ณ กลางดึก
ภายในอัลเบอัส
งานเลี้ยงฉลองยังคงดำเนินต่อไป
เสียงเพลงขับขาน ผู้คนร่ายระบำกันอย่างมัวเมา
และจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลาสามวันสามคืน ขณะที่รายจ่ายทั้งหมด จะถูกจัดการโดยราชวงศ์วิหคหนาม
แต่สำหรับอาณาจักรหนาม งานเลี้ยงฉลองเช่นนี้ ต่อให้มันดำเนินต่อเนื่องไปยาวนานกว่า 100 ปี ค่าใช้จ่ายของมันก็ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด
เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในดินแดนอัศจรรย์มาอย่างยาวนาน จนไม่อาจนับเดือนปีได้ ดังนั้นภายในคลังของอาณาจักร จึงย่อมเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมายที่ซ้อนทับๆกัน จนมิอาจคาดคำนวณถึงมูลค่าของมันได้
ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว จึงไม่มีใครกล้าคิดที่จะมีปัญหากับพวกเขา
เนื่องจากดินแดนอัศจรรย์ มันตั้งอยู่ในส่วนลึกสุดของโลก 900 ล้านชั้น และมันช่างยากเย็นแสนเข็นจริงๆ สำหรับคนทั่วๆไป หากคิดจะเดินทางไปที่นั่น
ไม่ต้องกล่าวถึงทุกชนิดของสถานการณ์อันตราย ที่อยู่ในดินแดนอัศจรรย์ แม้กระทั่งตัวตนทรงอำนาจจำนวนมากเพียงได้ยินได้ฟังก็ยังรู้สึกขนลุก
ดังนั้น อาณาจักรหนามจึงเป็นหนึ่งในรัฐที่ร่ำรวยที่สุดในตลอดทั้งโลก 900 ล้านชั้นอย่างแท้จริง
ชายที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งอยู่เบื้องหลังอัลเบอัส ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับวิหคหนาม ดังนั้นเขาจึงมีคุณสมบัติได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพของงานเลี้ยงฉลองเจ้าหญิงหนามในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ตัวตนทรงอำนาจที่กล่าวมา กลับปรากฏตัวขึ้นต้อนรับการมาเยือนของราชวงศ์วิหคหนามในวันแรกเท่านั้น
แต่หลังจากนั้น เขาก็หายตัวไป
-ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปที่ไหน
ทว่าก็หาได้มีใครใส่ใจกับเรื่องนี้ไม่
เพราะท้ายที่สุดนี้ ตัวละครหลักในช่วงวันเวลาสามวันสามคืนในปัจจุบัน ก็คือราชวงศ์วิหคหนาม
นับว่าทริสเต้ประสบความสำเร็จในการปิดบังทุกอย่างได้โดยสมบูรณ์
จนกระทั่งถึงตอนนี้ โชคชะตาเลวร้ายของตัวตนทรงอำนาจดังกล่าว คงจะมีเพียงเสี่ยวเหมียวและแบรี่เท่านั้นที่ตระหนักถึงมัน
ภายในห้องจัดเลี้ยง
คู่ดวงตาสีมรกตอันงดงามของแสงแห่งรุ่งอรุณทริสเต้ กวาดมองผ่านทุกคน เธอเอ่ยคำขอโทษไม่กี่คำแก่แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ก่อนจะขอแยกตัวออกมา
แล้วเธอก็มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม มองไปยังยอดหลังคาที่สามารถมองเห็นวิวของตลอดทั่วทั้งอัลเบอัส
กลุ่มก้อนเปลวเพลิงสีเขียวสว่างไสวขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
“เป็นอย่างไรบ้าง?” เธอเอ่ยถามเสียงต่ำ
องครักษ์ที่อยู่ที่นี่กล่าว “ท่านหญิง พอดีว่าพฤษาศักดิ์สิทธิ์กำลังจัดการเรื่องส่วนตัวอยู่ ดังนั้นผู้น้อยเลยยังไม่ทันจะได้ไถ่ถาม”
“เรื่องส่วนตัวงั้นหรอ?” ทริสเต้กล่าวอย่างคาดไม่ถึง
องครักษ์พยักหน้ายืนยัน
