ที่บ่อนคาสิโนในเมือง W
หลินเจียวนั่งอยู่หน้าโต๊ะไพ่นกกระจอก สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง แต่งหน้าหนาเตอะทาปากแดง ตอนนี้เงินที่เธอพกมาด้วยหมดเกลี้ยงไปกับการพนัน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจ ขณะกล่าวโดยมีไพ่อยู่ในมือ “ต่อเลย ดูเสื้อผ้าฉันสิ! ฉันดูเหมือนคนที่จะติดหนี้คุณหรือ”
คนอื่นๆ ที่อยู่ในที่นั้นคุ้นเคยกับหลินเจียว เพราะพวกเขาเล่นไพ่นกกระจอกกับเธอบ่อยครั้ง และเธอมักใจกว้าง จึงไม่มีใครสงสัยคำพูดของเธอ ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเม้มริมฝีปากแล้วถามด้วยสำเนียงเมือง W ว่า “คุณหลิน คุณมาจากเมืองไหนหรือ สามีคุณทำงานอะไร คุณเล่นการพนันทุกวัน แล้วยังสวมเสื้อผ้าแพงๆ ฉันเดาว่าครอบครัวคุณต้องรวยมากแน่ๆ”
เธอถามแบบนี้เพราะหลินเจียวชนะพนันไพ่นกกระจอกไม่บ่อย แม้จะไม่ได้เล่นเสียมากๆ ทุกวัน แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องเสียเงิน และเงินที่เธอเสียไปในแต่ละเดือนสามารถซื้อบ้านขนาดหนึ่งร้อยตารางเมตรในเมือง W ได้เลย
หลินเจียวยิ้มขณะโบกมือตอบว่า “คุณไม่ได้ยินหรือว่าฉันโทรหาใคร ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่าพี่สาวฉันรวย ครอบครัวเธอเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ในเมือง A คุณรู้จักเซียวกรุปหรือเปล่าล่ะ นั่นน่ะพี่เขยฉันเป็นประธาน”
ดวงตาหญิงอ้วนเปล่งประกายเมื่อได้ยินชื่อเซียวกรุป เธอกล่าวว่า “โอ นั่นบริษัทใหญ่โตนี่” จากนั้นเธอก็กล่าวต่อไปว่า “ฝู่เหราอินเตอร์เนชันแนลเป็นบริษัทในเครือเซียวกรุป ฉันมีหลานชายทำงานอยู่ที่นั่น เป็นบริษัทที่โอ่อ่าหรูหรามากจริงๆ เป็นของพี่เขยคุณเหรอ”
หลินเจียวยิ้มแล้วยักคิ้ว “แน่นอน ดาราดังเซียวจิ้นหนิงคือหลานสาวฉัน เธอให้เงินฉันตลอดนั่นแหละ ฉันถึงไม่สนใจเรื่องเงินไงล่ะ” เธอโยนไพ่นกกระจอกลงบนโต๊ะ
หญิงวัยกลางคนแต่งตัวดีอีกคนหนึ่งมองหลินเจียวด้วยสายตารังเกียจ ยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “คุณหลิน คุณนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ แค่พึ่งพาพี่สาวกับพี่เขยอย่างเดียว ก็ยังหาความสุขให้กับชีวิตได้” เธอหยิบไพ่นกกระจอกขึ้นมาใบหนึ่ง แล้วโยนอีกใบหนึ่งลงบนโต๊ะ พร้อมกับเสริมว่า “แต่ฉันได้ยินมาว่า เซียวจิ้นหนิงไม่ใช่ลูกสาวตระกูลเซียวหรอก เป็นแค่ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่เขาเก็บมาเลี้ยง”
ใบหน้าหลินเจียวเปลี่ยนสีทันที ขณะเธอกำลังจะตอบ หญิงร่างอ้วนก็หันไปหาหญิงที่แต่งตัวดีและถามอย่างตื่นเต้น “คุณหมายถึงดาราดังคนนั้นน่ะเหรอ เธอเป็นลูกสาวเศรษฐีใช่ไหม โอ…ฉันนึกออกแล้วเธอมาจากตระกูลเซียวนี่!” หญิงร่างอ้วนหันกลับไปหาหลินเจียวและถามต่อไปด้วยความประหลาดใจ “เซียวจิ้นหนิงนั่นไม่ใช่ลูกพี่สาวคุณหรอกเหรอ อ้าว ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพี่สาวคุณเลี้ยงลูกใครก็ไม่รู้มานานหลายสิบปีแล้วน่ะสิ”
หลินเจียวยิ้มด้วยท่าทีอึกอัก พูดอะไรไม่ออก หญิงที่แต่งตัวดีจ้องมองหลินเจียวด้วยประกายระยิบระยับในดวงตาขณะกล่าวว่า “โอ…ใช่แล้ว และฉันได้ยินมาด้วยว่าพวกเขาพบลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองแล้ว แต่เธอถูกเซียวจิ้นหนิงใส่ร้าย พวกเขาเลยไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ลูกสาวได้แต่ไปอาศัยอยู่ที่บ้านคุณอาของเธอ” เธอหัวเราะเยาะก่อนจะกล่าวต่อไป “เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งที่จะมีนักแสดงอยู่ในบ้าน คุณจะไม่มีวันรู้หรอกว่าเธอจะแทงคุณข้างหลังเมื่อไร”
ใบหน้าหลินเจียวเปลี่ยนเป็นดุดัน เธอกล่าวอย่างเย็นชา “คุณนายเฉิน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นคนชอบนินทา! คุณจะเล่นไพ่นกกระจอกหรือจะนินทา”
คุณนายเฉินยิ้ม เหลือบมองหลินเจียว “โอ คุณหลินทำไมโกรธง่ายจัง เราแค่วิจารณ์เซียวจิ้นหนิงว่าเป็นคนเนรคุณ ไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย ทำไมต้องโกรธมากขนาดนี้ แล้วอีกอย่าง ในเมื่อเซียวจิ้นหนิงกล้าทำถึงขนาดนี้ เธอคงไม่กลัวหรอกว่าใครจะพูดถึงเธอว่ายังไง ถ้ากลัวเธอคงไม่ทำอย่างนั้นจริงไหม”
หลินเจียวผลักไพ่นกกระจอกใส่หน้าหญิงแต่งตัวดี “ฉันเลิกเล่นแล้ว ฉันไม่อยากเสียเวลากับคุณ!”
คุณนายเฉินหัวเราะเยาะ เลิกคิ้วขึ้นขณะจ้องหน้าหลินเจียว แล้วกล่าวอย่างใจเย็น “ในเมื่อคุณหลินไม่อยากเล่นแล้ว ก็กรุณาจ่ายหนี้มาก่อนที่จะออกไปด้วย คุณเล่นเสียห้าเกม จ่ายเงินมาหกหมื่นแปดพันหยวน ก่อนที่คุณจะไป”
หลินเจียวจ้องหน้าคุณนายเฉิน ซึ่งเล่นไพ่นกกระจอกที่ถืออยู่ในมือไปมา และถามอย่างเย็นชาว่า “ฉันเป็นหนี้มากขนาดนั้นหรือ ฉันจำได้ว่าฉันเสียไปแค่…”
เมื่อคำนวณเงินที่เธอเล่นเสียในวันนี้ หลินเจียวก็เม้มริมฝีปาก “ฉันไม่ได้นำเงินติดตัวมามากนักวันนี้ ฉันจะเอาเงินมาให้ตอนมาเล่นไพ่นกกระจอกที่นี่พรุ่งนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันจะบอกให้นะ พ่อแม่ฉันกำลังไปขอเงินจากพี่สาวฉัน และเธอจะให้อย่างน้อยสิบล้านหยวน เมื่อเธอจ่ายมา ฉันจะได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง…”
คุณนายเฉินยิ้ม เงยหน้าขึ้นจากไพ่นกกระจอกมองดูหลินเจียว เธอยิ้มมุมปากและกล่าวว่า “แต่ฉันต้องการเห็นเงินสดหกหมื่นแปดพันหยวนเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่นำเงินมาให้ฉันวันนี้ คุณหลิน ฉันเกรงว่าคุณจะต้องลำบาก”
ในฐานะนายใหญ่ของคาสิโนแห่งนี้ คำพูดของคุณนายเฉินคือคำขาดของที่นี่
หญิงอ้วนดึงมือคุณนายเฉินไว้ ขณะจ้องมองหลินเจียวแล้วกล่าวว่า “คุณนายเฉินคะ เธอบอกว่าเธอเป็นน้องเมียของประธานเซียวกรุปไม่ใช่เหรอ เราไปเรียกเก็บเงินที่ฝู่เหราอินเตอร์เนชันแนลก็ได้นี่”
เมื่อได้ยินอย่างนี้หลินเจียวก็รีบพยักหน้าราวกับกำลังคว้าฟางเส้นสุดท้าย “ใช่ ใช่ ให้คนของคุณไปที่ฝู่เหราอินเตอร์เนชันแนล บอกให้พวกเขาจ่ายเงิน บอกชื่อฉัน หลินเจียว แล้วพวกเขาจะให้เงินคุณแน่นอน!”
