The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด – ตอนที่ 499

ตอนที่ 499

The Dark King – Chapter 499 ไม่มีประโยชน์

 

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

 

ไอช่าเดินไปบนกำแพงยักษ์พร้อมกับหอกเล่มใหญ่ที่อยู่ในมือของเธอ หอกเล่มนี้มีขนาดใหญ่กว่าร่างกายของเธอเสียอีก จากนั้นเธอก็ลงมาบนถนนที่ผ่านระหว่างป่าและบางครั้งจากก้อนหินหรือตกลงบนพื้น

 

เธอเดินไปได้ครึ่งทางจากนั้นก็หันกลับมาและได้เห็นใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา

 

ดวงตาของเธอหรี่ลงขณะที่ริมฝีปากของเธอกำลังยิ้มขึ้นมา

 

เทียนเดินตามชายหนุ่มผมสีทองและอีก 7 คนที่เหลือไปอย่างเงียบๆ จิตใจที่สับสนวุ่นวายของเขาค่อยๆสงบลง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าช่วงเวลาที่เขาได้ใช้กับไอช่านั้นเป็นเพียงเรื่องโกหกและทั้งหมดเป็นกับดัก! จุดประสงค์ที่เธอมอบเรือนร่างแห่งพระเจ้าและเคล็ดวิชาการต่อสู้ของตระกูลดราก้อนให้กับเขาก็เพื่อใช้มันเป็นหลักฐานในการจับกุมตัวเขาในครั้งนี้!

 

“นี่แปลว่าเธอไม่อยากจะฆ่าฉัน!” เทียนคิดในใจ ความจริงแล้วด้วยความแข็งแกร่งของไอช่าเธอสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย การที่เธอทำแบบนี้คงมีเหตุผลอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือเธอคงสืบประวัติของเขาทั้งหมดแล้วและรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เธออาจจะใช้เขาเพื่อเป็นข้อต่อรองกับมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์

 

คนของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้ขโมยเคล็ดวิชาการต่อสู้ของตระกูลดราก้อนไป… เธอสามารถใช้เรื่องนี้โจมตีได้เป็นอย่างดี

 

อย่างที่สองก็เพื่อใช้ประโยชน์จากเขา ตระกูลดราก้อนอาจจะต้องการให้เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์อะไรบางอย่างขึ้นมา

 

“อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน …” เทียนยิ้ม “ถือว่าเราได้ตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างแล้วในตอนนี้”

 

ชายหนุ่มผมสีทองหันกลับมาหาเทียนและตะโกนกลับมา “รีบตามมาเร็วๆสิวะ!”

 

เทียนไม่สนใจชายหนุ่มคนนี้แต่เขาก็ก้าวเท้าให้เร็วขึ้น เขาคิดว่าตนเองสามารถหนีไปได้ด้วยการใช้เล่ห์กลต่างๆแต่มันคงไม่มีประโยชน์อะไรเพราะเขาคงถูกจับตัวได้อย่างแน่นอน

 

เวลา 2 ชั่วโมงผ่านไปในพริบตา

 

ความเร็วของพวกเขาช้าลงหลังจากที่พวกเขามาถึงสถานที่ที่โล่งกว้าง

 

เทียนคิดว่าที่แห่งนี้คล้ายคลึงกันกับเส้นทางลับที่จะออกไปยังด้านนอกกำแพงยักษ์

 

ฟึบ!

 

ชายหนุ่มผมสีทองเดินนำไปทันที

 

อีก 7 คนที่เหลือก็รีบเดินตามไปขณะที่พวกเขาล้อมรอบเทียนเอาไว้

 

โครงสร้างของพื้นที่แห่งนี้คล้ายคลึงกับเส้นทางลับที่ใช้ออกไปสู่ด้านนอกกำแพงยักษ์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปเทพธิดาทั้งสองด้านของผนัง

 

พวกเขาเดินไปตามเส้นทางนี้และออกไปยังอีกฟากหนึ่ง

 

เทียนเห็นว่ามีสัตว์ขี่ 8 ตัวที่ถูกประดับด้วยอานม้าเป็นอย่างดี พวกมันดูเหมือนกิ้งก่าและมีขนาดเท่ากับวัวตัวเต็มวัย ที่ศีรษะและขาของพวกมันมีเกราะเหล็กสวมใส่อยู่ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นมาทันที เขาเคยเห็นสัตว์ร้ายพวกนี้ในสารานุกรม พวกมันมีชื่อว่ามังกรหินผา รูปร่างลักษณะของพวกมันนั้นคล้ายคลึงกันกับมังกรในตำนาน ตามที่คัมภีร์ระบุไว้มังกรหินผานั้นสืบสายมีสายเลือด 1 ใน 1000 ของมังกรในตำนานที่อยู่ในร่างกายของพวกมัน

 

อย่างไรก็ตามมังกรหินผานั้นถือเป็นสัตว์ร้ายหายากในสารานุกรม

 

“ออกเดินทางได้แล้ว!” ชายหนุ่มผมสีทองตะโกนใส่เทียน

 

เทียนเดินตามเขาไปขณะที่พวกเขานั่งลงบนมังกรหินผา ในตอนที่มือซ้ายของเขาสัมผัสกับหลังของมังกรหินผามันก็พยศขึ้นมาทันที

 

เทียนรีบยกมือซ้ายของเขาขึ้นมาทันที ชายหนุ่มผมสีทองหันไปมองเทียนที่นั่งอยู่ด้านหลังเขา เขายกมือของตนเองขึ้นมาและมังกรหินผาก็สงบลงอีกครั้ง

 

“ท่านองค์หญิงร้อง พวกเราจะกลับกันเลยไหมครับ” ชายหนุ่มผมสีทองกล่าวออกมาขณะที่เขามองไปยังกำแพงยักษ์

 

ไอช่าพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่เทียนจากนั้นเธอก็หันหน้ากลับไป

 

ชายหนุ่มผมสีทองดึงเชือกและมังกรหินผาก็เริ่มวิ่งออกไปทันที

 

เทียนนั่งอยู่บนหลังมังกรหินผาอย่าเงียบๆ

 

ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะหาวิธีหนี เขาเองก็อยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ความหวังของเขายังคงมีอยู่ถ้าหากว่าตระกูลดราก้อนต้องการให้เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์ให้

 

ฟิ้ว!

 

มังกรหินผาทั้ง 8 ตัวเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง การที่พวกมันวิ่งออกไปทำให้เกิดฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว พวกมันมาถึงป้อมปราการที่ป้องกันพื้นที่ส่วนกลางของกำแพงชั้นใน

 

พวกทหารที่ประจำการอยู่ที่ป้อมปราการก็เห็นมังกรหินผาตั้งแต่ระยะไกลๆ พวกเขารีบเปิดประตูออกทันที

 

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงทุกคนก็ได้มาถึงภูเขาที่เต็มไปด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม  มังกรหินผาปีนผ่านยอดเขาสูงชัน ใช้เวลาไม่นานพวกมันก็ได้มาถึงยอดเขา

 

มีจัตุรัสขนาดใหญ่ตรงหน้าพวกเขา ด้านหลังของจัตุรัสแห่งนี้มีอาคารหลังใหญ่ซึ่งทำให้เทียนนึกถึงเทียนโบสถ์ฝรั่งในยุคเก่า ด้านบนสุดของอาคารเป็นรูปทรงกรวยแหลม มันหมายความว่าพวกเขารู้ดีถึงวิธีการติดตั้งสายล่อฟ้า

 

ดูเหมือนว่าที่กำแพงชั้นในจะมีการใช้สายล่อฟ้ามาเป็นเวลานานแล้ว

 

ปราสาทของขุนนางในกำแพงชั้นนอกบางแห่งมียอดปราสาทที่ขดเป็นเกลียวซึ่งทำให้เทียนนึกถึงสถาปัตยกรรมยุคกลางในโลกสมัยก่อนของเขา แต่ในตอนนี้เขาได้รู้ว่าคนพวกนั้นแค่พยายามสร้างปราสาทของตนเองเลียนแบบสถาปัตยกรรมของกำแพงชั้นในเท่านั้น

 

“ฉันจะเข้าไปรายงาน จับตาดูเขาไว้ให้ดี” ชายหนุ่มผมสีทองกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

ลูกน้องทั้ง 7 คนของเขาล้อมรอบเทียนเอาไว้

 

ชายหนุ่มผมสีทองเดินเข้าไปในอาคารหลังนั้นทันที

 

ไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มผมสีทองก็กลับมาที่นี่ “เข้าไปกับฉัน”

 

เทียนเดินตามเขาเข้าไปทันที

 

เมื่อได้เข้ามาในอาคารสูงหลังนี้แล้วเขาก็พบว่าบนพื้นถูกปูเอาไว้ด้วยพรมที่หนานุ่มและบนผนังเต็มไปด้วยภาพวาดจิตรกรรมที่งดงามมากมาย เก้าอี้ที่เรียงกันเป็นแถวทั้งสองฝั่งของห้องโถง

 

ที่ห้องโถงแห่งนี้มีคนอยู่ 3 คน พวกเขาทั้งหมดต่างก็ดูมีอายุมากกว่า 50 ปี ศีรษะของพวกเขาเริ่มมีผมขาวแทรกขึ้นมา พวกเขาใส่ชุดคลุมที่ดูโบราณแต่มันก็ดูเข้ากับพวกเขามากด้วยเช่นกัน

 

“คัมภีร์ล่ะ” หญิงชราที่นั่งอยู่ตรงกลางของทั้ง 3 คนเอ่ยปากถามเทียน

 

ชายหนุ่มผมสีทองที่ยืนอยู่ข้างๆเทียนก็รีบก้าวออกไปข้างหน้าด้วยความรีบร้อน เขาก้มศีรษะลงพร้อมกับยืดม้วนคัมภีร์ออกไป  “ท่านผู้อาวุโสครับ นี่คือม้วนคัมภีร์ของพวกเราที่หายไป”

 

หญิงชราหยิบคัมภีร์ไปด้วยมือข้างหนึ่งของเธอขณะที่มืออีกข้างถือไม้เท้าเอาไว้ เธอมองมาที่เทียนด้วยความเย็นชาในสายตาของเธอ “เอาคัมภีร์เล่มนี้มาจากที่ไหน?”

The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด

The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด

Status: Ongoing

แนวนิยาย : เอาชีวิตรอดในอนาคตที่ล่มสลาย ไซไฟ แฟนตาซี

อารายธรรมได้ถูกทำลายและประวัติศาสตร์ได้ถูกลบเลือน มีเพียงฟู่เทียนที่รอดชีวิตมาได้จากการถูกแช่แข็ง สามร้อยปีต่อมา ฟู่เทียนได้ฟื้นขึ้นและใช้ชื่อเทียนเพื่อมีชีวิตต่อไป

เขาจะสามารถเชื่อใครได้บ้างบนโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งภายนอกและในจิตใจของคน?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท