The Dark King – Chapter 544 ดาบจากฟากฟ้า
เมื่อเห็นว่าไม่มีทางที่จะหนีไปจากที่นี่ได้อีกแล้ว เทียนจึงค่อยๆสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆพร้อมกับขยับตัวเพื่อยืดกล้ามเนื้อ
“หนอนวิญญาณกาฝากเพรชฆาตกรเงาอสูรไม่ได้อยู่ที่นี่” เทียนพูดออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีจากชายคนนั้น
พาร์นามองไปที่เทียนและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันรู้อยู่แล้ว”
เทียนมองตรงไปที่พาร์นาและพูดว่า “ผมเป็นเพียงผู้พิทักษ์ที่ต่ำต้อยไม่มีอิทธิพลใดๆต่อตระกูลดราก้อนถ้าคุณลงมือฆ่าผมในตอนนี้ นอกจากความเงียบสงัดแล้วคุณจะไม่ได้อะไรจากผมอีกเลย แต่ถ้าคุณไว้ชีวิตผมบางทีผมอาจจะสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ตระกูลแฟเทอร์ได้”
พาร์นามองไปที่ดวงตาของเทียนและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันไม่ต้องการ”
เทียนตกตะลึงและนิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย เขาค่อนข้างโกรธแต่ก็ยังรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาว่า “ผมรู้ความลับของตระกูลดราก้อน ผมจะบอกในสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมดกับคุณแต่ต้องสัญญาว่าจะปล่อยผมไป”
“โอ้?” พาร์นามองไปที่เทียนด้วยรอยยิ้มแต่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน “บอกฉันมา”
เทียนพูดขึ้นมาในทันที “องค์หญิงเฮลีย์แห่งตระกูลดราก้อนสามารถปลุกพลังแห่งสายเลือดของเธอได้สำเร็จและตระกูลดราก้อนได้แต่งตั้งให้เธอเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่”
พาร์นารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงที่สนใจว่า “รูปร่างหน้าตาของนายดูไม่เหมือนคนในตระกูลดราก้อน นายไปฟังเรื่องพวกนี้มาจากไหน? เป็นแค่ผู้พิทักษ์ที่ต่ำต้อยของตระกูลดราก้อน แต่กลับรู้ความลับสุดยอดพวกนี้ได้ นายคิดว่าฉันจะเชื่ออย่างนั้นหรอ?”
“คุณจะรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ใช่สมาชิกของตระกูลดราก้อน?” เทียนพูดออกมา “ลูกครึ่งที่เกิดจากสมาชิกของตระกูลดราก้อนกับสมาชิกของตระกูลอื่นก็สามารถมีผมสีดำได้ ผมพูดถูกไหมครับ?”
พาร์นายิ้มเล็กน้อย “แน่นอน ฉันไม่ได้ตัดสินว่านายไม่ใช่คนของตระกูลดราก้อนเพียงแค่มองจากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่คนในตระกูลดราก้อนพวกเขาจะไม่เรียกตระกูลของตนเองว่า “ตระกูลดราก้อน” แต่พวกเขาจะพูดว่า ตระกูลของเรา”
เทียนพยักหน้า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล”
“บอกฉันมา” พาร์นาพูด “ฉันไม่มีความอดทนมากพอที่จะมาฟังเรื่องที่นายแต่งขึ้นมาหรอกนะ”
เทียนพูดออกมาว่า “เหตุผลนั้นง่ายมาก ผมเป็นสายลับของตระกูลร็อคที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลดราก้อน หัวหน้าเป็นคนบอกผมมาเกี่ยวกับความลับนี้ ทั้งหมดที่พูดมาล้วนเป็นความจริง”
“สายลับของตระกูลร็อคอย่างนั้นหรอ?” พาร์นารู้สึกประหลาดใจคำตอบของเทียนเกินความคาดหมายของเขาไป เขาไม่คิดว่าจะได้พบกับสายลับของตระกูลร็อคในทีมเล็กๆของผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนที่เขามาเจอโดยบังเอิญ พาร์นามองลึกเข้าไปในดวงตาของเทียน ไม่แปลกใจที่ความสงบเยือกเย็นและความชำนาญของเด็กคนนี้ดูเหนือกว่ามากเมื่อเทียบกับสมาชิกในทีมคนอื่นๆ เขาเป็นสายลับที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก
แม้คำพูดที่ออกมาจากปากของเทียนจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่พาร์นาก็เชื่อสิ่งที่เขาพูดในระดับนึง
พาร์นาใช้ความสามารถในการตรวจจับความร้อนและการได้ยินคลื่นเสียงสะท้อนของเขาเพื่อตรวจสอบว่าเทียนกำลังพูดโกหกอยู่หรือไม่ ความสามารถในการรับรู้ทั้งสองนี้สามารถใช้เป็นเครื่องจับเท็จได้ ถ้าเทียนกำลังโกหกจังหวะการเต้นของหัวใจและร่างกายของเขาจะตอบสนองอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“สายลับของตระกูลร็อคแทรกซึมเข้าไปได้น่าทึ่งมาก เป็นข้อมูลที่ตระกูลแฟเทอร์ของฉันยังไม่สามารถเข้าถึงได้” พาร์นาจงใจพูดจาเย้ยหยันออกมา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความไม่เชื่อในสิ่งที่เทียนพูด
เทียนพูดขึ้นมาว่า “ถ้าคุณไว้ชีวิตผม ผมจะบอกข้อมูลทั้งหมดของตระกูลดราก้อนที่ผมรู้ให้กับคุณ”
“คิดว่าฉันจะเชื่ออย่างนั้นหรอ?” พาร์นาพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ “ฉันจะลองคิดดูอีกครั้ง ถ้านายยอมบอกชื่อและตำแหน่งของสายลับคนอื่นๆที่กำลังแทรกซึมอยู่ในตระกูลดราก้อนในขณะนี้มา”
เทียนคิดหนัก เขาไม่รู้ว่ามีสายลับของตระกูลแฟเทอร์ในหมู่สมาชิกระดับสูงของตระกูลดราก้อนหรือไม่ ถ้าหากมีเขาจะถูกจับได้ทันทีที่พูดโกหกออกไป
“ผมรู้แค่คนเดียวเท่านั้น” เทียนพูดออกมา “หัวหน้าของผมเขาเป็นทหารคนสนิทของเจ้าหญิงเฮลี่ย์ส่วนคนอื่นๆนั้นผมไม่รู้เลย”
“เขามีชื่อว่าอะไร?” พาร์นาจ้องที่เทียน
เทียนกล่าวโดยไม่ลังเล “เกทลี่ย์”
“โกหก!” พาร์นาตะโกนเสียงดัง
เทียนตกตะลึงและมองไปยังพาร์นาอย่างหวาดระแวง
พาร์นาเห็นการแสดงออกของเทียน เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้และพูดอย่างไม่แยแสว่า “ขอบคุณที่บอกฉัน หนุ่มน้อยจากตระกูลร็อค นายมีชื่อว่าอะไร?”
“เทียน”
“ฉันจะจำชื่อนี้เอาไว้” พาร์นายิ้มให้กับเทียน “จงภูมิใจที่ได้บอกชื่อกับฉันก่อนที่จะกลายเป็นศพ”
จากนั้นพาร์นาก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ใหญ่
เทียนรีบถอยกลับอย่างรวดเร็วและมองไปที่พาร์นาด้วยความโกรธ “คุณไม่รักษาคำพูดอย่างนั้นหรอ? ผมได้บอกคุณไปแล้ว ถ้าคุณต้องการฆ่าผมเพื่อปิดปากแล้วละก็คุณจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการกระทำนี้ ถ้าทีมของผมไม่มีผู้รอดชีวิตกลับไปรายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในแดนรกร้างแห่งนี้ ตระกูลดราก้อนจะออกตามหาและตรวจสอบศพของพวกเราจากนั้นก็จะรู้ได้ว่าตระกูลแฟเทอร์ได้บุกเข้ามาในเขตแดนของตระกูลดราก้อน”
“มันไม่สำคัญหรอก” พาร์นาเดินตรงไปหาเทียนอย่างช้าๆราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ “ฉันแค่อยากจะฆ่านายเท่านั้น”
ทันใดนั้นความโกรธบนใบหน้าของเทียนก็หายไปราวกับถอดหน้ากากออก เขามองไปยังพาร์นาด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง “เพราะอะไรกัน?”
“ฉันไม่ชอบขี้หน้านาย” พาร์นาพูดอย่างตรงไปตรงมา
ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่เทียนไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย
ฟิ้ว!
หลังจากที่พูดถึงเหตุผลของตนเองจบ พาร์นาก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วร่างของเขาก็หายไปในทันทีราวกับผี
เทียนพยายามมองหาร่างที่หายไปของพาร์นา ดวงตาของเขาหดเล็กลงขนาดเทียบเท่ากับรูเข็มเย็บผ้าและออกแรงเพ่งจนสุดความสามารถ เทียนที่กำลังล่าถอยไปทีละก้าวก็หยุดการเคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน จากนั้นเขาเหวี่ยงแขนตัวเองราวกับแส้ไปที่ข้างหน้าของเขา
ปัง! ร่างของเทียนกระเด็นกลับหลังเจ็ดถึงแปดตลบ ฝ่ามือของเขาสั่นอย่างมากช่องว่างระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้งของเขาฉีกขาดออกจากกันและข้อมือของเขาเจ็บปวดอย่างมากราวกับว่ากระดูกบริเวณนั้นจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ เทียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ได้รับและจ้องไปยังพาร์นาที่ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม หน้าอกของพาร์นามีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อยบนเสื้อเกราะเท่านั้น
บริเวณเท้าของพาร์นามีมีดสั้นซึ่งซ่อนอยู่ในกางเกงของเทียนวางอยู่บนพื้น
มุมปากของพาร์นากระตุกขึ้นเล็กน้อยและมีไฟลุกโชนในดวงตาของเขา โชคดีที่เพื่อนๆของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าพวกเพื่อนๆของเขาได้มาเห็นว่าเขาโดนโจมตีโดยเด็กลาดตระเวนชายแดนของตระกูลดราก้อนแล้วล่ะก็ เขาจะต้องถูกล้อด้วยเรื่องอัปยศนี้ไปชั่วชีวิตแน่ๆ
“แกตายซะเถอะ” พาร์นาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและร่างกายของเขาก็หายไปอีกครั้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าเท่านั้น
เทียนหรี่ตาลงจากนั้นก็ยกมือขึ้นในทันที เทียนมองเห็นแค่เงาจางๆของพาร์นาเท่านั้น
ฟิ้ว!
หลังจากที่เทียนยกมือขึ้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากฟากฟ้าในทันที
ทันใดนั้นเงาที่ปรากฏในดวงตาของเทียนก็หยุดอย่างกระทันหันเผยให้เห็นร่างของพาร์นา เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยความกลัว
เมื่อเห็นการกระทำของพาร์นาเทียนก็อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า มีแสงสีแดงเข้มลักษณะเหมือนกับอุกาบาตตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับว่ามันสามารถตัดโลกได้ทั้งใบ
สีหน้าของเทียนซีดเผือดและรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกตรึงด้วยจิตสังหารที่บ้าคลั่งนี้ เทียนรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกสลายในไม่ช้า
ปัง!
แสงสีแดงปะทะลงบนพื้นตรงหน้าเทียน ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเท่านั้น เทียนรู้สึกว่าพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างมากและร่างกายของเขาก็แกว่งไปมา เมื่อมองไปยังภาพที่อยู่เบื้องหน้าเขาก็ตกตะลึงในทันทีและในขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับว่ามีแสงสว่างที่ส่องลงมาเพื่อต่อชีวิตของเขา
ตัวตนที่แท้จริงของแสงสีแดงคือดาบสีเลือดขนาดใหญ่!
ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมา เขาเคยเห็นดาบเล่มนี้
ฟิ้ว!
ในขณะที่ดาบกำลังล่วงหล่นลงมา ก็มีร่างที่เพรียวบางพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและร่อนลงบนด้ามจับของดาบเธอยืนอยู่ตรงกึ่งกลางในขณะที่มองไปที่พาร์นา เธอคือ ไอช่า!
ดาบอันยิ่งใหญ่สีแดงเลือดเล่มนี้เป็นดาบประจำตัวของไอช่า นั่นคือ ดาบโลหิตอสูร!
ใบหน้าของพาร์นาเปลี่ยนไปในทันทีที่เห็น ไอช่ายืนอยู่บนดาบเล่มใหญ่ หากเขาไม่หยุดการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะสามารถฆ่าเทียนได้แต่ร่างกายของเขาก็อาจจะถูกกลืนกินด้วยคมดาบขนาดใหญ่เล่มนี้ เขาไม่คิดว่าการทำภารกิจลับของเขาจะถูกพบได้รวดเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่ตระกูลแฟเทอร์ที่มีสายลับ แต่ตระกูลดราก้อนก็มีสายลับภายในตระกูลแฟเทอร์เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นสายลับคนนั้นยังเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักของภารกิจลับครั้งนี้!