The Dark King – Chapter 558 ความรู้สึกเจ็บปวด
“ไม่ดีแน่ มันเคลื่อนที่เร็วเกินไป” เทียนถอยหลังกลับมาสองก้าว ล้มเลิกความคิดที่จะออกไปจากที่นี่ทางช่องระบายน้ำในทันที ถ้าดำน้ำลงไปในตอนนี้เขาจะต้องถูกฆ่าโดยสัตว์ร้ายที่อยู่ใต้น้ำก่อนที่จะสามารถว่ายไปถึงตรงกลางลานกว้างได้ซะอีก ด้วยสภาพที่เหนื่อยล้าของเขาในตอนนี้แทบจะไม่สามารถฆ่าสัตว์ร้ายบนบกได้และไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้ใต้น้ำเลย เขาไม่มีพละกำลังที่มากพอ
“บ้าเอ้ย!”
สีหน้าของเขาดูย่ำแย่เมื่อเห็นสัตว์ร้ายที่อยู่ในน้ำเคลื่อนที่เข้ามาเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตรในพริบตา ไม่มีเวลาให้ลังเลอีกต่อไป เขาหยิบโพแทสเซียมไนเตรตขึ้นมาสองสามก้อนบีบมันให้เป็นผงด้วยมือซ้ายแล้วโยนมันลงไปในน้ำในทันที
เมื่อโพแทสเซียมไนเตรตถูกบดเป็นผง การจมลงไปในน้ำของมันจึงช้ามากแต่คุณสมบัติในการดูดซับความร้อนนั้นออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม
มีไอน้ำลอยขึ้นมาจากบริเวณผิวน้ำและน้ำค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวจนกลายเป็นน้ำแข็งในที่สุด
เขาถอยกลับไปยังข้างในสุดของกำแพงน้ำแข็งและจ้องมองไปที่สัตว์ร้ายซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร ภาวนาให้มันไม่มีความสามารถพิเศษในการรับรู้และไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของพวกเขาได้ จากขนาดร่างกายของสัตว์ร้ายตัวนี้มันเพียงกระแทกพื้นดินไม่กี่ครั้งก็สามารถทำให้พวกเขาตกลงไปในน้ำได้
รูปร่างที่ใหญ่โตของสัตว์ร้ายตัวนี้มีลักษณะคล้ายกับฉลามขาว แต่บริเวณด้านหลังของมันแทนที่จะเป็นครีบกลับเป็นหนามแหลมคมที่น่ากลัวหลายสิบแท่งยื่นออกมาจากกระดูกสันหลังของมันเหมือนกับจระเข้ มันกำลังตามหาที่มาของกลิ่นเลือด มันหดแขนขาแนบกับลำตัวและเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนกับปลาว่ายน้ำออกไปอย่างรวดเร็ว
เทียนรีบนอนคว่ำและแนบศีรษะลงกับพื้นในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายเห็นเขาเมื่อมองขึ้นมาจากใต้น้ำ
หลังจากนั้นไม่นานสัตว์ร้ายก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆจนมีระยะห่างเพียงแค่ 10 เมตรเท่านั้น
เทียนกลั้นหายใจและเกร็งร่างกายของตนเองแทบทุกส่วน
ในขณะที่สัตว์ร้ายกำลังเคลื่อนตัวผ่านบริเวณใต้น้ำแข็ง เงาที่น่าสยดสยองของมันก็ปรากฏขึ้นมา มันว่ายผ่านพวกเขาไปดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้ว่ามีคนสองคนอยู่ข้างบนนี้
เทียนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเพื่อมองสัตว์ร้าย ดูเหมือนว่ามันจะไม่พบแหล่งที่มาของกลิ่นเลือดและว่ายน้ำต่อไป ร่างของมันค่อยๆหายลับไปจากสายตาของเขา
“เกือบไปแล้ว” เทียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและเดินตรงมาที่ผิวน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง แต่เมื่อเขากำลังจะทำลายน้ำแข็งเพื่อออกไปจากที่นี่ จุดความร้อนสีแดงก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
มันว่ายกลับมาอย่างกะทันหัน!
ใบหน้าของเทียนเต็มไปด้วความตื่นตระหนก เขาหยุดการกระทำของเขาในทันทีและวิ่งไปซ่อนตัวบริเวณด้านในสุดของกำแพงน้ำแข็งอีกครั้ง เทียนนอนคว่ำลงบนพื้นและร่างของเขาก็สั่นเทาจากอากาศที่หนาวเย็นที่มาจากทุกทิศทุกทาง
สัตว์ร้ายที่อยู่ใต้น้ำค่อยๆว่ายผ่านบริเวณใต้น้ำแข็งออกไปแต่มันไปไม่ไกลนัก มันว่ายวนเวียนรอบๆช่องระบายน้ำใต้ดินหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียง ดูเหมือนว่ามันกำลังเสาะหาแหล่งที่มาของกลิ่นเลือดที่มันกำลังได้กลิ่นในตอนนี้
ในขณะที่เทียนพยายามไม่ขยับเขยื้อนตัว เขาก็จ้องไปที่สัตว์ร้ายอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นไม่นานน้ำมูกก็ไหลลงมาจากจมูกและเขาก็สูดมันเข้าไปจากความเคยชินโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้มีแค่น้ำมูกที่เทียนสูดเข้าไปเท่านั้นแต่ยังสูดอากาศที่หนาวเย็นเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจและมันก็ลึกเข้าไปในปอดของเขา ทันใดนั้นเทียนก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาราวกับโดนมีดที่แหลมคมทิ่มแทงเข้าไปที่หน้าอกทำให้เขาต้องขดตัวงอด้วยความเจ็บปวด
“ฉันรอไม่ไหวแล้ว มันคงไม่ไปจากที่นี่ในเร็วๆนี้แน่ … ” เทียนเงยหน้าขึ้นช้าๆมองไปยังกำแพงน้ำแข็งที่อยู่ข้างๆ เขาสามารถทำลายกำแพงน้ำแข็งนี้เพื่อออกไปจากที่นี่ได้
เมื่อเขาพยายามลุกขึ้นทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามือและเท้าของตนเองชาไปหมด เมื่อมองไปก็พบว่ามีน้ำแข็งบาง ๆปกคลุมบริเวณมือซ้ายของเขา มันก่อตัวขึ้นมาเป็นรอยหยักรูปร่างแปลกๆดูเหมือนกับเกล็ดที่มีขนาดเท่าเล็บมือ
“มันเป็นอาการของโรคเกล็ดเลือดน้ำแข็งอย่างนั้นหรอ?” เขากัดฟันแน่นและพยายามใช้มือซ้ายประคองตัวเองขึ้นมา
แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!
มีเสียงร้าวทุกครั้งที่มือซ้ายขยับและในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกเจ็บปวดมาก
เทียนรู้สึกงุนงง เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดสิ่งแรกที่เขาทำคือมองไปที่มือขวา ความเจ็บปวดไม่ได้มาจากมือขวาของเขาแต่มาจากมือซ้ายซึ่งทำให้เขาตกใจอย่างมาก
“มือซ้ายของฉันไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดไม่ใช่หรอ? ตอนนี้มันมีอาการเจ็บปวดได้ยังไงกัน? มันกลับมาเป็นปกติแล้วอย่างนั้นหรอ?
เทียนพยายามขยับมือซ้ายอีกครั้งและครั้งนี้ความเจ็บปวดก็ชัดเจนขึ้น เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทุกครั้งที่ขยับมือซ้ายเพื่อประคองตัวเองขึ้นมา
เทียนเลิกใช้มือซ้ายและกลับมาใช้มือขวาแทน มือขวาของเขารู้สึกชาเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อออกแรงขยับ เขาลุกขึ้นอย่างยากลำบากเนื่องจากมือที่ชาและอากาศที่หนาวเย็น เขารู้สึกเวียนศีรษะราวกับว่าได้เสียเลือดไปจำนวนมาก ดวงตาของเขาสามารถมองเห็นได้ในระยะ 50 องศาเท่านั้นและเห็นสิ่งต่างๆเป็นภาพที่พร่ามัว เทียนรู้สึกเหมือนเห็นเงาดำๆพริ้วไหวไปมาอยู่ตรงหน้าเขา
“ต้องไม่ล้ม! ต้องไม่ล้ม!” เขาพูดซ้ำๆในใจขณะที่กำลังหอบ
เทียนรู้สึกว่ารอบๆตัวเขาเต็มไปด้วยเสียงพึมพำ เมื่อยกเท้าขึ้นร่างกายของเขาก็ทรงตัวไม่อยู่และเอนไปมา
โครม! เขาล้มลงบนวัตถุบางอย่างที่อ่อนนุ่ม
เมื่อเขามองไปก็พบกับไอช่าที่มีใบหน้าซีดเซียวอยู่ตรงหน้า เทียนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเธอบนใบหน้าของเขา
เขาหันศีรษะของตนเองอย่างลำบากและมองดูกำแพงน้ำแข็งรอบๆตัว หัวใจของเขาขมขื่นและรู้สึกเศร้าหมอง
กำแพงน้ำแข็งแห่งนี้เป็นสุสานที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อตัวเองอย่างนั้นเหรอ?
ความเย็นแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาและไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย เมื่อร่างกายที่สั่นไหวของเขาหยุดนิ่ง เทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ค่อยๆบุกทะลวงเข้ามาในร่างกายของเขา – ผ่านเข้าไปในหัวใจแพร่กระจายไปตามลำคอและวิ่งขึ้นไปในสมองของเขา
ความหนาวเหน็บนี้ทำให้เขารู้สึกว่าความตายกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ
มีบางอย่างปรากฏขึ้นในจิตใจเมื่อความตายรออยู่ต่อหน้าเขา?
ในขณะนี้สิ่งสุดท้ายที่เขารู้สึกก็คือความรู้สึกไม่พร้อมที่จะต้องตายในตอนนี้
มีใบหน้ามากมายลอยเข้ามาในความคิดของเขา – เฮย์ลี่ ผู้อาวุโสในมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ ชายจากตระกูลแฟร์เทอร์ ผู้พิทักษ์บนกำแพงยักษ์ที่มองไม่เห็นว่าใคร … หลังจากนั้นก็มีอีกหนึ่งใบหน้าปรากฎขึ้นมาและทำให้เขารู้สึกถึงความอาฆาตแค้นอย่างรุนแรง
ความเกลียดชังและอุดมการณ์ที่เขาได้วางเอาไว้ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
สองสิ่งนี้ถูกผสมเข้าด้วยกันและทำให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่พร้อมที่จะตาย!
เทียนรู้สึกว่าการที่อุดมการณ์ของเขายังไม่เสร็จสมบูรณ์ไม่ใช่เหตุผลที่เขายังไม่พร้อมที่จะตาย แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือเขายังไม่ได้ลงมือฆ่าคนที่เขาเกลียด!
เขาคิดถึงช่วงเวลาที่เขาได้เป็นนักล่าครั้งแรก ในเวลานั้นเขายังคงคิดถึงพ่อแม่และพี่สาวของเขา เมื่อตนเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์ระหว่างความเป็นและความตาย แต่ตอนนี้เขากลับกังวลเกี่ยวกับอุดมการณ์และความเคียดแค้น
บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนไปโดยที่ไม่รู้ตัว
นี่คือสิ่งที่ผู้คนเรียกว่าการเติบโตหรือเปล่า?