บทที่ 549 ให้ความเห็น
โอลิเวอร์ค่อนข้างขบขันกับปฏิกิริยาของทั้งสอง เขาแย้มยิ้มกว้าง “วางใจได้ หัวพวกเจ้าจะไม่เป็นอันใดหลังจากอ่านมันจบ ซึ่งนั่นมาจากการประเมินและการพยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์ของข้า”
มาเรียนายังคงไม่สบายใจ “ท่านโอลิเวอร์เจ้าคะ ท่านก็รู้ว่างานเขียนของท่านอีวานส์ค่อนข้างที่จะแตกต่างและ…ทำลายล้าง นอกจากนี้ ท่านยังเรียกตัวเรามาพิจารณาล่วงหน้า ในใจข้า ข้ารู้สึกเหมือนว่าปีศาจร้ายได้ฉายภาพมายาเข้ามาในโลกแห่งปัญญา และรู้สึกว่าหัวข้าจะระเบิดในทันทีหากประมาทเลินเล่อ ท่านพอจะบอกได้ไหมเจ้าคะว่าเหตุใดท่านจึงทำการประเมินเช่นนั้นและเหตุใดท่านจึงเลือกเราหรือเจ้าคะ”
โอลิเวอร์กระแอมไอเพื่อกลั้นหัวเราะ เขาได้เข้าใจถึงภาพลักษณ์ของลูเซียนในสายตาจอมเวทคนอื่นๆ มากขึ้นกว่าเดิมทีเดียวเชียว เห็นได้ชัดว่าชื่อของลูเซียนฟังดูน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าเจ้าแห่งนรกและเจตจำนงแห่งอเวจี โดยเฉพาะเมื่อชื่อของเขาเกี่ยวข้องกับงานเขียน กระบวนการพิจารณาที่ผิดปกตินี้เป็นเหมือนกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับบรูคเป๊ะๆ
“ข้าเลือกพวกเจ้ามาพิจารณาก็เพราะดูจากบทความในวารสารอย่าง ‘เวทมนตร์’ และ ‘วิทยาแม่เหล็กไฟฟ้า’ ของพวกเจ้าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เจ้าทั้งสองพอจะได้แนวคิดคร่าวๆ และเริ่มการวิจัยแล้ว ดังนั้น โลกแห่งปัญญาของพวกเจ้าย่อมไม่มีทางพังทลาย” โอลิเวอร์บอกด้วยเหตุผลที่แท้จริง
แน่นอนว่าเขาตรวจสอบโชคชะตาของทั้งสองล่วงหน้าด้วยโหราศาสตร์จริงๆ
“เราพอจะได้แนวคิดคร่าวๆ แล้วอย่างนั้นหรือ” แอนน์โฮราทวนประโยคนั้นด้วยความสงสัยและไม่นานก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ “ท่านหมายถึงงานวิจัยเกี่ยวกับสูตรการแปลงของท่านและความเข้าใจที่เจาะลึกยิ่งขึ้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและอวกาศอย่างนั้นหรือขอรับ”
โอลิเวอร์พยักหน้าเบาๆ “ใช่แล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้าจะได้รับอะไรมากมายกลับไปหลังจากอ่านงานชิ้นนี้”
แม้จะยังไม่เชื่ออย่างสนิทใจ แต่ทั้งสองก็ยื่นมืออันสั่นเทาออกไปรับรายงานมา แล้วแอนน์โฮรากับมาเรียก็เห็นหัวข้อที่ชื่อว่า ‘ว่าด้วยการศึกษากระแสไฟฟ้าของวัตถุเคลื่อนที่และสมการมวลสาร-พลังงาน’
‘หืม ชื่อหัวข้อดูไม่ค่อยหักล้างรุนแรงสักเท่าไหร่นะ’
ดังนั้น ทั้งสองจึงเริ่มอ่านอย่างระมัดระวัง โดยมีปากกาขนนกกับกระดาษเปล่าวางอยู่ข้างๆ เพื่อคิดคำนวณตาม
เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ มือซ้ายของแอนน์โฮราที่ไม่ได้ถือปากกาขนนก ก็ยกขึ้นมาเกาศีรษะโดยไม่รู้ตัวและทำให้วิกผมสีขาวของเขายุ่งเหยิง เขาดูทั้งตื่นเต้นสนใจและรู้สึกท่วมท้นเพราะงานวิจัยฉบับนี้ และเขายังเริ่มวิงเวียนศีรษะแล้ว
ส่วนมาเรียนา นางขบริมฝีปากเหมือนกับที่เคยทำบ่อยๆ ตอนยังเป็นเด็ก พลางพึมพำว่า “เวลา? อวกาศ? พวกมันจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
โอลิเวอร์ประสานมือพลางมองทั้งสองคนอย่างสงบนิ่งเมื่อดูเผินๆ จากภายนอก แต่แววตาของเขากลับค่อนข้างเคร่งเครียดเพราะปฏิกิริยาของพวกเขา หลังจากเตรียมการมาแปดเดือน มันก็ไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์สมองระเบิดขนานใหญ่อีกแล้วใช่หรือไม่
นอกจากนี้ มุมมองต่อเวลาและอวกาศในทฤษฎีสัมพัทธภาพเองก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ พวกเขาควรจะมองเห็นปัญหาได้ มุมมองต่อโลกของพวกเขาอาจจะยุ่งเหยิง แต่โลกแห่งปัญญาของพวกเขาย่อมไม่พังทลายลงในตอนนี้
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ จู่ๆ แอนน์โฮราก็เงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงสับสนลนลาน “ข้าคิดว่ามันเชื่อได้ยากมากที่เวลาจะเป็นบทบาทหน้าที่หนึ่งของความเร็ว แต่มันก็เป็นความคิดที่น่าหลงใหลยิ่ง แล้วก็… แล้วก็ มันยังมีปัญหาอยู่เยอะมากขอรับ”
“ตามที่ลูเซียนบอกไว้เอง นี่ยังเป็นเพียงการวิจัยเบื้องต้นที่ไม่มีผลสรุปแน่ชัดซึ่งไม่ได้นำเสนออะไรมากมายนอกเหนือไปจากกรอบอ้างอิงเฉื่อย[1] และยังมีปัญหาอีกมากมายที่ไม่มีคำตอบ แต่ข้าคิดว่ามุมมองเรื่องเวลาและอวกาศนั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง” โอลิเวอร์เอ่ยยิ้มๆ สำหรับบุรุษแห่งศิลปศาสตร์ มุมมองเรื่องเวลาและอวกาศเช่นนี้ลงตัวเหมาะเจาะกับความหิวกระหายของเขามากกว่า
“งานเขียนชิ้นนี้ปรับเปลี่ยนมุมมองความเข้าใจต่อเวลาและอวกาศขึ้นใหม่ทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะได้คิดใคร่ครวญตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา บางทีโลกแห่งปัญญาของข้าอาจจะพังทลายและถูกแช่แข็งไปแล้วเพราะความโกลาหล เอ่อ ท่านโอลิเวอร์ขอรับ ท่านอีวานส์คงจะนำเสนองานชิ้นนี้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วใช่หรือไม่ขอรับ การถกเถียงที่ผ่านมาคือการเตรียมตัวเราทั้งทางด้านจิตใจและสติปัญญาใช่ไหมขอรับ” แอนน์โฮราพลันตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
โอลิเวอร์พยักหน้า “ใช่ มันถูกเขียนขึ้นก่อนที่ข้าจะตีพิมพ์สูตรการแปลง งานชิ้นนี้มีส่วนช่วยในการศึกษาโลกมหัพภาคและความเร็วสูงชนิดที่สั่นสะเทือนวงการ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งว่าเหตุใดดาวฤกษ์บางดวงจึงยังไม่ถูกค้นพบ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะมองเห็นคุณค่าของมันได้เหมือนกับที่เห็นส่วนที่ไม่สมบูรณ์แบบ”
“ขอรับ ข้าเชื่อว่าจอมเวทระดับสูงส่วนใหญ่ในสำนักแม่เหล็กไฟฟ้าและสำนักแสง-ความมืดจะยอมรับงานเขียนชิ้นนี้ได้ แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม มันยึดหลักการจากทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าดั้งเดิมและพลิกแพลงด้วยการกวาดแนวคิดล้าสมัยทั้งหมดในนั้นออกไป” แอนน์โฮรากล่าวอย่างเห็นดีเห็นงาม
มาเรียนาที่นั่งข้างเขาพึมพำกับตนเองด้วยความฉงน “แล้วอีเธอร์เล่า”
