บทที่ 561 นักเวทไร้ยางอาย
ผู้ที่กำลังต่อสู้กับโอลิเวอร์อยู่ก็คือ หัตถ์ทำลายล้างหรือนักบุญแอนโทนี เขาเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์อันดับสามอีกทั้งยังเป็นเจ้าของขีดจำกัดสายเลือดที่เรียกว่า Light อีกด้วย เขาสังเกตเห็นว่าภายใต้พลังที่เพิ่มขึ้นของวิมานบนดิน ทำให้เวทมนตร์ระดับตำนานของมหาจอมเวทรวมถึงลูกทำลายล้าง และกรงแห่งการทำลายอ่อนกำลังลง เมื่อโดนพลังของโอลิเวอร์ที่เพิ่มขึ้นมากดขี่ ดังนั้นโอลิเวอร์จึงค่อยๆ เคลื่อนที่เข้าไปใกล้ เจ้าแห่งธาตุ แฮททาเวย์ ที่กำลังได้เปรียบในการต่อสู้กับนักบุญทั้งสอง
นักบุญแอนโทนีรู้ดีว่าด้วยพลังของวิมานบนดิน ทำให้นักบุญอนาสตา และนักบุญออกัสตาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแฮททาเวย์ เหมือนอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ของพวกเขายกเว้นอุปกรณ์ชั้นยอด และแม้แต่บางส่วนของร่างกายก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น หรืออย่างน้อยก็ได้รับความเสียหายอย่างมากจากเวทพังทลายขั้นสุดยอด และแยกธาตุ การต่อสู้ทำให้พวกเขาเสียแขน และขา หากไม่มีแสงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมพวกเขาเอาไว้ พวกเขาก็เหมือนกับต่อสู้ทั้งที่ยังเปลือยกายเป็นที่น่าอับอายต่อหน้าผู้ศรัทธาในเรนทาโต
นักบุญแอนโทนีรู้ว่าเมื่อโอลิเวอร์ไปถึงแฮททาเวย์เขาก็จะเสียเปรียบ
แอนโทนีต้องหยุดโอลิเวอร์ แต่เขากลัวพลังของเวทพังทลายขั้นสุดยอด และแยกธาตุ เป็นความจริงที่ว่าเมื่อครั้งหนึ่งเหล่ามหาจอมเวทได้รวมตัวกัน บางทีสมเด็จพระสันตะปาปาอาจสามารถสังหารพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แอนโทนี่รู้ดีว่าเขาไม่สามารถต้านทานเวทแยกสลายได้เลย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวทมนตร์เหล่านั้นมีเพียงเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่บทเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้ รวมถึงเวทมนตร์ระดับตำนานที่เรียกว่า อาณาจักรแห่งพรศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ และเขาก็ไม่สามารถใช้เวทบทนี้ได้
เมื่อเทียบกันแล้วเห็นได้ชัดว่าโอลิเวอร์นั้น ‘เป็นที่นิยม’ ในฐานะศัตรูมากกว่า เพราะเขาไม่สามารถร่ายเวทพังทลายขั้นสุดยอดได้ ความต้านทานเวทของแอนโทนีแทบจะไม่สามารถแบกรับพลังของเวทมนตร์วงแหวนที่เก้า เวทแยกสลายระดับสูง ได้ด้วยตัวเขาเอง
ในเวลานี้แอนโทนีสังเกตเห็นว่า อีกด้านหนึ่งเฮลเลน แม่มดแห่งแดนน้ำแข็ง ก็กำลังเข้าใกล้แฮททาเวย์เช่นกัน ในขณะเดียวกันนักบุญเมลแม็กซ์ก็ผลักดันให้เจ้าแห่งวายุเคลื่อนที่ไปหาแฮททาเวย์เช่นกัน เพื่อให้เหล่านักเวทรวมตัวกัน
แอนโทนีคิดกับตัวเองว่าตั้งแต่นักบุญเมลแม็กซ์อยู่ในระดับตำนานชั้นแนวหน้ามานานหลายปี แม้ว่าเขาอาจจะยังไม่ทรงพลังเท่าดักลาส แต่การเอาชนะเฟอร์นันโดก็น่าจะขึ้นอยู่กับเวลา หากเขาสามารถอยู่ใกล้เมลแม็กซ์ได้ เมลแม็กซ์ก็จะสามารถช่วยให้พวกเขาเอาชนะนักเวทได้เร็วกว่าที่คิด นอกจากนี้ในขณะที่นักเวททุกคนอยู่ใกล้กันมากขึ้น แฮททาเวย์อาจถูกขัดขวางไม่ให้ใช้เวทพังทลายขั้นสุดยอดก็ได้ เนื่องจากเป็นเวทมนตร์ที่ไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะนักเวทได้ในทันที แต่พวกเขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์ และรอการมาถึงของสมเด็จพระสันตะปาปาได้
