บทที่ 519 จังหวะความเร็วของอัศวิน
“เจ้าชอบของขวัญวันเกิดของข้าหรือไม่”
เสียงของนาตาชาแหบพร่าเล็กน้อย นางพยายามแสร้งทำตัวเหมือนปกติ แต่หัวใจนางกลับยังคงเต้นระรัวกว่าปกติ ราวกับว่าความประหม่าลึกๆ ในใจนางกำลังแผ่ออกมา ‘ลูเซียนชอบมันหรือไม่ เขาจะยอมรับมันหรือไม่’
แม้ว่านางจะเป็นราชินีและอัศวินผู้กล้า นางกลับพบว่าการรักษาท่าทีสงบนิ่งช่างทำได้ยาก และนางก็หาได้มั่นใจอย่างที่แสดงออก
‘แม้ว่าเขาจะปฏิเสธ ข้าก็จะไม่ย้อมแพ้ ข้าย่อมพิชิตเขาได้ในสักวันหนึ่ง!’
นาตาชาตัดสินใจแน่วแน่และให้กำลังใจตนเองว่าการล้มเหลวสักครั้งยังเป็นเรื่องรับได้
ฉับพลันนั้น นางก็รู้สึกได้ถึงมือที่ทาบบนเอวและแผ่นหลังของนาง แล้วนางก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของลูเซียนเอ่ยว่า
“ข้าชอบมันมาก แต่…”
มือที่ทาบอยู่ตรงแผ่นหลังนางกดหนักๆ ด้วยไม่ทันตั้งตัว นาตาชาจึงโน้มตัวลงมาหาลูเซียนและก็ได้เห็นดวงตาเขาที่พายุกำลังก่อตัวขึ้น
“…แต่มันไม่เพียงพอ!”
‘ห้ะ?’ นาตาชายังไม่ทันทำความเข้าใจในคำพูดของเขา ปากนางก็ถูกปิดกั้นโดยลูเซียนเสียแล้ว นางสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ราดรดลงบนใบหน้า
ริมฝีปากนางถูกดูดดุนและแยกออก แล้วลิ้นของลูเซียนก็แทรกผ่านเข้ามาในช่องปากนางอย่างมั่นใจ มันตวัดไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง ควานหาคู่เต้นรำแสนกล้าหาญเปิดเผยเมื่อครู่ก่อน
‘หืม?’ นาตาชาคล้ายกับจะเข้าใจถึงอะไรบางอย่าง นางหลับตาลงด้วยความสุขใจและตื่นเต้น ความมืดสลัวในดวงตานางคล้ายกับมีแสงเจิดจ้าปะทุขึ้นจนสว่างไสว
ลูเซียนจูบอีกฝ่ายด้วยความบ้าคลั่งเร่าร้อนเป็นพิเศษเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่กักเก็บมานานของเขา แต่เขาก็ยังกังวลใจอยู่ไม่มากก็น้อย ‘เมื่อกี้นี้เป็นแค่ของขวัญวันเกิดอย่างนั้นหรือ มันมีความหมายอื่นด้วยหรือเปล่า หรือว่าข้าจะเข้าใจผิด’
ความกระสับกระส่าย ความคาดหวัง ความวิตกกังวล… ทุกอย่างนั้นหลอมรวมกันหลายเป็นความรู้สึกเหนือคำบรรยาย ลูเซียนลดความเร็วลงและเฝ้ารอให้นาตาชามอบคำตอบรับยืนยัน
ทันใดนั้น ลูเซียนก็สัมผัสได้ว่าลิ้นนุ่มลื่นตวัดพันเกี่ยวกับลิ้นของเขา มันช่างทรงพลังและหวานล้ำขณะพยายามดันกลับเข้ามาที่ปากเขา ในระหว่างนั้น มือสองข้างก็จับประคองที่ศีรษะเขา
ตูม ลูเซียนรู้สึกเหมือนมีพลุมาระเบิดอยู่ตรงหน้า นาตาชาได้มอบคำตอบที่ชัดเจนอย่างยิ่ง
จุมพิตของทั้งสองเริ่มดุเดือดร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ ทั้งสองก็ผละห่างออกจากกันในที่สุด
ลูเซียนกำลังจะเอ่ยปาก เมื่อนาตาชาที่ใบหน้ายังแดงก่ำเอ่ยขึ้นด้วยความสุขล้น “ลูเซียน เจ้าให้รสชาติดีกว่าที่คาดไว้นัก”
ลิ้นสีชมพูของนางตวัดไล้เลียริมฝีปากตนเองครั้งหนึ่ง
ลูเซียนพลันรู้สึกอับอายขึ้นมา เขากะแล้วว่านาตาชาต้องมีท่าทางเช่นนี้ แต่นั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้เขาชอบนาง
นาตาชาหอบหายใจหนัก “หลังจากเอาชนะการต่อต้านทางจิตใจมาได้ ข้าก็ได้รู้ตัวว่าข้าตกหลุมรักเจ้ามาตั้งนานแล้ว ไม่สิ ลูเซียน ข้าอยากจะบอกเจ้าด้วยความจริงจัง…”
ดวงตาสีม่วงเงินของนางกลับกลายเป็นเคร่งขรึม “…ว่าข้ารักเจ้า ข้าหวังว่าเราจะพยายามใช้ชีวิตด้วยกันได้ ข้าอยากจะใช้ชีวิตที่เหลือกับเจ้าจนเราสองตายจากกัน”
ในฐานะสตรีผู้มีประสบการณ์รักๆ ใคร่ๆ มามากพอ นาตาชาจึงรู้ดีว่าการสารภาพรักควรทำเมื่อคนสองคนรู้จักกันดี การสารภาพรักต่อคนแปลกหน้าที่แทบไม่รู้จักกันมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัว และหากพวกเขาเต็มใจยอมรับมัน นั่นก็คงเพราะพวกเขาคิดกอบโกยสมบัติหรือมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้สารภาพรัก
ลูเซียนพลันรู้สึกว่าแผนการออกเดตที่เขาร่างไว้อย่างละเอียดนั้นช่างทำให้เสียเวลา เพราะมันถูกพิสูจน์ว่าไร้ประโยชน์ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ใช้เสียอีก แม้แต่การสารภาพรักก็ยังเป็นนาตาชาที่ลงมือก่อน
ทว่า มันหาใช่เวลาที่เขาจะมารู้สึกขุ่นใจเพราะเรื่องนั้น ลูเซียนสบตากับนาตาชาด้วยสายตาอบอุ่นและพยายามจะไม่ปล่อยให้ความปิติล้นปรี่ทำให้เสียงเขาสั่น “นาตาชา ข้าก็รักเจ้า มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ข้าชอบการใช้เวลาอยู่กับเจ้ามานานแล้ว ข้าเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองต้องการอะไรตอนที่เราเดินทางกลับอัลโต้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าได้พยายามเข้าหาและโน้มน้าวเจ้า ข้าเองก็อยากจะใช้ชีวิตที่เหลือกับเจ้า ข้าอยากให้เจ้าเป็นภรรยาของข้า”
ด้วยเพราะจดจำได้ดีว่า ‘คนที่คบหาโดยไม่คิดจะแต่งงานนั้นคือคนชั่ว’ ลูเซียนจึงแสดงทัศนคติของเขาด้วยความจริงจัง
นาตาชาแย้มยิ้มสดใส มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเมื่อคนที่เรารักรักเราตอบ
ดูเหมือนนางจะเหนื่อยจากการโน้มตัวลงมา ดังนั้นนางจึงทิ้งตัวลงนั่งบนตักลูเซียนโดยที่มือยังคงวางอยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นนางก็แสดงสีหน้าแปลกๆ
ลูเซียนรีบอธิบายด้วยความอับอาย “นี่… นี่เป็นปฏิกิริยาปกติ”
‘เวร บรรยากาศโรแมนติกพังหมด’
นาตาชาพลันตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางเบี่ยงตัวเล็กน้อยและจับสังเกตสีหน้าชวนขบขันของลูเซียนที่แสดงออกดังคาด จากนั้นนางก็โน้มศีรษะเข้าหาพลางเอ่ยเสียงเย้ายวนอยู่ข้างใบหูของเขา “พี่ใหญ่ไอวานแห่งลูเซียนใช่ไหม”
“ใช่” ลูเซียนหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร
นาตาชาอ้าปากแล้วดูดดุนติ่งหูของลูเซียน ปล่อยให้ความเสียวแปลบแพร่ไปทั่วสรรพางค์กายเขา จากนั้นนางก็ผละออกมาขณะหัวเราะคิกคัก “ข้าชอบปฏิกิริยาของเจ้านะ แต่อย่าอายไปเลย”
ด้วยความอับอายเกินบรรยาย ลูเซียนจึงเอียงศีรษะไปดูดดุนติ่งหูของนาตาชาอย่างแผ่วเบาเช่นกัน แต่มันกลับเหนือความคาดหมายเมื่อเขาเห็นว่าร่างกายนางสั่นสะท้าน และสีแดงก็แพร่จากลำคอไปยังแก้มของนาง
‘นี่คือจุดอ่อนไหวของนางอย่างนั้นหรือ’
“ข้าชอบที่เจ้าทำแบบนี้ให้ข้าเช่นกัน” ดวงตาของนางฉ่ำปรือขณะเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นนางก็ถามด้วยความสงสัยและเปี่ยมสุข “เจ้าบอกว่าเจ้าตกหลุมรักข้าและพยายามจีบข้ามาตั้งแต่หลายปีก่อน แต่เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ”
