บทที่ 426 การเดินทางครั้งใหม่
เมื่อได้ยินคำพูดของลูเซียน เหล่าสุภาพบุรุษต่างระงับตัวเองไว้ได้ แต่สุภาพสตรีอีกสองคนที่เหลือกลั้นขำไว้ไม่ได้ ท่านอีวานส์ถึงกับเสียงหายจากการคำรามของเขา!
บทความของเลฟสกีนำเสนอระบบเรขาคณิตแบบใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยประพจน์มากมาย ความยาวของบทความนี้ยาวเกินกว่าบทความทั่วไปและเกือบจะยาวเท่ากับหนังสือเล่มหนึ่ง แม้ว่าลูเซียนจะข้ามหลายๆ ส่วนระหว่างการอธิบาย เขาก็ยังคงเจ็บคออยู่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้วเขายังเป็นถึงอัศวิน
คำตอบของลูเซียนทำให้สมาชิกคณะกรรมการที่เหลือรู้สึกขบขันขึ้นมา และก็ช่วยเยียวยาบาดแผลในใจหลังจากการคำรามอันหนักหน่วงไม่มากก็น้อย ระหว่างการอธิบายของลูเซียน พวกเขาต่างตกตะลึงกับท่าทางอันสง่าผ่าเผยและการคำรามอันดุเดือดของลูเซียน ซึ่งทำให้พวกเขาแอบสรุปในใจว่าลูเซียนก็เป็นเจ้าแห่งวายุอีกคน ซึ่งจะไม่มีปัญหากับการตะโกนมากเกินไป ตอนนี้ปัญหาได้รับการเยียวยาแล้ว พวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าอันที่จริงลูเซียนเป็นคนสบายๆ
“ท่านอยากได้ยาสักหน่อยไหม?” มิลินาหัวเราะชอบใจ
ลูเซียนส่ายศีรษะ เสียงของเขาก็ยังคงแหบอยู่เล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร ข้าเป็นอัศวินระดับสอง ข้าน่าจะฟื้นฟูร่างกายได้ภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมง”
นีชกาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ท่านอีวานส์ ท่านเพิ่งได้อ่านบทความของเลฟสกีเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันมานี้ใช่ไหม? เหลือเชื่อมากที่ท่านสามารถคิดหาวิธีพิสูจน์ได้ถึงสองวิธีในระยะเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะวิธีที่สองช่างงดงามและแม่นยำมาก เป็นการพิสูจน์สภาพเข้ากันได้ระหว่าง ‘เรขาคณิตหอคอย’ กับ ‘เรขาคณิตเลฟสกี’ อย่างสมบูรณ์แบบ พอเจอแบบนี้ พวกเราก็ไม่อาจให้ความยโสและความปกติบังตาพวกเราอีกต่อไป ท่านช่างเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ที่น่าเหลือเชื่อ”
“อืม… อันที่จริง มีการศึกษามากมายเกี่ยวกับเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์และพื้นที่ทรงกลมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นการศึกษาของพวกท่านทุกคน ที่ทำให้ข้ามีรากฐานที่แข็งแรงและแรงบันดาลใจ หากไม่มีการศึกษาของพวกท่าน แม้ข้าจะมองบทความของท่านเลฟสกีจากมุมมองเชิงวัตถุวิสัยก็ตาม ข้าก็คงไม่อาจหาเหตุผลมารองรับได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นนี้” ลูเซียนตอบ
เขาเป็นคนค่อนข้างถ่อมตัว ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาไม่อาจบอกทุกคนได้ว่าคนที่ควรได้รับคำชมเชยทั้งหมดต้องเป็นเหล่านักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่บนโลกเดิมของเขา
ลูเซียนคาดว่า หากเขาไม่ลุกขึ้นมาหนุนหลังทฤษฎีของเลฟสกี คุณค่าอันยิ่งใหญ่ของบทความเลฟสกีอาจได้รับการยอมรับหลังจากเลฟสกีเสียชีวิตไปสี่ถึงห้าปี หากเลฟสกีไม่สามารถก้าวหน้าขึ้นเป็นนักเวทชั้นกลาง สิ่งที่ลูเซียนทำก็คือการส่งมอบเกียรติยศและรางวัลที่คู่ควรคืนให้กับเลฟสกีในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องรอจนเขาตายไปกับความเศร้า
ทัศนคติที่จริงใจของลูเซียนได้เยียวยาความรู้สึกกระอักกระอ่วนของสมาชิกคณะกรรมการได้โดยสิ้นเชิง พวกเขาขอโทษอีกครั้งด้วยความตั้งใจสูงสุด