แผนของเขาเปลี่ยนไปแล้ว แอนโทนีชะลอการโจมตีของเขา และปล่อยให้โอลิเวอร์เข้าใกล้แฮทาเวย์มากขึ้น
มหาจอมเวทสี่คนกับนักบุญห้าคน สงครามป่าเถื่อนกำลังเริ่มต้นขึ้น
แอนโทนีได้รับพลังแห่งพรจากนักบุญอนาสตา และนักบุญมาเรีย ดังนั้นความแข็งแกร่ง ความเร็ว กำลัง และระดับการป้องกันของเขาจึงมีพลังเพิ่มขึ้น
แม้ว่าเวทมนตร์จะเกิดขึ้นเอง และคาดเดาไม่ได้มากกว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อพูดถึงผลของพรที่ได้รับ ก็ไม่มีเวทมนตร์ไหนเลยที่จะใกล้เคียงกับพลังศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นฝ่ายที่มีนักบุญคาร์ดินัลมักจะได้รับประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้แบบกลุ่ม ทั้งแอนโทนีและเมลแม็กซ์ต่างใช้พลัง และแสงแห่งรุ่งอรุณอย่างเต็มที่ พื้นที่ทั้งหมดสว่างขึ้น มหาจอมเวททั้งสี่กำลังเสียเปรียบอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสถานการณ์สำหรับโอลิเวอร์ และเฮลเลน ได้คลี่คลายลงชั่วคราวจากการสนับสนุนของแฮททาเวย์ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ได้เพิ่มภาระให้กับเฟอร์นันโด และแฮททาเวย์ซึ่งตอนนี้กำลังพยายามควบคุมสถานการณ์อย่างมาก
ดวงตาของเฟอร์นันโดสว่างวาบด้วยสายฟ้า และพายุ เขาตะโกนว่า
“ปราการวายุ!”
อาณาเขตของนรกสายฟ้าขยายวงกว้างขึ้นทันที มันดูดนักบุญทั้งห้าเข้าไปในที่ซึ่งมีพายุสีดำทำลายล้าง สายฟ้าขนาดใหญ่ อุณหภูมิสูง น้ำค้างแข็ง และหิมะ
ในขณะเดียวกัน อากาศที่ตกอยู่ภายใต้วายุก็ตกอยู่ในความมืด พลังอันน่าสยดสยองของสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งทำให้อวกาศบิดเบี้ยว และลมที่กรรโชกแรงก็พัดราวกับเสียงโหยหวนอันขมขื่น ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้นักบุญทั้งห้าหนีไป ในขณะเดียวกันโอลิเวอร์ เฮลเลน และแฮททาเวย์ก็กำลังบินขึ้นไป
เวทมนตร์ระดับตำนานที่เป็นหนึ่งในสองของเวทมนตร์พื้นฐานที่สุดที่ได้รับมาจากนิติพิเศษของเขาฮ่าๆๆ!
“พวกเขากำลังทำอะไร? เฟอร์นันโดพยายามฆ่าตัวตายหรือ” เมลแม็กซ์ตกใจเล็กน้อย เขาและนักบุญทั้งห้าจะสามารถฆ่าเฟอร์นันโดได้อย่างสมบูรณ์ภายในสิบวินาที ในขณะที่เขาถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวโดยใช้แสงพิพากษา!
โอลิเวอร์และเฮลเลน ออกจากสนามรบมายืนอยู่กลางอากาศตรงข้ามกัน และร่ายเวทสั้นๆ
“พันธนาการอวกาศ”
ท่ามกลางความเงียบ จากความมืดที่บิดเบี้ยวด้วยสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่เริ่มเย็นลงเหมือนคริสตัลใส
แฮททาเวย์ยืนสูงกว่าโอลิเวอร์ และเฮลเลนเล็กน้อย ดวงตาสีเทาเงินที่เย็นชาของนางไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ มองลงไปที่ความมืดด้านล่าง
“เจ้าทำลายปราการซะ! อนาสตาช่วยข้าฆ่าเฟอร์นันโด!” เมลแม็กซ์สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อันตราย และเขาตัดสินใจทันที
…
ภายในสภาขุนนางในพระราชวังเนคโซ
ขุนนางทุกคนหยุดสนทนาเพื่อรอฟังสุนทรพจน์ของพระราชินี
เสียงที่กระจ่างใสของนาตาชาในตอนนี้ฟังดูลึกซึ้งมากขึ้นเพื่อถ่ายทอดเกียรติและศักดิ์ศรีของพระราชินี
“ข้านาตาชา ไวโอเล็ต ราชินีแห่งราชอาณาจักรโฮล์ม เจ้าแห่งดาบของอัศวินดาบแห่งสัจธรรม เจ้าแห่งอัศวินคำพิพากษา เจ้าแห่งอัศวินกางเขนนักบุญได้ตัดสินใจร่วมมือกับสภาเวทมนตร์เพื่อกำจัดศาสนจักรที่รุนแรง และเคารพ the moderates เป็นความเชื่อของอาณาจักร!”