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะชอบแต่สตรีน่ะสิ ข้าจึงพยายามจะสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าและเปลี่ยนใจเจ้าเสียก่อน” ลูเซียนตอบตามสัตย์จริง
นาตาชาแย้มยิ้มและดูเหมือนจะประทับใจ “ลูเซียน ข้ายังคงชมชอบสตรี แต่เจ้าเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ถึงเจ้าจะเป็นชาย ข้ากลับไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิดยามแตะต้องเจ้า”
ขณะเอ่ยประโยคนั้น นางก็ขยับเอวเพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่พูด แต่นั่นยิ่งทำให้ลูเซียนอดกลั้นได้ยากลำบากขึ้น
“เฮะๆ ในเมื่อเจ้าพยายามจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรา เจ้าคงจะต้องวางแผนการสำหรับมื้อค่ำฉลองวันเกิดมาแล้วใช่หรือไม่ เจ้าจะทำตามแผนนั้นหรือไม่หากว่าข้าไม่สารภาพรักเสียก่อนน่ะ” นาตาชาดูจะชอบอกชอบใจกับอาการหักห้ามใจของลูเซียน นางขยับเอวไหวเชื่องช้าแต่ไม่อาจหยุดได้ขณะเอ่ยถาม
“ใช่ ข้าวางแผนการไว้หมดแล้ว รวมถึงการเตรียมอาหาร หัวข้อชี้นำ เล่นเปียโน การสารภาพรักและทุกๆ อย่าง” บัดนี้สมองเขาเต็มไปด้วยเลือด ลูเซียนจึงสารภาพออกไปอย่างว่าง่าย
นาตาชาอึ้งงัน มันเป็นเพียงคำถามเย้าแหย่ และนางก็ไม่คาดคิดว่าลูเซียนจะวางแผนเอาไว้จริงๆ ดังนั้นนางจึงถามต่อด้วยความสนใจอย่างยิ่ง
ในเมื่อตอนนี้เขาโพล่งบอกในสิ่งที่น่าอับอายออกไปโดยไม่ตั้งใจแล้ว ลูเซียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะบอกแผนการทั้งหมดของเขา และสุดท้าย เขาก็บอกว่า “แต่กลับกลายเป็นว่า แผนการพวกนี้ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง”
นาตาชาระเบิดเสียงหัวเราะ “สมกับเป็นเจ้าจริงๆ! ตลกชะมัด!”
แต่แล้วเสียงหัวเราะของนางก็หยุดไปกลางคัน สายตานางกลับกลายเป็นลึกล้ำขณะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “แต่ข้าชอบ! ข้าชอบมันมากๆ!”
ลูเซียนสัมผัสได้ว่าลมหายใจของนาตาชาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองเข้าไปในดวงตานาง เขาก็เข้าใจได้ถึงความสุขของนาง
แม้ว่าเขาจะไม่เคยประสบพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่เขาพลันรู้สึกว่าแผนการที่เตรียมไว้มิได้ไร้ประโยชน์ไปทั้งหมดเสียทีเดียว ในขณะที่เนื้อหาในแผนการไม่เคยได้นำมาใช้ ตัวแผนการเองกลับประสบความสำเร็จในการทำให้นาตาชาประทับใจ ลูเซียนรู้สึกหวานล้ำและสุขใจขึ้นมาทันใด แต่มันกลับถูกขัดขวางไว้ด้วยคำประกาศกร้าวของนาตาชา
“ลูเซียน เรามามีลูกกันเถอะ” นาตาชาดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับการตกอยู่ในห้วงอารมณ์ลึกซึ้ง นางจึงรีบดึงตัวเองกลับมาและเอ่ยแนะอย่างตื่นเต้น
ลูเซียนแทบจะเป็นลม นี่ความก้าวหน้าของพวกเขาไม่เร็วเกินไปหรือ
นาตาชาไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรผิดแปลก จึงพูดต่อไปอย่างมีความสุข “ข้าวางแผนไว้ว่าจะมีทายาทจากสายเลือดของเจ้าด้วยการผสมเทียมอย่างที่เจ้าเคยบอก แต่ว่า เรื่องยุ่งยากพวกนั้นคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ เราสามารถทำได้ด้วยวิธีตรงไปตรงมายิ่งกว่า ฮ่าๆ!”
ลูเซียนรู้สึกขัดเขินอับอายอีกครา “นาตาชา เจ้าไม่รู้สึกว่าเจ้าเพิ่งจะทำลายบรรยากาศหวานๆ ไปเลยหรือ”
นาตาชารู้ตัวในที่สุด นางเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด “ก็ใช่…”
แต่ไม่นานนางก็กลับมาร่าเริง นางมองหน้าลูเซียนด้วยรอยยิ้มกว้าง “ความจริงแล้ว ข้าคิดว่านี่คือบรรยากาศที่เหมาะกับเจ้ามากที่สุด เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น มันผ่อนคลายไร้แรงกดดันใดๆ” ลูเซียนตอบตามตรง
นาตาชาพูดต่อในหัวข้อก่อนหน้านี้ “ลูเซียน ข้าหวังจริงๆ ว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างเปิดเผยในสักวันหนึ่ง และหวังว่าลูกๆ ของเราจะสามารถเติบโตขึ้นภายใต้ความรักของบิดามารดา ใช่ นั่นคือความคิดที่ข้ามั่นใจมากในตอนนี้และเป็นเป้าหมายที่ข้าจะทำให้สำเร็จให้ได้ การปกป้องคือความรู้สึกจากพระเจ้าที่แท้จริงในใจข้า มันอยู่ตรงนี้และจะอยู่ตลอดไป ไม่มีทางสั่นคลอนเพราะอะไรทั้งนั้น”
ดวงตาของนางทอประกายแจ่มแจ้งและมั่นใจ ราวกับว่านางได้ค้นพบเส้นทางที่จะเดินต่อไปแล้ว
“ข้าเองก็เช่นกัน ข้าหวังว่าลูกๆ ของเราจะเติบโตในครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้า” เป็นเรื่องง่ายที่คู่รักจะนึกฝันถึงอนาคตยามอยู่ด้วยกัน ลูเซียนเองก็แย้มยิ้มไม่ต่างกัน
นาตาชาหัวเราะคิกคัก “แต่ก่อนอื่นเลย เราต้องมีลูกกันก่อน”
“เราค่อยจัดการเรื่องนี้ทีหลังก็ได้” ลูเซียนตอบยิ้มๆ
แต่นาตาชากลับขยับเอวอีกครั้ง “อย่างนั้นหรือ แต่พี่ใหญ่ไอวานของเจ้าดูจะแนะไปอีกทางนะ ข้าอยากจะดูแลมันเดี๋ยวนี้เลย”
แทนที่จะรอคำตอบจากลูเซียน นาตาชากลับยืดตัวตรงโดยพึ่งพาเพียงแรงจากกระดูกสันหลังแล้วคว้ามือลูเซียนทั้งสองข้างเอาไว้
“นาตาชา…” ลูเซียนพบว่าเขาไล่ตามให้ทันความคืบหน้านี้ได้ยากนัก
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค ลูเซียนก็สัมผัสได้ว่ามือขวาของเขา ภายใต้การชี้นำของนาตาชา ได้ทาบลงบนเนินสูงที่มีปลายยอดอยู่บนนั้นแล้ว
“เจ้าชอบหรือไม่” เสียงของนาตาชายิ่งแหบพร่ากว่าเดิม ราวกับว่านางเองก็ถูกมนตร์สะกดเช่นกัน
เลือดพลันไหลบ่าเข้าสู่สมองเขา ลูเซียนอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้น มือซ้ายของเขาก็ถูกนาตาชาดึงให้เข้าไปสัมผัสผิวเนื้อนุ่มลื่นยืดหยุ่นของนางที่อยู่ข้างใต้เสื้อผ้า
“เจ้าชอบหรือไม่” นาตาชาโน้มตัวลงมาหาลูเซียนพลางถามอีกครั้งด้วยเสียงแหบโหยสุดแสนเย้ายวนใจ
“ชอบสิ” ลูเซียนรู้สึกว่าตัวเขาไม่สมควรเรียกว่าบุรุษอีกต่อไปหากว่าเขายังยับยั้งตัวเองอยู่เช่นนี้ ขณะที่มือของเขากำลังยุ่งอยู่นั้น เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “ไปที่ห้องนอนกันเถอะ…”
“ทำที่นี่แหละ ทั้งบนโต๊ะ บนพรมหรือบนเก้าอี้นี่เลย” นาตาชาหัวเราะร่าขณะกล่าว เสียงของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์ตราตรึงใจ
ลูเซียนรู้สึกว่าครั้งแรกจะดีที่สุดเมื่อทำบนเตียง ดังนั้น เขาจึงพยายามอุ้มนาตาชาขึ้น แต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงมือเย็นๆ ข้างหนึ่งที่ล้วงเข้ามาใต้เสื้อผ้าเขาและเคลื่อนลงจากอกไปจนกระทั่งคว้าจับพี่ใหญ่ของเขาเอาไว้
“ข้ารอที่จะลิ้มรสสัมผัสของเจ้าไม่ไหวแล้ว”
คล้ายกับจะมีหยาดน้ำหยดลงจากดวงตาสีม่วงเงินของนาตาชาขณะที่นางประทับจูบบนริมฝีปากลูเซียนอีกครั้ง