บทที่ 62 ไปกับพวกเรา
“คนแซ่เฉิน ไปกับพวกเรา ประธานของพวกเราต้องการเจอแก!”
พวกชายร่างใหญ่พวกนั้นไม่ได้ลงไม้ลงมืออะไรแต่ก็ใช้สายตาจ้องเฉินห้าวเขม็ง
“ประธานของพวกแกเป็นเพื่อนของเจิ้งตงงั้นหรอ?” เฉินห้าวถาม
เขารู้สึกแปลกใจ อีกฝ่ายรู้จักชื่อของเขา น่าจะเป็นบุคคลที่เคยรู้จักหรือติดต่อด้วย แต่มาเชิญด้วยท่าทางกิริยาแบบนี้ ต้องเป็นศัตรูแน่นอน เพราะงั้นโอกาสที่จะเป็นพวกเดียวกับเจิ้งตงมีเยอะมาก
“ไปแล้วเดี๋ยวแกก็รู้เอง อย่าพูดมาก ไม่งั้นมันจะไม่เป็นผลดีกับแก!” หนึ่งในพวกชายร่างใหญ่พูดขู่
“โอเค พวกแกนำทางไปสิ” เฉินห้าวพูดอย่างใจเย็น
ถ้าเทียบกับกำลังของเขาในตอนนี้ สามารถล้มพวกนักเลงพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาอยากรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใครและต้องการจะทำอะไร
ระหว่างทางที่มีรถสามคันคอยคุมตัวเขาไปนั้น ก็ได้พาเฉินห้าวไปถึงสถานบันเทิงแห่งหนึ่งชื่อคลับเค่ยซ่า
เฉินห้าวลงรถปุ๊บพวกชายสักร่างใหญ่ก็มาล้อมรอบตัวเขาไว้ เหมือนกับว่ากลัวเขาจะหนีซะอย่างนั้น
เฉินห้าวจัดปกคอของเขาเสร็จก็เดินเข้าไปอย่างสงบ มีคนกว่า10คนเดินขึ้นชั้นบนมาจนถึงห้องห้องหนึ่ง ในห้องมีชายแก่อายุประมาณ 50 กว่าใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง แต่ไม่มีท่าทางถ่อมตนเหมือนคนแก่คนอื่นๆ กลับกันใบหน้าของเขามีแต่ความโหดเหี้ยมลักษณะเหมือนกับพวกชายร่างใหญ่พวกนั้นเลย
ชายแก่เห็นว่าเฉินห้าวมาแล้วเขาก็จุดบุหรี่ขึ้นม้วนหนึ่ง นั่งมองเฉินห้าวอยู่บนโซฟาโดยที่ไม่พูดอะไร และด้านหลังเขาก็มีพวกชายร่างใหญ่ยืนอยู่ 4 คน แต่ละคนดูโหดเหี้ยมมากและคอยให้ความกดดันอยู่ตลอด
แต่ยังไงซะเฉินห้าวกลับทำเหมือนกลับบ้านตัวเอง นั่งพิงลงบนโซฟาอย่างสบายๆ และยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น โดยที่ไม่วางคนพวกนี้ไว้ในสายตาเลย
ความคิดของเฉินห้าวนั้นง่ายมาก โดยใช้วิธีการดูหมิ่นมาทำให้บรรยากาศมันเคร่งขรึมมากขึ้น
ขอร้องเถอะ นี่ไม่ใช่ 20 ปีก่อนแล้วนะ ทุกวันนี้ใครที่กล้าทำตัวนักเลงมันก็หนีไปพ้นคุกหรอก
ชายแก่ขมวดคิ้ว ปฏิกิริยาตอบรับไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เฉินห้าวไม่ได้ตกใจกลัวจนตัวสั่น
“กำจัดทิ้งซะ! ”
ทางด้านเฉินห้าวยังเริ่มเล่นเกมอีกด้วย เขาเปิดเสียงลำโพงดังมากและเมื่อกระทบกำแพงก็ดังก้องไปทั่วห้อง
“เธอชื่อเฉินห้าวใช่มั้ย? เก็บโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ ฉันเชิญเธอมาไม่ใช่เพื่อให้เธอมานั่งเล่นโทรศัพท์” ชายแก่พูดอย่างนิ่งๆ
“งั้นแกก็ดับบุหรี่ซะ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อสูบควันบุหรี่”เฉินห้าวเล่นเกมไปด้วยพูดไปด้วย เขายังใช้จังหวะนี้เพื่อผ่านด่านในเกม เสียงยินดีในเกมดังก้องออกมา
รอบนี้ไม่ใช่แค่เพียงชายแก่ที่โมโห หนึ่งในลูกน้องของเขาก็ด่าเขาด้วย“ประธานของพวกเราคุยกับแกไม่ได้ยินรึไง!”
เขาง้างมือขึ้นจะตบเฉินห้าว เฉินห้าวหันมองไปที่แล้วก็ขยับตัวไปจับข้อมือของเขาไว้
ตั้งแต่ที่เขาใช้ยาเสริมความแข็งแรงของร่างกาย เขาไม่เพียงแต่กำลังเพิ่มมากขึ้น แต่ไหวพริบยังเพิ่มอีกตามอีกด้วย
ลูกน้องคนนั้นรู้สึกเหมือนกับว่าโดนเหล็กดัดไว้ ทำยังไงก็ดิ้นไม่หลุด ความแข็งแกร่งของสองคนนี้ต่างกันมากเกินไป
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะโว้ย! ”
ลูกน้องคนนี้ใช้เพียงแค่กำลังของเด็กอมมือในการดิ้น และยังยกเท่าขึ้นเพื่อใช้น้ำหนักของตัวเองทั้งหมดในการพยายาม
เฉินห้าวยิ้มมุมปาก จู่ๆ ก็ปล่อยมือ ทำไมลูกน้องคนนั้นล้มนอนลงกับพื้น แขนขาชี้ไปคนละทิศ
“แม่งเอ้ย กล้าทำน้องฉันหรอ! ”
ลูกน้องอีกสามคนกำลังจะรุมเข้าใส่เฉินห้าว ดูแล้วคงจะมีการปะทะกันแน่นอน
เฉินห้าวมองดูด้วยสายตาเย็นชา ถ้าพวกมันมาถึงก็เล่นไม้แข็งใส่ งั้นเขาก็คงต้องสั่งสอนสักหน่อยว่าที่ดอกไม้มันแดงแบบนี้ก็เพราะเลือดของพวกมันย้อมมาไงละ
“เดี๋ยวก่อน! ”
ในตอนนี้เองหัวหน้าพวกมันก็ได้ห้ามพวกมันไว้ พวกชายร่างใหญ่พวกนั้นถึงได้ยอมถอยกลับไป
ชายแก่เก็บความไม่พอใจเอาไว้แล้วพูดขึ้นว่า“เฉินห้าว วัยรุ่นมีอารมณ์บ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ต้องรู้จักควบคุมให้ได้ ถ้าไม่อยากนั้นไปมีปัญหากับคนที่ไม่ควร จะมีปัญหาใส่ตัวเอาได้นะ”
“ไม่ต้องพูดเหตุผลอะไรมากมาย แกเรียกฉันมาแล้วยังไม่แนะนำตัวเองสักหน่อย นี่คือการต้อนรับแขกของแกงั้นหรอ” เฉินห้าวถาม“หึ ฉันไม่ได้เชิญแกมาเป็นแขก” ชายแกทนไม่ไหวแล้วเลยพูดถึงเป้าหมายที่พาเฉินห้าวมา“ฉันคือเจิ้งเจี้ยนกั๋ว เป็นพ่อของเจิ้งตง แกคงรู้แล้วสินะว่าฉันเรียกแกมาเพื่ออะไร”
ทันใดนั้นเฉินห้าวก็เข้าใจ ที่แท้ก็พ่อของเจิ้งตงนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่เลี้ยงลูกออกมาได้แบบนั้น เพราะตัวเจิ้งเจี้ยนกั๋วเองก็เป็นคนหยิ่งผยองขนาดนี้
เฉินห้าวหัวเราะ“งั้นฉันรู้แล้วว่าแกมาเพื่อขอโทษฉันนี่เอง งั้นฉันก็จะจำใจยอมรับไว้ละกัน”
“บังอาจ! ”
เจิ้งเจี้ยนกั๋วโมโห“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ฉันขอสั่งให้แกไปถอนแจ้งความที่สถานีตำรวจซะ ถ้าลูกชายฉันโดนขังคุก แกอย่าหวังว่าแกจะอยู่เป็นสุขเลย!”
ที่แท้ก็มาเพราะเหตุนี้ เฉินห้าวเป็นคนที่กินไม้อ่อนไม่เอาไม้แข็ง ถ้าหากมาคุยกันดีๆ มาขอโทษแล้วคนแก่อย่างเจิ้งเจี้ยนกั๋วบีบน้ำตาสักนิด ใช้พูดคำพูดพ่อที่แสนดี ไม่แน่เฉินห้าวอาจจะเห็นใจก็ได้ แต่พวกเขากลับมาไม้แข็ง งั้นเฉินห้าวก็จะเล่นให้หนักกว่า!
ท่าทางสบายๆ ของเฉินห้าวในตอนแรกเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นในทันทีแล้วถามกลับ“แล้วถ้าฉันไม่ทำละ”
“ถ้าไม่ทำตามที่บอกละก็ ลูกฉันต้องอยู่คุกกี่ปี ชีวิตที่เหลือของแกก็ต้องอยู่ในโรงพยาบาลกี่ปี!”
เจิ้งเจี้ยนกั๋วพูดเสร็จ ลูกน้องของเขาก็ล้วงกริชออกมาเสียบเข้าไปกลางโต๊ะ ด้ามกริชยังคงสั่นไหว
“ให้เวลาแกคิดทบทวน 5 นาที” เจิ้งเจี้ยนกั๋วพูดขู่
“ไม่จำเป็นต้องให้เวลา” เฉินห้าวค่อยๆ พูดทีละคำ“ฉันสามารถให้คำตอบแกได้เลยว่า ไม่มีทาง!”
“แม่งเอ้ย ไว้หน้าแล้วไม่เอา ประธานครับ ให้ผมสั่งสอนมันเอง ให้มันรู้ซะบ้างว่าไหนสูงไหนต่ำ!” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขึ้น ขอเริ่มสู้ก่อน