สิ่งที่อยู่ภายในห้องดึงดูดความสนใจของแซมมี่ แต่เขาก็ต้องรีบหันหลังกลับทำให้ชนเข้ากับดอนนี่ที่กำลังยืนดูหมายเลขห้องด้านหลังของเขา
“รอ รู้ได้ไงว่ามาผิดห้อง ยังไม่ได้ดูเลขห้องเลยนะ? เจ้าเคยเห็นห้องตัวเองแล้วหรอถึงบอกว่ามาผิดห้อง หรือเพราะว่าห้องมันจัดไม่เหมือนกัน? แต่เจ้าก็ยังถือสัมภาระอยู่ในมือนิ! หือ! เจ้ามีผีแฝดอยู่บนหลัง! นั่นเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิญญาณที่พิเศษมากเลยน่ะ มันจะมีประโยชน์มากในการแก้ปัญหาโครงสร้างเฉพาะของวิญญาณของพวกเรา…” น้ำเสียงน่าฟังและมีเสน่ห์ของผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาจากในห้อง
น้ำเสียงที่คุ้นเคยและเอกลักษณ์การพูดที่ไม่เว้นช่องว่างทำให้ดอนนี่สะดุ้งราวกับโดนสายฟ้า เขาถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด
คาร์ลหรอ?
เป็นไปได้ยังไง?
ชายคนนั้นกลายมาเป็นเพื่อนร่วมห้องของเขาเนี่ยนะ!
จู่ๆ ก็มีภาพที่เขาถูกห้อมล้อมด้วยอัศวินหลายสิบคนที่ยกปากกระบอกปืนจ่อเข้ามา และบนท้องฟ้ามีทิวทัศน์เป็นกระแสน้ำ พระอาทิตย์ และสายฟ้า ที่อัศวินอาภาที่มีความสามารถในการควบคุมธาตุได้สร้างขึ้นผุดขึ้นมาในหัวของเขา
ร่างกายของดอนนี่ถึงกับสั่นสะท้านกับภาพที่น่าสยดสยองนี้ แม้ว่าคาร์ลจะดูอบอุ่นและเป็นมิตรอย่างไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอัศวินที่ปกป้องเขาอยู่จะเป็นเหมือนกัน บางทีความผิดพลาดง่าย ๆ ของเขาอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่เกินกว่าเหตุ อีกอย่างคาร์ลอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด!
“ผ… ผู้หญิง หลังจากที่เห็นท่าน ข้าจะไม่รู้ได้ยังไงว่าข้าอยู่ผิดห้อง” แซมมี่พูดพลางหน้าแดงเรื่อ เพราะว่าเขามีวิญญาณเกาะติดจึงทำให้มีเด็กผู้หญิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สนใจเขา เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องเผชิญกับเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นผู้หญิง อีกทั้งเขาจำเป็นต้องนอนอย่างเร่งด่วน ไม่งั้นเขาจะกลายเป็นคนที่งุ่มง่ามและเงอะงะอย่างมาก
“ใครเป็นผู้หญิง? ข้าเป็นผู้ชาย เป็นอัศวินผู้ปกป้องหญิงสาว และเป็นนักเวทผู้แสวงหาความจริงโดยปราศจากคำถามใดๆ อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้หญิง” คาร์ลทำเสียงโกรธ
แซมมี่เริ่มกระวนกระวายและวิตกกังวลมากขึ้น “อะไรทำให้ท่านคิดว่าท่านไม่ใช่ผู้หญิง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดอนนี่ก็ชิงปิดปากของเขาไว้ เขากลัวว่าคาร์ลจะโกรธและยิงพวกเขาด้วยปืนใหญ่แม่เหล็กไฟฟ้า
ดอนนี่ขยับศีรษะไปทางด้านข้างและมองคาร์ลผ่านช่องว่างระหว่างแซมมี่กับกรอบประตู ด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง “คาร์ล นานมากแล้ว…”
เสียงของเขาหยุดชะงักทันที ลืมแม้กระทั่งหุบปากเมื่อมองเห็นคาร์ลที่อยู่ข้างใน เขาช่างดูเหมือนรูปปั้นประติมากรรมชั้นเลิศ
วันนี้คาร์ลสวมชุดยาวตามแบบฉบับของวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์ที่ขับเน้นผิวขาว ๆ ของเขา ด้วยใบหน้าที่งดงามและดวงตาสีเงินแวววาวของเขาประกอบกับเมื่อไม่มีเสื้อผ้าเลอะเทอะที่คอยปกคลุมส่วนโค้งเว้าของร่างกาย นั่นจึงยิ่งทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเด็กสาวผู้งดงามไร้ที่ติ
อาจเป็นเพราะรูปแบบดั้งเดิมของเสื้อคลุมของวิทยาลัยที่มีลักษณะเด่นที่สุดก็คือสามารถใส่ได้ทุกเพศ! อาจด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึม เสื้อผ้า หรือหูกระต่ายแบบผู้ชาย ฯลฯ ที่คาร์ลมีหายไป นั่นจึงทำให้เขาดูไม่ต่างจากนักเรียนหญิงคนอื่น ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่แซมมี่รีบขอโทษขอโพย
จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้น ถ้าเขาอยู่กับคาร์ลมากเกินไป อาจจะทำให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาพบเจอดูเป็นคนธรรมดาไปเลย
“เจ้า… เจ้า… เจ้า… เจ้าคือดอนนี่เหรอ?” ในที่สุดคาร์ลก็จำชื่อดอนนี่ได้ เขาอึ้งไปชั่วครู่ “เจ้าเป็นเพื่อนร่วมห้องของข้าด้วยหรือเปล่า?”