คุณนายเฉินมองหลินเจียวขณะกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณนี่น่ารังเกียจเหมือนพวกปลิงเลย ฉันเสียใจกับพี่สาวคุณจริงๆ ที่มีน้องสาวอย่างคุณ”
หลินเจียวโกรธคำพูดดูหมิ่นของคุณนายเฉินขึ้นมาทันที แต่เธอไม่กล้าแสดงความหุนหันพลันแล่นออกมา เพราะนักเลงคุมบ่อนล้อมเธอไว้แล้ว เธอระงับความโกรธไว้ในใจและกล่าวว่า “คุณนายเฉิน คุณแค่ต้องการเงินไม่ใช่หรือ คุณก็เพียงแต่ส่งคนไปรับเงินที่ฝู่เหราอินเตอร์เนชันแนล แล้วปล่อยฉันไป”
“ไม่ต้องรีบร้อน” คุณนายเฉินมองหลินเจียวอย่างพิจารณาขณะเอนหลังพิงเก้าอี้ “ตราบใดที่คนของฉันได้เงินมา เราจะปล่อยคุณไป” เมื่อจบคำพูดเธอก็ขยิบตาให้นักเลง ซึ่งรีบหันหลังเดินออกไปทันที
คุณนายเฉินบอกกับคนอื่นๆ ว่า “ไม่ต้องมามองพวกเรา เล่นไพ่นกกระจอกของคุณไป” จากนั้นเธอก็เรียกชายอีกคนหนึ่งมาร่วมวงเล่นไพ่กับพวกเธอ แล้วเริ่มเล่าว่า “ลูกสาวฉันเรียนอยู่ที่เมือง A อยู่ชั้นเรียนเดียวกันกับลูกสาวตัวจริงของตระกูลเซียว เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ตามที่ลูกสาวฉันบอก เธอไม่ใช่แค่สวยมากๆ นะ แต่ยังเรียนเก่งติดอันดับต้นๆ ของโรงเรียนอีกด้วย”
จากนั้นดูเหมือนเธอจะนึกถึงอะไรบางอย่างที่น่าสนใจขึ้นมาได้ และเล่าต่อ “ลูกสาวฉันไม่เคยชอบเรียนภาษาต่างประเทศมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เธอบอกฉันว่าเธออยากเรียนเหมือนเซียวโหรว เพราะเซียวโหรวพูดภาษาต่างประเทศได้ตั้งสิบภาษา”
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายเฉิน หลินเจียวก็กล่าวเยาะเย้ย “เด็กบ้านนอกแบบนั้นพูดภาษาต่างประเทศได้ตั้งสิบภาษาเชียวหรือ ฉันกลัวว่าเธอจะรู้ตัวหนังสือไม่ถึงสิบตัวน่ะสิ เพราะเธอโตมาในครอบครัวที่ยากจนขนาดนั้น!”