ไม่มีช่องว่างให้โต้ตอบ น้ำเสียงที่แน่วแน่ของนาตาชาทำให้สมาชิกชั้นสูงหลายคนเริ่มรู้สึกลังเล พวกเขาปฏิบัติตามฝ่าบาทเป็นปกติ และการเอนเอียงไปที่สภาเวทมนตร์จะไม่ทำอันตรายใดๆ สมดุลใหม่ก็จะเป็นรูปเป็นร่างได้
ตอนนี้พวกเสรีนิยมหลายคนตัดสินใจแล้ว พวกเขาจะติดตามนาตาชา
ในขณะเดียวกันนาตาชาก็ยังคงกล่าวต่อไป
“ข้าไม่ต้องการให้ประชาชนของข้าวิตกกังวลทั้งกลางวัน และกลางคืนว่าพวกเขาอาจถูกผู้พิทักษ์ราตรีหัวรุนแรงฆ่าได้ทุกเมื่อ!”
“ข้าไม่ต้องการให้ประชาชนของข้าสูญเสียพลัง และความมั่งคั่ง เพราะจิตใจของพวกเขาถูกควบคุมโดยศาสนจักร ทุกคนมีสิทธิ์ตีความพระคัมภีร์ด้วยตัวของเราเอง และแต่ละคนจะสามารถเชื่อมต่อถึงพระเจ้าได้ด้วยตัวเองเมื่อพวกเราสวดอธิษฐาน”
“ข้าไม่ต้องการให้ราชอาณาจักรโฮล์มกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ไร้วัฒนธรรม ป่าเถื่อน และมืดมนที่สุด มนุษย์เราควรมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการส่องสว่างสถานที่ที่เราอาศัยอยู่โดยใช้แสงคริสตัลเวทมนตร์ ด้วยการทำให้อาณาจักรเล็กลงเมื่อเราเรียกหากันและฟังวิทยุ มองไปรอบๆ เรากำลังใช้อุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุ และเส้นทางตรงหน้าเราได้เชื่อมโยงกับเส้นทางของสภาแล้ว!”
“เจ้าจะเลือกอะไร ประชาชนของข้า?”
ขุนนางทั้งหมดยังคงนิ่งเงียบ ในจิตใจของพวกเขากำลังดิ้นรนอยู่ลึกๆ
ในขณะเดียวกันบรรดาขุนนางที่กำลังฟังคำปราศรัยของนาตาชาใน โคเล็ตต์ บริแอนน์ คาเลส์ และอาณาจักรอื่นๆ ยังคงมีปัญหาในการตัดสินใจ พวกเขาได้รับประโยชน์มากมายจากการเล่นแร่แปรธาตุทำให้ชีวิตของพวกเขาหรูหรามากยิ่งขึ้น และมันเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองอย่างยิ่งสำหรับพวกเขาที่ต้องกลับไปใช้ชีวิตอย่างก่อนหน้านี้ ในทางกลับกันพวกเขาไม่เคยกลัวการลอบสังหารจากผู้พิทักษ์ราตรี และพวกเขาไม่กังวลเกี่ยวกับการรุกรานหรือละเมิดของฝ่าบาท พวกเขาทั้งหมดมีราชา ราชินี หรือเจ้านายเป็นของตัวเอง
ค้อนแห่งการลบล้าง บีเดรนกา และ บาเซอร์ อัศวินแห่งความพินาศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันและทั้งคู่ก็ส่ายศรีษะเล็กน้อย มีบางสิ่งที่ยังขาดหายไปในสุนทรพจน์ของนาตาชาซึ่งเป็นสิ่งที่มีพลังมากพอที่จะโน้มน้าวขุนนางส่วนใหญ่ได้
ในพระราชวังเนคโซ ดยุกเร็กซ์ประธานสภาคนแรกก้าวออกมา และพูดออกมเสียงดัง ว่า “กระหม่อมขอค้าน!”
“ก่อนที่ขุนนางทั้งหมดจะบรรลุข้อตกลง ฝ่าบาทยังไม่ควรตัดสินใจขั้นสุดท้ายก่อน!”
“การตัดสินใจในขณะนี้ เป็นเรื่องของชีวิต และความตาย เจ้านายที่ขัดต่อความประสงค์ของขุนนางส่วนใหญ่คือผู้ทรยศ ดังนั้นเขาผู้นั้นจึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้านายอีกต่อไป!”
เร็กซ์ปฏิเสธอำนาจการตัดสินใจของราชินี และเขาจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้
“สมเด็จพระสันตะปาปาอาจจะกลับมาเร็วๆ นี้ ถ้าเรารีบเร่งจะทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องหรือเปล่า”
“ท่านอยากจะตกนรก และมองขึ้นไปบนหุบเขาวิมานตลอดไปหรือ”
คำพูดของเขาได้รับการสนับสนุนจากขุนนางในปัจจุบันอย่างน้อยหนึ่งในสาม ในขณะที่คนอื่นๆ ยังคงเงียบ พวกเขากำลังรอข้อเสนออยู่
ดยุกเจมส์ยืนขึ้นเพื่อแก้ต่าง “ดูโลกภายนอก ดูริชาร์ดสิ พวกเขายังคงสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ นั่นหมายความว่านี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า!”
เมื่อเห็นว่าพวกเสรีนิยม และพวกอนุรักษ์นิยมเริ่มโต้เถียงกันอีกครั้ง นาตาชาจึงยกแขนขึ้นเพื่อให้เงียบเสียงลง
“ข้ายังพูดไม่จบ”
…
หลังจากร่ายปราการวายุ เฟอร์นันโดก็เริ่มร่ายเวทอีกครั้ง
“Simulacrum”
ทันใดนั้นตัวเขาก็แบ่งตัวเองออกเป็นหกคน และหยุดนักบุญทั้งห้าจากการไล่ล่าพวกจอมเวทที่เหลือ
“แสงพิพากษา!”
“อัศจรรย์!”
“ขับไล่ความชั่วร้าย!”
เหล่านักบุญสามารถกำจัดร่างแบ่งสามในหกคนได้โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมาก ในขณะเดียวกันเมลแม็กซ์ และอนาสตาก็กำจัดร่างอีกสามร่างที่เหลือลงได้ ตอนนี้เฟอร์นันโดเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง
ในท้องฟ้า ทันใดนั้นด้านล่างของอัลลินก็แยกออก และลูกพลังงานขนาดใหญ่ก็ตกลงมา แสงนั้นปกคลุมบางสิ่งที่เป็นน้ำไว้ข้างใน แต่พลังเปล่งที่ออกมานั้นน่ากลัวมาก
ทันทีที่สูญเสียลูกแสง เกราะป้องกันเมืองของอัลลินก็หม่นแสงลงอย่างมาก และก็ทำให้มีปัญหาในการบิน
วารันไทน์คว้าโอกาสไว้ และปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ อย่างไรก็ตามในเวลานี้เสียงหญิงสาวช่างเยือกเย็น
“Silent Blue”
อากาศ และแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกแช่แข็ง แม้กระทั่งเวลา ทุกอย่างตกอยู่ในความหนาวเย็น และสีฟ้าแห่งความเงียบสงบ
นางคือเฮลเลน แม่มดแห่งแดนน้ำแข็ง ผู้ซึ่งใช้เวทมนตร์ระดับตำนาน และทำให้วารันไทน์ติดกับดัก จากนั้นนางก็กลับมามุ่งเน้นไปที่ปราการ นางรู้ว่าวารันไทน์จะใช้เวลาไม่นานในการหลุดออกจากกับดัก และนางก็ไม่สามารถทำร้ายวารันไทน์ในกับดักได้ถ้ามีโอกาส แต่สิ่งที่นางต้องการคือเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
ขณะที่ลูกแสงตกลงมา ใบหน้าของแฮททาเวย์ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ แม้ว่ามีเสน่ห์มากแต่แทบจะไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า ก็ยังมีความตื่นเต้นเล็กน้อยปรากฏอยู่
“ความลับจากภายในอะตอม…”
ฟังดูเหมือนเสียงวิญญาณที่ว่างเปล่ากำลังร้องเพลง แต่ในหูของเมลแม็กซ์ เสียงนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เขารีบพลิกตัว flash of morning light และพุ่งไปที่เฟอร์นันโดพร้อมดาบในมือ
เขาต้องจบการต่อสู้โดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกัน อนาสตาก็ทำสิ่งเดียวกันโดยการร่ายแสงพิพากษา
ในที่สุดนักบุญทั้งสามก็ทำลายสนามแม่เหล็กที่บิดเบี้ยวด้านนอกปราการได้ แต่ยังไม่สามารถทำลายพันธนาการอวกาศได้ ในเวลานี้ก็มีเสียงสองเสียงดังขึ้นมา
“ลูกทำลายล้าง”
“ความพิโรธของเทพธิดาหิมะ!”