หน้าของเขาที่หน้าแดงอยู่แล้วก็แดงขึ้นอีก และดวงตาที่วาววับของเขาก็เฉียบคมมากขึ้น กลิ่นอายที่น่ากลัวทำให้ผีบนหลังของแซมมี่ถึงกับหงอยหมอบลงอีกครั้ง
ดอนนี่ถอยไปครึ่งก้าวขณะมองคาร์ลอย่างตกตะลึง ความคิดในหัวของเขายุ่งเหยิง อย่างเช่น “อันตราย” “ข้าต้องหาที่ซ่อน” และ “ทำไมเขาถึงโกรธล่ะ?” แต่หลังจากมองไปรอบ ๆ สายตาคุกคามของคาร์ลก็หายไปทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มที่เบ่งบานว่า “ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันแล้ว! บังเอิญจัง! เขาเป็นเพื่อนของเจ้าเหรอ? เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของเราด้วยเหรอ? หลังจากสอบเสร็จข้าคิดจะไปซื้ออาหารเย็นให้เจ้าแทนคำขอโทษ แต่ข้าเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในการสอบช่วงบ่ายทำให้ข้าต้องกลับเร็วกว่าที่คิด ไม่คิดเลยว่าในวันเปิดเรียนวันแรกจะได้เจอเจ้าอีก เจ้าเรียนวิชาเอกโครงสร้างและพันธุกรรมด้วยหรือเปล่า? ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน…”
คำพูดคำจาของคาร์ลปลุกแซมมี่ให้ตื่นจากความอับอาย เขามองไปรอบๆ และอ่านป้ายที่ประตูอีกครั้ง “เจ้าเป็นผู้ชายจริง ๆ เหรอ”
มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ!
“แน่นอน ข้าเป็นชายแท้!” คาร์ลโบกมือและพูดอย่างภูมิใจ “เจ้าอยากลองวัดความแข็งแกร่งของข้าไหม? ดอนนี่รู้ดี ข้าแข็งแกร่งมาก ข้าสามารถบดขยี้คนห้าคนที่มีร่างกายพอ ๆ กันกับเจ้าได้ด้วยหมัดเดียว แต่มันก็แค่เรื่องตลก ความแข็งแกร่งของข้าอยู่เพียงระดับกลางเท่านั้น…”
แซมมี่พูดด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “ข้าเชื่อเจ้า ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้”
เขาเห็นลูกกระเดือกของคาร์ลและไม่ตื่นตระหนกอีกแล้ว อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายของโลกเหมือนกับที่ดอนนี่ทำ
“เข้ามาเลย ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง เราต้องช่วยเหลือและให้กำลังใจกันเพื่อที่จะก้าวผ่านความยากลำบาก และเพื่อที่พวกเราจะสามารถเดินต่อไปในเส้นทางการสำรวจความลึกลับของพันธุกรรมและจิตวิญญาณในอนาคต…” คาร์ลโค้งคำนับเล็กน้อยพลางยืดมือซ้ายเหมือนสุภาพบุรุษที่สง่างามออกไป
คำพูดของเขาช่างรื่นหู ทั้งยังเป็นทางการพอๆ กับผู้ประกาศข่าว… ดอนนี่ปาดเหงื่อและหยุดมองที่ใบหน้าที่สามารถเทียบได้กับสาวที่งามที่สุดของคาร์ล เพราะเขากลัวว่าเขาจะหวังสูงเกินไป
ห้องในหอพักของวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์ไม่ได้สวยงาม แต่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เตียงสี่เตียงทำด้วยโลหะสีดำถูกวางไว้ติดข้างผนัง โดยที่โต๊ะของทุกคนจะอยู่ถัดจากเตียง
โต๊ะทำจากวัสดุไม้สีเหลืองสดใสแบ่งออกเป็นสองชั้น โดยที่ชั้นบนมีชั้นวางหนังสือเพิ่มด้วย ด้านหลังถัดจากตู้เสื้อผ้าเป็นประตูที่เปิดออกไปจะเป็นระเบียงและห้องน้ำ
“มีโทรทัศน์อยู่ตรงประตู ที่โต๊ะข้างเตียงจะมีตู้เย็นเวทมนต์เป็นของตัวเอง แน่นอนว่าโลหะสองชิ้นบนเตียงเป็นวิทยุเวทมนต์ ที่เจ้าสามารถยัดเข้าไปในหูได้ จะได้ไม่รบกวนคนอื่นถ้าตอนกลางคืนเจ้าอยากจะฟังเสียงแห่งอาร์คานา แต่แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่มีเครื่องปรับอากาศเวทมนตร์ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยเพราะทั้งวิทยาลัยมีวงแหวนเวทย์ตั้งค่าอุณหภูมิแบบถาวรให้อากาศไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไปครอบคลุมอยู่…”
ขณะที่ดอนนี่ลากกระเป๋าเดินทางไปที่เตียงที่ยังว่างอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงน่าดึงดูดของคาร์ลแนะนำสิ่งของในห้องอย่างละเอียดและกระตือรือร้น
เขาไม่ค่อยได้คุยกับคนอื่นเหรอ? ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วใครจะกล้าหยุดสิ่งที่เขาพูดได้ล่ะ? ดอนนี่เกิดความคิดแปลกๆ ขั้นมา
“น่าเสียดายที่ไม่มีที่ว่างให้วางเปียโน ไวโอลิน หรือขลุ่ย ส่วนแผ่นเสียงและเครื่องเล่นเวทมนตร์ก็ถูกห้ามเช่นกัน อันที่จริงมีเพลงมากมายที่อยากจะแบ่งให้เจ้า ข้าเองก็ได้สร้างผลงานขึ้นมาเหมือนกัน…” คาร์ลพูดอย่างผิดหวัง
เครื่องเล่นเวทมนตร์เป็นแผ่นเสียงรุ่นปรับปรุงที่สามารถจัดเก็บเพลงได้มากขึ้นและสะดวกต่อการใช้งาน
“หลังประตูนั้นเป็นระเบียง ด้านซ้ายของระเบียงเป็นห้องน้ำ ไม่มีครัว ไม่มีห้องนั่งเล่น…”
แซมมี่เลือกเตียงที่อยู่ข้าง ๆ ดอนนี่ เพราะเขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับ “สาวงาม” ที่มีเสียงเป็นผู้ชายได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหวีผมที่ยุ่งเหยิง และพูดว่า “ดอนนี่ สวมชุดเวทมนตร์ของนายซะ เราต้องไปเลือกรายวิชา และที่ปรึกษา”
“ฮ่า ๆ เมื่อวานนี้ข้าก็เพิ่งไปเลือกมา” คาร์ลพูดแทรกแซงโดยไม่รู้ตัว “เอางี้ไหม? ให้ข้าแนะนำให้ไหม?”
เหมือนจะเป็นคำถาม แต่เขาก็พูดต่อเลยไม่รอว่า “ตามปกติแล้วที่ปรึกษาด้านโครงสร้างร่างกายและพันธุกรรมที่โดดเด่นที่สุดคือท่านเฟลิเป แต่เขาก็ยังเป็นผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการนอกรีตด้วย และเนื่องจากเขาทำงานเกี่ยวกับขอบข่ายของศาสตร์มืดด้วย เขาจึงไม่มีเวลามากนักยกเว้นจะชั้นเรียนเป็นครั้งคราว อาจารย์คนอื่น ๆ ก็มีความพิเศษเป็นของตนเอง ตัวอย่างเช่น…”
ดอนนี่รู้สึกว่าศีรษะของเขาพองโต “เรามาสายแล้ว และเราก็ไม่อยากพลาดการเลือกรายวิชาในวันนี้ คาร์ลเราค่อยมาคุยกันระหว่างทางดีไหม?”
เขาได้รับแจ้งว่าการเลือกรายวิชาทุกชั้นเรียนของวิทยาลัยจะถูกเลือกอย่างเปิดเผย ถ้ามาสาย ชั้นเรียนที่มีอาจารย์ที่ดี ๆ ก็จะเต็มเสียหมด
เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นเกี่ยวกับวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์ ว่ากันว่าวิทยาลัยอื่น ๆ จะให้นักเรียนเลือกรายวิชาหลังจากที่พวกเขามาถึง แต่ที่นี่ นักเรียนที่มาเร็วก็จะได้เลือกก่อน อย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกับความเคยชินของความหนาวเย็นและความเฉยเมยของสำนักศาสตร์มืดนั้นล่ะ
“ได่สิ ข้าจะบอกรายละเอียดระหว่างทาง อย่าเลือกอาจารย์ที่กำลังยุ่งกับการทำวิจัยของตัวเอง หรือผู้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในสายนั้น ๆ…” คาร์ลพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส
ดอนนี่และแซมมี่มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มขมขื่น ทั้งคู่รู้ว่าไม่มีทางที่จะหยุดคาร์ลพูดได้นั่นเอง
เมื่อวางกระเป๋าเดินทางลง แซมมี่ก็หยิบเสื้อคลุมเวทมนต์ขึ้นมาและเตรียมจะปลดกระดุมเสื้อผ้า แม้ว่าผีที่อยู่บนหลังของเขาจะไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติแต่กระนั้นเขาก็รู้สึกอึดอัดแทน
เขามองไปที่ดอนนี่และพบว่าดอนนี่ก็ตกตะลึงเช่นกันหลังจากที่เขาถอดชุดนักเรียนไปได้ครึ่งหนึ่ง
“หยุดทำไม” คาร์ลกล่าวขึ้นพอดี
ทั้งแซมมี่และดอนนี่หันกลับมา แต่ก็พบว่าคาร์ลใช้ดวงตากลมโตสีเงินสวยกำลังมองพวกเขาสองคนอยู่
พวกเขาเข้าใจทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจ มันเหมือนกับการถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งนั่นเอง!
“คาร์ล เจ้าช่วยหันไปหน่อยได้ไหม” ดอนนี่พูดด้วยท่าทีเขินอาย
คาร์ลตกตะลึง “ทำไม? พวกเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”
ดอนนี่ครุ่นคิดครู่หนึ่งและตอบสิ่งที่ได้เรียนรู้จากชั้นเรียนมารยาทชั้นสูงว่า “แม้แต่ผู้ชายก็ควรเคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกันด้วย”
คาร์ลพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องพักไป
จากนั้นพวกเขาก็ฉวยจังหวะนี้รีบถอดเสื้อผ้าและรีบสวมชุดใหม่ สุดท้ายพวกเขาก็กลัดตราสัญลักษณ์ไฟสีซีด ตราของนักเวทฝึกหัดและตราจอมเวทย์ฝึกหัดบนเสื้อของพวกเขา
“ไปกันเถอะ” ดอนนี่โล่งอกหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
“ใช้ได้นิ!” ในตอนนั้นเองก็มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่รู้สึกตกใจ
เมื่อหันไปหาที่มาของเสียงพวก พวกเขาก็พบชายหนุ่มร่างอ้วน หน้าตาเรียบ ๆ ที่มีผมสีดำและดวงตาสีฟ้าบนเตียงอีกเตียงหนึ่ง
“เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” แซมมี่ถามด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มคนนั้นตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าอยู่ที่นี่ตลอด ข้ามาเร็วกว่าพวกเจ้าอีก แต่พวกเจ้าไม่สังเกตเอง”
“ฮิฮิ ข้าชื่อโจนส์ และข้าก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเจ้าเช่นกัน ข้าอยู่สาขาจิตวิญญาณ”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?” ดอนนี่โพล่งออกมา แน่นอนว่าตอนที่เขาเข้ามาเขาก็สังเกตทุกอย่างอย่างละเอียดเช่นกัน อีกอย่างวิญญาณของแซมมี่ก็ยังมีสัญชาตญาณที่ทรงพลังอีกด้วย
โจนส์ผายมือ “เรื่องนี้ข้าก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เพราะทุกที่ที่ข้าอยู่มักจะตกอยู่ภายใต้ทักษะการพรางตัว ขนาดคนที่มาแจ้งให้ข้าเข้าร่วมการสอบเข้าวิทยาลัยก็ยังแทบจะหาข้าไม่พบ”
“ถ้าอย่างนั้น… ไปเลือกรายวิชากันเถอะ” ดอนนี่เชื้อเชิญอย่างเป็นขณะที่มิตรกัดฟันพูด เมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำแล้ว
นี่มันห้องของพวกตังประหลาดชัดๆ!