หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1084

ตอนที่ 1084

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1084 หนึ่งหมัดชิงราชัน
เสียงคำรามของมังกรก้องกังวาน

มังกรตัวมหึมาก็ขนดอยู่ด้านหลังมู่เฉิน กำจายแรงกดดันน่าอัศจรรย์ที่ทำให้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“นั่นคือมังกรแท้จริงเหรอ?” แม้แต่เทียนจิ้วกับหลิงถงยังต้องร้องอุทาน มังกรแท้จริงเป็นจักรพรรดิเผ่ามังกรซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับระดับเทียนจื้อจุน

“นั่นไม่ใช่มังกรของแท้แต่มีรัศมีของมังกรแท้จริง” ซุยนอนเปิดตาขึ้นจ้องมองมังกรตัวเขื่องพลางพูดขึ้นช้าๆ

“ถ้าการเดาของข้าถูกต้อง นี่น่าจะมาจากวิชากายามังกรหงส์ของมู่เฉิน ไม่คิดว่าผ่านไปแค่หนึ่งปี เขาจะสามารถฝึกฝนให้สูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์”

จอมพลทั้งสองหดเกร็งดวงตา พวกเขาตระหนักดีถึงวิชากายามังกรหงส์ของมู่เฉิน แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อปีก่อนมู่เฉินยังไม่ครอบครองแรงกดดันยิ่งใหญ่ของมังกรแท้จริง

“พิจารณาจากรัศมีเงามังกรแท้จริงตัวนี้ ข้าคิดว่านี่เปรียบได้กับระยะเกือบจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้าทั่วไปเลยทีเดียว”

ทั้งสองถอนหายใจในใจ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าทำไมมู่เฉินจึงไม่กลัวหลงปี้ ที่แท้เขาก็มีไพ่ตายอยู่จริงๆ ด้วยเงามังกรแท้จริง เขาอาจสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นได้จริง

มั่นถัวหลัวนั่งบนบัลลังก์โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง แต่เมื่อเห็นเงามังกรแท้จริง ริ้วความประหลาดใจก็วูบวาบในรูม่านตา

มั่นถัวหลัวทราบดีเกี่ยวกับรายละเอียดเชิงลึกของคัมภีร์หลงเฟิ่งที่มู่เฉินฝึกฝน การฉายภาพเงามังกรแท้จริงน่าจะทำขึ้นมากจากลวดลายมังกรแท้จริงบนร่างกายเขา ในอดีตแม้ว่าลวดลายมังกรแท้จริงจะสามารถให้ความแข็งแกร่งแก่มูเฉินได้ แต่ก็มีข้อจำกัดอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเรียกขึ้นมาเป็นจิตวิญญาณและยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก

“เจ้านั่นผ่านประสบการณ์อะไรในปีที่ผ่านมาจนเติบโตขึ้นขนาดนี้?” มั่นถัวหลัวรู้สึกฉงนในใจ คัมภีร์หลงเฟิ่งยากทั้งการฝึกฝนและพัฒนา จากการประเมินถ้ามู่เฉินต้องการสร้างภาพเหมือนที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ เขาจะต้องดูดซับแก่นโลหิตเทพอสูรจำนวนมหาศาล

หรือว่าเขาไปขุดซากเทพอสูรทั้งหมดของดินแดนเสินโซ่มา?

ขณะที่มั่นถัวหลัวครุ่นคิดอยู่ในใจ หลงปี้ก็มองการฉายภาพเงามังกรแท้จริงด้วยสายตาเคร่งขรึม ความกลัวอัดแน่นในส่วนลึกของดวงตา

เนื่องจากเขารู้ว่าภาพนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มีรัศมีของมังกรแท้จริงผสมอยู่ด้วย

รัศมีนี้ทำให้พลังมังกรในร่างกายของเขาช้าลง ซึ่งเป็นการปราบปรามจากจักรพรรดิเผ่ามังกร ที่มีสายเลือดทรงพลังและทรงเกียรติ แขนมังกรของเขารับมาจากมังกรไฟ ถึงแม้จะมีสายเลือดที่ทรงพลังก็ยังด้อยกว่ามังกรแท้จริง

เขารู้สึกยากที่จะเชื่อว่ามนุษย์อย่างมู่เฉินจะสามารถครอบครองรัศมีของมังกรแท้จริงได้

ก่อนหน้านี้เขายังมองเหยียดต่อคำพูดของมู่เฉิน แต่ในเวลานี้เขาต้องเผชิญหน้าอย่างจริงจัง หากเขาประเมินพลังของอีกฝ่ายต่ำเกินไป เขาอาจพ่ายแพ้ในวันนี้ได้

ฮา

หลงปี้หายใจลึกระงับความกลัวในใจพร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดลงหลายส่วน เขากำกำปั้นอย่างช้าๆ แสงสีแดงเปล่งประกายบนแขนเพิ่มขึ้นทวีคูณพลางเกิดการขยายตัว

นิ้วขยายตัวเป็นกรงเล็บปกคลุมด้วยเกล็ดหนาแน่นสูง เมื่อมองจากระยะไกลก็ดูไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป พวกมันกลายเป็นกรงเล็บดุร้ายของมังกรไฟไปแล้ว

ขณะที่หลงปี้เร้าพลังไปยังจุดสูงสุด มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ภาพมังกรแท้จริงก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนเป็นคมกริบทันที

ฮึ่ม!

แสงสีทองพร่างพรายระเบิดออกจากร่างมู่เฉิน ทำให้ดูประหนึ่งเป็นเทพสงครามสีทอง เขากำมือแล้วเหวี่ยงหมัดออกไป

หมัดนี้ช้าและหนักราวกับว่าแบกน้ำหนักของภูเขาสูงตระหง่านไว้

นอกจากนี้เมื่อมู่เฉินเหวี่ยงหมัดออกไป เกลียวแสงสีทองบนร่างก็เคลื่อนไปบนกำปั้น

แสงสีทองควบแน่นทำให้กำปั้นดูราวกับว่าถูกสร้างขึ้นด้วยทองคำ มวลลมกระเพื่อมปลดปล่อยออกมาจากหมัด มิติถึงกับแตกเป็นเสี่ยง

“หมัดมังกรแท้จริง!”

เสียงคำรามดังกึกก้องออกมาจากหัวใจของมู่เฉิน ขณะที่พายุผันผวนบนกำปั้น แสงสีทองแวววาวพุ่งพรวดออกมาก่อตัวเป็นภาพหมัดทองคำ

โฮก!

ภาพเงามังกรแท้จริงแผดเสียงคำราม จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในภาพหมัด ทันใดนั้นเกล็ดสีทองเข้มก็ปรากฏขึ้น ซึ่งขยายพลังของหมัดให้มากขึ้น มิติแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รอยแตกกระจายออกไปคล้ายกับลายบนกระดองเต่า

ผู้ชมมีสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าอย่างจอมพลเทียนจิ้วก็ยังมีความหวาดกลัวหนาแน่นในสายตา

พวกเขาสามารถสัมผัสถึงรัศมีคุกคามหนาแน่นสูงที่มาจากหมัดเรียบง่ายของมู่เฉิน

ครืน! ครืน!

กำปั้นประหนึ่งทองคำพุ่งไปปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลงปี้ แสงสีทองเบ่งบาน ปิดกั้นเส้นทางล่าถอยทั้งหมด

เมื่อพายุจากหมัดโอบล้อม ความมันวาวสีทองก็อัดแน่นเต็มม่านตาของหลงปี้ ดูราวกับพลังอำนาจล้นเหลือระหว่างสวรรค์และโลก พลังที่น่าสะพรึงทำให้เส้นขนของเขาลุกชันไปหมดแล้ว

“ไม่ง่ายหรอกที่คิดจะเอาชนะข้า!”

เมื่อถูกห่อหุ้มด้วยพลังที่น่ากลัว หลงปี้ก็คำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธพวยพุ่งในดวงตาพลางซัดฝ่ามือออกไปโดยไม่ลังเล

ตู้ม!

แสงสีแดงระเบิดลั่น มังกรไฟตัวมหึมาก็ส่งเสียงครางกระหึ่มจากหมัดพร้อมกับเปลวไฟโหมกระหน่ำเผาไหม้สวรรค์

ครืน!

พลังงานสองสายปะทะกันเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ภายใต้สายตาที่สั่นสะท้านนับไม่ถ้วน สร้างดวงอาทิตย์เจิดจ้าด้วยประกายแสงสีทองและสีแดง ในเวลาเดียวกันมิติในระยะหลายหมื่นจั้งก็บิดเบี้ยวจากผลกระทบอันน่ากลัว

ปัง! ปัง!

ลานประลองบนจัตุรัสเหลือเพียงขี้เถ้าจากผลกระทบที่เกิดขึ้น

ผู้ชมต้องถอยกันออกไปจ้าละหวั่น

เมื่อเห็นคลื่นกระแทกอันน่าสะพรึงกลัว มั่นถัวหลัวก็สะบัดนิ้ว แสงหลิงก่อตัวเป็นม่านขนาดมหึมาล้อมรอบใจกลางจัตุรัสปิดกั้นคลื่นที่พุ่งมา

ด้วยการเคลื่อนไหวของมั่นถัวหลัว จอมยุทธ์รอบข้างก็หายใจโล่งอก ก่อนที่จะจ้องมองไปที่จัตุรัส ช่วงเวลาเดียวกันแสงสีทองรุนแรงก็ห่อหุ้มแสงสีแดงเอาไว้

ใบหน้าของหลงปี้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาประเมินความน่ากลัวหมัดมู่เฉินต่ำไป

ตู้ม!

ทว่าก่อนที่เขาจะตอบสนอง ระลอกคลื่นสีทองก็พรั่งพรู ทำให้เขารับแรงกระแทกเต็มอัด ร่างลอยกลับไปอย่างน่าสมเพช

ฟิ้ว!

ทุกคนมองด้วยสีหน้าหวั่นไหว ตรงนั้นร่างของหลงปี้ถูกซัดออกไปพร้อมกับการระเบิดของอากาศที่ด้านหลังดังกึกก้องอยู่เรื่อย แม้แต่มิติก็พังทลาย

ตึง!

หลงปี้ถอยออกไปหลายหมื่นจั้ง ก่อนที่ตบฝ่ามือไปที่ด้านหลังทำลายมิติจนทรงตัวได้ เขาไม่แม้แต่เช็ดรอยเลือดที่มุมปาก กลับมองบนลานประลองที่อยู่ไกลออกไปด้วยใบหน้ามืดครึ้มลง

เขาถูกซัดออกมาด้วยหมัดเดียวของมู่เฉิน

สีหน้าหลงปี้ไม่น่าดูเลย เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะซัดเขาจนถลาออกมาด้วยหมัดเดียวจริงๆ

ขณะที่หลงปี้ยืนนิ่งอยู่บนท้องฟ้าด้วยสีหน้าดูไม่จืด จัตุรัสเบื้องล่างก็ร้อนระอุ ผู้ชมต่างตะลึงเมื่อมองหลงปี้ที่อยู่ไกลออกไป

ผู้ชมมองหน้ากันและกันก่อนจะหายใจเข้าลึก หมัดของมู่เฉินส่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นออกไปไกลหลายหมื่นจั้ง

หากเป็นคนอื่น พวกเขาอาจจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

ทันใดนั้นสายตาของพวกเขาก็พุ่งเข้าหาใจกลางจัตุรัส เมื่อเมฆฝุ่นตกลงมาเงาร่างหนึ่งก็ฉายชัดเจนในครรลองสายตา

มู่เฉินยังรักษาท่าทางการชก เลือดหยดลงมาจากกำปั้น ซึ่งเป็นผลสะท้อนมาจากการโจมตีรุนแรงที่ปล่อยออกมาเมื่อสักครู่

ภาพเงามังกรแท้จริงที่สง่างามเลือนหายไป แม้แต่ความผันผวนของจิตวิญญาณทรงพลังรอบร่างมู่เฉินก็หดกลับไป เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์

เขายิ้มมองไปที่หลงปี้บนท้องฟ้าไกล “ท่านจอมยุทธ์รู้สึกยังไงกับหมัดนี้?”

หมัดนี้ได้รวบรวมพลังทั้งหมดในร่างกายของเขาซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยภาพเงามังกรแท้จริง พลังที่อยู่เบื้องหลังหมัดเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าตัวจริงยังต้องขยาด

หลงปี้ยืนอยู่จ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่ยิ้มแย้ม คิดจะโจมตีอีกสักตั้ง แต่สุดท้ายก็ระงับความตั้งใจนั้นลง เพราะเขารู้ว่าตนเองไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะมู่เฉินอีกต่อไป

แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ใช้ไพ่ตาย แต่เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้เช่นกัน ถ้าพวกเขาถูกบีบไปจนถึงขั้นตอนนั้น ก็จะกลายเป็นศึกมรณะทันที ในเวลานั้นแม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเดินออกมาจากการประลองได้อย่างมีชีวิตสมบูรณ์

หลังจากครุ่นคิดสั้นๆ เขาก็ประสานมือพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตำแหน่งจอมพลเป็นของเจ้าแล้ว”

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท