บทที่ 542 เงื่อนไขความร่วมมือ
ณ ชั้นที่สามสิบสามของหอคอยเวทมนตร์อัลลิน ลูเซียนเดินตามเจ้าแห่งวายุเข้าไปในห้องสมุดของเขา
ในโถงทางเดินที่ว่างเปล่า เฟอร์นันโดมองลูเซียนอย่างครุ่นคิด “เจ้าจะเอาลำไส้อะไรออกมา? ทำไมถึงไม่ส่งผลต่อเจ้าเลย?”
แม้เขาจะเชี่ยวชาญด้านศาสตร์มืดเช่นกัน แต่มีระดับความรู้ของจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณที่คั่งค้างอยู่และแตกต่างจากการพัฒนาบนโลกเดิมอย่างสิ้นเชิง ว่าด้วยเรื่องอวัยวะอักเสบและพยาธิวิทยา ทั้งหมดต้องใช้ทักษะการแพทย์และน้ำยาวิเศษ และไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเลย
ในเรื่องของการชำแหละอวัยวะ นักเวทศาสตร์มืดให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างอวัยวะกับโรคร้ายเพื่อพัฒนาเวทมนตร์คำสาปและโรคใหม่ๆ หรือลดข้อจำกัดเวทมนตร์คล้ายๆ กันในอดีต ดังนั้น การแบ่งประเภทอวัยวะภายในของนักเวทศาสตร์มืดยังค่อนข้างคลุมเครือ ไส้ติ่งและลำไส้ใหญ่ต่างถือเป็นลำไส้โดยไม่มีการแยกแยะโดยละเอียด
“ข้าเรียกมันว่าไส้ติ่งขอรับ ข้าค้นพบไส้ติ่งตอนชำแหละและศึกษาร่างของกรันเวล แม้ลำไส้ส่วนนี้ถูกตัดออกและความสามารถงอกใหม่ถูกกดไว้ ก็ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด หรือพูดได้ว่าอวัยวะส่วนนี้แทบไม่มีประโยชน์” ลูเซียนเสนอเหตุผลที่เขาตัดสินใจไว้นานมากแล้ว อาจารย์ของเขารู้ดีว่าเขาเพิ่งใช้ร่างของอัศวินดำระดับเก้าเป็นหนูทดลอง
สำหรับอิทธิพลของภูมิคุ้มกัน แทบไม่มีผลอะไรต่ออัศวิน
เฟอร์นันโดพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว อย่างน้อย มันก็ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในพิธีกรรมซ่อนชีพขั้นสูง”
เขาไม่ได้คัดค้านการชำแหละศพกรันเวลของลูเซียน แต่กล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นด้วย “ถึงเวลาที่เจ้าศึกษาเรื่องพลังโลหิต เป็นประโยชน์ในการศึกษาวิญญาณ พิธีกรรมต่อชีวิตอีกมายในอนาคตจะต้องใช้ความรู้เรื่องนี้เป็นพื้นฐาน เจ้าคงไม่ได้อยากกลายเป็นอสูรลิชใช่ไหม? หรือเจ้าอยากให้นาตาชาตายเร็วกว่าเจ้า?”
“อัศวินกลายเป็นอสูรลิชไม่ได้หรอกขอรับ อัศวินจะถูกพลังด้านลบเล่นงาน แม้จะกลายเป็นอัศวินแห่งความตาย ดังนั้น มีเวทมนตร์ชั้นตำนานไม่กี่บทที่ต่ออายุให้นางได้ เท่าที่ข้ารู้ มีเวทมนตร์ไม่เกินห้าบทที่มีพลังต่ออายุเกินพันปี หากไม่มีความเข้าใจลึกซึ้งเรื่องศาสตร์มืด ท่านจะไม่สามารถประกอบพิธีกรรมได้ แม้จะขึ้นสู่จุดสูงสุดของชั้นตำนาน ถึงตอนนั้น ท่านก็ขอให้วิเซนเตช่วยไม่ได้หรอกใช่ไหมขอรับ?”
“แต่ก็ไม่ใช่ท่านใช่ไหมขอรับ อาจารย์? ท่านประกอบพิธีกรรมซ่อนชีพตอนนี้เลย” ลูเซียนจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ และเอ่ยปากชื่นชมอาจารย์ของเขา
เฟอร์นันโดตอบอย่างหัวเสีย “สาวน้อยคนนั้นมีศักยภาพจะพัฒนาพลังถึงชั้นตำนาน ถ้านางอยากต่ออายุ มีโอกาสที่ข้าจะตายไปแล้วจากการสำรวจความจริงของโลก อีกอย่างหนึ่ง อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในเวทมนตร์ชั้นตำนานล้วนมีค่าสูงมาก เช่น ‘พรมังกร’ ที่ช่วยต่ออายุให้ข้า ต้องใช้ทั้งเลือดและกระดูกของมังกรยุคดึกดำบรรพ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธีกรรม ตอนนั้น ข้าร่วมมือกับแฮททาเวย์และขอให้ดักลาสช่วย ก่อนที่เราจะออกล่ามังกรแดงดึกดำบรรพ์ เจ้าแทบไม่มีโอกาสจับมันได้”
“มังกรดึกดำบรรพ์ชั้นตำนาน…” ลูเซียนตระหนักแล้วว่าการหาส่วนประกอบดังกล่าวยากเย็นขนาดไหน มังกรทุกตัวมีพลังป้องกันทางกายภาพที่น่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว และพลังเวทมนตร์ของมังกรก็แข็งแกร่งขึ้นตามอายุขัย มังกรดึกดำบรรพ์ชั้นตำนานมีพลังไม่ต่างกับนักเวทชั้นตำนานในจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณในแง่ของความเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์
ที่สำคัญกว่านั้น มีมังกรดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือไม่เกินเจ็ดตัว มังกรทุกตัวล้วนเป็นผู้อาวุโสสำคัญในสภาแห่งความมืด และไม่มีมังกรตัวปลอม เช่น ‘เจ้ามังกรแห่งความมืด’ เทพเจ้าเทียมเท็จในมิติอื่น
เฟอร์นันโดไม่สนใจอาการตกตะลึงของลูเซียนราวกับว่าเขาเป็นปีศาจ แต่อธิบายต่อ “ดังนั้น ถ้าเจ้าไม่มีวัสดุที่เหมาะสม เจ้าต้องหาวิธีสร้างพิธีกรรมเวทมนตร์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องใช้ความรู้เรื่องศาสตร์มืดอย่างลึกซึ้ง เจ้าคิดว่าแฮททาเวย์ไม่ได้พยายามยืดอายุให้แพทริกหรือไง? แต่ร่างกายและวิญญาณของเขาอ่อนแอเกินไป และไม่มีพิธีกรรมไหนในตอนนี้ช่วยเขาได้จริง แฮททาเวย์เองก็ไม่เก่งเรื่องศาสตร์มืดและไม่อาจสร้างพิธีกรรมใหม่ตามสภาะจริงได้… ข้าเองก็ไม่ได้เก่งเรื่องนี้มากไปกว่านาง”
เขาไม่ได้พูดถึงเจ้าแห่งผีดิบ เพราะวิเซนเตไม่มีทางให้ความช่วยเหลือแฮททาเวย์แน่นอน
“เข้าใจแล้วขอรับ” ลูเซียนพยักหน้าอย่างขึงขัง แต่ก็ไม่ได้วิตกเกินกว่าเหตุ นาตาชากับเขายังอายุน้อยอยู่ ทั้งสองคนน่าจะให้ความสำคัญกับระดับพลังและพัฒนาให้ถึงชั้นตำนาน แล้วค่อยมาคิดเรื่องการยืดอายุขัยในภายหลัง
ขณะเขาพูด ลูเซียนก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “อาจารย์ขอรับ ‘พรมังกร’ ยืดอายุขัยให้ท่านได้กี่ปีขอรับ?”
เฟอร์นันโดตอบขึ้นอย่างทะนงตัว “ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุ ความเข้าใจเรื่องวิญญาณและร่างกายของเจ้าพิธี และปัจจัยที่ยังไม่รู้อีกมาก พิธีกรรมนี้ยืดอายุขัยให้สองถึงห้าร้อยปี และประกอบร่วมกับพิธีชีวิตอื่นๆ ได้ ตอนนั้น แฮททาเวย์กับข้าได้ต่ออายุขัยอีกสี่พันเจ็ดร้อยปี”
นั่นใกล้เคียงกับผลดีที่สุดที่ใครคาดหวังได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาพอใจมาก ลูเซียนคิดอยู่ในหัวก่อนจะถามต่อ “แล้วนักเวทชั้นตำนานคนอื่นล่ะขอรับ? คนที่ไม่ได้แปลงเป็นอสูรลิช?”
“ข้าไม่รู้เรื่องคนอื่นมากนักหรอก เพราะมันค่อนข้างเป็นความลับ ข้ารู้แค่ว่าดักลาสทำข้อตกลงกับเอลฟ์และใช้ ‘บรรณาการธรรมชาติ’ ด้วยผลจากต้นไม้เอลฟ์ที่ออกผลทุกๆ หมื่นปี และบรูคยังไม่ได้ยืดอายุขับด้วยพิธีกรรมชั้นตำนาน” เฟอร์นันโดเปิดประตูห้องสมุด
บรูคยังอายุไม่ถึงสองร้อยปี ด้วยพลังชั้นตำนานและพิธีกรรมเวทมนตร์ธรรมดาๆ อายุขัยของเขาก็ยืนยานถึงพันปี เขาจึงไม่ดิ้นรนเพิ่มอายุขัย แต่เฟอร์นันโดต่างออกไป ทั้งดักลาสและเขาเป็นนักเวทที่เติบโตขึ้นมาในจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณ ทั้งสองมีอายุเกินกว่าหนึ่งพันปีแล้ว แฮททาเวย์ก็ได้ส่วนแบ่งวัสดุประกอบพิธีกรรม เพราะนางร่วมมือกับพวกเขา
ลูเซียนหมดข้อสงสัยแล้วจึงยิ้มออกมา “อาจารย์ขอรับ ข้าจะกลับไปที่หอคอยเวทมนตร์และเก็บ ‘เครื่องรางชีวิต’ ในเขตสำคัญเพื่อการคุ้มครอง”
ขณะที่เครื่องรางชีวิตไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับเครื่องรางกักพลังของอสูรลิช และเขาจะไม่หมดลมหายใจ หากรางถูกทำลาย ลูเซียนก็ไม่อยากประมาท เพราะเขาใช้ข้าวของที่มีครึ่งหนึ่งแลกมา
เฟอร์นันโดมีท่าทางขึงขังขึ้น และส่งสัญญาณบอกให้ลูเซียนเดินเข้ามา
หลังจากลูเซียนเข้ามาในห้องสมุดด้วยความสับสน เขาก็ปิดประตูตามหลัง เปิดพลังวงเวทและพูดขึ้น “สภาสูงสุดผ่านญัตติให้ความร่วมมือกับซาร์ด สภาหารือกับเขาลับๆ เมื่อวาน แล้วก็มีการทำสัญญาเวทมนตร์กับเขา”
“ทุกคนในสภาเลยหรือขอรับ? แล้วเขาเรียกร้องอะไร? เขาสัญญาอะไร?” ลูเซียนเคยพูดถึงความลึกลับและแปลกประหลาดของซาร์ดให้อาจารย์ของเขาฟังมาก่อน เขาเองก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนกัน
เฟอร์นันโดชวนลูเซียนเข้ามาในห้องสมุด ก็เพราะต้องการฟังความคิดเห็นของลูเซียน เขาจึงพูดตรงๆ “สมาชิกทุกคนในสภาสูงสุดลงนาม ตามคำขอของซาร์ด พวกเรา นักเวทอ้างถึงความเป็นธรรมจากเจ้าแห่งนรก และเขาก็สาบานต่อพระเจ้าแห่งสัจธรรมด้วย ‘หัวใจแห่งศรัทธา’ ก่อนที่เราจะลงนามในสัญญา”
โดยทั่วไป สัญญาเวทมนตร์ปกติไม่สามารถบังคับใช้กับนักเวทชั้นตำนานได้ ทั้งนี้ ปีศาจและสิ่งมีชีวิตปริศนาอื่นๆ ที่เฝ้าดูแลสัญญาเวทมนตร์เสี่ยงที่จะถูกนักเวทชั้นตำนานจับเป็นหนูทดลอง พวกปีศาจจึงไม่อาจดูแลสัญญาเวทมนตร์และลงโทษผู้ละเมิดสัญญาได้ ฉะนั้น สัญญาเวทมนตร์ระดับนี้ส่วนใหญ่ได้รับการดูแลด้วยดยุกแห่งนรกทั้งเก้าตน หรือสาบานต่อ ‘ต้นกำเนิดเวทมนตร์’
เนื่องจากต้นกำเนิดเวทมนตร์เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ข้อผูกมัดของสัญญาต่อต้นกำเนิดเวทมนตร์จึงยังเป็นปัญหา โลกแห่งปัญญาของนักเวทจะล่มสลาย เพราะละเมิดคำสาบาน แต่บางคนกลับอยู่อย่างปกติสุขเหมือนเดิม แม้ว่ามีการยอมรับว่าใช้การเล่นคำในคำสาบาน ซาร์ดเองก็ไม่อยากจะเสี่ยง จึงต้องการให้เจ้าแห่งนรกซึ่งมีพลังกึ่งเทพเป็นผู้ดูแลสัญญา ในทางกลับกัน คำสาบานของเขาที่อยู่บนพื้นฐานความศรัทธาก็เป็นข้อผูกมัดที่มีผลบังคับใช้ต่อคณะนักบวช
“เจ้าแห่งนคร… เขาจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้หรือขอรับ?” เมื่อได้ยินการอ้างอิงถึงผู้มีพลังที่น่าเกรงขามระดับนั้น ลูเซียนก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เฟอร์นันโดยิ้ม “ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาอาจแทรกแซงเข้ามาลับๆ เขาเป็นพวกแผนเยอะ แต่ว่าเขาเพิ่งโดนดวงจันทร์สีเงินอัลเทอร์นาซุ่มโจมตี และเสียภาพสะท้อนสำคัญจาก ‘เปลวไฟนิรันดร์’ ของเจ้า เขาอาจไม่อยากเข้ามาเสี่ยง แต่ดวงจันทร์สีเงินฟื้นฟูพลังพื้นฐานแล้วและกำลังเฝ้ามองเราอยู่บนท้องฟ้า เขาอาจไม่สามารถจัดการดักลาสได้ ถ้าร่ายภาพสะท้อนลงมาที่นี่”
“ศาสดาพยากรณ์กับราชาทูตสวรรค์น่าจะถูกซาร์ดบงการเพื่อควบคุมคณะนักบวชและผู้พิทักษ์ราตรีหัวรุนแรงด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ยอมรับ”
‘เฝ้ามองเราอยู่บนท้องฟ้า’ เป็นคำอุปมาในโลกเวทมนตร์ที่หมายถึงความสนใจของอัลเทอร์นา
“แล้วท่านสาบานอะไร ซาร์ดสัญญาอะไรขอรับ?” ลูเซียนถามคำถามสำคัญอีกครั้ง
เฟอร์นันโดพยักหน้าช้าๆ “สัญญาระบุว่า หากซาร์ดไม่ละเมิดคำสัญญาหรือโจมตีนักเวทของสภาเวทมนตร์นอกเหนือจากการป้องกันตัว เราจะไม่โจมตีเขา นอกจากนี้ หากคริสตจักรใหม่ของเขาไม่เป็นภัยต่อสภา เราก็จะไม่ขัดขวางการเติบโต ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะได้สิทธิพิเศษในการเผยแพร่ศาสนาในอาณานิคมของมิติดินแดนใหม่ที่เราครอบครอง”
สัญญานี้เป็นบทสรุปความปรารถนาของซาร์ดที่สมเหตุสมผล และดูเหมือนจะบอกเป็นนัยถึงความบริสุทธิ์ใจของเขาในความร่วมมือ… ลูเซียนคิดอยู่ในหัว
“สัญญาที่เขาทำมีผลไปหนึ่งปี เขาจะออกจากคริสตจักรแห่งอาภาและปล่อยให้สภาเวทมนตร์เข้ายึดวงเวทส่งกำลังขนาดใหญ่และการป้องกันพลังอาคมเทพภายใน ซึ่งดีกว่าให้เขาปิดวงเวทส่งกำลังด้วยตัวเอง แล้วเขาจะให้พระคาร์ดินัลหลวงของคริสตจักรอีกสี่แห่งทำเหมือนกัน พวกที่ไม่เข้าร่วมกับเขาจะถูกเราซุ่มโจมตีด้วยความร่วมมือจากเขา” เฟอร์นันโดมองลูเซียนแล้วจึงถามออกมา “เท่าที่เจ้ารู้จักซาร์ดมา เรื่องนี้จะมีปัญหาอะไรไหม?”
ลูเซียนส่ายศีรษะ “ข้ารู้เพียงว่าเขายังปกปิดเรื่องความสัมพันธ์ของข้ากับนาตาชาไม่ให้โป๊บรู้ ตรงตามวัตถุประสงค์ของเขาในตอนนี้ ข้าไม่เห็นช่องโหว่อะไร แต่พวกเราไม่มีใครรู้ว่าเขาได้อะไรมาจากโลกแห่งวิญญาณ และเราต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง”
เฟอร์นันโดไม่ได้พูดอะไรต่อและเพียงแค่ย้ำกับลูเซียน “บอกเรื่องนี้กับนาตาชาและอย่าให้นางพูดเรื่องนี้ต่อหน้าซาร์ด ให้นางทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและให้ความร่วมมือลับๆ แต่นางต้องไม่ทิ้งหลักฐานข้อความหรือเสียงไว้ เพื่อให้เรามีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาได้”
“อาจารย์ขอรับ ท่านกำลังจะบอกให้…?” ลูเซียนประหลาดใจไม่น้อย
เฟอร์นันโดพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ก่อนที่จะคำนวณหาชัยชนะ เจ้าต้องเตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ไว้ด้วย”
ศาสนจักรฝ่ายใต้ทรงพลังมาก องค์กรมีผู้เชี่ยวชาญชั้นตำนานยี่สิบสี่คน และมีมนุษย์ครึ่งเทพอีกหนึ่งคน ด้วยประเทศที่เข้าร่วมกับศาสนจักรฝ่ายใต้ แม้ไม่มีราชอาณาจักรโฮล์มและประเทศที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของช่องแคบสตอร์ม ก็ยังมีอัศวินชั้นตำนานอีกสิบสามนาย นับเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ ขณะที่สภาแห่งเวทมนตร์กำลังเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างสององค์กร และการต่อกรกับศาสนจักรล้วนเต็มไปด้วยอันตราย
“ท่านทำข้ากังวลไปหมดแล้วขอรับ อาจารย์” ลูเซียนหายใจแรง “แล้วเราควรเลื่อนการเสนอบทความเรื่องสัมพัทธภาพพิเศษออกไปก่อนสักปีไหมขอรับ? เราไม่อาจยอมให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงวิกฤติแบบนี้ได้”
เฟอร์นันโดส่ายศีรษะ “เราไม่คิดว่าซาร์ดจะขอความช่วยเหลือเร็วขนาดนี้ เราก็เสนอสูตรทฤษฎีการแปลงของโอลิเวอร์แล้ว แม้ไม่มีการชี้นำของเรา การพิจารณากระแสนิยมและกระบวนการศึกษาอาร์คานา จอมเวทบางคนก็จะค้นพบเรื่องนี้ด้วยตัวเองไม่เกินครึ่งปี เราจึงไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ เพียงแต่เราต้องย่างก้าวอย่างระแวดระวัง”