ตอนที่ 368 นกอินทรีที่น่ากลัว
ดาบของซืออู๋เย่เป็นดาบที่ผูกกับชีวิตของเขาเอาไว้ กำลังภายในของเขานั้นคือหลงต้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ น้ำในแม่น้ำเฉียนเจียงก็สามารถทำให้คนต่างตระหนกตกใจได้ พูดถึงตรงนี้ โดยเฉพาะพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเจียงซิ่ว แต่ดาบของเขากลับถูกดาบของเจียงซิ่วทำลายลง นั่นเป็นเพราะญาณในดาบของเขานั้นยังไม่เพียงพอ
พละกำลังที่อ่อนแรงของดาบนั้นเป็นเรื่องปกติ พลังของดาบที่แกร่งกล้าพอที่จะทำลายอีกดาบได้นั้นต้องมากพอ ถึงแม้ว่าพลังภายในอาจจะไม่เพียงพอก็ตาม ปกติแล้วคนที่หมกมุ่นอยู่กับดาบ จะไม่สนใจในองค์ประกอบอื่นๆ เมื่อก่อนเจียงซิ่วก็ประสบกับปัญหานี้ แต่กับซืออู๋เย่คนนี้กลับตรงกันข้าม กำลังภายในนั้นเพียงพอ แต่พลังของดาบนั้นกลับไม่เพียงพอ จนไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจียงซิ่ว เขาก็มีแต่จะแพ้เท่านั้น
หากอยู่ก่อนกระระเบิด ร่างกายของเจียงซิ่วยังไม่ถูกทำลาย ตัวดาบก็ยังไม่สำเร็จ บางทีโอกาสที่ซืออู๋เย่จะชนะนั้นอาจจะมีถึงเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเจียงซิ่วก็เป็นฝ่ายเป็นต่อ
แสงวาบในยามค่ำคืนกระทบกับดวงตา
คนในเมืองหางต่างก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า ข้างบนนั้นเต็มไปด้วยน้ำและไฟ ไหนยังจะสายฟ้าแลบ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเกิดขึ้นอย่างผสมปนเป พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา และยังอยู่ห่างไกลแบบนี้ จึงทำได้เพียงมองดูอย่างงุนงง
“นี่มันเป็นสภาพอากาศแบบไหนกัน”
“โลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ช่างน่ากังวลจริงๆ”
ท้องฟ้าในตอนนี้ เหตุการณ์ที่มีสายฟ้าฟาดกันไปมา เมื่อซืออู๋เย่ออกมาก็มีประกายวาบเกิดขึ้น เมื่อญาณของดาบถูกจับเอาไว้ คนก็ลอยตามดาบไปด้วย กลายเป็นประกายดาบที่มีเงาของดาบอีกเล่มหนึ่งพุ่งไปยังเจียงซิ่ว เวลาเดียวกัน เพียงพริบตาเดียวดาบก็แยกออกมาอีกหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดเล่ม คมดาบส่องประกายวาววับล้อมรอบเจียงซิ่วเอาไว้
ภายในสายฟ้านั้น แค่พริบตาเดียวก็ไปอยู่ตรงหน้าของเจียงซิ่ว
สายตาของเจียงซิ่วกวาดไปรอบอย่างราบเรียบ สะบัดดาบจนเกิดแสงสะท้อน
เขาใช้เพียงดาบเดียวเท่านั้น
“ครืนน”
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นบนท้องฟ้า เหมือนกับว่าท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนกระดานเล่นใหม่ ดาบแสดงพลังออกมา ท้องฟ้าต่างกำลังสั่นไหว บรรยากาศเหมือนกับค่อยๆเป็นไปอย่างเอื่อยเฉื่อยแล้วหยุดลง
สติของซืออู๋ต้าวอยู่กับร่องกับรอยแล้ว ถือดาบที่อยู่ในมือกวัดแกว่ง ดาบก็ส่องแสงออกมา เหมือนกับความโชคดีที่ไหลมากับน้ำ ต่อด้วยการออกกระบวนท่า สุดท้ายดาบก็เป็นไปดาบกฏที่ควรจะเป็น ว่างเปล่าไปยังเจียงซิ่ว
“ตั่ง!!!!”