แอนน์โฮราขมวดคิ้วมุ่น จนถึงตอนนี้เองที่เขาได้ค้นพบว่า ในเนื้อหาของรายงานฉบับนี้ อีเธอร์หาได้มีประโยชน์ใดๆ อีกต่อไป มันถอนตัวออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างเงียบๆ พื้นฐานทฤษฎีคลื่นคงจำเป็นจะต้องแก้ไขให้ถูกต้องเสียแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของมาเรียนา โอลิเวอร์ก็เอ่ยขึ้นพลางยิ้มขื่น “อีเธอร์ คลื่น และอนุภาค เราถกเถียงกันเรื่องนี้มานานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ แต่มันกลับยิ่งเข้าใจได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผันผ่าน”
“มันเหมือนกับอัศวินสองกลุ่มที่กำลังห้ำหั่นกัน ต่างฝ่ายต่างต่อสู้อย่างเต็มกำลัง แต่กลับไม่มีฝ่ายใดโค่นล้มศัตรูและคว้าชัยชนะมาได้เสียที” มาเรียนาหลุดจากภวังค์ “ท่านโอลิเวอร์เจ้าคะ งานเขียนชิ้นนี้จำเป็นต้องได้รับการพิสูจน์ด้วยการทดลองทางปรากฎการณ์และผลการทดลองอื่นๆ เพื่อให้ได้รับการประเมินอย่างเหมาะสมนะเจ้าคะ”
โอลิเวอร์นำรายงานการวิจัยอีกฉบับออกมาแล้วกางไว้ตรงหน้าคนทั้งสอง “นี่คืองานเขียนของลูเซียนที่กล่าวถึงวิธีการพัฒนาเครื่องไซโคลตรอน ที่สามารถใช้สังเกตการณ์อิทธิพลของสัมพัทธภาพได้ แล้วก็ ในนี้ยังมีปัญหาจำเพาะเกี่ยวกับดาวเคราะห์เทียมที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของเวลาและอวกาศอีกด้วย”
โอลิเวอร์กล้าที่จะนำงานเขียนชิ้นนี้ออกมาก็ต่อเมื่อได้เห็นว่าชิ้นงานก่อนหน้านี้เป็นที่ยอมรับได้
หลังจากอ่านงานเขียนชิ้นที่สอง แอนน์โฮราก็เคาะศีรษะตัวเองแรงๆ “หากว่าข้าให้ความสนใจกับการโต้เถียงถึงปัญหานี้ในวารสาร ‘อาร์คานา’ ฉบับนั้น มันคงจะไม่ต้องใช้เวลานานถึงขนาดนี้ และข้าก็คงจะอนุมานได้จากงานเขียนของท่านอีวานส์ภายในไม่กี่เดือนแล้ว”
“มันหมายความว่าแนวคิดและทิศทางของท่านอีวานส์นั้นถูกต้อง แม้ว่างานเขียนจะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม” มาเรียนาออกความเห็นบ้าง จากนั้นจึงกล่าวชื่นชมสมการมวลสาร-พลังงาน
หลังจากที่การเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยถูกนำเสนอ พวกเขาก็เริ่มเรียกลูเซียนว่าท่านอีวานส์แทนที่จะเป็นสมาชิกอีวานส์ แต่ความนัยที่แฝงอยู่นั้นกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตนเองในห้องคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาได้ไม่นาน แอนน์โฮราก็ได้รับรายงานการวิจัยมาจากชีวินรสายนเวท เขาไม่อ่านทวนอีกครั้ง กลับเริ่มเขียนความเห็นว่า
‘นี่คือการเปลี่ยนระบบการเคลื่อนไหวของท่านประธานให้เป็นที่ยอมรับได้ มันแก้ไขข้อจำกัดที่ว่าระบบการเคลื่อนไหวจะถูกต้องแม่นยำก็ต่อเมื่อใช้ความเร็วต่ำเท่านั้นและขยายกรอบความคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวให้อยู่ในระดับของโลกมหัพภาคและความเร็วสูง และมันยังเป็นการแก้ปัญหาหลายๆ อย่างในขั้นต้นเพื่อหลอมรวมทฤษฎีไฟฟ้าและแม่เหล็ก ทำให้เรามีความหวังในการสร้างทฤษฎีทางอาร์คานาที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
‘นอกจากนี้ จากข้อเสนอของท่านอีวานส์ที่ว่าเราควรอนุมานจากข้อสันนิษฐานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจึงค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าความเข้าใจของเราเกี่ยวกับเวลาและอวกาศนั้นดูเหมือนจะมาถึงทางแยกแสนวุ่นวายและน่าพิศวงแล้ว มันแตกต่างจากเวลาและอวกาศที่เราเคยรู้จัก งานเขียนชิ้นนี้ไม่เพียงแต่จะหักล้างโครงสร้างของเวลาและอวกาศในโลกแห่งปัญญาของเรา แต่มันยังหักล้างกรอบความคิดของเราในชีวิตประจำวันซึ่งสร้างขึ้นจากเวลาและอวกาศสัมบูรณ์ มันทำให้ข้าฉงนสงสัยอย่างที่ไม่เคยเป็น และยังถึงกับตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตข้า
‘มันเชื่อได้ยากมากว่าเวลาจะช้าลง และอวกาศจะหดตัวเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น มันขัดแย้งกับการรับรู้ทางสัญชาตญาณและจินตนาการของเราที่มีพื้นฐานมาจากเรื่องนั้น แต่สูตรทั้งหลายที่นำเสนอผ่านงานเขียนชิ้นนี้ดูจะน่าเชื่อถือมากพอและเข้าใกล้ต้นกำเนิดของโลกขึ้นอีกนิด นอกจากนี้ ท่านอีวานส์ยังได้สังเกตเห็นถึงผลลัพธ์ทางทฤษฎีของการเพิ่มมวลสารซึ่งเกิดจากการเร่งความเร็วในระหว่างทำการทดลองด้วยเครื่องไซโคลตรอน ณ ตอนนี้ ประตูศักดิ์สิทธิ์ในใจข้าคล้ายกับจะพังทลายลง แต่ประตูบานใหม่กลับโผล่ขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านนั้น
‘แม้ว่าระบบสัมพัทธภาพที่ท่านอีวานส์สร้างขึ้นจะยังไม่สมบูรณ์แบบ และปัญหาที่ว่ามันจำกัดอยู่ที่เพียงกรอบอ้างอิงเฉื่อยแต่ไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างแพร่หลายยังคงแก้ไม่ตก แต่คุณค่าของงานเขียนชิ้นนี้นั้นมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมการมวลสาร-พลังงานซึ่งเล็งเป้าไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างมวลสารและพลังงานซึ่งเต็มไปด้วยความงามแห่งเวทมนตร์และคณิตศาสตร์ มันทั้งสั้นกระชับ ทรงพลัง และเต็มไปด้วยปริศนาลึกล้ำเหนือจินตนาการ เหมือนกับสูตรบรูคที่งดงามราวกับบทกวี ใครก็ตามที่ไม่ตกตะลึงและถูกสิ่งเหล่านี้ดึงดูดนับว่าเป็นผู้ไร้สามารถทางด้านอาร์คานาศาสตร์!
‘มวลสารและพลังงาน เวลาและอวกาศ พวกมันคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้ บางที เราอาจได้รับขุมพลังทรงอำนาจอย่างหาที่สุดไม่ได้จากมัน จากที่กล่าวมาทั้งหมด นี่คือผลการประเมินงานเขียนของท่านอีวานส์ งานเขียนชิ้นนี้ หลังจากที่ทำให้สมบูรณ์ จะเปลี่ยนแปลงแม่แบบและมอบความเข้าใจลึกซึ่งยิ่งกว่าในเรื่องของเวลาและอวกาศ มวลสารและพลังงานแก่เรา อีกอย่าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระบบสัมพัทธภาพจะถูกสร้างขึ้นจากงานเขียนชิ้นนี้ ดังนั้น ข้าจึงขอเสนอแนะให้มอบรางวัลเป็นสามพันค่าชื่อเสียงอาร์คานา และแปดหมื่นคะแนนอาร์คานา’
เพราะว่ามันยังมีปัญหาแอบแฝงอยู่มากมาย และระบบนี้ยังไม่ถูกสร้างขึ้น แอนน์โฮราจึงไม่ได้ให้ความเห็นและรางวัลที่น่าพอใจเหมือนอย่างที่เคยให้การเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย และทางสภาเวทมนตร์ก็ไม่ได้มอบตำแหน่งมหาจอมเวทให้ลูเซียนเช่นกัน ทว่า มาเรียนาที่ให้ความเห็นคล้ายๆ กันกลับรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ทั่วปอด เพราะนี่หมายความว่าลูเซียน อีวานส์ จะเติบโตกลายเป็นมหาจอมเวทจริงๆ โดยยึดหลักจากการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยหรือไม่ก็ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ!