ทริสเต้ครุ่นคิดสักพัก แต่สุดท้ายก็เลือกก้าวเดินไปข้างหน้า
แล้วเธอก็หายวับไปจากชั้นบนสุด และปรากฏกายขึ้นอีกครั้งบนระเบียงโดยตรง กล่าวกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “จิตวิญญาณพฤษานิรันดร์ พฤษาศักดิ์สิทธิ์ สหายที่ดีที่สุดของข้า เทสส์ผู้ทรงเกียรติ ข้าต้องขออภัยจริงๆที่รบกวนเจ้าให้ช่วยตามหาเจ้าหญิงที่หนีไป ปัญหาในครั้งนี้ ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก”
แต่เฝ้ารออยู่ครู่หนึ่ง จิตวิญญาณพฤษาศักดิ์สิทธิ์ -เลดี้เทสส์ก็ยังมิได้ตอบเธอกลับมา
เหมือนกับว่าเธอจะกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการใช้เทคนิคมนตราบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่ไม่จำเป็นต้องรอนานนัก เพราะในเวลานี้ เปลวเพลิงสีเขียวที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณพฤษา จู่ๆก็หดแคบลงอย่างรวดเร็ว และกลับคืนสู่มือของเธอ
ตามต่อด้วยร่างเงาสองตนที่ผุดออกมาจากเปลวเพลิงสีเขียว ผลุบเข้าสู่หว่างคิ้วของเลดี้เทสส์
“เอ๊ะ? … แท้จริงแล้วเรื่องราวมันกลับเป็นเช่นนี้ … ”
ระหว่างกระบวนการ เรื่องราวที่สองร่างเงาได้พบเจอทั้งหมด ได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของเทสส์
ความเป็นจริงอันน่าตื่นตะลึงนี้ ส่งผลให้เปลวเพลิงในมือของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
ซึ่งการที่ท่าทีแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ มันนับว่าเป็นเรื่องยากเย็นที่จะพบเห็นได้จริงๆ
เห็นแค่เพียงเทสส์สะบัดมือที่กำลังสั่นไหว แสร้งแสดงว่าทีว่าจะดับเพลิงสีเขียวที่ลุกไหม้
ระเบียงชมวิว กลับคืนสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
เทสส์หันหลังกลับมามองฝ่ายตรงข้าม
เห็นแค่เพียงคู่มรกตของทริสเต้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด จ้องตรงมาที่เธอ
เธอสบตากับอีกฝ่าย
และอีกฝ่ายก็สบตาเธอ
จู่ๆเทสส์ก็ยิ้มออกมาทันใด “อย่าคิดมากไปเลย ลอร่าคือเด็กที่เราคอยเฝ้าดูเธอจนเติบใหญ่ ทุกครั้งที่เธอซุกซน มันก็จะสร้างอาการปวดหัวให้แก่ทุกคนเช่นนี้เป็นประจำนั่นแหละ”
“เช่นนั้นเจ้าหาเธอพบแล้วหรือยัง?” ทริสเต้ถาม
“ถ้าตอนนี้ล่ะก็ยัง แต่เรายังไม่ได้ไปค้นหาในพื้นที่ VIP เลย เพราะติดปัญหาตรงที่ว่า หากเราลงไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้ว มันอาจจะเป็นการรบกวนแขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆได้”
เทสส์ดูเหมือนจะลำบากใจเล็กน้อย แล้วเอ่ยต่อ “พวกตัวตนทรงอำนาจบางส่วนน่ะมักจะอารมณ์ร้อนซะด้วยสิ และนั่นคือเหตุผลที่เราไม่ต้องการที่จะเข้าไปค้นหาในพื้นที่ VIP ได้อย่างสะดวกใจ”
ทริสเต้พอได้ฟัง ก็จมลงสู่ความเงียบ
เธอจำต้องละความคิดในหัวไว้ข้างๆ แล้วนำปัญหานี้มาขบคิดอย่างจริงจัง
เพราะสำหรับวิหคหนาม การบุกเข้าไปในพื้นที่จัดเลี้ยง VIP นั่นนับว่าเป็นการหมิ่นเกียรติอีกฝ่าย ไร้ซึ่งมารยาทเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าเทคนิคมนตราตรวจจับของพฤษาศักดิ์สิทธิ์ ก็นับว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วในตลอดทั้งอัลเบอัสเช่นกัน
ดังนั้นเพื่อที่จะทำการค้นหาเจ้าหญิงลอร่า เธอจำเป็นต้องพึ่งพาเทสส์ ให้อีกฝ่ายเข้าไปค้นหาในพื้นที่ VIP
ซึ่งนั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันนี้
ทริสเต้คิดแล้วคิดอีก จนในที่สุดก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่เจ้าแก้ไขปัญหานี้ให้แก่ข้าได้ ข้าจะเป็นคนรับหน้าไม่ให้ทุกคนรู้สึกว่าถูกดูหมิ่นเอง”
“ลำบากเจ้าแล้ว” เทสส์กล่าว
ทริสเต้พยักหน้า โค้งกายขอบคุณลงอย่างสง่างามและเดินจากไป
บนระเบียงสูง หลงเหลือแค่เทสส์อยู่เพียงลำพังท่ามกลางความมืดมิด
หลังจากเฝ้ารอชั่วเวลาหนึ่ง จนมั่นใจว่าทริสเต้จากไปไกลแล้ว เทสส์ก็หันไปกล่าวสองสามคำในความว่างเปล่า
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ในที่สุด ในความว่างเปล่าก็เริ่มวูบไหว และปรากฏร่างของไก่ใหญ่บนระเบียงสูง
“ฉันพยายามแล้วนะ -”
แต่ทันทีที่มันเปิดปาก จะงอยของมันก็ถูกหุบลงโดยเทสส์ทันที
“ไปหาสถานที่อื่นคุยกันเถอะ”
เทสส์วางมือของเธอลงบนปีกไก่ และทั้งสองก็หายวับไป
ภายในโซนที่นั่งพิเศษ
ที่นี่ว่างเปล่า ทุกคนได้ออกไปกันหมดแล้ว
ขณะนั้นเอง ไก่ใหญ่กับเทสส์ก็ปรากฏตัวขึ้นทันใด
“เอ๋? แล้วเจ้าเด็กกู่ไปอยู่ที่ไหนแล้ว?” ไก่อุทานด้วยความสงสัย
“เราขอให้เขาไปจัดการเรื่องบางอย่างให้น่ะ ตอนนี้อย่าพึ่งพูดถึงเขาเลย ทางฝั่งเจ้าได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง?”
ไก่ใหญ่กล่าว “ฉันพยายามแล้วนะ แต่ตลอดทั้งอัลเบอัสมันตกอยู่ในการปิดล้อมอันน่าแปลกประหลาดอย่างคาดไม่ถึง ข่าวสารใดก็ตามที่ถูกส่งออกไปภายนอกจะสลายไปในความว่างเปล่า แต่คนที่ส่งข่าวสารออกไป กลับไม่สามารถทราบถึงเรื่องนี้ได้เลย”
เทสส์เอ่ยถาม “หรือในอีกความหมายนึงก็คือ ที่นี่ไม่มีใครสามารถส่งข้อความออกไปได้สินะ?”
“ใช่”
ไก่ใหย่ยกสองปีกขึ้นกอดอก อ้าขยับจะงอยด้วยด้วยความฉงน “ตั้งแต่ที่อาณาจักรหนามทำแบบนี้ อย่าบอกนะว่า … ”
“ไม่มีทางที่จะส่งข่าวได้เลยหรือ? ไม่มีวิธีแล้วจริงๆ? เราอยากจะทราบถึงข้อเท็จจริงนี้จากปากผู้เชี่ยวชาญในด้านการส่งข่าวเช่นเจ้า” เทสส์มองไก่และถามต่อ
ไก่ใหญ่พอถูกเธอชมก็อดไม่ได้ที่จะยืดอกขึ้น ปากเอ่ยกล่าวอย่างภาคภูมิ “ใช่ ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการส่งข่าว หากต้องการจะส่งข่าวใดๆ ตัวฉันยินดีที่จะให้บริการ … แต่เฉพาะคุณเท่านั้นนะ! ”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แล้วจะทำได้อย่างไร?” เทสส์เอ่ยถาม
“ดูนี่นะ–”
ไก่ใหญ่ขบจะงอย ฝืนทนความเจ็บปวด และดึง! ขนยาวสีขาวออกมาจากบนร่างเขา
“ขนไก่ของฉันมีคุณสมบัติทะลวงผ่านอุปสรรคทั้งหมด หากคุณมีข้อความเร่งด่วนจริงๆแล้วล่ะก็ สามารถใช้ขนไก่ของฉันได้”
มันถือขนไก่ยาวสีขาว คุกเข่าลง และยื่นให้แด่เทสส์
“ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็แค่ใส่ความคิดลงไปในขนไก่ และทำสมาธิเรียกชื่อของบุคคลคนนั้น” ไก่อธิบาย
“เจ้าสิ่งนี้จะไม่ถูกสกัดกั้นใช่ไหม?”
“ขอรับประกันเลยว่าไม่” ไก่ตบหน้าอกของตัวเอง
เทสส์หยิบขนไก่มา และถ่ายเทข่าวสารบางอย่างเข้าไปในขนนกอย่างรวดเร็ว
และเธอก็เปล่งชื่อของชายคนหนึ่ง
ขนนกหายวับไปทันที
เทสส์หลับตาลง และเฝ้ารอคอยอย่างเงียบๆ
ในการรับรู้ของเธอ ตลอดทั้งอัลเบอัสไม่พบเจอสิ่งผิดปกติใดๆ และไม่มีใครสังเกตเห็นว่าขนไก่ได้บินออกจากโลกใบนี้ไปแล้ว
“มันจะสามารถตามหาเป้าหมายได้จริงๆใช่ไหม?” เทสส์ลืมตาขึ้นและเอ่ยถาม
“ใช่แล้ว โปรดมั่นใจได้เลยว่ามันจะไปถึงมือของคนๆนั้นด้วยตัวมันเอง” ไก่ใหญ่กล่าวอย่างภาคภูมิ
“วางใจได้ใช่ไหมว่าระหว่างทาง มันจะไม่ถูกสกัดกั้นโดยสิ่งใด”
“ขอรับประกันเลยว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นถึงมัน”
เทสส์นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากชม “นี่มันช่างเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมโดยแท้”
“แน่อยู่แล้ว การส่งข่าวสารด้วยขนไก่ของฉัน ไม่เพียงรวดเร็ว แต่มันยังสามารถรักษาความลับได้ในระดับสูงสุดอีกด้วย คุณมั่นใจได้เลย”
ไก่ใหญ่กำลังจะโม้ต่อ แต่จู่ๆเขาก็ตระหนักได้ว่าบรรยากาศมันไม่ถูกต้อง
เขาค่อยๆหันหัวไป และพบกับเทสส์ที่กำลังจ้องมองมาบนตัวเขาอย่างเงียบๆ
ดวงตาของอีกฝ่ายแปลกไปเล็กน้อย ส่งผลให้ในหัวใจของเขาเริ่มรู้สึกเย็นยะเยือก
“เอ่อคุณหญิง … มีอะไรรึเปล่า?” ไก่เอ่ยถาม
ความรู้สึกไม่ดีนี้ .. อย่าบอกนะว่าเธอต้องการจะกินไก่อีกแล้ว!?
ไก่อดไม่ได้ที่จะสรุปแบบนี้ออกมา
เห็นแค่เพียงเทสส์ที่ยื่นมือของเธอออกมา สัมผัสลูบไล้ลงบนใบหน้าของมัน ปากเอ่ยกล่าวอย่างนุ่มนวล “เรามีเรื่องสำคัญ สำคัญมากๆ และมันจำเป็นที่จะต้องให้เจ้าแสดงถึงความกล้าหาญนั้นออกมา”
ภายใต้การลูบไล้ออกเธอ ไก่ใหญ่คล้ายกับถูกยาโด๊ป มันกระพือปีกพับๆ และตะโกนก้อง “คุณหญิง ไม่ว่าจะบุกน้ำหรือลุยไฟ ตัวกระผมย่อมยินดีและไม่คิดปฏิเสธคำขอของคุณ!”
“จริงหรือเปล่า?”
“ไม่มีทางโกหกอย่างแน่นอน”
“ดีเลย พอดีว่าตอนนี้ตัวเรามีเรื่องเร่งด่วนที่สุด ที่จำต้องแจ้งแก่ 100000 ตัวตนทรงอำนาจตลอดทั้งโลก 900 ล้านชั้น”
“โอ้ แล้วยังไงต่อ?”
“เจ้าพอจะ … สามารถถอนขนไก่ทั้งตัวเพื่อเราจะได้หรือไม่?”