นีชกามองไปที่เลฟสกีซึ่งค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลงได้ แล้วพูดขึ้นว่า “น่าเสียดายที่ในตอนนี้ ระบบเรขาคณิตใหม่ของเลฟสกีและอีวานส์ไม่สามารถประยุกต์ใช้กับการศึกษาอาร์คานาในชีวิตประจำวันของเรา แล้วไม่อาจได้รับการยอมรับจากอาร์คานาศาสตร์ พวกเราจอมเวทสายคณิตศาสตร์ต่างรู้สึกถึงความน่าอดสูเช่นนี้บ่อยครั้ง ข้าคิดว่าเราคงทำได้เพียงตีพิมพ์บทความในวารสาร ‘โหราศาสตร์’ ที่สนับสนุนโดยกลุ่มหอคอย”
นี่เป็นโลกที่ทฤษฎีจะได้รับการยอมรับคุณค่าก็ต่อเมื่อสามารถปรับใช้ได้ในชีวิตจริง เหตุผลที่ทำไมแคลคูลัสถูกเรียกว่าเครื่องมือที่เปลี่ยนยุคทั้งหมดก็คือ แคลคูลัสสามารถช่วยให้นักเวททำการคำนวณที่ซับซ้อนที่จำเป็นสำหรับการสร้างรูปแบบเวทมนตร์ได้ ดังนั้น จึงช่วยทำให้ขั้นตอนง่ายขึ้นและลดระดับพลังวิญญาณที่ต้องใช้ ในอดีตนักเวทอาจต้องใช้เวลาสิบถึงยี่สิบปีเพื่อขึ้นชั้นกลาง แต่สมัยนี้สามารถใช้เวลาเพียงห้าหรือหกปีเท่านั้น อัจฉริยะบางคนสามารถขึ้นชั้นกลางได้เพียงในปีเดียว! และแน่นอน เมื่อมีการสำรวจความจริงของโลกแล้ว แคลคูลัสเป็นเครื่องมือที่ขาดเสียไม่ได้
นอกจากนี้ เหตุผลที่ฟังก์ชันตัวแปรที่ซับซ้อนเป็นหัวข้อการศึกษาที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาก็เพราะความรู้ด้านนี้สามารถใช้อธิบายและคำนวณสนามแรงของพลังวิญญาณ บทความทรงคุณค่าทั้งหมดที่พูดถึงฟังก์ชันตัวแปรที่ซับซ้อนต่างมีโอกาสสูงที่จะได้รับการตีพิมพ์ในวารสารอาร์คานาและวารสารเวทมนตร์
ฉะนั้น การค้นพบของเลฟสกีและลูเซียน แม้ว่าจะมีแบบจำลองเชิงคณิตศาสตร์แล้วก็ตาม ก็อาจเป็นเพียงอัญมณีที่ทำให้นักคณิตศาสตร์ในโลกตื่นเต้นเท่านั้น แต่แทบไม่มีโอกาสที่บทความทั้งสองชิ้นจะได้รับการตีพิมพ์ในวารสารอาร์คานา
ลูเซียนพูดติดตลก “บางทีอีกด้านหนึ่งของโลกอาจเหมาะกับการใช้ระบบใหม่ก็ได้ เมื่อเราค้นหามันพบ วารสารอาร์คานาก็อาจมีคำสรรเสริญพิเศษยอมรับความสำคัญในผลการค้นพบของเรา”
แม้ว่าลูเซียนสามารถใช้อภิสิทธิ์ของเขาในฐานะสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อตีพิมพ์บทความในวารสารอาร์คานา แต่ก็คงไม่อาจช่วยเลฟสกีได้มากนัก ลูเซียนอยากตีพิมพ์บทความของเขาและเลฟสกีในวารสารโหราศาสตร์ร่วมกันเสียมากกว่า เขาเชื่อว่าวารสารโหราศาสตร์ฉบับเดือนนี้จะเป็นที่จดจำของเหล่าจอมเวทในอนาคต เพราะบทความของพวกเขา
“ขอให้เป็นเช่นนั้น” สมาชิกคณะกรรมการคนที่เหลือไม่มีใครคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้จริง และทำได้เพียงอวยพรก็เท่านั้น แม้แต่ทฤษฎีของประธานดักลาสที่เสนอว่าโลกเป็นทรงกลม และด้วยบทบาทสำคัญของ ‘เรขาคณิตอีวานส์’ ในการศึกษาทรงกลม ก็ยังคงสิ้นหวังในการตีพิมพ์บทความลงวารสารอาร์คานา เนื่องจากหน้าการรายงานเรื่องเวทมนตร์มีจำนวนจำกัด ‘เรขาคณิตหอคอย’ และคุณสมบัติของส่วนโค้งก็เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์สำหรับนักเวท ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำให้เรื่องซับซ้อนเข้าไปใหญ่
ยกเว้นสำหรับรอสซึ่งเป็นตัวแทนผู้แน่วแน่ของสภาเวทมนตร์ สมาชิกคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ต่างมีตำแหน่งระดับสูงในกลุ่มหอคอย พวกเขาจึงมีอำนาจตัดสินใจว่าควรตีพิมพ์อะไรในวารสารโหราศาสตร์ หลังจากการอธิบายกันสั้นๆ มิลินาก็กล่าวกับเลฟสกีและอีวานส์ว่า “เดือนนี้เพิ่งเริ่มต้น และวารสารโหราศาสตร์ของเดือนนี้ก็เพิ่งตีพิมพ์ออกมา แต่เพื่อเป็นการเชิดชูผลงานอันยิ่งใหญ่จากท่านทั้งสอง และเพื่อให้จอมเวทส่วนใหญ่ได้เข้าถึงบทความของพวกท่านโดยเร็วที่สุด เราต้องใส่บทความของพวกท่านอยู่ในส่วนเสริมของฉบับเดือนนี้ ความคิดเห็นอย่างไร?”
ในความคิดของจอมเวทหลายต่อหลายคน การตีพิมพ์ในส่วนเสริมไม่เป็นทางการเพียงพอ
เลฟสกีไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ บทความของเขาผ่านการตรวจสอบและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีแล้ว และเพราะบทความนี้ เขาอาจขึ้นเป็นจอมเวทระดับสี่และยังเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับรางวัล ‘คทาอาร์คานา’ สำหรับเขาแล้ว การได้รับคำยืนยันว่าบทความของเขาดีพอที่จะเผยแพร่มีความสำคัญยิ่งกว่า เนื่องจากความฝันมีเพียงความต้องการให้ระบบเรขาคณิตของเขาผ่านการยอมรับจากจอมเวทให้มากที่สุด
แต่เลฟสกีก็ไม่ได้ตอบรับเลยทันที แต่กลับกัน เขามองไปที่ลูเซียนและรอคำตอบ ทั้งนี้ก็เพราะลูเซียนเป็นคนพาเขามาไกลถึงขนาดนี้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูเซียนเกิดความคิดใหม่ ขณะที่ลูเซียนกำลังคิดเรื่องนี้ มิลินาก็มองว่าความเงียบของเขาแสดงถึงความไม่เต็มใจ นางจึงรีบพูดเสริม “เนื่องจากบทความทั้งสองชิ้นนี้ค่อนข้างยาว หากเราตีพิมพ์ทั้งสองบทความพร้อมกันในวารสารฉบับเดือนหน้า วารสารจะออกมาหนามาก เมื่อต้องรวมกับบทความของคนอื่นๆ ฉะนั้นไม่ว่าเดือนนี้หรือเดือนหน้า เราก็ต้องทำส่วนเสริม นับเป็นครั้งแรกที่เราตีพิมพ์บทความเพียงสองชิ้นในวารสารฉบับเดียว ตั้งแต่ยุคแคลคูลัส นี่ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว…”
ลูเซียนโบกมือและยิ้มออกมา “สำหรับข้าไม่มีปัญหา ข้ากำลังคิดถึงวิธีอื่น… ข้าหมายความว่า เนื่องจากตอนนี้เราวางแผนจะเพิ่มส่วนเสริมเข้าไป ทำไมเราไม่ก่อตั้งวารสารฉบับใหม่ที่สังกัดวารสารโหราศาสตร์สำหรับบทความคณิตศาสตร์โดยเฉพาะ? ขณะที่วารสารโหราศาสตร์มีเป้าหมายในการตีพิมพ์บทความด้านโหราศาสตร์และหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่บทความคณิตศาสตร์กินพื้นที่บทความอื่นๆ ที่พูดถึงพร การพยากรณ์ และคำสาป จอมเวทที่อุทิศชีวิตในการศึกษาคณิตศาสตร์จะสามารถมีพื้นที่ของตัวเองในการอภิปราย ข้าคิดว่านี่จะกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญของพวกเขา”
การก่อตั้งวารสารฉบับใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ บทความคณิตศาสตร์ที่พวกเขามีในตอนนี้อาจจะยังไม่มากพอที่จะสร้างวารสารฉบับใหม่ แต่สำหรับวารสารสาขาในสังกัด อาจช่วยขจัดข้อกังวลต่างๆ ได้
“วารสารในสังกัด… เราไม่เคยมีมาก่อน แล้วเราจะพิจารณาคะแนนอ้างอิงบทความอย่างไร?” นีชกาถาม เขาเป็นผู้ทรงภูมิในสาขาคณิตศาสตร์ ดังนั้น การมีวารสารเฉพาะสำหรับคณิตศาสตร์ย่อมเป็นแรงจูงใจสำคัญของเขา
ลูเซียนนำเสนอประโยชน์ของการมีวาสนาในสังกัดคร่าวๆ เป็นลำดับแรก แล้วจึงอธิบายต่อ “ในฐานะวารสารในสังกัด คะแนนอ้างอิงควรเป็นไปตามวารสารโหราศาสตร์ แต่น้อยกว่าหนึ่งระดับ คะแนนอ้างอิงของโหราศาสตร์เท่ากับ 2.5 เราก็ควรให้คะแนน 2.0 กับวารสารใหม่”
“เราสนใจข้อเสนอนี้มาก และเราจะยื่นต่อคณะกรรมการวันพรุ่งนี้” มิลินากล่าวสรุปหลังจากการอภิปรายสั้นๆ กับเหล่าผู้นำจากกลุ่มหอคอย แล้วนางจึงหันมาหาลูเซียนและเลฟสกี “…ถ้าท่านสองคนตีพิมพ์บทความในวารสารใหม่นี้ คะแนนอ้างอิงจะน้อยลง 0.5 คะแนน และคะแนนอาร์คานาจากการอ้างอิงก็จะน้อยลงด้วย…”
ลูเซียนยิ้มอย่างอ่อนโยน “ข้าไม่มีปัญหา ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ตีพิมพ์บทความในวารสารใหม่ฉบับแรก”
เลฟสกีก็พยักหน้าเช่นกัน “ข้าก็ด้วย ตอนนี้ข้ายังมองไม่เห็นการใช้ระบบเลขาคณิตใหม่ของข้าในวงกว้าง ฉะนั้น คะแนนจากการอ้างอิง คงไม่ต่างกันเท่าไรนัก และถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับข้าเช่นกัน”
“ขอบคุณมาก ทั้งสองบทความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของวารสารใหม่” มิลินายิ้ม “…แต่ว่า ท่านเลฟสกี ข้าอยากทราบว่าท่านเต็มใจจะรับหน้าที่หัวหน้าบรรณาธิการของวารสารหรือไม่ ท่านเหมาะกับตำแหน่งนี้ที่สุดในฐานะอัจฉริยะนักคณิตศาสตร์”
เลฟสกีใช้ความคิดอย่างรอบคอบแล้วก็พยักหน้า “ขอบคุณมาก ข้ารับ ข้าจะทำให้ดีที่สุด” เขาเชื่อว่าเมื่อเปรียบเทียบกับงานอื่นๆ งานนี้ทำให้เขามีเวลาศึกษาคณิตศาสตร์และอาร์คานาศาสตร์เพิ่มขึ้น
แล้วมิลินาก็หันมาหาลูเซียน “เนื่องจากท่านเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา ข้าเกรงว่าท่านคงไม่สามารถเป็นหัวหน้าบรรณาธิการได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเชิดชูผลงานอันยิ่งใหญ่ของท่าน เราขอเชิญท่านเข้ามาเป็นหัวหน้าบรรณาธิการกิตติมศักดิ์ของเราได้หรือไม่เจ้าคะ? ท่านสามารถตีพิมพ์บทความคณิตศาสตร์ทั้งหมดของท่านในนิตยสารฉบับนี้”
“ไม่มีปัญหา” ลูเซียนหัวเราะออกมา นี่นับเป็นค่าจ้างที่กลุ่มหอคอยจ่ายให้เขาใช่หรือไม่?
นีชกากล่าวเสริม “ท่านอีวานส์ เราขอใส่สุนทรพจน์สั้นๆ ที่ท่านเพิ่งกล่าวมาบนหน้าปกวารสารได้ไหมขอรับ? เราอยากให้มีคำพูดของท่านเป็นข้อความจารึกด้วยเช่นกัน”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ลูเซียนตอบสั้นๆ เขายังคงเจ็บคออยู่
ในที่สุด มิลินาก็คิดได้ว่านิตยสารฉบับใหม่ยังคงเฝ้ารอชื่อ นางจึงพูดว่า “ท่านอีวานส์ เนื่องจากท่านเป็นคนเสนอเรื่องนี้ ทำไมท่านถึงไม่ตั้งชื่อล่ะเจ้าคะ?”
สมาชิกคณะกรรมการทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ลูเซียนคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนพูดด้วยเสียงอันนุ่มนวล
“คณิตศาสตร์เป็นภาษาที่มหัศจรรย์และสำคัญต่อธรรมชาติ และแสดงถึงกฎเกณฑ์ที่ทุกสาขาและดินแดนต้องปฏิบัติตาม…”
“ขอตั้งชื่อว่า ธรรมชาติ!”