เหมือนกับเสียงระเบิดของน้ำ เสียงระเบิดภูเขาที่ดังมาอย่างแผ่วเบา ท้องฟ้าก็ระเบิดออกมาเกิดรูขนาดใหญ่
พลังของการต่อสู้ของสองคนนั้นเป็นพลังที่มหาศาล ไม่ว่าจะเปรียบเทียบความเร็วหรือพลังในการร่ายคาถา ต่างก็ไม่มีฝ่ายไหนด้อยไปกว่ากัน
“พลังที่แกปล่อยออกมานั้นคือทั้งหมดที่มีแล้วหรือยัง?”
สีหน้าของซืออู๋เย่ซีดขาว เหงื่อเม็ดโตไหลออกมา
“คิดว่าไงหล่ะ?”
เจียงซิ่วยิ้มเย็น ”ความคิดของฉันคือ….ฉันไม่ได้ออกแรงเลย” สัญลักษณ์ที่อยู่บนท่อนแขนของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ส่องแสงสว่างออกมาด้วย สายตาของเจียงซิ่วกวาดไปทั่ว เย็นเฉียบ ปากพึมพำคำหนึ่งออกมา ”ทอดไกล”
ได้ยินเสียงผืนดินดังขึ้น
ครืนน
ทั่วทั้งท้องฟ้าเหมือนกับละครฉากหนึ่ง เสียงดังครึกโครมไม่หยุด คนที่ยืนอยู่บนพื้นต่างรู้สึกได้การสั่นสะเทือนของพื้นดิน ร่างทั้งร่างไหวไปมา
และยิ่งอยู่ในที่ที่ห่างไกลแบบนี้แล้ว แรงมหาศาลค่อยๆแรงขึ้น แสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงส่องไปยังพื้นดิน
“พระ พระเจ้า”
ตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่าย พระอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลินั้นจากไปอย่างเชื่องช้า ในวินาทีนี้ พระอาทิตย์กลับลับขอบฟ้า แต่ทางทิศตะวันออกกลับมีพระอาทิตย์อีกดวงขึ้นมา
“คาถาของเจียงซิ่วทำให้เกิดพระอาทิตย์สองดวงขึ้น”
“นี่มัน….”
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่รู้จะพูดคำใดออกมา ไม่มีเลยจริงๆ นี่เป็นฝีมือของพระเจ้า หากจะบอกว่าสิ่งที่ซืออู๋เย่ทำนั้นทำให้พวกเขาตะลึงแล้ว ตอนนี้ที่เจียงซิ่วทำให้เกิดพระอาทิตย์ขึ้นมาสองดวง แบบนี้ทำให้พวกเขาเปิดโลกขึ้นมาอีก
“พระอาทิตย์สองดวง?”
เจียงซิ่วส่งเสียงประหลาดออกมา แววตาทอประกายเย็นชา เหมือนกับว่าผืนดินเป็นหนึ่งเดียวกับเขา “แพ้”
ติ้ง ซืออู๋เย่ถือดาบในมือไม่อยู่ จนดาบหลุดจากมืออีกครั้ง หมุนไปโดยรอบและลอยจากไป ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ตัวดาบก่อนหน้านั้นมีรอยแตกอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้รอยร้าวนั้นกลายเป็นศูนย์กลางของความเสียหาย รอยร้าวแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง และยังมีเศษเล็กเศษน้อยของตัวดาบกระจายออกมา พริบตาเดียวก็แผ่ขยายไปทั่วตัวดาบ
ปึง ดาบยาวแตกกระจายออก เหมือนกับแก้วน้ำที่ตกลงพื้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ดาบของฉัน….”