…
บนชั้นที่สามสิบสามของหอคอยเวทมนตร์อัลลิน…
“พวกเขาต้องใช้เวลาถึงแปดเดือนกว่าจะเข้าใจอารัมภบทเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ เจ้าพวกนี้นี่โง่เง่ายิ่งกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก!” เฟอร์นันโดประมาณการณ์ไว้ในทีแรกว่าอย่างมากที่สุดพวกเขาคงใช้เวลาครึ่งปี
ลูเซียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพียงแย้มยิ้ม “การพูดคุยเพื่อทำลายกรอบความคิดของคนคนหนึ่งหาใช่เรื่องง่าย แต่หลังจากเตรียมการมานาน คงไม่มีจอมเวทระดับสูงคนใดสมองระเบิดแล้วล่ะขอรับ”
หากว่าเกิดเหตุการณ์สมองระเบิดขนานใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ลูเซียนคิดตัวเองคงเกิดมาพร้อมเวทมนตร์ที่จะกวาดล้างผู้คนบนเส้นทางทุกทางที่เขาเดินผ่าน
“รวมรางวัลค่าชื่อเสียงครานี้ ระดับอาร์คานาของเจ้าก็น่าจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับแปดแล้วใช่หรือไม่” เฟอร์นันโดถามด้วยท่าทางสบายๆ และหาได้สนใจเรื่องนี้อย่างแท้จริง
ยิ่งระดับสูงขึ้น การลงอาคมให้สิ่งของก็จะยิ่งยากขึ้น เวทแฝงในเหรียญตราอาร์คานาและเวทมนตร์ไม่อาจพัฒนาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ลูเซียนพยักหน้า “ผลตอบรับจากการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยตลอดแปดเดือนที่ผ่านน่าตกใจมากจริงๆ ขอรับ ทั้งงานเขียน นวัตกรรมของวัตถุดิบต่างๆ และการลดความยากในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ทำให้ข้ามีรายได้มหาศาลเลยล่ะขอรับ เมื่อบวกกับรางวัลค่าชื่อเสียงครานี้ ข้าอาจสามารถเลื่อนขั้นขึ้นเป็นระดับแปดภายในสองสามเดือนนี้”
ให้พูดอย่างเจาะจงแล้ว การค้นพบช่องเปิดของเส้นสเปกตรัมภายใต้สนามแม่เหล็กรุนแรงและคำอธิบายเชิงทฤษฎีเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยทำให้จูรีเซียนได้รับเหรียญจันทราสีเงินจากสำนักแม่เหล็กไฟฟ้า และมันยังทำให้โลกแห่งปัญญาของลูเซียนมั่นคงแข็งแรงขึ้นและทำให้เขาศึกษาเวทมนตร์ระดับเจ็ดกับแปดได้เร็วขึ้น จนถึงตอนนี้ เขาได้เรียนรู้เวทมนตร์เก้าบทของแต่ละแขนงแล้ว
“วารสาร ‘อาร์คานา’ จะออกมาวันพรุ่งนี้ หากว่าไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไร เราก็อาจจดจ่อกับการเตรียมการสำหรับเดือนกรกฎาคมได้เลย” เฟอร์นันโดมองออกไปนอกหน้าต่างพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะตัดสินอนาคตอันใกล้นี้ของสภาเวทมนตร์
……………………………………
[1] ในทางทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษ กรอบอ้างอิงเฉื่อยคือกรอบอ้างอิงของวัตถุซึ่งไม่มีความเร่งเกิดขึ้น นั่นคือกรอบนี้จะอยู่ในสภาพหยุดอยู่นิ่งหรือกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว