The Dark King – Chapter 541 ทำร้ายตัวเอง
“บ้าเอ้ย!”
เทียนกำหมัดแน่นแล้วพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขารู้สึกหนาวเหน็บมากขึ้นเรื่อยๆ หากเขายังคงหลบหนีแบบนี้ต่อไปคงทำได้แค่ยืดเวลาการตายของเขาออกไปเท่านั้นเพราะว่าเขาสามารถสลัดการติดตามของชายหนุ่มคนนั้นได้
“การบินเพื่อหลบหนีไปอาจเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยดีนัก การวิ่งก็ด้วยเหมือนกันอาจจะถูกจับตัวได้ไม่ช้าก็เร็ว ฉันต้องหาที่ซ่อนตัว” เทียนรู้สึกเคร่งเครียดและตื่นตระหนก วิธีในการซ่อนตัวผ่านเข้ามาในความคิดของเทียนอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะใช้มัน
เขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นมีความสามารถอะไรบ้าง หากเขามีความสามารถในการตรวจจับความร้อนซ่อนตัวไปก็ไร้ความหมาย แม้ว่าจะลงไปในโคลนที่ลึกมากก็ตาม
“อ้าาก!” เสียงกรีดร้องอีกเสียงดังมาจากด้านหลังของเขา – เขารับรู้ได้ในทันทีว่าเป็นเสียงของโรสแมรี่
เทียนเริ่มรู้สึกเคร่งเครียดมากยิ่งขึ้น
เสียงที่ได้ยินอยู่ใกล้มาก!
ดวงตาของเขาหรี่ลงและใบหน้าของเขาเริ่มซีดเผือด เทียนเต็มไปด้วยความกังวลและสิ้นหวังเขารู้สึกว่าความตายค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
สถานการณ์ในตอนนี้เขาไม่รู้ความสามารถของศัตรูเลยแม้แต่น้อย เทียนรู้สึกสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรง ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนี้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะใช้ความคิด จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
แม้ว่าเขาจะสงบเยือกเย็นมากพอ แต่ก็ยากที่จะคิดอย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและอยู่ในระหว่างความเป็นและความตายนี้
“ถ้าฉันรู้ว่าความสามารถของเขาคืออะไร … อย่างน้อยถ้าฉันรู้ว่าความสามารถของเขาคืออะไร … ” เทียนคิดอย่างใจจดใจจ่อ ทันใดนั้นมีเศษเสี้ยวของความคิดพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขาเป็นเหมือนแสงสว่างท่ามกลางความสิ้นหวังนี้
ทันใดนั้นเทียนก็ปลดล็อคเข็มขัดกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาในทันที ตุ้บ! กระเป๋าเป้สะพายหลังของเขากระแทกพื้นดินทำให้พื้นแตกเล็กน้อย มีเสียงกระป๋องและน้ำกระทบกันดังออกมา
เทียนรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาและเท้าของเขาขยับได้เร็วขึ้นเล็กน้อย
“ปีกของเขาควรจะเป็นหนึ่งในความสามารถของเขา!” เทียนคิดในขณะที่เร่งความเร็ว “ดูจากขนาดปีกของเขาแล้วมันถูกสร้างมาเพื่อบินโดยเฉพาะซึ่งแตกต่างจากปีกขนาดเล็กของแมลงอสูรโลกันต์ที่ใช้สำหรับบินเป็นระยะสั้นๆ นี่คงเป็นความสามารถที่สืบทอดมาจากหนอนวิญญาณกาฝากที่เขาได้รับรวมถึงเคล็ดวิชาประจำตระกูลของเขาด้วยเหมือนกัน”
ก่อนหน้านี้เขาสามารถเห็นศพของเพรชฆาตเงาอสูรอยู่ในถ้ำที่มืดมิดได้ดังนั้นเขาน่าจะมีความสามารถในการมองเห็นในที่มืดด้วยเหมือนกัน
“ในป่าทึบแบบนี้เขาสามารถค้นหาถ้ำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาน่าจะมีความสามารถในการมองเห็นระยะไกลหรืออาจจะมีความสามารถในการตรวจจับความร้อน”
“นอกจากนี้เขาได้พุดกับเอียนและรู้ทันทีว่าเอียนพยายามวิ่งหนีในตอนที่เขาเดินเข้าไปในถ้ำ บางทีมันอาจเป็นเรื่องของสงครามประสาทหรือเขามีการมองเห็นที่กว้างไกลเหมือนฉัน แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขามีประสาทสัมผัสทางด้านเสียงที่เฉียบคมและสามารถรู้ได้ว่าเอียนกำลังวิ่งไปในทิศทางไหน”
ดวงตาของเทียนเปล่งประกาย จากเบาะแสที่มีในตอนนี้ชายคนนั้นมีความสามารถในการมองเห็นที่มืดหรือไม่ก็ การมองเห็นระยะไกล การตรวจจับความร้อน หรืออาจจะเป็นการได้ยินเสียงที่ยอดเยี่ยม
ประสาทสัมผัสทางด้านกลิ่นยังไม่สามารถยืนยันได้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการสันนิษฐานของเทียนเท่านั้น
หากการสันนิษฐานทั้งหมดนี้เป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะซ่อนตัวได้
ฟิ้ว!
เทียนกระพือปีกของเขาอย่างรวดเร็วจากนั้นยกเท้าขึ้นจากพื้นและบินไปข้างหน้าในระดับความสูงที่ไม่มากนัก
แม้ว่าปีกของแมลงอสูรโลกันต์นั้นมีไว้สำหรับการร่อนแต่ก็มากพอที่จะทำให้เขาบินสูงและพุ่งได้สูงถึง 10,000 เมตร ในขณะนี้เขาบินตรงไปตามถนนเขาลดระดับความสูงของเขาเพื่อที่จะหยิบก้อนหินขึ้นมาจากพื้นดินแล้วโยนมันไปในอีกทางหนึ่ง
ปัง ก้อนหินกระแทกลงบนพื้นดิน
ในขณะที่บินไปข้างหน้าเขาก็ยังคงสังเกตพื้นที่ด้านหลัง นัยน์ตาของเขาหดเล็กลงจนสุดเพื่อใช้ความสามารถในการตรวจจับความร้อนอย่างเต็มที่ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือด เขาเห็นเงาสีแดงสดเคลื่อนที่เข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เสียงไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มคนนั้นไขว้เขวได้อย่างนั้นหรอ?
ทันใดนั้นเขาก็ร่อนลงมาและวิ่งด้วยความช่วยเหลือจากปีกของตนเอง ร่างกายของเขาโน้มตัวไปข้างหน้าจนเกือบแตะพื้น การเคลื่อนที่แบบนี้ช่วยให้เขาเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าการบินอย่างมาก
ในขณะที่เทียนพยายามหลบหนีอย่างสุดความสามารถ หัวใจของเขารู้สึกหนาวเหน็บขึ้นเล็กน้อย จุดประสงค์ของความพยายามครั้งก่อนของเขาคือเพื่อค้นหาว่าความสามารถของชายหนุ่มคนนั้นที่เขาคิดเอาไว้เป็นจริงหรือไม่ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นจะมีความสามารถในการตรวจจับความร้อน!
จากการโยนก้อนหินก่อนหน้านี้ทำให้เขาสามารถยืนยันได้ว่าชายคนนั้นไม่ได้ตามเสียงมา แต่สามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของเขาได้
ทำยังไงดี?
เทียนรู้สึกว่าตนเองกำลังหมดหนทาง
ในตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกของเหยื่อที่กำลังถูกล่าโดยความสามารถของการตรวจจับความร้อน
ตอนนี้เข้ารู้สึกว่ามีจิตสังหารอันแรงกล้ากำลังพุ่งเป้ามาที่เขาจากนักล่าที่สามารถมองเห็นความร้อนได้
หนีไปก็ไม่พ้น ซ่อนตัวก็ไม่รอด!
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือรอให้ชายหนุ่มคนนั้นมาฆ่าเขาอย่างนั้นหรอ?
มีความคิดบางอย่างผ่านเข้ามาในจิตใจของเขาทันที ทันใดนั้นเทียนก็คิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และมองไปที่มือซ้ายของตนเอง บางทีเขาอาจจะต้องใช้วิธีทำร้ายตัวเองนี้เท่านั้น
เทียนรู้สึกลังเลเล็กน้อยแต่เมื่อเขาเห็นร่างสีแดงสดดำลังใกล้เข้ามา เขากัดฟันและไม่ลังเลอะไรอีกแล้ว เขาไม่ควบคุมความเย็นในแขนซ้ายของตนเองอีกต่อไปแล้ว เขากำมือซ้ายแน่นและเกร็งกล้ามเนื้อ ทันใดนั้นความเย็นในมือซ้ายของเขาก็รวมตัวกันจนหนาแน่นมากขึ้นราวกับเขื่อนที่รองรับปริมาณของน้ำไม่ไหว ความเย็นแตกกระจายไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาหนาวสั่นจนเกือบหมดสติและเขาต้องทำให้ร่างกายสั่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ตื่นตัว
แต่อาการสั่นของเขาในเวลานี้ส่งผลต่อความเร็วของเขาอย่างเห็นได้ชัด เขานึกถึงงูที่จำศีลในฤดูหนาว สัตว์เลือดเย็นไม่ความหนาวใช่ไหม?
เท้าของเขาไม่สามารถรักษาความเร็วได้อีกต่อไป เขาทำได้เพียงยกเท้าขึ้นและบินไปข้างหน้าด้วยปีกของตนเอง
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าความหนาวเย็นค่อยๆกัดกินไปทั่วทั้งร่างรวมถึงบริเวณหลังของเขาด้วย โชคดีที่ความรู้สึกของปีกนั้นช้ากว่าส่วนอื่นๆ มันยังสามารถใช้งานได้
เมื่ออุณหภูมิในร่างกายของเขาลดลง เทียนก็เห็นความร้อนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดมีเพียงส่วนหัวและหัวใจของเขาเท่านั้นที่ยังคงเปล่งความร้อนออกมาเล็กน้อย
จิตใจของเขาเริ่มแข็งทื่อเหมือนร่างกายที่ถูกแช่แข็งของเขา
ความเย็นกัดกินขึ้นไปบนลำคอของเขาและพยายามที่จะวิ่งขึ้นไปบนส่วนหัว
ทันใดนั้นเทียนก็รู้สึกตกใจและรีบยกมือขึ้นเพื่อบีบลำคอพยายามหยุดความเย็นไม่ให้มันสามารถขึ้นไปที่สมองได้
…
พาร์นาชายที่กำลังตามล่าเทียนจ้องเขม็ง ร่างที่เปล่งความร้อนออกมาข้างหน้าเขาเริ่มจางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเบลอและหายไปในที่สุดหลังจากถูกบดบังโดยอาคารบ้านเรือน
พาร์นาสามารถมองเห็นความร้อนได้ สำหรับความร้อนที่มีพลังมากพอถึงแม้ว่ามันจะถูกบดบังโดยบางสิ่งบางอย่างเช่นอาคารเขาก็ยังมองเห็น ถึงแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอมากและถูกบังโดยอาคารเขายังคงสามารถมองเห็นได้
เกิดอะไรขึ้น?
การเปลี่ยนความร้อนในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด เป็นความสามารถของสัญลักษณ์เวทมนต์ของเด็กหนุ่มที่เขากำลังไล่ตามงั้นหรอ?
พาร์นาขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจำได้ว่าเหยื่อรายสุดท้ายที่อยู่ต่อหน้าเขาดูเหมือนจะมีอายุน้อยที่สุดในทีม เมื่อเขาเห็นกลุ่มคนที่อยู่หน้าถ้ำนั้นเขาก็ได้ตรวจความร้อนของทุกคนแล้ว ความร้อนของเด็กหนุ่มคนนี้ค่อนข้างธรรมดาและดูอ่อนแอที่สุดซึ่งสอดคล้องกับอายุของเขา เขาคิดว่าเด็กคนนี้น่าจะวิ่งได้เร็วและรอดชีวิตได้นานที่สุด