“ห้าเนตร…”
เซียวเหยียนและหลินต้งมองไปที่ร่างเบื้องหน้าด้วยสายตามืดครึ้ม ภายใต้สภาวะนี้เทพปีศาจทรงพลังมาก แม้แต่พวกเขาสองคนก็รู้สึกถึงแรงกดดัน
“ปีศาจตัวนี้ลึกล้ำเกินหยั่งรู้จริงๆ” เซียวเหยียนถอนหายใจ
“แต่ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องตายในวันนี้!” หลินต้งพูดด้วยความเย็นชาพล่านในดวงตา ตัวเขาเต็มไปด้วยความชังชิงต่อเผ่าปีศาจ
“ข้าก็คิดเช่นกัน” เซียวเหยียนยิ้มขณะที่เปลวไฟลุกโชนในดวงตา
ตู้ม!
ทันใดนั้นร่างกายทั้งสองก็สั่นสะท้าน อึดใจต่อมาคลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็รวมตัวกันกลายเป็นมหาสมุทรพลังหลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่เบื้องหลัง
ซ่า ซ่า
เมื่อมหาสมุทรโหมกระหน่ำ การไหลเวียนชัดเจนก็ดังก้อง แสดงให้เห็นว่าคลื่นหลิงนี้ไม่ใช่ของปลอม แต่เป็นเพราะความหนาแน่นทำให้ก่อตัวเป็นมหาสมุทร
จากสิ่งนี้ทุกคนก็เห็นได้ว่าความสามารถในการควบคุมคลื่นหลิงในฟ้าดินของทั้งสองมาถึงจุดที่น่าสะพรึงกลัวเพียงใด
เซียวเหยียนสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากมหาสมุทร ควบแน่นกันเป็นดอกบัวอย่างรวดเร็ว ดอกบัวทุกดอกมีความผันผวนของการทำลายล้าง
ที่เบื้องหลังหลินต้งมหาสมุทรพลังหลิงถูกปกคลุมไปด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่บินฉวัดเฉวียนไปมา พลังงานเหล่านั้นบางครั้งจะหลอมรวมและแยกออกจากกันทำให้ยากที่จะป้องกัน
เมื่อเซียวเหยียนและหลินต้งออกกระบวนท่าก็ไม่มีรั้งรอ แม้แต่เหล่าจอมปีศาจก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปพลางถอยห่าง
มีเพียงเทพปีศาจเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง ม่านตาทั้งห้าสั่นไหวด้วยรัศมีน่าขนพองสยองเกล้า เบื้องหลังรัศมีปีศาจที่รุนแรงนำมาซึ่งพลังอันน่าสะพรึงกลัว
เทพปีศาจเงยหน้าขึ้นเสียงเฉยเมยดังก้อง “น้ำตกปีศาจ”
ตู้ม!
รัศมีปีศาจไร้ขอบเขตกวาดไปบนท้องฟ้าแล้วเทลงมาจากขอบฟ้าราวกับน้ำตกสีดำ ปิดกั้นไว้ที่เบื้องหน้า
น้ำตกสีดำอัดแน่นด้วยพลังที่น่ากลัว มิติเบื้องล่างพังทลายลง
ชี่ ชี่!
ดอกบัวหมุนคว้างเข้าสู่น้ำตกมืดมิด จากนั้นก็เกิดการระเบิดรุนแรง ทำให้น้ำตกแตกเป็นเสี่ยงๆ
ก่อนที่น้ำตกสีดำจะฟื้นตัว สายฟ้า น้ำแข็ง ไฟและพลังธาตุอื่นๆ ก็ซัดเข้ามา
เมื่อพลังงานเหล่านั้นฝังเข้าไปในม่านสีดำ ผลกระทบที่รุนแรงก็ดังก้อง น้ำตกสีดำถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
พลังงานค่อยๆ หายไปเหลือเพียงมิติที่ยุบตัวเท่านั้น
สายตาเย็นเยือกสามคู่สาดประกายไฟบินว่อนในอากาศ
วาบ!
เซียวเหยียนกระชับดาบใหญ่หัวตัดสีดำ ก่อนที่จะกลายเป็นริ้วแสงพุ่งเข้าใส่เทพปีศาจ
“ดาบเพลิงสวรรค์โบราณ!”
เสียงคำรามดังก้องพร้อมกับเพลิงร้อนแรงรวมตัวที่เบื้องหน้าเป็นไม้บรรทัดใหญ่ที่เอิบอาบไปในเปลวไฟที่น่ากลัว
ดาบใหญ่ในมือของเซียวเหยียนรวมเข้ากับดาบเปลวไฟ เมื่อรวมเข้าด้วยกันก็ทำให้เกิดความผันผวนที่น่ากลัว
“คทาจักรพรรดิสายฟ้า!”
สายฟ้าปกคลุมในมือของหลินต้งขณะคทาปรากฏขึ้น มือกำคทาสะบัด สายฟ้าก็แล่นแปลบปลาบที่ใต้ฝ่าเท้าเขา ทะลุผ่านมิติพุ่งไปยังเทพปีศาจ
“ควับ!”
ดาบเพลิงฟันลงมา ฉีกสวรรค์และโลกออกจากกันด้วยความผันผวนที่เห็นได้
คทาสายฟ้าเหวี่ยงออกไป มังกรสายฟ้าที่ขดอยู่รอบๆ ก็โหมกระหน่ำด้วยภาพมายา ทุกกระบวนท่านำมาซึ่งการทำลายล้างยิ่งใหญ่
เมื่อเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามออกกระบวนท่าในเวลาเดียวกันก็สั่นสะเทือนไปทั้งโลกา
เผชิญหน้ากับเซียวเหยียนและหลินต้งที่ทำงานร่วมประสาน แม้แต่เทพปีศาจก็ไม่กล้าดูถูก การแสดงออกน่ากลัว เขากำมือรัศมีปีศาจรวมตัวกันกลายเป็นหอกสีดำ
หอกปีศาจสลักด้วยใบหน้านับไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงโหยหวนแหลมคม คลื่นเสียงสามารถทำให้คลื่นหลิงของทุกคนควบคุมไม่ได้จนระเบิดออก
วาบ!
หอกในมือของเทพปีศาจแทงออกมาพร้อมกับรัศมีปีศาจผันผวน อึดใจปลายหอกก็สั่น ตัวหอกกลายเป็นมังกรปีศาจพุ่งออกมาปะทะกับดาบเพลิงและคทาสายฟ้า
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกันดังกึกก้อง แรงกระทบก็กวนตัวเป็นชั้นพายุทำให้มิติพังทลายลงจากคลื่นกระแทกที่มองเห็นได้อย่างต่อเนื่อง มากจนแม้แต่สะเก็ดมิติยังไม่สามารถทนรับคลื่นกระแทกได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อมู่เฉินและจอมยุทธ์คนอื่นๆ เห็นฉากนี้ก็อดตกใจไม่ได้ เนื่องจากคลื่นกระแทกของการต่อสู้ในระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งจะสามารถทนได้
เคร้ง เคร้ง!
บนท้องฟ้าเหนือดินแดนวั้นมู่ การปะทะกันของสามจักรพรรดิก็ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขณะที่พวกเขาโรมรันพันตู ดาบเพลิง คทาสายฟ้าและหอกปีศาจก็นำความผันผวนของการทำลายล้างออกมาพร้อมกับการปะทะกัน
ในเวลาไม่กี่นาทีทั้งสามก็แลกกระบวนท่ากันมากกว่าพันกระบวนท่าแล้ว
ดวงตาของมู่เฉินจับจ้องไปที่มิติตรงหน้าขณะที่แสงรวมตัวกันในนัยน์ตา ทว่าเขาก็เห็นเพียงร่างเงาทั้งสาม ไม่สามารถมองตามความเร็วนั้นไปได้
“ระดับนี้…ทรงพลังจริงๆ” มู่เฉินกำหมัดแน่นพร้อมกับเลือดเดือดพล่าน นี่คือสุดยอดจอมยุทธ์อย่างแท้จริง
จอมปีศาจเซิ่งเทียนและคนอื่นๆ ก็มองไปที่ฉากนี้เช่นกัน ครู่ต่อมาเขาก็แสดงความคิดเห็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามไม่ธรรมดาจริงๆ”
ความร่วมมือของทั้งสองเทพจักรพรรดิน่ากลัวมาก ถึงขนาดที่แม้แต่เทพปีศาจก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“เราจำเป็นต้องเคลื่อนไหวไหม?” จอมปีศาจอั้นเทียนถามขึ้น
เหลือมมองไปที่ดินแดนวั้นมู่จอมปีศาจเซิ่งเทียนก็ถอนหายใจพลางส่ายหัว “แม้เราจะจัดการกับจอมยุทธ์เหล่านั้นได้ แต่ก็สั่นคลอนมหาพันภพไม่ได้ ตราบใดที่เทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามยังคงอยู่”
“ตอนนี้เราได้แต่หวังว่าท่านเทพปีศาจจะสังหารทั้งสองคนได้”
ตึง!
หอกปีศาจคำรามขณะที่ระเบิดออกมาพร้อมกับรัศมีปีศาจมากมายปะทะกับดาบใหญ่เพลิงและคทาสายฟ้า ขณะที่ลอนคลื่นระเบิดทั้งสามก็ถูกเป่าออกจากกัน
ทั้งสามคนทรงตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
“เจ้าสองคนไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเทพจักรพรรดินิรันดร์ในอดีตเลย มหาพันภพโชคดีแท้จริง” หอกปีศาจของเทพปีศาจสั่นไหวขณะที่เขาพูดออกมา
ใบหน้าของหลินต้งเย็นเยือกลง แต่เขาไม่คิดที่จะโต้เถียงอะไรกับเทพปีศาจ เขามองไปที่เซียวเหยียนพูดว่า “ปีศาจตัวนี้มีพลังมากเกินไป เรายั้งมือไม่ได้”
เซียวเหยียนหายใจออกรุนแรง พลางพยักหน้าเบาๆ และหลับตาลง อึดใจก็ลืมตาโพลงพร้อมกับเพลิงจักรพรรดิลุกโชนในดวงตา
ฟู่!
ไม่ช้าเพลิงจักรพรรดิก็พวยพุ่งออกมาโอบล้อมร่างเซียวเหยียน มหาสมุทรคลื่นหลิงไร้ขอบเขตที่อยู่เบื้องหลังก็เริ่มลุกไหม้
ในส่วนลึกของมหาสมุทรเริ่มปะทุขึ้น จากนั้นทุกคนก็มองเห็นดอกบัวหมื่นจั้งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ดอกบัวนั้นพราวด้วยสีสันต่างๆ ทุกสีเป็นตัวแทนของเปลวไฟสวรรค์ที่แทรกซึมไปด้วยพลังน่าสะพรึงกลัว
ความกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้ปล่อยออกจากดอกบัวทำให้ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
ในเวลาเดียวกันหลินต้งก็ออกกระบวนท่า มือเขาประสานกันก่อนจะค่อยๆ ดึงออกจากกัน ทันใดนั้นรัศมีไร้ขอบเขตก็พลุ่งพล่าน สีสันทั้งแปดสีที่แตกต่างรายล้อมรอบร่าง
สามารถมองเห็นลวดลายโบราณทั้งแปดได้คลุมเครือ
“จะเทหมดหน้าตักแล้วเรอะ… แต่คิดว่าข้าจะกลัวรึไง?!” เทพปีศาจหดตาลง จากนั้นใบหน้าก็มืดครึ้มลงพลางสร้างตราประทับ ทำให้รัศมีปีศาจแปรปรวน
ประจันหน้ากับเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงคราม เทพปีศาจจักรพรรดิก็ไม่กล้าดูถูก แม้จะเปิดดวงตาทั้งห้าแล้วก็ตาม
ภายใต้สายตาตกตะลึงทุกคนสามารถมองเห็นดอกบัวขนาดใหญ่ลอยคว้างบนท้องฟ้าแล่นพล่านไปด้วยเพลิงจักรพรรดิ
ลวยลายทั้งแปดหมุนคว้างรอบตัวหลินต้งอย่างรวดเร็ว ดึงดูดพลังงานเอกภพให้เคลื่อนลงมา
รัศมีปีศาจไร้ขอบเขตรวมตัวกันเหนือร่างเทพปีศาจพร้อมกับไอชั่วร้ายพลุ่งพล่าน
ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นฝั่งมหาพันภพหรือฝั่งจักรวรรดิปีศาจ ใบหน้าของทุกคนล้วนเปลี่ยนไปขณะที่ถอยฉากออกมา
ใครๆ ก็บอกได้ว่าทั้งสองฝ่ายโชติช่วงไปด้วยเจตนาฆ่า พวกเขานำท่าสังหารออกมาเพื่อยุติการต่อสู้นี้แล้ว
การเผชิญหน้าดำเนินไปชั่วครู่ ก่อนที่ทั้งสามจะคำรามลั่น
“บัวเพลิงจักรพรรดิพุทธะพิโรธ!”
เซียวเหยียนเปล่งเสียงขณะที่ดอกบัวทะยานออกมา เบ่งบานส่งผ่านความผันผวนของการทำลายล้าง
“ตราประทับแปดเทวลิขิต!”
หลินต้งแตะนิ้วลงไป อักขระโบราณทั้งแปดก็หลอมรวมกันกระตุ้นพลังงานเอกภพ เปลี่ยนเป็นลำแสงทำลายล้างพุ่งไปยังเทพปีศาจ
“แผนภาพเทพสังหารห้าเนตร!”
เทพปีศาจประสานมือเข้าด้วยกันพลางสร้างตราประทับ บนท้องฟ้าที่มีรัศมีปีศาจเชี่ยวกราก แผนภาพก็ปรากฏขึ้นพลางคลี่ออก
สายตานับไม่ถ้วนจ้องมองกระบวนท่าทั้งสามที่พาดผ่านฟ้าดินขณะที่ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้าน เนื่องจากผลของการปะทะกันครั้งนี้จะชี้ชะตากรรมของมหาพันภพ…