หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1084 หนึ่งหมัดชิงราชัน
เสียงคำรามของมังกรก้องกังวาน
มังกรตัวมหึมาก็ขนดอยู่ด้านหลังมู่เฉิน กำจายแรงกดดันน่าอัศจรรย์ที่ทำให้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“นั่นคือมังกรแท้จริงเหรอ?” แม้แต่เทียนจิ้วกับหลิงถงยังต้องร้องอุทาน มังกรแท้จริงเป็นจักรพรรดิเผ่ามังกรซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับระดับเทียนจื้อจุน
“นั่นไม่ใช่มังกรของแท้แต่มีรัศมีของมังกรแท้จริง” ซุยนอนเปิดตาขึ้นจ้องมองมังกรตัวเขื่องพลางพูดขึ้นช้าๆ
“ถ้าการเดาของข้าถูกต้อง นี่น่าจะมาจากวิชากายามังกรหงส์ของมู่เฉิน ไม่คิดว่าผ่านไปแค่หนึ่งปี เขาจะสามารถฝึกฝนให้สูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์”
จอมพลทั้งสองหดเกร็งดวงตา พวกเขาตระหนักดีถึงวิชากายามังกรหงส์ของมู่เฉิน แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อปีก่อนมู่เฉินยังไม่ครอบครองแรงกดดันยิ่งใหญ่ของมังกรแท้จริง
“พิจารณาจากรัศมีเงามังกรแท้จริงตัวนี้ ข้าคิดว่านี่เปรียบได้กับระยะเกือบจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้าทั่วไปเลยทีเดียว”
ทั้งสองถอนหายใจในใจ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าทำไมมู่เฉินจึงไม่กลัวหลงปี้ ที่แท้เขาก็มีไพ่ตายอยู่จริงๆ ด้วยเงามังกรแท้จริง เขาอาจสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นได้จริง
มั่นถัวหลัวนั่งบนบัลลังก์โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง แต่เมื่อเห็นเงามังกรแท้จริง ริ้วความประหลาดใจก็วูบวาบในรูม่านตา
มั่นถัวหลัวทราบดีเกี่ยวกับรายละเอียดเชิงลึกของคัมภีร์หลงเฟิ่งที่มู่เฉินฝึกฝน การฉายภาพเงามังกรแท้จริงน่าจะทำขึ้นมากจากลวดลายมังกรแท้จริงบนร่างกายเขา ในอดีตแม้ว่าลวดลายมังกรแท้จริงจะสามารถให้ความแข็งแกร่งแก่มูเฉินได้ แต่ก็มีข้อจำกัดอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเรียกขึ้นมาเป็นจิตวิญญาณและยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
“เจ้านั่นผ่านประสบการณ์อะไรในปีที่ผ่านมาจนเติบโตขึ้นขนาดนี้?” มั่นถัวหลัวรู้สึกฉงนในใจ คัมภีร์หลงเฟิ่งยากทั้งการฝึกฝนและพัฒนา จากการประเมินถ้ามู่เฉินต้องการสร้างภาพเหมือนที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ เขาจะต้องดูดซับแก่นโลหิตเทพอสูรจำนวนมหาศาล
หรือว่าเขาไปขุดซากเทพอสูรทั้งหมดของดินแดนเสินโซ่มา?
ขณะที่มั่นถัวหลัวครุ่นคิดอยู่ในใจ หลงปี้ก็มองการฉายภาพเงามังกรแท้จริงด้วยสายตาเคร่งขรึม ความกลัวอัดแน่นในส่วนลึกของดวงตา
เนื่องจากเขารู้ว่าภาพนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มีรัศมีของมังกรแท้จริงผสมอยู่ด้วย
รัศมีนี้ทำให้พลังมังกรในร่างกายของเขาช้าลง ซึ่งเป็นการปราบปรามจากจักรพรรดิเผ่ามังกร ที่มีสายเลือดทรงพลังและทรงเกียรติ แขนมังกรของเขารับมาจากมังกรไฟ ถึงแม้จะมีสายเลือดที่ทรงพลังก็ยังด้อยกว่ามังกรแท้จริง
เขารู้สึกยากที่จะเชื่อว่ามนุษย์อย่างมู่เฉินจะสามารถครอบครองรัศมีของมังกรแท้จริงได้
ก่อนหน้านี้เขายังมองเหยียดต่อคำพูดของมู่เฉิน แต่ในเวลานี้เขาต้องเผชิญหน้าอย่างจริงจัง หากเขาประเมินพลังของอีกฝ่ายต่ำเกินไป เขาอาจพ่ายแพ้ในวันนี้ได้
ฮา
หลงปี้หายใจลึกระงับความกลัวในใจพร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดลงหลายส่วน เขากำกำปั้นอย่างช้าๆ แสงสีแดงเปล่งประกายบนแขนเพิ่มขึ้นทวีคูณพลางเกิดการขยายตัว
นิ้วขยายตัวเป็นกรงเล็บปกคลุมด้วยเกล็ดหนาแน่นสูง เมื่อมองจากระยะไกลก็ดูไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป พวกมันกลายเป็นกรงเล็บดุร้ายของมังกรไฟไปแล้ว
ขณะที่หลงปี้เร้าพลังไปยังจุดสูงสุด มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ภาพมังกรแท้จริงก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนเป็นคมกริบทันที
ฮึ่ม!
แสงสีทองพร่างพรายระเบิดออกจากร่างมู่เฉิน ทำให้ดูประหนึ่งเป็นเทพสงครามสีทอง เขากำมือแล้วเหวี่ยงหมัดออกไป
หมัดนี้ช้าและหนักราวกับว่าแบกน้ำหนักของภูเขาสูงตระหง่านไว้
นอกจากนี้เมื่อมู่เฉินเหวี่ยงหมัดออกไป เกลียวแสงสีทองบนร่างก็เคลื่อนไปบนกำปั้น
แสงสีทองควบแน่นทำให้กำปั้นดูราวกับว่าถูกสร้างขึ้นด้วยทองคำ มวลลมกระเพื่อมปลดปล่อยออกมาจากหมัด มิติถึงกับแตกเป็นเสี่ยง
“หมัดมังกรแท้จริง!”
เสียงคำรามดังกึกก้องออกมาจากหัวใจของมู่เฉิน ขณะที่พายุผันผวนบนกำปั้น แสงสีทองแวววาวพุ่งพรวดออกมาก่อตัวเป็นภาพหมัดทองคำ
โฮก!
ภาพเงามังกรแท้จริงแผดเสียงคำราม จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในภาพหมัด ทันใดนั้นเกล็ดสีทองเข้มก็ปรากฏขึ้น ซึ่งขยายพลังของหมัดให้มากขึ้น มิติแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รอยแตกกระจายออกไปคล้ายกับลายบนกระดองเต่า
ผู้ชมมีสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าอย่างจอมพลเทียนจิ้วก็ยังมีความหวาดกลัวหนาแน่นในสายตา
พวกเขาสามารถสัมผัสถึงรัศมีคุกคามหนาแน่นสูงที่มาจากหมัดเรียบง่ายของมู่เฉิน
ครืน! ครืน!
กำปั้นประหนึ่งทองคำพุ่งไปปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลงปี้ แสงสีทองเบ่งบาน ปิดกั้นเส้นทางล่าถอยทั้งหมด
เมื่อพายุจากหมัดโอบล้อม ความมันวาวสีทองก็อัดแน่นเต็มม่านตาของหลงปี้ ดูราวกับพลังอำนาจล้นเหลือระหว่างสวรรค์และโลก พลังที่น่าสะพรึงทำให้เส้นขนของเขาลุกชันไปหมดแล้ว
“ไม่ง่ายหรอกที่คิดจะเอาชนะข้า!”
เมื่อถูกห่อหุ้มด้วยพลังที่น่ากลัว หลงปี้ก็คำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธพวยพุ่งในดวงตาพลางซัดฝ่ามือออกไปโดยไม่ลังเล
ตู้ม!
แสงสีแดงระเบิดลั่น มังกรไฟตัวมหึมาก็ส่งเสียงครางกระหึ่มจากหมัดพร้อมกับเปลวไฟโหมกระหน่ำเผาไหม้สวรรค์
ครืน!
พลังงานสองสายปะทะกันเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ภายใต้สายตาที่สั่นสะท้านนับไม่ถ้วน สร้างดวงอาทิตย์เจิดจ้าด้วยประกายแสงสีทองและสีแดง ในเวลาเดียวกันมิติในระยะหลายหมื่นจั้งก็บิดเบี้ยวจากผลกระทบอันน่ากลัว
ปัง! ปัง!
ลานประลองบนจัตุรัสเหลือเพียงขี้เถ้าจากผลกระทบที่เกิดขึ้น
ผู้ชมต้องถอยกันออกไปจ้าละหวั่น
เมื่อเห็นคลื่นกระแทกอันน่าสะพรึงกลัว มั่นถัวหลัวก็สะบัดนิ้ว แสงหลิงก่อตัวเป็นม่านขนาดมหึมาล้อมรอบใจกลางจัตุรัสปิดกั้นคลื่นที่พุ่งมา
ด้วยการเคลื่อนไหวของมั่นถัวหลัว จอมยุทธ์รอบข้างก็หายใจโล่งอก ก่อนที่จะจ้องมองไปที่จัตุรัส ช่วงเวลาเดียวกันแสงสีทองรุนแรงก็ห่อหุ้มแสงสีแดงเอาไว้
ใบหน้าของหลงปี้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาประเมินความน่ากลัวหมัดมู่เฉินต่ำไป
ตู้ม!
ทว่าก่อนที่เขาจะตอบสนอง ระลอกคลื่นสีทองก็พรั่งพรู ทำให้เขารับแรงกระแทกเต็มอัด ร่างลอยกลับไปอย่างน่าสมเพช
ฟิ้ว!
ทุกคนมองด้วยสีหน้าหวั่นไหว ตรงนั้นร่างของหลงปี้ถูกซัดออกไปพร้อมกับการระเบิดของอากาศที่ด้านหลังดังกึกก้องอยู่เรื่อย แม้แต่มิติก็พังทลาย
ตึง!
หลงปี้ถอยออกไปหลายหมื่นจั้ง ก่อนที่ตบฝ่ามือไปที่ด้านหลังทำลายมิติจนทรงตัวได้ เขาไม่แม้แต่เช็ดรอยเลือดที่มุมปาก กลับมองบนลานประลองที่อยู่ไกลออกไปด้วยใบหน้ามืดครึ้มลง
เขาถูกซัดออกมาด้วยหมัดเดียวของมู่เฉิน
สีหน้าหลงปี้ไม่น่าดูเลย เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะซัดเขาจนถลาออกมาด้วยหมัดเดียวจริงๆ
ขณะที่หลงปี้ยืนนิ่งอยู่บนท้องฟ้าด้วยสีหน้าดูไม่จืด จัตุรัสเบื้องล่างก็ร้อนระอุ ผู้ชมต่างตะลึงเมื่อมองหลงปี้ที่อยู่ไกลออกไป
ผู้ชมมองหน้ากันและกันก่อนจะหายใจเข้าลึก หมัดของมู่เฉินส่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นออกไปไกลหลายหมื่นจั้ง
หากเป็นคนอื่น พวกเขาอาจจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
ทันใดนั้นสายตาของพวกเขาก็พุ่งเข้าหาใจกลางจัตุรัส เมื่อเมฆฝุ่นตกลงมาเงาร่างหนึ่งก็ฉายชัดเจนในครรลองสายตา
มู่เฉินยังรักษาท่าทางการชก เลือดหยดลงมาจากกำปั้น ซึ่งเป็นผลสะท้อนมาจากการโจมตีรุนแรงที่ปล่อยออกมาเมื่อสักครู่
ภาพเงามังกรแท้จริงที่สง่างามเลือนหายไป แม้แต่ความผันผวนของจิตวิญญาณทรงพลังรอบร่างมู่เฉินก็หดกลับไป เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์
เขายิ้มมองไปที่หลงปี้บนท้องฟ้าไกล “ท่านจอมยุทธ์รู้สึกยังไงกับหมัดนี้?”
หมัดนี้ได้รวบรวมพลังทั้งหมดในร่างกายของเขาซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยภาพเงามังกรแท้จริง พลังที่อยู่เบื้องหลังหมัดเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าตัวจริงยังต้องขยาด
หลงปี้ยืนอยู่จ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่ยิ้มแย้ม คิดจะโจมตีอีกสักตั้ง แต่สุดท้ายก็ระงับความตั้งใจนั้นลง เพราะเขารู้ว่าตนเองไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะมู่เฉินอีกต่อไป
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ใช้ไพ่ตาย แต่เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้เช่นกัน ถ้าพวกเขาถูกบีบไปจนถึงขั้นตอนนั้น ก็จะกลายเป็นศึกมรณะทันที ในเวลานั้นแม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเดินออกมาจากการประลองได้อย่างมีชีวิตสมบูรณ์
หลังจากครุ่นคิดสั้นๆ เขาก็ประสานมือพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตำแหน่งจอมพลเป็นของเจ้าแล้ว”