ลูกเวทมนตร์สีดำ หิมะ และน้ำค้างแข็งทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเฟอร์นันโดได้
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเมลแม็กซ์ เฟอร์นันโดไม่ได้ทำอะไรเพื่อป้องกันตัวเองเลย แต่ยังคงร่ายเวทมนตร์ต่อไป
“เวทมนตร์พลิกผัน!”
ทันใดนั้นกระจกที่วาดด้วยลวดลายที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ด้านหลังกระจกดูเหมือนว่ามีอีกโลกหนึ่ง เวทมนตร์แสงพิพากษากระทบถูกตัดจบ แต่ก็ถูกสะท้อนจนเกือบจะไปถูกอนาสตา
เวทมนตร์พลิกผันเป็นรูปแบบของเวทมนตร์ระดับตำนานวงแหวนที่เจ็ดของเวทมนตร์แปรผัน ที่สามารถสะท้อนเวทมนตร์เป้าหมายเดียวกันได้ห้าครั้ง ซึ่งสามารถสะท้อนเวทเป้าหมายเดียวกันได้ห้าครั้ง
อย่างไรก็ตามกระจกไม่สามารถหยุดเมลแม็กซ์ได้ พลังศักดิ์สิทธิ์โจมตีเฟอร์นันโดจากอีกด้านหนึ่งอย่างรุนแรง
จัดลำดับเวทมนตร์ Spell Sequencer ชนวนเวท… เวทมนตร์ป้องกันถูกใช้งานเป็นชุด เฟอร์นันโดหายไปจากที่ที่เขาอยู่แล้วไปปรากฏตัวที่ฝั่งตรงข้าม
การฆ่านักเวทไม่ใช่เรื่องง่าย!
แฮททาเวย์กำลังจะร่ายเวทจบ ตอนนี้ลูกแสงอยู่ใกล้กับปราการวายุมาก และพลังทำลายล้างภายในก็เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมานักเวทระดับตำนานทั้งสิบเจ็ดคนมีส่วนร่วมในลูกแสงนี้! สิ่งนี้เป็นวัตถุดิบสำหรับการร่ายเวทขั้นสูงสุด!
พวกเขาได้ลดปริมาณของวัตถุดิบลงเนื่องจากพลังเวทเต็มรูปแบบจะรุนแรงเกินกว่าที่เวลา และอากาศจะทนได้! หากเป็นเช่นนั้นห่วงโซ่ปัญหาทั้งหมดในมิตินี้จะยุ่งเหยิง!
นี่เป็นการโจมตีที่ทรงพลังมากพอที่จะเทียบได้กับเทพอสูร!
เฟอร์นันโดได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับปราการวายุ เขาทำให้ปราการระเบิดพลังแม่เหล็กอันยิ่งใหญ่ และดูดเหล่านักบุญกลับเข้ามาอีกครั้ง!
ตอนนี้นักบุญทั้งห้า และเมลแม็กซ์ต่างก็พุ่งเป้าไปที่เฟอร์นันโด การฆ่าเฟอร์นันโดจะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาที่จะฝ่าปราการออกไป
ในเวลานี้พายุที่น่ากลัวก่อตัวขึ้นอีกครั้งในดวงตาสีแดงของเฟอร์นันโด
อะไรคือข้อดีที่นักเวทมีมากกว่านักบวช?
ชีวิตที่ยาวนาน เวทมนตร์ที่คาดเดาไม่ได้ ชนวนเวทนับไม่ถ้วน และวิธีการที่เตรียมมาอย่างดีสำหรับการคืนชีพ!
ก่อนการต่อสู้พวกเขาได้รับการเตรียมตัวอย่างดี พวกเขากำลังจะเอาชนะศัตรูของพวกเขาโดยใช้พละกำลังสูงสุดกับจุดอ่อนของศัตรู!
“เปลวไฟนิรันดร์กำลังจะมา เจ้าเตรียมพร้อมหรือยัง”
“ข้ามีไส้ติ่งอยู่ที่บ้าน เจ้าล่ะ”
……………………………………………