้งไปด้านหน้าซูรุ่ย ซูรุ่ย คุณ คุณนอนกับฉันไหม?
เมื่อได้ยินคําเชิญที่น่าเอ็นดูของภรรยาของตนแล้ว ซูรุ่ยก็หายใจเข้าลึก ๆ ยกมือขึ้นแล้วม้วนซูหว่านเข้าไปข้างในสุดของเตียงอีกรอบ ซูเสี่ยวหว่าน! ไปนอนซะ!
อ๋อ ถ้าอย่างนั้นคุณก็เข้านอนเร็วหน่อยนะ อย่าเหนื่อยเกินไป
ซูหว่านเห็นซูรุ่ยเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ จึงได้แต่นอนอยู่มุมหนึ่งของเตียงแล้วหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง เมื่อคืนร่างกายนี้ได้รับกรรมมาทั้งคืน ในที่สุดวันนี้ก็จะได้นอนหลับสบายเสียที ไม่นานซูหว่านก็หลับเข้าสู่ความฝัน
เมื่อเห็นว่าซูหว่านหลับไปแล้ว ซูรุ่ยจึงหลับตาลงอย่างสบายใจเพื่อปรับสภาพลมหายใจภายใน ไม่นานร่างของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
ซูเสี่ยวหว่าน เธอใส่ส่วนลงผสมลงไปในซุปไปเท่าไหร่กันแน่!
แม่ทัพซูเริ่มรู้สึกเสียใจที่เมื่อสักครู่เขาปฏิเสธซูหว่านอย่างเด็ดเดี่ยวเกินไป แต่พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็เห็นใบหน้าที่นอนหลับอย่างสงบนิ่งและสบายใจอยู่บนเตียง แววตาของซูรุ่ยก็อ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว
ช่างมันเถอะ แค่ปรับลมหายใจคืนเดียวเท่านั้นเอง? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอแค่เธอต่อไปนี้อย่าเอะอะก็เอาเรื่องเปิดป้ายชื่อมาพูดหาเรื่องก็ดีแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูรุ่ยก็หลับตาลงอีกครั้งเพื่อบ่มเพาะพลัง
กลางดึก แสงเทียนในตําหนักเดี๋ยวก็สว่างไสวเดี๋ยวก็มืดสลัว ขณะที่ซูรุ่ยจดจ่อกับการฝึกฝนวิชา ซูหว่านที่นอนอยู่บนเตียงก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ดวงตาใสกระจ่างคู่หนึ่งจ้องมองไปที่แผ่นหลังของซูรุ่ยโดยไม่กะพริบตา มองไปมองมาซูหว่านก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วเธอก็หลับตาลงและหลับไปอย่างสงบนิ่งอีกครั้ง
มันเป็นสิ่งที่ดีที่มีคุณในโลกใบนี้
ก่อนที่เธอจะเจอซูรุ่ย เธอรู้สึกมาตลอดว่าเธอตัวคนเดียวจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นอะไร
แต่หลังจากพบซูรุ่ยแล้ว ซูหว่านก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเขา
เธอไม่กล้าจินตนาการว่าโลกที่ไม่มีซูรุ่ยมันจะเป็นยังไง
เช่นเดียวกับซูหว่านเป็นเกล็ดผกผันของแม่ทัพซู ซูรุ่ยก็เป็นเขตหวงห้ามที่ซูเสี่ยวหว่านไม่อาจแตะต้องได้
ผู้ชายของเธอมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถยุ่งกับเขาได้ คนอื่น ๆ อย่าแม้แต่จะคิด