บทที่ 489 ไม่จบง่ายๆ
ภายในหลอดโปร่งใสดังกล่าวก็คือวัตถุไร้สีแช่แข็งที่ปล่อยความเย็นสุดขั้วออกมา แม้เพียงแค่จ้องดูมันก็อาจทำให้รู้สึกเย็นไปถึงกระดูกได้
ขณะที่ลูเซียนกำลังร่ายเวทมนตร์ วัตถุในหลอดแก้วก็เริ่มเดือดปุดๆ และหลอดแก้วก็ดูเหมือนจะแตกออกได้ตลอดเวลา
เมื่อเห็นเช่นนั้น รูดอล์ฟที่สองก็ส่ายศีรษะเบาๆ เขารู้ว่าลูเซียนกำลังจะทำอะไรต่อไป และเขาก็รู้ว่าปัญหาใหญ่กำลังตามมากับเวทมนตร์บทนั้น ระยะเวลาการร่ายมนตร์นานเกินไป นานจนเขาสามารถทำลายได้ง่ายๆ
หน้ากระดาษหนังสือด้านหลังของเขาก็เปิดหน้ากระดาษตัวเองและปล่อยพลังเวทหน่วงเวลาใส่นาตาชา ขณะเดียวกัน รูดอล์ฟที่สองก็ลอยออกไปยังอีกทางหนึ่ง และหลุดออกจากระยะที่พลังวิญญาณของลูเซียนสามารถโจมตีถึง
รูดอล์ฟที่สองเคยเห็นลูเซียนร่ายเวทมนตร์บทนี้ ‘เวทแส้เทพธิดาหิมะ’ มาก่อนแล้ว เขารู้จุดเด่นและจุดด้อยของเวทมนตร์บทนี้ดี
ในฐานะเวทมนตร์น้ำแข็งและหิมะระดับเก้าที่สามารถสร้างอุณหภูมิเยือกเย็นศูนย์สมบูรณ์สุดขีดได้ เวทมนตร์บทนี้จะสมบูรณ์แบบก็ต่อเมื่อผู้ร่ายเวทเป็นผู้วิเศษ อย่างไรก็ตาม หากผู้ร่ายเวทถึงมีพลังไม่ถึงระดับเก้า การร่ายเวทบทนี้จะใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงสี่วินาที ซึ่งนานเกินไปจนไม่อาจเล่นงานอัศวินอาภาหรืออัศวินทองคำในการสู้รบจริงๆ ได้
รูดอล์ฟที่สองลาก ‘ดาบเพลิงล้างบาป’ และพุ่งตัวไปกลางอากาศด้วยความรวดเร็วสูง เตรียมตัวโจมตีรอบต่อไป เขารู้ว่าเขาไม่ควรเปิดช่องว่างให้ลูเซียน มิฉะนั้น ในฐานะนักเวทชั้นอาวุโส ลูเซียนอาจใช้โอกาสร่ายเวทมนตร์เป็นชุดๆ ช่วยเหลือนาตาชาได้ รูดอล์ฟที่สองกำลังใช้ร่างของแดเนียล และเขารู้ตัวว่าเขาสามารถใช้พลังได้มากขนาดไหน เมื่อนาตาชาได้รับพลังเสริมจากอาคมระดับอาวุโส นางก็มีโอกาสทองที่จะจัดการแดเนียลได้ ซึ่งพลังของเขาเพิ่งไต่ถึงระดับต่ำสุดของอัศวินทองคำ เพราะฉะนั้น นักเวทอาวุโสจึงดูเป็นน่าเกรงขามยิ่งกว่า
นอกจากนี้ หากการต่อสู้ใช้เวลานานเกินไปแล้ว และเมื่ออัลเทอร์นาดูดพลังจากเศษแก่นพลังได้สมบูรณ์ หรือเมื่อคอนกัสกลับมา รูดอล์ฟที่สองก็จะไม่มีโอกาสเหลือ
รูดอล์ฟกระพือปีก แต่ตอนนี้เอง เขาก็เห็นว่าลูเซียนหยุดร่ายเวทมนตร์
เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเห็นรอยยิ้มบนหน้าของลูเซียน มีเหรียญสีเงินอยู่ในมือลูเซียนเหรียญหนึ่ง และร่างของเขาก็มีกระแสไฟฟ้ารูปร่างเหมือนงูลำตัวขนาดยาวปกคลุม ขณะที่อวกาศรอบตัวก็บิดเบี้ยวผิดรูปผิดร่างจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
วัตถุไร้สีในหลอดแก้วไม่ได้มีลักษณะต่างจากก่อนหน้านี้ หลอดแก้วร่วงลงและเปล่งแสงท่ามกลางความมืดยามราตรี
นี่เป็นแผนหลอก! ลูเซียนแสร้งทำเป็นร่ายเวทมนตร์!
รูดอล์ฟที่สองกำลังโกรธจัด สำหรับการ ‘การอวตารของคุณงามความดี’ เขาเกลียดการถูกหลอกอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเอง ลูเซียนก็ร่าย ‘เวทปืนแม่เหล็กไฟฟ้า’ เสร็จพอดี เนื่องจากเวทมนตร์บทนี้ประทับอยู่ในวิญญาณของเขาแล้ว ในชั่วพริบตาต่อมา รูดอล์ฟที่สองก็ตกอยู่ภายใต้การกระหน่ำยิงอย่างรุนแรงจากลำแสงแม่เหล็กอันเข้มข้น ลำแสงพลังเวทรวดเร็วจนเขาไม่มีเวลาหลบได้ทัน!
รูดอล์ฟที่สองหน้าเสีย ปีกของเขาหุบลงห่อตัวเหมือนเป็นเกราะคลุมตัวเขาทั้งร่างภายใต้ชั้นปีกนกสีขาว
ตู้ม! เสียงระเบิดดังสนั่นจนหูอื้อ
ขนนกที่ลุกไหม้ปลิวร่วงลงพื้น เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่จากลำแสงตรงกลางปีก แม้แต่หน้าอกของรูดอล์ฟที่สองก็ถูกปะทะอย่างหนัก ร่างของเขาทั้งร่างสั่นเบาๆ และเขาก็ไม่อาจขยับตัวได้ชั่วคราว
แต่พลังของเวทมนตร์ระดับหกยังไม่รุนแรงพอและไม่สามารถสร้างความเสียหายที่หนักหน่วงต่อร่างของอัศวินทองคำ
อย่างไรก็ตาม การไม่อาจขยับเขยื้อนตัวแม้เพียงชั่วคราวของรูดอล์ฟที่สองก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ลูเซียนต้องการ ลูเซียนเรียกใช้พลังจาก ‘เหรียญน้ำแข็งและหิมะ’ ที่เขาสวมอยู่และลำแสงน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่หน้าอกที่บาดเจ็บของรูดอล์ฟที่สอง
ด้วยบาดแผลตรงกลางหน้าอก ชั้นน้ำแข็งก่อตัวขึ้นแช่แข็งร่างของรูดอล์ฟที่สองในทันที ราวกับเป็นโลงศพน้ำแข็งรูปร่างมนุษย์ที่สร้างขึ้นสำหรับเขาโดยเฉพาะ
ลูเซียนวางแผนจะร่าย ‘เวทลดการต้านทานเวท’ ก่อนแล้วค่อยตามด้วย ‘เวทโลงศพเงียบงัน’ อย่างไรก็ตาม เมื่อกำลังต่อสู้จริงๆ ลูเซียนก็พบว่าเกราะของแดเนียลเสียหายอย่างหนักจาก ‘พิธีกรรมชีวิต’ และ ‘เวทฝนโสโครก’
แสงของดวงจันทร์สีเงินฉายลงบนโลงศพน้ำแข็ง ราวกับแสงจันทราสีอุณหภูมิสูงจัด โลงศพน้ำแข็งก็ละลายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างของแดเนียลและภาพมายาสะท้อนภายในโลงศพ
ตอนนั้นเอง ลูเซียนคว้าหลอดแก้วไขฮีเลียมด้วย ‘เวทหัตถ์นักเวท’ เขาโยนหลอดฮีเลียมขึ้นกลางอากาศ แล้วก็เริ่มร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง
ครั้งนี้ หลอดแก้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะลูเซียนกำลังร่ายเวทมนตร์ได้ครึ่งทาง วัตถุไร้สีก็กลายเป็นแสงสีทึบและโบยตีโลงศพที่ละลายไปแล้วครึ่งหนึ่งอย่างรุนแรงตามท่าทางมือขวาของลูเซียน
