ไม่นาน เฉินห้าวและโจวซีถงเองก็ทานข้าวเสร็จ ทั้งสองเตรียมจะออกไป โจวซีถงยังจงใจไปบอกลาเซี่ยจิ้งที่หลังครัว ขอบคุณสำหรับฝีมือการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมของเธอ
เซี่ยจิ้งในตอนนี้ เปลี่ยนจากหญิงสาวที่ต้มเป็นแค่มาม่า กลายมาเป็นเชฟสาวสวยที่มีแต่คนชื่นชมแล้ว สามารถทำอาหารแสนอร่อยเต็มโต๊ะได้อย่างง่ายดาย
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าหากประธานโจวชอบต่อไปก็มาบ่อยๆนะคะ แล้วยังฟรีด้วยนะคะ เจ้านายของพวกเราจ่ายเต็มจำนวน ใช่มั้ยคะเจ้านาย?” เซี่ยจิ้งถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน” ความสัมพันธ์ของเฉินห้าวและโจวซีถง อย่าว่าแต่มาทานข้าวเลย แม้แต่ให้ไปนอนด้วย เขาก็ไม่เก็บเงินสักแดงเดียว
จากนั้นทั้งสองก็ออกจากร้านอาหาร ระหว่างทางที่ไปอาคารบริษัทโจวซื่อ โจวซีถงพูดขึ้นว่า “ฉันเอาแต่รู้สึกว่าเชฟเซี่ยรู้สึกไม่เป็นมิตรกับฉัน ฉันคิดมากไปเองงั้นหรอ?”
“เธอคิดมากไปแล้ว เซี่ยจิ้งเป็นพนักงานที่ดี กระตือรือร้นต่อการต้อนรับผู้คนมาก”
เฉินห้าวรู้เรื่องนี้แน่อยู่แล้ว แต่ก็ยังพูดอ้อมไป
เฉินห้าวส่งเธอไปที่อาคารบริษัทโจวซื่อ เขาเองก็ขึ้นตึกไปด้วย แต่ว่าไม่ได้เกาะอยู่ที่ห้องทำงานของโจวซีถง แต่กลับไปหาผู้ให้คำปรึกษาหวง
ตอนนี้ผู้ให้คำปรึกษาหวงเองก็ได้กลายเป็นแฟนคลับของเฉินห้าวแล้ว สามารถแก้ไขสถานการณ์วิกฤตครั้งใหญ่ของบริษัทได้อย่างง่ายดาย ความสามารถและทักษะนี้ ทำเอาสุดยอดนักธุรกิจวัยกลางคนคนนี้แสดงความนับถือ
“สวัสดีครับประธานเฉิน มีอะไรจะรับสั่งครับ” ผู้ให้คำปรึกษาหวงยิ้มทักทาย
“ตอนนี้ประธานโจวกลับมาแล้ว นายจะต้องฟังคำสั่งของเธอ” เฉินห้าวพูด
“แต่คุณก็แอบอู้ไม่ได้นะครับ การร่วมมือของคุณกับประธานโจว นั่นถึงจะที่สุด” ผู้ให้คำปรึกษาหวงพูดยิ้มๆ
เฉินห้าวยิ้ม จากนั้นก็เรียกผู้ให้คำปรึกษาหวงไปคุยส่วนตัวที่มุมเงียบๆ
เฉินห้าวบอกเขาว่า วันนี้เริ่มการจัดการบริษัทนกหัวขวานของก่วนอวิ๋นชาง จะทำให้ราคาหุ้นของพวกเขามีการผันผวนที่รุนแรง ถึงตอนนั้นให้เขาคว้าโอกาสให้ดี ดีที่สุดก็ให้ย้ำไปที่ “แผล” ของอีกฝ่าย ทำให้ก่วนอวิ๋นชางยิ่งเจ็บยิ่งดี
“ครับผม ร่วมงานกับประธานเฉินนี่มีความสุขจริงๆ ทุกๆครั้งล้วนเป็นงานใหญ่ทั้งนั้น!”
ผู้ให้คำปรึกษาหวงกระตือรือร้น เพิ่งจะถูกเป็นฝ่ายกระทำ ตอนนี้ได้กลายเป็นฝ่ายโจมตี เป็นเวลาที่ดีในการแก้แค้น
เฉินห้าวตบบ่าของเขา แล้วจากไป เขาจะไปตรวจสอบผลของการใช้บัตรตรวจสอบภาษีที่ใช้เมื่อตอนเช้า
เมื่อเปิดดูข่าวหน้าหนึ่ง ก็พบว่าทางข่าวด้านการเงินมีแต่ข่าวการเลี่ยงภาษีของบริษัทนกหัวขวาน ได้กลายเป็นข่าวดังแล้ว ในข่าวรายงานต่างๆ เฉินห้าวยังพบเห็นรายงานข่าวของจูหมิ่น จึงได้กดเข้าไปดู
“มีรายงานว่า จู่ๆวันนี้บริษัทนกหัวขวานก็ได้มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษี จากผู้ที่รู้เรื่องเปิดเผยมา จำนวนเงินมหาศาล ประธานบริษัทก่วนอวิ๋นชาง กลับหลีกเลี่ยงไม่พูดคุยต่อสื่อ ทำให้เรื่องนี้ยิ่งยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น
เมื่อเฉินห้าวดูรายงานเสร็จ ก็ตกใจต่อความมหัศจรรย์ของบัตรตรวจสอบภาษี อีกฝ่ายจะต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแน่นอน ถึงได้ทำบัญชีออกมาได้อย่างไร้ร่องรอย ปรากฏว่ายังถูกบัตรตรวจสอบภาษีตรวจพบ สุดยอดมากจริงๆ
ที่น่าจับตาดูของข่าวสารนี้ ก็คือกรมสรรพากรจะทำการลงโทษแบบไหน เพราะยังไงซะเรื่องนี้ก็ดังมาก คาดว่าจะมีผลออกมาอย่างไว ถ้าอย่างนั้นก็สามารถทำการขั้นตอนต่อไปได้แล้ว
ผลออกมาอย่างเร็วมาก ผ่านไปอีกวันแล้ว กรมสรรพากรของเมืองอวิ๋นหยางก็ได้ทำการประกาศบทลงโทษต่อบัญชีสาธารณะ
“จากที่บุคคลนิรนามทำการรายงานมา จากการกระทำที่บริษัทได้ทำการเลี่ยงภาษีอย่างหนัก ผ่านการตรวจสอบแล้ว ได้กระทำความผิด จึงมีบทลงโทษดังนี้ 1.ค่าปรับจำนวน 1.9 พันล้านหยวน 2.เพิกถอนชื่อดาวธุรกิจของกรมสรรพากร 3…….”
ด้านหลังต่างๆก็ล้วนมีการจำกัด ทำให้เฉินห้าวอารมณ์ดีมาก ถือเป็นการชมอาหารเรียกน้ำย่อยเล็กๆน้อยๆ การแก้แค้นที่แท้จริงยังอยู่ด้านหลัง
อีกฝ่ายเองก็จัดการได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มีผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทนกหัวขวานออกมาขอโทษ พูดต่างๆมากมาย แล้วก็ไล่พนักงานชั่วคราวที่เป็นแพะรับบาปออกหลายคน
ในคืนนั้น ฉิงจื๋อเทาก็เอาข่าวดีมาให้เฉินห้าว จู่ๆบัญชีส่วนตัวของก่วนอวิ๋นชางก็มีเงินจำนวนมากเข้า ปัจจุบันมากกว่าพันล้านแล้ว
เฉินห้าวรู้ดีว่า นี่จะต้องเป็นเงินที่ไปจ่ายค่าปรับแน่นอน ดังนั้นเขาจึงบอกกับฉิงจื๋อเทาว่าให้จับตาดูต่อไป ถ้าหากว่าจำนวนมากกว่า 1.9 พันล้านแล้วให้รีบรายงานทันที
แล้วก็รอแบบนี้ไปทั้งวัน เช้าตรู่วันถัดมา ฉิงจื๋อเทาก็รีบร้อนโทรศัพท์มา บอกว่าบัญชีของก่วนอวิ๋นชางมีเงิน 1.9 พันล้านแล้ว แล้วเขาก็จะไปทำการจ่ายค่าปรับที่กรมสรรพากรด้วยตัวเอง แล้วยังพานักข่าวไปด้วยเพื่อทำการเสนอข่าว และเรียกชื่อเสียงกลับมาสักหน่อย ทางททีวีต่างก็กำลังฉายเรื่องนี้อยู่
“เรียกชื่อเสียงคืนงั้นหรอ?”
เฉินห้าวยิ้มเยาะ คาดว่าก่วนอวิ๋นชางจะใสซื่อเกินไป ในตอนแรกที่เขาโจมตีบริษัทโจวซื่อ น่าจะคิดได้ว่าจะมีวันนี้
ดังนั้นเฉินห้าวจึงเปิดแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านโซนบัตรอย่างไม่ลังเล แล้วโอนเงินทั้งหมดในบัญชีขอตัวเองไปที่โจวซีถง จากนั้นก็ทำการใช้บัตรความจนเท่ากันอย่างเด็ดขาด
บัตรความจนเท่ากัน คือการเปรียบเทียบบัญชีของตัวเองและเป้าหมาย และทำการเลือกฝ่ายที่มีเงินอยู่น้อย และบังคับทำให้ทั้งสองฝ่ายมีเงินเท่ากัน
เนื่องจากบัญชีของเฉินห้าวเป็น 0 จนมากจนถึงที่สุดแล้ว ดังนั้นเงินในบัญชีของก่วนอวิ๋นชางจึงถูกบังคับเป็น 0 เงิน 1.9 พันล้านหายไปจนหมด และก็ไม่สามารถฟื้นคืนได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าบัตรความรวยเท่ากันจะสามารถล้วงมาเป็นของตัวเองได้อย่างง่ายดายและทำให้บัญชีของเฉินห้าวและก่วนอวิ๋นชางมีเงินเท่ากัน และได้กำไรมาถึง 900 ล้านกว่า แต่ว่าโจมตีได้ไม่เด็ดขาดพอ เฉินห้าวรู้สึกว่าใช้บัตรความจนเท่ากันถึงจะสะใจ ทำลายแนวคิดของอีกฝ่าย และให้เขาอับอายต่อหน้าสื่อ
เฉินห้าวเอาโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาจูหมิ่นที่อยู่ในเมืองเพื่อทำการสัมภาษณ์ข่าวดังเรื่องนี้โดยเฉพาะ บอกเธอว่าจะต้องจับภาพการกระทำในตอนนี้ของก่วนอวิ๋นชางไว้ จะมีเซอร์ไพรส์
ตอนนี้จูหมิ่นได้เลื่อนขั้น ล้วนเป็นเพราะเฉินห้าว ดังนั้นจึงเชื่อฟังเขา รีบไปทำการตามจับภาพสถานการณ์ของก่วนอวิ๋นชาง