เขาที่ออกมาจากประกายสายฟ้า ร่างกายห่างจากดาบของเขาแค่เพียงเอื้อม แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็เอื้อมไม่ถึง แต่พอเมื่อเอื้อมถึงแล้วดาบนั้นกลับแตกออกเป็นชิ้นๆ
ดาบเล่มนี้เป็นดาบที่เข้าเชื่อมโยงกับร่างกายของเขา เป็นเหมือนส่วนหนึ่งในร่างกายของเขา
ดาบแตก ก็เหมือนร่างของคนสลายไปด้วย
ตอนนี้ดวงตาของซืออู๋เย่กลายเป็นสีขาวซีด เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากดวงตาของเขา สีหน้านิ่ง แสดงออกถึงเจ็บปวด ร่างกายไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น เหมือนกับผีดิบในตำนานที่เคยได้ยิน
พระอาทิตย์ขึ้นมาจากฝั่งตะวันออก ค่อยๆคล้อยลง มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น
ท้องฟ้าค่อยๆกลับไปสู่ความมืดมิดในช่วงเวลาหลังเที่ยง
ร่างของซืออู๋เย่ตกลงมาจากที่สูง ชายเสื้อถูกลมพัดปลิว เพียงแต่ว่าลักษณะของร่างที่ตกมานั้นเป็นแบบนอนราบ ร่างกายของผู้ชายนั้นมีสมดุลอยู่ที่ท่อนบนของร่างกาย ยิ่งสูงเท่าไหร่ หัวก็จะค่อยๆลงมาสู่พื้นก่อน สุดท้ายแล้ว ก็เหมือนกับหัวกระแทกลงสู่พื้น
“ตกลงมาแล้ว?”
“เป็นซืออู๋เย่”
เสียงดังสนั่นลั่น ร่างตกลงสู่พื้น แต่ไม่ได้มีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว อย่างไรก็ตามก็คือร่างเทพ สภาพไม่ได้น่าอนาถใจ แต่ทวารทั้งเจ็ดมีเลือดไหลออกมา ดวงตาเบิกโพลง จะตายก็ไม่เหมือนตาย
“โครม”
ท้องฟ้ามีเสียงดังขึ้นมา เจียงซิ่วขี่มังกรลงมา หัวของมังกรพุ่งลงสู่พื้น หนวดของมันลอยขึ้น ร่างของเจียงซิ่วพลิกกลับด้านข้างนั่งอยู่ข้างบน เมื่อใกล้ก็ถึงพื้น มังกรก็เชิดหัวขี้น ร่างของเขาก็ยืดตัวตรงขึ้นมา ร่างใต้เท้าของมังกรค่อยๆเลือนหายไป ไม่ได้เข้าสู่พื้น แต่เขากลับยืนอยู่บนพื้นอย่างนิ่งๆ เดินไปที่ร่างของซืออู๋เย่อย่างไม่รีบร้อน
สงบ ตายอย่างสงบ
ดวงตาหลายคู่ ตกใจจนไม่อาจเทียบได้มองไปยังผู้ชายคนนี้ เขาฆ่าซืออู๋เย่ คนที่สูงศักดิ์ ราวกับเทพที่ปกครองประเทศนี้อย่างซืออู๋เย่ คนคนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าซืออู๋เย่
เขายกมือขึ้น เหมือนกับต้อนรับเทพ ลักษณะท่าทางสง่างามแหกกฏของพื้นโลก
“ฉันบอกแล้ว แกกำลังรนหาที่ตาย”
อึก!
มีคนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ถูกเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ตะลึงงึงงัน จนไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ใครต่างก็คาดเดาไม่ได้ ยิ่งถูกเจียงซิ่วลงมือฆ่าก็ยิ่งทำให้เรียกสติคืนได้อย่างยากเย็น
“องค์ชายจูเก๋อ?”
วินาทีนั้นจูเก๋อหนิงเบิกตากว้าง ลมหายใจติดขัด จนเขาไม่รู้ว่าจะต้องหายใจอย่างไร ความกลัวแผ่ปกคลุมไปทุกความคิดของเขา
“นายคิดว่า การแข่งขันครั้งนี้ใครสมควรที่จะได้อันดับหนึ่ง เป็นนายที่ตัดสิน หรือฉัน?”
ตาของจูเก๋อหนิงเกือบจะถลนออกมา ”นาย คำตัดสินของนายถือว่าเป็นทีสุด….”
ล้อกันเล่นใช่ไหม จูเก็อชางถูกฆ่า ตอนนี้แม้แต่ท่านอู๋เย่ก็ถูกเขาฆ่า ตัวเองที่อยู่ตรงหน้าเขา ก็เหมือนกับมดตัวหนึ่ง เขาจะมีความกล้าที่ไหนที่จะพูดมั่วซั่วออกมา
เจียงซิ่วพูด ”เมื่อกี้นายไม่ได้พูดแบบนี้”
“ฉัน…..”
เจียงซิ่วพูด ”ฉันเกลียดคนที่กลับกลอกไปมาที่สุด เห็นคนแบบนี้แล้ว ฉันจะมองโดยไม่กระพริบตา ก็สามารถตัดคอของเขาขาดได้”
“อึก”
จูเก๋อหนิงตกใจจนหายใจไม่ออก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว
“เจียงโหลวเซี่ย อย่าหลงระเริงไป แกลืมไปแล้วหรือว่า พ่อแม่ของแกออยู่ในกำมือของฉัน”
เจียงซิ่วเดินเข่ามาทีละก้าว ดวงตาทอประกายน่ากลัว ลักษณะท่าทางยิ่งทำให้ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว ”ไร้เดียงสา ช่างไร้เดียงสาจริงๆ ฉันเจียงโหลวเซี่ยคนนี้ ไม่เหมือนกับคนอื่น แกคิดจะเอาคนที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับฉันมากดขี่ฉัน แต่แกกลับไม่คิดว่าแม้แต่ตระกูลฮั่นเกาฉันเองก็ยังไม่สนใจเลย”
ตอนนั้นพ่อของตระกูลฮั่นเกาถูกจับไป เขาก็ให้ฝ่ายตรงข้ามนั้นฆ่าเสีย ยังบอกด้วยว่าถ้าเอาเนื้อไปทำซุป ก็ให้เรียกเขาไปกินด้วย
“แก…”
จูเก๋อหนิงรู้สึกว่าของที่อยู่ตรงด้านขวาของเขาแตกออกมาอย่างรุนแรง นั่นก็ถุงน้ำดี มือขวาของเจียงซิ่ววางอยู่บนหัวของเขา ค่อยๆวนรอบ เสียงแกร๊บดังขึ้น ทั้งลำคอของเขาผิดรูปไป เลือดสีดำไหลออกมาจากปากของเขาลงมา ดวงตาเบิกโพลง แต่เพราะเส้นประสาททั้งหมดนั้นหยุดชะงักแล้ว ร่างกายโน้มตัวร่วงลงไปข้างหน้า
จะให้ตายอีกรอบก็คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
“ออกมา”
เจียงซิ่วถอนหายใจออกมา บริเวณโดยรอบมีผู้คนมากกว่าหนึ่งร้อย สีหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลมพัดอ่อนๆ เหมือนกับว่าปีศาจแห่งนรกกำลังมาเยือน
“ฉันรอพบคุณชายเจียง”
ดวงตาของเจียงซิ่วทอประกายนักฆ่าออกมา ”ที่เจียงหนานจะปิดตาย ฉันไม่อยากใครแม้แต่คนเดียวออกไปจากที่แห่งนี้ ฉันอยากจะให้เป็นที่ฝังศพของคนบ้านจูเก๋อ”