โลงศพน้ำแข็งก็เปล่งแสงสีฟ้าออกมา ส่วนที่คงเหลืออยู่ของแดเนียลก็กลายเป็นเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง แล้วรูปปั้นน้ำแข็งนั้นก็ละลายกลายเป็นเม็ดฝนและระเหยไป
ทันใดนั้น นาตาชาก็กระโจนเข้าไปในระยะสิบเมตรและลงดาบฟันไอน้ำด้วยดาบยุติธรรมจืดจางอย่างรุนแรง
ภาพมายาที่ก่อตัวจากไอน้ำก็ถูกบั่นออกเป็นชิ้นๆ ด้วยการโจมตีของนาตาชา
เมื่อไม่มีร่าง ภาพมายาสะท้อนก็ไม่ต่างจากภูติผีวิญญาณ คมดาบยุติธรรมจืดจางเป็นอาวุธร้ายสังหารภูติผีวิญญาณ
“ยากเย็นอะไรขนาดนี้…” ลูเซียนพูดพึมพำ
เมื่อวิญญาณสลายไป โซเฟียก็เริ่มตัวสั่นเทาแม้อยู่ไกลจากสนามรบ และเป็นอีกครั้งที่นางตระหนักว่าลูเซียนเจ้าเล่ห์ขนาดไหนและคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ในสายตาของนาง ลูเซียนเป็นเหมือนปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์!
โซเฟียต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะตั้งสติได้ นางรู้สึกโชคดีที่นางเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะไกลแบบนี้
นางปาดเหงื่อออกจากหน้าผากและถอนหายใจ “นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะกลายเป็นมหาจอมเวท… เขามีความสามารถร้ายกาจกว่าปีศาจมากนัก”
“ไม่แปลกที่แม้แต่นาตาชาก็ตกหลุมรักเขา ท่านพี่ ท่านสิ้นหวังแล้วล่ะ”
…
นาตาชาเก็บดาบและตรวจสอบทั้งเนื้อตัวและวิญญาณของนางอย่างละเอียด พลังของรูดอล์ฟที่สองแปลกประหลาดมากจนนางต้องระวังมากเป็นพิเศษ
“ไม่ต้องกังวลมาก เขาบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของอัลเทอร์นา ภาพสะท้อนของเขาสูญสิ้นพลังที่จะเข้าสิงร่างหรือวิญญาณของใครอีก” ลูเซียนพูดกับนาตาชาด้วยน้ำเสียงปลอบใจ ขณะเดียวกัน เขาก็ตรวจดูตัวเองว่าวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหาย
นาตาชาพยักหน้าและก็ยังตรวจสอบอีกครั้งอย่างรอบคอบ และบอกให้คามิลตรวจร่างกายของนางเองเหมือนกัน แล้วนางก็ยิ้มออกมาในที่สุดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่เคยรู้มาก่อนว่าอัลเทอร์นาจะอยู่ในมือซ้ายของเจ้า มันส่งผลเวลาเจ้าทำอะไรบ้างไหม?”
ลูเซียนเห็นว่ารอยยิ้มของนาตาชาซ่อนความหมายไว้ เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะตอบ “ทำอะไร?”
“ก็อะไรที่เจ้าต้องใช้มือซ้าย…” นาตาชาแสร้งทำเป็นจริงจังแต่ก็หลุดหัวเราะออกมา นั่นทำให้ลูเซียนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ การที่ทั้งคู่ยังคุยกันเรื่องเกี่ยวกับความเป็นชายแบบนี้ได้ทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างระหว่างทั้งสองยังเหมือนเดิมแม้จะผ่านมาหลายปี
แล้วนาตาชาก็ระงับอารมณ์ไว้และมองไปรอบๆ “ที่นี่ไม่เหมาะจะคุยเรื่องตลกเลย เราต้องไปก่อนที่เทพอสูรจอมเวท-ลิชจะกลับมา”
“บอกข้าหน่อยเถอะว่าสภาอยู่ที่ไหน ข้าจะไปด้วยตัวเอง” ลูเซียนพูดขึ้น
นาตาชาเลิกคิ้วข้างหนั่งและถูคางอย่างครุ่นคิด
เมื่อเห็นดังนั้น ลูเซียนก็รีบอธิบาย “ดาวหลักเทวลิขิตของข้ามีความพิเศษ ยิ่งข้ามีอัลเทอร์นาอยู่ด้วย คอนกัสคงหาข้าไม่พบ หากข้าไปกับเจ้า คงอันตรายต่อเราทั้งสองคน”
นาตาชาพยักหน้าและยอมรับเหตุผลข้อนี้ นางก็บอกกับลูเซียนด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “จะเข้าเขตควบคุมของสภาเวทมนตร์ เจ้าควรไปทางตะวันออก ข้ามทะเลทราย แล้วค่อยข้ามมหาสมุทร ทวีปที่เจ้าจะไปถึงเป็นพื้นที่ที่สภาเวทมนตร์กำลังค้นหาอยู่ ดินแดนนี้น่าจะขึ้นตรงต่อศาสนจักร แต่พวกเขายังมาไม่ถึงฝั่งตะวันตก ดูแลตัวเองด้วย อย่าไว้ใจพวกมหาจอมเวทคนอื่นๆ ยกเว้นอาจารย์ของเจ้ากับท่านยายแฮททาเวย์”
“ข้าต้องไปก่อนแล้ว” ลูเซียนพูด “เจ้าเก็บดาบยุติธรรม…”
นาตาชายิ้มและพูดแทรกลูเซียน “ให้ข้าเก็บดาบยุติธรรมจืดจางไว้? ได้เลย แต่ขอเป็นครั้งหน้านะ ดาบยุติธรรมจืดจางน่าจะช่วยปกป้องเจ้าได้จนกว่าเจ้าจะปลอดภัย ข้ากำลังไปทวีปเดียวกัน ถ้าข้าเจอท่านยายแฮททาเวย์กับเจ้าแห่งวายุก่อนเจ้า ข้าจะบอกให้พวกเขามาตามหาเจ้า”
นาตาชาไม่ปิดบังว่านางชอบดาบยุติธรรมจืดจาง แต่นางก็ไม่ลังเลที่จะส่งกลับให้ลูเซียน
ลูเซียนพยักหน้า เมื่อเขายื่นมือออกไปรับดาบยุติธรรมจืดจางกลับ ความรู้สึกแปลกประหลาดก็เข้าเล่นงานเข้า มวลพลังสีดำ ขาว และเทาที่ผสมผสานกันแผ่ปกคลุมร่างของเขา และกลิ่นไอของโลกแห่งวิญญาณก็แผ่ออกมา ขณะเดียวกัน แสงสีขาวเงินบนมือซ้ายของเขาก็พยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้
นาตาชายกดาบยุติธรรมจืดจางขึ้นตวัดไปทางลูเซียน ด้วยลำแสงทึบๆ มวลพลังสีดำ ขาว และเทาก็เริ่มสลายและถูกควบคุมอยู่ภายใต้แสงสีขาวเงินอีกครั้ง
“อะไรกันนี่?” นาตาชาถามด้วยความเป็นกังวล
ลูเซียนใช้เวลาสักพักเพื่อสัมผัสถึงอำนาจจิตของอัลเทอร์นาในมือซ้ายของเขา ก่อนจะถอนหายใจ “อัลเทอร์นากำลังดูดพลัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มันเคยเกิดขึ้นมาบ้างแล้วหลายครั้ง แต่โดยปกติ อัลเทอร์นาจะควบคุมพลังไว้ได้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
“ใช้เวลานานแค่ไหน?” นาตาชาขมวดคิ้ว “ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ แบบนี้ เทพอสูรจอมเวท-ลิชตามหาเจ้าเจอแน่ๆ เขาคงรู้ว่าเจ้ากำลังมุ่งไปตะวันออก”
ลูเซียนสูดหายใจลึกก่อนจะตอบ “ประมาณหนึ่งสัปดาห์”
แม้ว่าหนึ่งสัปดาห์จะยาวนานและอันตราย ลูเซียนก็ยังมีความรู้สึกแปลกๆ ว่า อัลเทอร์นาจะดูดกลืนพลังสิ่งมีชีวิตปริศนาในโลกแห่งวิญญาณในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ได้อย่างไร? น่าจะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น
“นาน… เกินไป เอาแบบนี้ไหม? ข้าจะไปกับเจ้า แล้วเจ้าซ่อนตัวในเทือกเขาทางตอนเหนือ คงซ่อนตัวจากเทพอสูรจอมเวท-ลิชในป่าไม่ยากนัก” นาตาชาเสนอแนะอย่างเคร่งเครียด “ท่านป้าคามิลจะล่วงหน้าไปทางตะวันออก เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านยายแฮททาเวย์และเจ้าแห่งวายุ เจ้าจะใช้ดาบยุติธรรมจืดจางช่วยควบคุมพลังทั้งสองที่กำลังปะทะกัน ถ้าข้าช่วยเจ้า ข้าคิดว่าอัลเทอร์นาคงยินดีช่วยซ่อนพลังและร่องรอยชะตาลิขิตของข้า ใช่ไหม? คงไม่ใช่พลังของอัลเทอร์นาเยอะนักหรอก…”
ลูเซียนนิ่งเงียบอยู่สองสามวินาที แล้วจึงรู้สึกได้ถึงพลังในมือซ้ายของเขา แล้วเขาก็ตอบออกมา
“อัลเทอร์นาบอกว่าได้ แต่ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะล่วงหน้าไปตะวันออก แล้วให้ท่านคามิลอยู่กับข้ามากกว่า”
“นี่มันเรื่องของข้า ท่านป้าคามิลไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แล้วท่านป้าก็ใช้พลังของนางไปเกือบหมดแล้วด้วย แม้จะมียาวิเศษ นางก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันฟื้นฟูพลัง เทพอสูร-ลิชคงไม่รอถึงครึ่งวันถึงจะมาที่นี่หรอก” หลังจากมองคามิลแล้ว นาตาชาก็พูดกับลูเซียนด้วยท่าทีมุ่งมั่น
ลูเซียนมองไปรอบๆ เขารู้ว่าพวกเขามีเวลาจำกัด เขาจึงไม่อยากเสียเวลาโต้แย้ง
“เอาล่ะ งั้นไปกันเลย”
นาตาชาพยักหน้า นางลอยไปหาคามิลและสนทนากับนางอยู่สักพัก เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมีปากเสียงกัน ดวงตาสีฟ้าของคามิลจ้องมองลูเซียนด้วยความโมโห แต่ในที่สุด นางก็เก็บอาวุธและยอมแยกทางไป
แล้วนาตาชากับลูเซียนก็ใช้ทุกวิธีลบร่องรอย และก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือ
หลังจากผ่านไปสักพัก ฟรานซิสที่กำลังนอนกองอยู่บนพื้นไกลออกไปจากที่เกิดการต่อสู้ ก็เริ่มรู้สึกถึงพละกำลังกลับมาสู่ร่างกาย และกระดูกที่แตกหักก็เริ่มเยียวยา เมื่อเขาสามารถยืนขึ้นได้ในที่สุด รอยยิ้มบนหน้าของแอลก็พลันปรากฏตรงหน้าเขา
หัวและใบหน้าที่บาดเจ็บยับเยินของแอลฟื้นฟูมาแล้ว ตอนนี้เขายิ่งมีสีหน้าเศร้าหมองและลึกลับกว่าที่เคย
“เจ้าพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เราต้องหนีไปจากที่นี่สักพัก”
ฟรานซิสตกตะลึงที่แอลฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ แต่ด้วยความฉลาดของเขา ฟรานซิสไม่ได้ถาม แต่ค้อมศีรษะ และตอบด้วยความเคารพที่แสร้งทำ “ข้าจะติดตามท่านเสมอ ท่านผู้ยิ่งใหญ่”
แอลพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาปิดตา สกัดมวลก้อนพลังสีดำ ขาว และเทาไว้ภายใน
แล้วแอลกับฟรานซิสก็รีบออกจากเมืองฮูซัมโดยเร็ว