หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1143

ตอนที่ 1143

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1143 จับ
ฮึ่ม ฮึ่ม!

จิตทะเลสาบสวรรค์ราวกับดวงดาวพริบพราวต่อเนื่อง ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่ผิวทะเลสาบโดยรอบ เปล่งความผันผวนที่น่ากลัวและครอบงำของคลื่นหลิงออกมา

มู่เฉินมองไปที่จิตทะเลสาบเปล่งประกาย ใบหน้าก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน ความสามารถในการโจมตีของจิตทะเลสาบเหล่านี้ ทำให้เขาผวาอยู่หน่อยๆ

ตามการคาดการณ์ของเขาการโจมตีทุกครั้งคล้ายกับการโจมตีโดยจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็ม ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากอยู่กลางทะเลสาบ จิตเหล่านี้ก็ยิ่งขยายพลังจนน่ากลัวมากยิ่งขึ้น!

หลังจากได้สัมผัสพลังจิตเหล่านี้ เขาก็รู้ซึ้งว่าการรับการชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ยากเย็นเพียงใด

นั่นเป็นเพราะแม้แต่ขั้นต่ำสุดของการชำระล้างก็ต้องเก็บจิตทะเลสาบให้ได้สามสิบดวง ถ้าต้องการขั้นสมบูรณ์ที่สุดก็ต้องเก็บถึงร้อยดวงเลยทีเดียว!

ตอนนี้กระทั่งจิตดวงเดียวยังยากที่จะจัดการ แล้วถ้าจะเอาสามสิบดวงคงจุกจนพูดไม่ออกแน่

แม้หัวใจจะคร่ำครวญกับพิธีชำระล้างนี้ แต่มู่เฉินก็ไม่ได้ย่อท้อสักนิด ม่านตาสีดำวูบไหวด้วยความแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง เขาผ่านประสบการณ์นับไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นไม่ว่าการชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์จะยากเย็นเพียงใด คนอย่างมู่เฉินก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก

ฮึ่ม!

เมื่อดวงตาของมู่เฉินฉายแววใจเด็ด จิตทะเลสาบก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง วินาทีถัดมาก็ระเบิดออกพร้อมแสงกว้างหมื่นจั้งราวกับลูกแสงซัดลงมาหามู่เฉินอย่างดุเดือด

การปะทะที่ดูเรียบง่ายกลับบรรจุไปด้วยความผันผวนรุนแรง ทำให้เวิ้งน้ำโดยรอบสาดซัดออกไป

การปะทะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มก็ไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ!

“ปล่อยให้มันโจมตีม่านแสงไม่ได้อีกแล้ว”

ดวงตามู่เฉินวาวแสง ป้ายมังกรทองคำเป็นวัตถุเดียวที่สนับสนุนการเดินทางในทะเลสาบสวรรค์ ถ้าถูกทำลายก็หมายความว่ากระบวนการที่นี่จะจบลง

ตู้ม!

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ พื้นผิวร่างกายของมู่เฉินก็ระเบิดออกด้วยแสงสีทองพร่างพราว ขณะเดียวกันเสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าก็ก้องกังวาน ก่อนที่จุดจื้อจุนไห่จะปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังพร้อมกับคลื่นหลิงจำนวนมหาศาลพุ่งพรวดออกมา

มู่เฉินกำมือแน่น หอกสงครามมังกรแดงเผยขึ้น ปลายหอกสั่นสะท้านด้วยประกายไฟสีแดงที่แล่นแปลบปลาบออกมา ทำให้ดูราวกับมังกรพุ่งเข้าหาจิตทะเลสาบ

ปัง!

พลังสองสายปะทะกันอย่างหนักหน่วง คลื่นกระแทกกระจายออกมาบ้าคลั่ง ทำให้ผิวทะเลสาบใกล้เคียงบีบตัวเป็นสูญญากาศ

ครืน!

แต่ครั้งนี้จิตทะเลสาบไม่สามารถโจมตีมู่เฉินได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าหอกสงครามจะส่งเสียงครวญครางจากการปะทะ แต่ก็ยังสามารถผลักจิตทะเลสาบถอยร่นไปร้อยจั้ง

มู่เฉินไม่มีริ้วความยินดีบนใบหน้า แต่กลับเพิ่มสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นไปอีก นั่นเป็นเพราะเมื่อจิตทะเลสาบถูกกระแทกกลับไป มันก็พุ่งมาข้างหน้าอีกครั้งด้วยท่าทางที่ดุร้ายยิ่งกว่าเดิม!

คราวนี้น้ำเชี่ยวกรากโถมตัวขึ้นราวกับมังกรวารีโฉบลง

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตเทลงไปในหอกสงครามต่อเนื่อง ก่อนหอกจะกลายเป็นลำแสงสีแดงเข้มยิงออกไป

ขณะเดียวกันดวงตาที่สามก็เปิดขึ้นที่กลางหน้าผากของมู่เฉิน แสงสีดำรวมตัวเป็นลำแสงยิงออกไป เล็งไปที่จิตทะเลสาบประสานพลังกับแสงสีแดงเข้ม

ด้วยความช่วยเหลือของอาวุธเสมือนมหสวรรค์ทั้งสอง จิตทะเลสาบก็ถูกผลักร่นไปอีกครั้ง ความสว่างไสวเหมือนจะได้รับผลกระทบจนหม่นแสงลงเล็กน้อย

“จัดการยากจริงๆ” มู่เฉินขมวดคิ้วกับภาพตรงหน้า ไม่คิดว่าอาวุธเสมือนมหสวรรค์สองชิ้นจะทำให้จิตทะเลสาบสูญเสียพลังได้เล็กน้อยเท่านั้น

ซ่า ซ่า!

แต่ก่อนที่มู่เฉินจะได้ไตร่ตรองกับเรื่องนี้ จิตทะเลสาบดูเหมือนจะคลั่งขึ้นจากการถูกตีกลับไปมาหลายครั้ง ยามนี้มันราวกับหมาบ้าพุ่งเข้าหามู่เฉิน

เผชิญหน้ากับความบ้าคลั่งนี้ มู่เฉินก็เปิดการตอบโต้ด้วยหอกสงครามมังกรแดงและเนตรดับชีวิต เพื่อผลักมันออกไปอีก

ปัง! ปัง!

คลื่นกระแทกป่าเถื่อนกวาดออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในทะเลสาบหนาแน่นดันตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันดุเดือดซึ่งกินเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่ประกายแสงของจิตทะเลสาบจะเริ่มจางและช้าลง

เมื่อเทียบกับก่อนหน้าจิตทะเลสาบดวงนี้มืดมนนัก ซึ่งดูเหนื่อยล้าอย่างมากจากการต่อสู้

ทว่ามู่เฉินก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก เขาหายใจกระชั้นขึ้น บนหน้าผากก็มีเหงื่อไหลออกมา

ชัดว่าเขาหมดพลังไปมากในการเผชิญหน้ากับจิตทะเลสาบ แต่โชคดีที่ทะเลสาบสวรรค์เต็มไปด้วยพลังงานหลิง เขาสามารถฟื้นตัวได้ในขณะที่ต่อสู้ ไม่อย่างนั้นเขาคงม่อยไปแล้วเช่นกัน

ฮึ่ม ฮึ่ม

จิตทะเลสาบสวรรค์สั่นไหวไม่หยุด แต่ชัดว่าตอนนี้มันไม่ได้ทรงพลังเหมือนก่อนหน้า ทันใดนั้นก็เปลี่ยนทิศทางหนีไปเนื่องจากตระหนักได้ว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเพียงใด หากเป็นเช่นนี้ต่อไปมันจะต้องหมดแรงและถูกจับอย่างแน่นอน

แม้มันจะเป็นเพียงรูปแบบพลังงาน แต่ก็มีสติปัญญาอยู่บ้าง

“จะไปไหน?”

ทว่ามู่เฉินที่เหน็ดเหนื่อยมาหนึ่งชั่วโมงก็ไม่คิดปล่อยให้มันหนีไปได้ง่ายๆ เขาเตรียมการพร้อมไว้แล้ว ดังนั้นลำแสงหลิงห้าสายก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วราวกับตาข่าย พันธนาการรอบจิตทะเลสาบก่อนที่จะดึงกลับมา

จิตทะเลสาบดิ้นรนบ้าคลั่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ถูกมู่เฉินดึงกลับมาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกลุ่มแสงแวววาวขนาดเท่ากำปั้นทารกตกลงมาในมือเขา

เมื่อแสงหลิงแวววาวรวมตัวกันก็ก่อตัวเป็นก้อนอัญมณีโปร่งใสในมือของมู่เฉิน อัญมณีนี้ดูเหมือนจะมีของเหลวจากทะเลสาบสวรรค์อยู่ข้างในพร้อมกับความผันผวนที่บริสุทธิ์และไร้ขอบเขตเล็ดลอดออกมา

“นี่คือรูปแบบแท้จริงของจิตทะเลสาบเหรอ?” มู่เฉินจ้องมองก้อนอัญมณีก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ ของขี้ปะติ่วนี้สร้างปัญหาให้เขามากเลยทีเดียว

มู่เฉินเก็บจิตทะเลสาบสวรรค์อย่างระมัดระวัง แม้ว่าสุดท้ายจะได้มา แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขมากนักเนื่องจากไม่พอใจกับอัตราการเก็บเกี่ยวนี่มาก

ในหนึ่งชั่วโมงเขาได้รับเพียงหนึ่งดวงเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเหนื่อยมาก อัตรานี้แม้ว่าจะใช้เวลาทั้งวันในการตามล่าก็หาได้ไม่กี่ดวงเท่านั้น ถ้าเขาอยากจะได้สามสิบดวงก็ต้องใช้เวลาห้าถึงหกวัน… และถ้าต้องการได้รับการชำระล้างสมบูรณ์แบบเขาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน!

ถ้าเป็นเวลาปกติ มู่เฉินก็ไม่สนใจที่จะทำอย่างช้าๆ แต่เขาไม่รู้ว่าทะเลสาบสวรรค์จะเปิดนานแค่ไหน ดังนั้นเขาต้องรวบรวมจิตทะเลสาบเหล่านี้ให้เร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้และเริ่มการชำระล้าง

ขณะที่มู่เฉินครุ่นคิดก็เงยหน้าขึ้นเห็นร่างแสงบนท้องฟ้า แต่ละคนบินไล่จับจิตทะเลสาบกันอลหม่าน

ทว่าสภาพดูน่าสมเพชอย่างยิ่ง เผชิญหน้ากับจิตทะเลสาบดุร้ายนอกเหนือจากจอมยุทธ์บางคนแล้ว ส่วนใหญ่ถูกบีบให้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

ดังนั้นบางคนจึงจับกลุ่มกันเพื่อตามล่า แต่ประสิทธิภาพจะช้าลงและการสูญเสียจะยิ่งมากขึ้น

บางคนยอมแพ้หลังจากล้มเหลวหลายครั้งก่อนที่จะค้นหาสถานที่ฝึกฝน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดชำระล้างอีกและเลือกที่จะเพาะบ่มขุมพลังที่นี่แทน

ตอนนี้ทั้งทะเลสาบสวรรค์คึกคักมากเลยทีเดียว

มู่เฉินเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนสายตาและพึมพำ “ข้าต้องคิดหาวิธีอื่นแล้วแหละ”

หากเขายังใช้วิธีก่อนหน้าต่อไปก็คงจะเกินทนถ้าต้องการรวบรวมจิตทะเลสาบสวรรค์สามสิบดวง

ทว่าหากเขาต้องการจิตทะเลสาบก็ต้องทำให้พลังงานหมดไปก่อนที่จะจับพวกมันได้โดยไม่มีทางเลือกอื่น

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว แต่มู่เฉินไม่ได้ใจร้อน เขานั่งบนเรือล่องลอยบนสายน้ำไปอย่างช้าๆ เขาได้เห็นจิตทะเลสาบเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบเคลื่อนไหว เขาเลือกที่จะสังเกตอย่างเงียบๆ

จิตทะเลสาบสวรรค์ไม่ใช่รูปแบบพลังงานปกติ พวกมันเกิดจากทะเลสาบสวรรค์โดยมีสติปัญญาอยู่บ้าง ดังนั้นจึงต้องมีรูปแบบอยู่ภายใน

เวลาผ่านไปภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน ก่อนครึ่งวันจะผ่านไปในพริบตา

ถึงจุดหนึ่งที่มู่เฉินจดจ่ออยู่ก็เกิดประกายแวววาวในดวงตา ทันใดนั้นมือเขาก็กำแน่นขณะที่รอยยิ้มแขวนอยู่ที่มุมปาก

เขาโบกมือขณะยืนขึ้นบนเรือและบ่นพึมพำกับตัวเอง “หวังว่าจะได้ผลนะ”

นี่เป็นครั้งแรกที่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้ามู่เฉินหลังจากเข้ามาที่นี่ หากสิ่งที่เขาสังเกตเห็นมีประโยชน์ก็คงเป็นไปได้ที่จะรวบรวมจิตทะเลสาบสวรรค์สามสิบดวง

อาจมากถึงที่ว่าถ้าเป็นไปอย่างราบรื่นเขาอาจจะคว้าขั้นสมบูรณ์ของการชำระล้างก็ได้!

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท