หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1151

ตอนที่ 1151

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1151 จิตทะเลสาบสวรรค์ดวงที่ร้อย?
ค่ายกลจำนวนมากปรากฏขึ้นในทะเลสาบสวรรค์

ซึ่งกำลังเปล่งความผันผวนของคลื่นหลิงรุนแรง ดันตัวจนเกิดลูกคลื่นขนาดใหญ่ โดยมีมู่เฉินนั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล เมื่อดวงตาของเขาค่อยๆ เปิดขึ้น แสงก็วูบวาบในส่วนลึกของนัยน์ตาสีดำสนิท คลื่นหลิงที่อยู่รอบตัวคล้ายกับมังกรตื่นขึ้นและความดุร้ายก็น่าตกใจนัก

“คลื่นหลิงของข้ามีพัฒนาการขึ้น”

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงที่แข็งแกร่งขึ้นรอบๆ ตัว มู่เฉินก็ยิ้ม การต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างเขากับเซี่ยหยู่ช่วยให้คลื่นพลังของเขายกระดับขึ้น ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นเก้าระยะต้นปลายสุดแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าดีใจนัก

เมื่อร่างกายกลับคืนสู่สภาพพร้อมรบ มู่เฉินก็ลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆ ร่องรอยการต่อสู้จางหายไปหมดแล้วไม่มีใครอยู่ที่นี่ ดูเหมือนคนเหล่านั้นที่ตั้งใจจะฉวยโอกาสก็ถอยออกไปหมดแล้ว

แต่ก็ดีที่พวกมันถอยไปเร็ว ถ้าเกิดยังโผล่ให้เห็นตอนนี้ มู่เฉินก็ไม่ลังเลที่จะปล้นพวกมันอีก

“เวลาบีบเข้ามาทุกที ข้าต้องรีบเก็บจิตทะเลสาบแล้ว!” มู่เฉินไม่ได้ใส่ใจคนอื่นมากนัก เขาสงบใจ เตือนตัวเองถึงการชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ที่เป็นเป้าหมายหลัก เขาจะไม่ยอมแพ้ต่อเรื่องนี้แน่นอน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้มู่เฉินก็จดจ่อที่ค่ายกลอีกครั้งก่อนที่เขาจะเริ่มเสริมสร้าง หลังจากใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเขาก็ปัดมือด้วยความพึงพอใจ

ค่ายกลแผ่ขยายไปรอบตัวอย่างต่อเนื่อง พลังของพวกมันทำให้แม้แต่มู่เฉินเองยังตกใจ ตามการคาดการณ์ของเขา ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มก็ยังต้องประสบกับหายนะร้ายแรงเมื่อเข้าสู่กับดักนี้

เมื่อวางกับดักเสร็จ มู่เฉินก็สร้างค่ายกลบรรจบจิตอีกค่ายกลไว้ตรงศูนย์กลางค่ายกลเหล่านี้ นอกจากนี้ก็ยังแข็งแกร่งกว่าค่ายกลก่อนหน้าและผลก็แกร่งกร้าวยิ่งขึ้น

จบกระบวนการมู่เฉินก็ล่าถอยซ่อนความผันผวนของพลังงานไว้ในค่ายกล

ดังนั้น…การตกปลาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

ในทะเลสาบสวรรค์ขนาดใหญ่

ความคึกคักสามารถมองเห็นได้ทั่วด้วยร่างเงาที่พาดผ่านไปมา ขณะที่แต่ละคนค้นหาจิตทะเลสาบกันให้ควั่ก

ตอนแรกทุกคนดูถูกพลังของก้อนจิตเหล่านี้ ดังนั้นจึงต้องจ่ายราคาแพงออกไป คนโชคร้ายบางคนถึงกับถูกทำลายการป้องกัน ร่างสูญสิ้นเหลือเพียงเถ้าถ่านโปรยลงในน้ำ

หลังจากที่รู้ว่าก้อนจิตเหล่านี้มีปัญหาเพียงใด คนที่ยังไม่บรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับผู้อื่นเพื่อตามล่าจิตทะเลสาบ

ทว่าประสิทธิภาพของวิธีนี้ต่ำและอาจมีปัญหาในการกระจายก้อนจิต นี่เป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับพวกเขา ในท้ายที่สุดอาจมีการเข่นฆ่ากันเองด้วย

สำหรับคนที่มีพลังมากพอที่จะล่าจิตทะเลสาบด้วยตัวเอง พวกเขาจะเข้าไปในส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์ค้นหารอบๆ เมื่อค้นพบจิตทะเลสาบการต่อสู้ก็จะระเบิดขึ้น ทำให้เกิดคลื่นสูงดันตัวนับไม่ถ้วน

ทั่วทะเลสาบสวรรค์ลุกเป็นไฟ

ส่วนเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์นี้

ตู้ม!

ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารคำรามในปราการ มังกรขนาดใหญ่ทะยานขึ้นกลายเป็นเกลียวแสงไร้ขอบเขตฟาดฟันกับจิตทะเลสาบ ทันใดนั้นจิตทะเลสาบก็รู้สึกได้ถึงผลกระทบหนักหน่วง แสงของพวกมันจางลงก่อนที่จะถูกลดทอนเป็นก้อนผลึก

มู่เฉินยื่นมือออกไปคว้าก้อนจิตเหล่านั้นพร้อมกับรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า

หลังจากตกปลาทั้งวันเขาก็ได้รับจิตทะเลสาบสวรรค์หกสิบสองดวงแล้ว!

จากการคาดเดาของมู่เฉิน เขาน่าจะเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะได้รับก้อนจิตจำนวนดังกล่าวด้วยความช่วยเหลือของค่ายกล แต่มู่เฉินก็ไม่เชื่อว่าเซียวเซียว หลินจิ้ง จู้เยี่ยนและจาโหลหลัวจะไม่มีกลยุทธ์อะไรในแขนเสื้อ ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นใจมากพอที่จะคิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่ง

“ด้วยจิตทะเลสาบสวรรค์หกสิบสองดวง ข้าน่าจะได้รับการชำระล้างขั้นสูง” มู่เฉินครุ่นคิดขณะเลียริมฝีปาก แม้ว่าเขาจะได้รับชำระล้างขั้นสูงซึ่งก็พอใจอยู่ แต่ใครเล่าจะไม่ปรารถนาที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด? ด้วยความช่วยเหลือของค่ายกลเขาน่าจะตั้งเป้าหมายให้ได้รับจิตทะเลสาบร้อยดวงเพื่อการชำระล้างที่สมบูรณ์แบบได้

“มาลองดูกันเถอะ” มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อเปิดใช้ปราการค่ายกล

อีกหนึ่งวันผ่านไป

ครืน!

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตพลุ่งพล่านในปราการค่ายกล ระลอกการโจมตีพุ่งเป้าไปที่จิตทะเลสาบที่ติดอยู่ภายในอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การโจมตีทุกครั้งจะทำให้แสงรอบจิตทะเลสาบนั้นจางลง

มู่เฉินยืนอยู่ด้านนอกค่ายกลมองไปที่จิตทะเลสาบที่กำลังหรี่แสงลงอย่างรวดเร็ว แม้จะมีความสงบเขาก็ไม่สามารถซ่อนความสุขบนใบหน้าได้

นั่นเป็นเพราะเขาได้รับก้อนจิตมาแล้วเก้าสิบเก้าดวงและที่อยู่ในค่ายกลตอนนี้คือดวงที่ร้อย!

ว่ากันว่าด้วยก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์ร้อยดวง เขาจะสามารถได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์แบบของทะเลสาบสวรรค์ได้!

“การชำระล้างทะเลสาบสวรรค์ขั้นสมบูรณ์ก็ดูไม่ยากนี่น่า”

มู่เฉินยิ้ม แต่หัวคิ้วก็ต้องขมวดเล็กน้อยเมื่อรอยยิ้มปรากฏขึ้นเนื่องจากเขารู้สึกคลุมเครือว่ามีบางอย่างผิดปกติ นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกว่าการชำระล้างทะเลสาบสวรรค์ขั้นสมบูรณ์ดูเหมือนจะไม่ยากอย่างที่คิดไว้

แม้ว่าจะใช้ค่ายกลแต่มู่เฉินไม่เชื่อว่าด้วยรากฐานของวังสวรรค์บรรพกาลในสมัยโบราณ ศิษย์อัจฉริยะต่างๆจะคิดไม่ถึงวิธีนี้

แต่ทำไมมีศิษย์เพียงไม่กี่คนที่ได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์ของทะเลสาบสวรรค์กัน?

มู่เฉินขมวดคิ้วขณะที่ครุ่นคิด แต่ก็ไม่มีเวลาหรูหราที่จะมาพิจารณา ไม่ว่าอย่างไรรอให้ได้รับจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยก่อน ดังนั้นเขาจึงสงบตัวเองและเริ่มใช้ค่ายกลเพื่อทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ฮึ่ม

หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดจิตทะเลสาบก็จางลง กลายเป็นก้อนอัญมณีจิตก่อนจะพลิ้วลงในมือของมู่เฉิน

หลังจากได้รับจิตทะเลสาบสวรรค์ดวงที่ร้อย มู่เฉินก็ตบมันไปที่ป้ายมังกรทองคำที่อยู่ใต้เท้าทันที

ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์มีความพิเศษอย่างยิ่ง ต้องใช้ป้ายในการเก็บเท่านั้น นอกจากนี้ป้ายยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในการกระตุ้นการชำระล้าง ตราบใดที่เขาวางก้อนอัญมณีจิตดวงที่ร้อยไว้ภายในได้ เขาก็จะกระตุ้นการชำระล้างได้

ปัง!

ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์พุ่งไปยังป้ายมังกรทองคำ แต่ขณะนั้นก็มีบางอย่างที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ก้อนอัญมณีจิตไม่สามารถเข้าไปได้ ตรงกันข้ามกลับถูกปฏิเสธ จนมันต้องบินกลับมาอยู่ในมือของมู่เฉิน

“นี่…?”

มู่เฉินอึ้งไปกับฉากนี้ขณะมองไปที่ป้ายมังกรทองคำที่อยู่ใต้เท้าด้วยความตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ว่าทำไมก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยจึงถูกปฏิเสธ

“มีปัญหาจริงด้วย” มู่เฉินหายจากอาการตกใจอย่างรวดเร็วพร้อมกับขมวดคิ้ว ถ้าเขาไม่สามารถวางก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยลงในป้ายมังกรทองคำได้ เขาก็จะเปิดพิธีชำระล้างขั้นสูงได้เท่านั้น

โดยทั่วไปป้ายมังกรทองคำไม่ควรมีปฏิกิริยาเช่นนี้ หรือว่านี่ไม่ใช่ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยของแท้? หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยมาจากไหน?

มู่เฉินครุ่นคิดครู่ต่อมาก็กระทืบเท้า เรือมังกรทองคำสั่นสะท้าน ทันใดนั้นก้อนอัญมณีก็บินฉวัดเฉวียนไปมาที่เบื้องหน้ามู่เฉิน นี่ก็คือก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบทั้งเก้าสิบเก้าดวงที่มู่เฉินได้รับ

มู่เฉินยื่นมือออก คลื่นหลิงก่อตัวเป็นก้อนแสงห่อหุ้มก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบทั้งเก้าสิบเก้าดวงไว้

สายตาเขาจับจ้องไปที่ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระหว่างพวกมัน เขาเชื่อว่าต้องมีวิธีที่จะได้รับก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อย แต่เขายังหาไม่ค้นพบ

ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวงลอยเงียบๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ใบหน้ามู่เฉินเริ่มไม่น่ามอง หรือว่าพิธีที่เรียกว่า ‘การชำระล้างขั้นสมบูรณ์’ นั้นไม่มีอยู่จริง? หรือเป็นเพราะวังสวรรค์บรรพกาลล่มสลายไปแล้วจึงมีข้อบกพร่องในการชำระล้างของทะเลสาบสวรรค์?

ครืน!

ทันใดนั้นทะเลสาบสวรรค์ก็สั่นไหว ความผันผวนแปลกประหลาดปรากฏขึ้นเหนือเวิ้งน้ำ

เมื่อรู้สึกถึงมู่เฉินก็หดตาลง นั่นคือคลื่นความผันผวนการชำระล้างของทะเลสาบสวรรค์

ดูเหมือนว่ามีใครบางคนเข้าสู่พิธีการชำระล้างแล้ว

ตู้ม ตู้ม!

เมื่อการรับการชำระล้างครั้งแรกเกิดขึ้น ความผันผวนแปลกประหลาดไม่รู้จบก็แพร่กระจายออกไปรอบๆ ทะเลสาบสวรรค์ ชัดว่ามีหลายคนเริ่มกระตุ้นพิธีการขึ้นเช่นกัน

เมื่อการชำระล้างทะเลสาบสวรรค์ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงแรงลอยตัวที่เล็ดลอดออกมาจากเวิ้งน้ำราวกับว่าต้องการที่จะขับไล่คนที่อยู่ภายในออกไป

“ใกล้หมดเวลาแล้วสินะ” มู่เฉินเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าทะเลสาบสวรรค์กำลังจะปิดตัวในไม่ช้า

แต่เขายังไม่ได้รับก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อย! หรือว่าเข้าต้องรับการชำระล้างขั้นสูงแทน?

มู่เฉินเม้มปากแน่นพลางจ้องเขม็งไปที่ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวงที่เบื้องหน้า อึดใจต่อมาม่านตาเขาก็หดลงเล็กน้อย

“นี่คือ…”

มู่เฉินขมวดคิ้วเพราะตระหนักว่าเมื่อก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์สัมผัสกัน บางส่วนก็สว่างขึ้นเล็กน้อยขณะที่บางส่วนหม่นแสงลงเล็กน้อย…

เมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้เหมือนกับว่าก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์กลืนกินพลังงานกันและกัน

การเปลี่ยนแปลงนี้เบาบางมากจน กระทั่งมู่เฉินก็มองข้ามไปตลอด

สายตาของมู่เฉินวูบไหวหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็พึมพำ “หรือว่าจะเป็น…การกลืนกิน?”

หรือว่าก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยไม่ใช่สิ่งที่ได้จากภายนอก แต่จะปรากฏขึ้นท่ามกลางก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบทั้งเก้าสิบเก้าดวง?

“จะลองเสี่ยงดูไหม?”

สีหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไปไม่หยุด เพราะถ้างานนี้เดาไม่ถูกก็หมายความว่าความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า เพราะเขาไม่มีเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดแล้ว

แม้แต่มู่เฉินก็ลังเลที่จะเลือกในเวลานี้

ทว่ามู่เฉินเป็นคนเด็ดขาด ไม่นานสายตาก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ ความแตกต่างระหว่างขั้นสูงกว่าและขั้นสมบูรณ์แบบไม่ใช่แค่ระดับ หากเขาได้สิ่งที่สมบูรณ์แบบก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับตนเองที่จะบุกเข้าไปในระดับตี้จื้อจุนในอนาคต

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เสี่ยงโชคกันหน่อย!

มู่เฉินตัดความลังเลใจ ทิ้งรอยประทับไว้ที่ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวงก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ

ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวงบินฉวัดเฉวียนออกไป เมื่อพวกมันสัมผัสกับน้ำในทะเลสาบสวรรค์ก็เริ่มที่จะกินคลื่นหลิงอีกครั้ง ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบทั้งเก้าสิบเก้าดวงก็เปล่งประกายแวววาว

ก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวงเปลี่ยนกลับไปอยู่ในรูปของจิตทะเลสาบ ทุกดวงกะพริบราวกับดวงดาวปรากฏอยู่ภายในปราการค่ายกล

เมื่อจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าด้วงปรากฏขึ้นพร้อมๆ กัน คลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็ทำให้มู่เฉินตกตะลึง

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ มู่เฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าจากนั้นพุ่งไปที่ขอบทะเลสาบสวรรค์ ไม่มีอะไรสำหรับเขาที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว หากสิ่งที่เขาเดาถูกต้อง ด้วยตราประทับที่ทิ้งไว้ เขาก็จะได้รับจิตทะเลสาบกลับคืนมา

หากสิ่งที่เขาเดาผิด เขาจะไม่ได้รับกระทั่งการชำระล้างขั้นต่ำ

คราวนี้ก็ถือเป็นว่าเสี่ยงโชคกันหน่อยเถอะ!

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท