The Dark King – Chapter 639 คําถามและรางวัล
“ผมยังไม่ได้ยินคําตอบของคุณเลย ราชันย์ดาบ?” เทียนหันไปหาราชันย์ดาบอีกครั้ง
สีหน้าของราชันย์ดาบดย่าแย่ในตอนนี้ ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อมากมาย เขากัดฟันพร้อมกับพูดออกมาว่า “ผมยอมสวามิภักดิ์กับคุณ!” เสียงของเขาดังมากเพราะเขาไม่ต้องการให้เทียนพูดย้ําอีกครั้ง
เทียนมองมาที่เขาพยักหน้าเล็กน้อยและหันไปหาคนต่อไป “แล้วคุณล่ะ?”
“ผมยอมสวามิภักดิ์กับคุณ ท่านราชันย์ปีศาจ!”
“ผมก็ยอมสวามิภักดิ์กับคุณ!”
คนที่เหลือต่างก็ไม่ต้องรอให้เทียนถามและรีบตะโกนออกมาทันที
พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าความหวังของตนเองได้หมดไปแล้วหากดื้อด้านต่อไปก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ แทนที่จะรอให้เทียนถามออกมาการที่พวกเขาตอบกลับไปเองอาจจะเป็นการแสดงความจริงใจได้มากกว่า
“ผมก็ยอมสวามิภักดิ์กับคุณ!” ราชันย์โลกใต้ดินก้มศีรษะของเขาเพื่อแสดงความเคารพทันที
เพียงพริบตาทุกๆคนในห้องนี้ก็ก้มศีรษะคํานับเทียนทั้งหมด
เทียนมองพวกเขาและพยักหน้าเล็กน้อย “ดี ถือว่ายังมีสมองอยู่บ้าง”
เมื่อได้ยินคําชมและคําเยาะเย้ยของเขาทุกๆคนต่างก็คิดถึงอนาคตของตนเองทันที เพราะการยอมสวามิภักดิ์กับเทียนเป็นแค่เรื่องเล็ก ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือเรื่องผู้ส่งสารแห่งพระเจ้า
“ผมไม่รู้ว่าคุณมีแผนการยังไงในอนาคต แต่ผู้ส่งสารแห่งพระเจ้านั้นสามารถติดต่อกับขุมพลังที่อยู่ในกําแพงชั้นในได้ ถ้ากําแพงชั้นในส่งผู้ที่แข็งแกร่งมาเอาชีวิตคุณ ผมเกรงว่า….”ราชันย์ดาบพูดออกมาด้วยความกังวล
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก” เทียนตอบกลับมาอย่างเฉยเมย “จากวันนี้เป็นต้นไปพื้นที่ทั้ง 12 เขตของโบสถ์แห่งความมืดจะเป็นของพวกเราทั้งหมด ผมไม่ต้องการเห็นการทะเลาะเบาะแว้งและกระทบกระทั่งกันระหว่างพื้นที่อีกต่อไป เรื่องของผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าและโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ผมจะจัดการด้วยตัวเองในวันพรุ่งนี้ ผมมีเรื่อง เดียวที่ต้องการจากพวกคุณทุกคนภายใน 1 สัปดาห์ ทุกๆสมาคม ทุกๆตระกูลขุนนาง พลเมืองทุกๆคนจะต้องรวมยอมสวามิภักดิ์กับผม”
ทุกๆคนหันมามองหน้ากันพร้อมกับสีหน้าที่ดูเป็นกังวลเล็กน้อย
ราชันย์โลกใต้ดินมองมาที่เทียนและพูดออกมาเบาๆว่า “ทั้ง 6 สมาคมใหญ่และตระกูลขุนนางต่างก็มีรากฐานมาอย่างยาวนาน การจะทําให้พวกเขายอมสวามิภักดิ์ใน 1 สัปดาห์ ผมกลัวว่า…”
เทียนมองมาที่เขายังเฉยเมยพร้อมกับพูดว่า “คนของพวกคุณได้แทรกซึมอยู่ในทุกๆสมาคมและทุกๆตระกูลมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?”
ราชันย์โลกใต้ดินตอบกลับมาว่า “แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ”
“ผมใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวยังสามารถทําให้พวกคุณทุกคนยอมสวามิภักดิ์ได้ คุณมีเวลาตั้ง 7 วันทําให้ทั้ง 6 สมาคมใหญ่ยอมสวามิภักดิ์มันยากมากเลยหรอ?” เทียนพูดออกมาอย่างเย็นชา
สีหน้าของราชันย์โลกใต้ดินและทุกๆคนที่เหลือต่างก็เปลี่ยนไปทันที
ราชันย์ดาบรู้ว่าเทียนคิดอะไรอยู่ดังนั้นจึงถามกลับไปทันที “คุณหมายความว่าให้พวกเราใช้ลงมือกับทั้ง 6 สมาคมใหญ่อย่างรุนแรงเลยหรอ?”
“สิ่งทุกอย่างต่างก็มีวิธีการของมัน” เทียนพูดต่อไปว่า “มีทั้งวิธีการที่ได้ผลอย่างรวดเร็วและวิธีการที่ได้ผลช้า”
ราชันย์ดาบถามกลับมาว่า “แล้วถ้าหากว่าพวกตระกูลขุนนางต่อต้านล่ะครับ?”
“อย่างนั้นก็ใช้พลังที่เหนือกว่าบีบบังคับให้พวกเขายอมรับ”
“รับทราบครับ”ราชันย์ดาบก้มศีรษะของเขาลงและไม่ถามอะไรกลับมาอีก
สายตาที่เย็นชาของเทียนกวาดมองทุกๆคนและพูดออกมาว่า “ผมรู้ว่ายังมีพวกคุณบางคนที่รู้สึกไม่พอใจผมอยู่บ้าง เมื่อคุณออกจากที่นี่ไปคุณอาจจะไปแจ้งผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าและพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ผมอยากจะเตือนอะไรไว้หน่อย ไม่มีใครที่อยากจะถูกลูกน้องของตัวเองหักหลังหรอก ถึงแม้ลูกน้องคนนั้นจะยังไม่ตายแต่ ก็คงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ในอนาคต ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนคิดให้ดี”
สีหน้าของทุกๆคนเปลี่ยนไปทันที
ความจริงแล้วมีหลายคนที่คิดแบบนี้ แม้ว่าเทียนจะแข็งแกร่งมากเพียงใดแต่เขาก็ยังถือว่าห่างชั้นกับกําแพงชั้นในอยู่ ผู้ส่งสารแห่งพระเจ้านั้นเป็นคนของกําแพงชั้นในและเป็นผู้ที่พวกเขาไม่อยากมีปัญหาด้วยมากที่สุด
“คุณติดตามผมด้วยความซื่อสัตย์ ผมสัญญาว่าว่าพวกคุณจะได้รับสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต” เทียนกระพริบตาเล็กน้อยและผู้ตอบไปว่า “ตอนนี้ผมอยากจะถามอะไรบางอย่าง ถ้าใครตอบได้ผมมีรางวัลให้แน่นอน”
“รางวัลอะไร?” ทุกๆคนต่างก็หันมามองหน้ากันและถามออกมาด้วยความสงสัย
“ข้อแรกใครรู้บ้างว่าพระสันตะปาปาเป็นยังไงบ้างในตอนนี้?” เทียนถามออกมา
ทุกๆคนต่างก็หันมามองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ดูจากคําถามของเทียนแล้วดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไปเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับพระสันตะปาปาเอาไว้แล้ว
“ผมรู้” ราชันย์โลกใต้ดินตอบกลับมาทันที “ตามข้อมูลที่ผมได้รับมา พระสันตะปาปาชอบฟังดนตรีของอาจารย์เบน แต่เขาไม่ค่อยได้ไปงานคอนเสิร์ตของอาจารย์เบนสักเท่าไหร่”
เทียนพยักหน้า “ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก จากวันนี้เป็นต้นไปคุณจะเป็นผู้ดูแลพื้นที่ทั้ง 12 เขต และผมจะแต่งตั้งให้คุณเป็นผู้แทนผู้ส่งสารแห่งพระเจ้า”
สายตาของราชันย์โลกใต้ดินดูมีความสุขมากในขณะที่เขาตอบกลับมาว่า “ขอบคุณครับ!”
สายตาของทุกๆคนดูตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ รางวัลที่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ? เพียงแค่ตอบคําถามง่ายๆ ก็ได้เป็นผู้แทนส่งสารแห่งพระเจ้าแล้วหรอ?
“คําถามที่ 2 มีใครรู้บ้างว่าศาสตราจารย์อัจฉริยะของวิหารแห่งธาตุหายไปไหนในตอนนี้?”
ราชันย์ดาบตอบกลับมาว่า “คุณหมายถึงศาสตราจารย์ที่มีชื่อว่า “เทียน” หรอครับ?”
เทียนพยักหน้า “ไม่เลวนี่”
“ผมรู้ครับ” ทันใดนั้นก็มีอีกคนหนึ่งรีบพูดขึ้นมาทันที “ตามข้อมูลที่ผมได้มาจากวิหารแห่งธาตุ ศาสตราจารย์อัจฉริยะคนนี้ถูกกําแพงชั้นในพาตัวไปและได้ทํางานในกําแพงชั้นใน”
“ไร้สาระ!” หญิงสาวอีกคนก็ตอบกลับมาว่า “ตามข้อมูลที่ฉันได้รับมาศาสตราจารย์คนนี้ถูกคนของกําแพงชั้นในบีบบังคับและพาตัวไป ว่ากันว่าเขาโดนข้อหาข้องเกี่ยวกับโบสถ์แห่งความมืดและถูกพาตัวไปที่กําแพงชั้นในเพื่อปรับทัศนคติ”
“เฮ้!” ก่อนหน้านี้ก็รีบพูดต่อว่า “คุณผู้หญิงที่คุณพูดมาก็ยังไม่ถูกกําแพงชั้นในจงใจใส่ร้ายเขา เขาถูกจับกุมตัวเข้าไปในกําแพงชั้นใน ผมว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ ถ้าเขาเกี่ยวข้องกับพวกเราจริงๆกําแพงชั้นในจะรู้ได้ยังไง? ถ้าพวกเขารู้แล้วพวกเขามีหลักฐานอะไร? ถ้าพวกเขามีหลักฐานจริงๆผมว่าศาสตราจารย์คนนั้นคงถูกฆ่าไป ในทันทีแล้ว!”
หญิงสาวคนนั้นขมวดคิ้วและรีบเถียงกลับมาว่า “ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด ถ้ากําแพงชั้นในต้องการตัวเขาจริงๆ การทําแบบนี้ไม่เท่ากับทําให้เขาต้องเสียชื่อเสียงหรอกหรอ?”
ชายก่อนหน้านี้ยักไหล่พร้อมกับพูดว่า “ผมจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
“มีใครที่รู้เรื่องนี้อีกไหม?” เทียนถามกลับมา
ทุกๆคนต่างก็หันมามองหน้ากันและไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เทียนส่ายศีรษะเบาๆจากนั้นก็พูดต่อไปว่า “คําถามที่ 3 ฉันได้ยินมาว่าพ่อแม่บุญธรรมของศาสตราจารย์คนนั้นรู้ความลับว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แต่พ่อแม่บุญธรรมของศาสนาอาจารย์คนนั้นก็ถูกฆ่าตายไปทันที มีใครรู้บ้างว่าฆาตกรเป็นใคร?”