The King of the Battlefield – ตอนที่ 217

ตอนที่ 217

บทที่ 217: จ้าวแห่งหนองน้ำ (1)
สุดท้ายสายฟ้าของชาร์ซาซ่าก็ช่วยอะไรมันไม่ได้
แม้จะยอมเผยพลังที่แท้จริงออกมา แต่ชาร์ซาซ่าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมูยอง
ส่วนในด้านของมูยองเขารู้สึกผิดหวังมาก
แน่นอนเมื่อชาร์ซาซ่าสู้เต็มกำลังบางครั้งก็ดูน่าตื่นเต้นดี
อย่างไรก็ตามมันกลับไม่สามารถคงอยู่พลังเช่นนั้นไว้ได้นาน
พอผ่านไปประมาณ 10 นาที เกราะของชาร์ซาซ่าก็หายไป และกลายเป็นอ่อนแอดังเดิม
ด้วยสิ่งนี้จึงทำให้มูยองสามารถเข้าใจสถานะปัจจุบันของตนได้บ้าง
ขนาดชาร์ซาซ่าที่เป็นราชาปีศาจระดับสูงยังสู้มูยองไม่ได้ นั่นหมายความว่าอำนาจพลังการต่อสู้ของมูยองนั้นเกินกว่าที่ราชาปีศาจส่วนใหญ่จะต้านทาน
‘แล้วถ้าเป็นเอนโรธล่ะ?’
ปีศาจที่ถูกกล่าวขานว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเหล่าราชาปีศาจ
เป็นไปได้มากที่เอนโรธจะทราบเกี่ยวกับการตายของชาร์ซาซ่า และเรื่มเคลื่อนไหวพุ่งเป้ามาที่มูยองแล้ว
อย่างไรก็ตามมูยองคิดว่าตนยังเร็วกว่า การลงมือสังหารฆ่าชาร์ซาซ่าทันทีทำให้เขามีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น
ในด้านความแข็งแกร่งเอนโรธมีมากกว่าชาร์ซาซ่าอย่างเทียบไม่ติด และมันอาจแข็งแกร่งพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของมูยองก็ได้
<คุณล่าราชาปีศาจ ‘ชาร์ซาซ่า’ สำเร็จแล้ว>
<คุณได้รับ ‘ผลึกของราชาปีศาจ’>
<พลังแห่งความเที่ยงธรรม! สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น ‘3’ หน่วย>
<เนื่องจากชาร์ซาซ่าเป็นราชาปีศาจอันดับที่ 49 มันจึงได้รับการยกย่องเป็นอย่างดีเสมอมา สายฟ้าของมันช่วงชิงชีวิตของสรรพสิ่งไปแล้วมากมาย แต่สุดท้ายก็ถูกผู้ใช้ ‘มูยอง’ กำจัด>
<การล่าราชาปีศาจถูกเพิ่มไว้ในประวัติของคุณ’>
<อันดับของทักษะ ‘ราชาปีศาจแห่งกองพันที่ 27’ เพิ่มขึ้นเป็นระดับ S. >
ข้อความจำนวนสั้นๆปรากฏขึ้นในสายตาของมูยอง
ท่ามกลางข้อความเหล่านั้นสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือ ‘ผลึกราชาปีศาจ’ เพราะมันอาจทำให้เขาได้รับทักษะของปีศาจตัวนั้นๆมา
เขาอาจสามารถเรียนรู้บางสิ่งเช่นทักษะสายฟ้าของชาร์ซาซ่าได้ หากได้สายฟ้ามาจริงๆมันคงเข้ากันกับเปลวเพลิงของเขาอยู่ไม่น้อย
‘ราชาปีศาจแห่งกองพันที่ 27’
ดูเหมือนเขาจะลืมมันไปแล้วสำหรับทักษะเกี่ยวกับ ‘ราชาปีศาจแห่งกองพันที่ 27’ ซึ่งได้รับจากอารามสีคราม รวมถึงการที่มันเป็นภารกิจที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการให้แล้วเสร็จ
เขาคิดว่ามันสามารถะยกระดับได้จากการทำให้เกรโมรี่พอใจเท่านั้น ทว่าหลังจากสังหารราชาปีศาจชาร์ซาซ่าแล้วระดับที่เคยหยุดนิ่งกลับเพิ่มขึ้น
มูยองเลื่อนดูสถานะของตัวเองเพื่อตรวจทักษะปัจจุบัน
ชื่อทักษะ: ‘ราชาปีศาจแห่งกองพันที่ 27’ (S)
คำอธิบาย – คุณสมบัติที่จะทำให้คุณกลายเป็นราชาปีศาจแห่งกองทัพที่ 27 แต่เดิมเกรโมรี่มีกองทัพภายใต้บังคับบัญชาทั้งสิ้น 26 กองพัน ผู้นำทัพทั้ง 26 ล้วนเป็นราชาปีศาจที่แข็งแกร่ง
* ผลของทักษะขั้นแรก สเตตัสหลักทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 หน่วย
* ผลของทักษะขั้นที่สอง สเตตัสหลักทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 หน่วย และมอบเอฟเฟกต์ ‘พลังงานอันล้นเหลือ’ ให้กับกองทัพทั้งหมดภายใต้อิทธิพลของคุณ (พลังงานอันล้นเหลือ: จะช่วยลดความเหนื่อยล้าให้กับแต่ละบุคคล และยกระดับค่าพละกำลังกับความอดทนขึ้น 10 หน่วย)
* ผลของทักษะขั้นสุดท้าย. – ???
เมื่อรวมผลลัพธ์ทั้งหมดแล้ว แค่ทักษะนี้ทักษะเดียวก็เพิ่มสเตตัสหลักถึง 15 หน่วย
เกี่ยวกับเอฟเฟกต์ ‘พลังงานอันล้นเหลือ’
การที่มันเพิ่มค่าพละกำลังกับความอดทนมากถึง 10 หน่วย คุณสามารถพูดได้ว่ามันดีกว่าเอฟเฟกต์ประเภทเสริมความแข็งแกร่งทั้งหมดเสียอีก
และผลของทักษะขั้นสุดท้าย หากบรรลุภารกิจบางอย่างมันคงเปิดใช้งานขึ้นมาเอง จากนั้นเขาก็จะได้เดินตามเส้นทางของ ‘ราชาปีศาจ’ อย่างแท้จริง
มีโอกาสสูงที่ภารกิจดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับเกรโมรี่ บางทีถ้าเขารวบรวมชิ้นส่วนของรอยแยกครบ ผลของทักษะขั้นสุดท้ายอาจจะเปิดใช้งานได้
อีกเพียงหนึ่งขั้น เขาก็จะได้ต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจ เขาจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมสงครามและกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
สายฟ้าในอากาศทั้งหมดเหือดหายไปเมื่อชีวิตของชาร์ซาซ่าสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามบนร่างที่ไร้ชีวิตของมันยังคงมีประจุไฟฟ้าจำนวนหนึ่งไหลเวียนอยู่
มูยองครุ่นคิดเกี่ยวกับร่างของชาร์ซาซ่า
เขายังไม่เคยลองเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตระดับราชาปีศาจให้เป็นอันเดธเลย แม้ความสามารถของศิลปะแห่งความตายดูเหมือนจะมีผลกับทุกสิ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ได้มีผลอย่างสมบูรณ์ไปซะทีเดียว หากเป้าหมายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูง หรือหากเป็นการสร้างอันเดธจำนวนมากในคราวเดียว ร่างกายของมูยองจะได้รับผลกระทบที่เลวร้าย
อย่างไรก็ตาม …
‘มันน่าเสียดายที่จะทิ้งไป’
ทำให้ราชาปีศาจกลายเป็นอันเดธ!
ใครจะนึกถึงเรื่องนี้บ้าง? หรือพวกเขาอาจจะคิด แต่มันก็คงจบอยู่ในจินตนาการเท่านั้น
ทว่าสำหรับมูยองจินตนาการกลับสามารถกลายเป็นจริง
หากเขาสามารถทำให้ราชาปีศาจกลายเป็นอันเดธ และเพิ่มจำนวนของมันล่ะก็…
นอกจากนั้น การทำให้ชาร์ซาซ่ากลายเป็นอันเดธจะทำให้เขาสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอนโรธได้ด้วย
เมื่อคิดดังนั้นมูยองก็ลงมือทันที
‘ศิลปะแห่งความตาย’
ในขณะที่เขาใช้ทักษะ พลังงานสีดำก็ไหลหลั่งออกจากมือของเขาลุกท่วมไปทั่วร่างชาร์ซาซ่า
อย่างไรก็ตามพลังงานสีดำไม่สามารถเจาะทะลวงเข้าไปในร่างกายของชาร์ซาซ่าได้โดยทันที
เหตุผลคงเป็นระดับเลเวลของชาร์ซาซ่ายังคงอยู่ แม้ว่าตอนนี้ร่างของมันจะเป็นเพียงแค่ซากศพ
หากเทียบกันแล้วมังกรกระดูกทั้งเจ็ดตัวยังไม่สามารถเทียบได้กับระดับของชาร์ซาซ่า มูยองจึงได้แต่รอคอยอย่างอดทน
ศิลปะแห่งความตายเป็นทักษะที่มูยองคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ได้รับมันมาจากเดธลอร์ดเขาก็ใช้มันจนชำนาญจนกระทั่งสามารถปรับเปรียบรูปแบบพลังให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
คู่ต่อสู้ของมูยองล้วนแข็งแกร่งกว่าตนเสมอ เขาไม่คิดว่าแค่อันเดธที่สร้างจากราชาปีศาจเขาจะทำมันไม่ได้ ทั้งหมดเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน ไฟทาร์ก็ค่อยๆมารวมตัวกันหลังจากที่การต่อสู้ทั้งหมดจบลง
ไม่ว่าจะเป็นศพของยาตาร์ หรือหมายเลขบนไหล่ของมูยองพวกเขาต่างมองเห็น กระทั่งพลังงานที่กำลังไหลเข้าสู่ร่างไร้วิญญาณของชาร์ซาซ่าพวกเขาก็รับรู้ได้เช่นกัน
“นั่น”
“ ท่านกำลังทำพิธีกรรมบางอย่างใช่หรือไม่?”
“ อย่าแตะต้องมัน”
ไฟทาร์ทุกคนพากันเงียบ และดูว่ามูยองกำลังทำอะไรอยู่
แม้ว่ายาตาร์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังหลงเหลือศรัทธาและรู้จักความภักดี
ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าตัวเลขบนไหล่ของมูยองหมายถึงอะไร
ตามที่สัญญากันไว้มูยองจะต้องกลายเป็นหัวหน้าใหญ่คนต่อไปของไฟทาร์
แม้สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของไฟทาร์มาก่อน แต่มูยองก็เป็นผู้ที่ได้ช่วยพวกเขาหลายครั้งหลายหนและยังเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง
ในยุคของการต่อสู้และสงคราม นักรบที่แข็งแกร่งย่อมได้รับการปฏิบัติอย่างดีเยี่ยมเสมอ
แน่นอนว่าผู้สืบทอดอย่างโอการ์ยังมีชีวิตอยู่และยังมีปัญหามากมายที่ต้องสะสาง แต่พวกเขาก็ตระหนักได้ถึงความสัมพันธ์ของมูยองกับโอการ์
สุดท้ายไม่ว่าด้วยอะไร…พวกเขาก็จำเป็นต้องเคารพมัน หากหัวหน้าเผ่าใหญ่กำลังทำบางสิ่งอยู่ พวกเขาเพียงแต่ต้องคอยดูผลลัพธ์อย่างเงียบๆ
‘ได้ผล’
30 นาทีหลังจากนั้นริมฝีปากของมูยองก็ขยับขึ้นเล็กน้อย
ตามที่มูยองคาด พลังงานสีดำไหลเข้าสู่ร่างกายของชาร์ซาซ่าอย่างช้าๆ
ท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
หลังจากพบจุดอ่อนบางแห่งบนชุดเกราะ การป้องกันนั้นๆก็จะพังอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพลังงานสีดำจึงไหลผ่านร่างของชาร์ซาซ่าเข้าไปจนสิ้น และในไม่ช้าก็มีข้อความปรากฏต่อหน้าเขา
<ราชาปีศาจชาร์ซาซ่าเป็นผู้ควบคุมสายฟ้า ด้วยการเป็นผู้ติดตามของราชาปีศาจเอนโรธ รวมถึงเทพปีศาจอามอน ในสนามรบเขาได้สังหารศัตรูไปมากมาย ในสายฟ้าของเขายังมีพลังของอามอนสถิตย์อยู่ด้วย>
<ราชาปีศาจ ‘ชาร์ซาซ่า’ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการกลายเป็นอันเดธ>
<ประสบความสำเร็จ! ‘ชาร์ซาซ่า’ ถูกทำให้ดกลายเป็นอันเดธแล้ว>
<คะแนนศิลปะ 99 คะแนน! แม้แต่เดธลอร์ดก็ยังต้องประหลาดใจ ตามปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ราชาปีศาจกลายเป็นอันเดธ>
ชื่อ:ชาร์ซาซ่า
เลเวล: 620
ประเภท: ความมืด
พละกำลัง 620 ความว่องไว 615 ความอดทน 550
ความฉลาด 673 ภูมิปัญญา 673 ต้านทานเวท 600
พลังเวท 670 พรแห่งสายฟ้า 650
+ เปิดการใช้งาน หอกสายฟ้าที่ฆ่าคู่ต่อสู้ได้ด้วยการแทง, ดาบสายฟ้าที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้, กำแพงสายฟ้า และพายุสายฟ้า
+ อำนาจพลังของราชาปีศาจ – สายฟ้าผู้พิทักษ์ (สามารถใช้ความทรงพลังของสายฟ้าสร้างเป็นชุดเกราะ)
ร่างของชาร์ซาซ่ายกตัวขึ้นอีกครั้ง
ไฟทาร์แตกตื่นทันที แต่พอเหลือบไปเห็นการกระทำของมูยองพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสับสน
มูยองมองชื่นชมและสัมผัสร่างกายของชาร์ซาซ่าราวกับว่าไม่มีอะไรแปลกประหลาด ก่อนที่มันจะหายไปตามความคิดของเขา
‘ดีมาก’
มันแข็งแกร่งกว่าอันเดธที่เคยสร้างมา
เลเวลที่มากกว่า 600!
แน่นอนว่าเลเวลดังกล่าวยังต่ำกว่ามูยอง แต่สิ่งสำคัญคือนี่เป็นอันเดธตนแรกของมูยองที่แข็งแกร่งขนาดนี้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนค่าความฉลาดของมันจะดูน้อยไปกว่าที่คิดไว้ อาจเป็นเพราะตอนที่ตายมันดรอปผลึกทักษะออกมาเลยทำให้ความแข็งแกร่งของมันลดลงก็ได้
มูยองยักไหล่และดึงคริสตัลสีดำออกมา
มันเป็นผลึกที่ดรอปมาจากราชาปีศาจ
มูยองกลินมันลงไปโดยปราศจากความลังเล หลังจากนั้นตัวของเขาก็สั่นราวกับถูกไฟช็อต
<คุณกลืน ‘ผลึกของราชันปีศาจ’>
<คุณได้รับ ‘พลังแห่งสายฟ้า’>
<‘เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์’ ดูดซับ ‘พลังแห่งสายฟ้า’>
<‘เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์’ เพิ่มระดับขึ้นจาก S ถึง S ++.>
เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นโดยการรวมทักษะทุกประเภทเข้าด้วยกัน บางทีการที่มันดูดซับสายฟ้าเข้าไปอาจทำให้มีประโยชน์กว่าเดิม
เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในพลังบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งของมูยอง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเลวร้ายเกี่ยวกับการเพิ่มระดับของมัน
มูยองหันไปมองทุกคน
ไฟทาร์ที่ยืนอยู่รอบๆต่างมองมาที่เขา
“ จากนี้ไปฉันจะเป็นผู้ปกครองของที่นี่ พวกนายมีข้อขัดข้องอะไรไหม?”
“ชาร์ซาซ่ายังไม่ตายเหรอ?”
“นายพูดถูก ฉันเพิ่งทำให้มันฟื้นขึ้นมาจากความตาย ตอนนี้มันเป็นทาสของฉัน”
“ พวกเราได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว เราต้องรักษาสัญญา แต่เรายังมีรองหัวหน้าเผ่าโอการ์อยู่ หากเจ้าช่วยโอการ์ได้ เราจะติดตามเจ้าอย่างแท้จริง”
ไฟทาร์ทั้งหมดตกลงเช่นนั้น
สำหรับโอการ์มูยองยังไม่ได้คิดวางแผนอะไรไว้
“เอาล่ะ ฉันจะไปช่วยโอการ์ทันที”
มูยองตอบรับโดยไม่ลังเล
จากนั้นไฟทาร์ก็ติดตามมูยองไป
* * *
ปีศาจที่เหลือถูกกำจัดลงอย่างง่ายดาย
เมื่อพวกมันทราบว่าชาร์ซาซ่ากลายเป็นพวกเดียวกับศัตรูไปแล้วก็สูญเสียความตั้งใจในการต่อสู้ไปจนหมด
ไม่มีอะไรง่ายไปกว่าการตามล่าปีศาจที่พยายามหลบหนี
และจากสถานการณ์ดังกล่าวโอการ์ก็ถูกช่วยตัวออกมา อย่างไรก็ตามโอการดูสิ้นสติไปแล้ว
มีรอยแผลน่ากลัวมากมายปกคลุมทั่วร่างกายของเขา แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งนี้ก็แสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาถูกทรมานรุนแรงขนาดไหน
อย่างไรก็ตามการรักษาอาการบาดเจ็บของเขานั้นง่ายดายมาก
ด้วยทักษะ ‘พรเทวะ’ของมูยอง เขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดของโอการ์ได้ในครั้งเดียว
“มูยอง…เจ้ากลับมาแล้ว”
ทันทีที่โอการ์ตื่นขึ้นก็ตระหนักถึงมูยองทันที จิตใจของเขาแข็งแกร่งมากแม้จะถูกชาร์ซาซ่าทรมานมากมายก็ยังไม่ยอมแพ้
เขาแสดงสีหน้าแปลกๆหลังจากรู้ว่ามูยองนำกองทัพไฟทาร์ติดตามมาด้วย แต่ไม่นานก็ได้แต่ยอมรับมัน
โอการ์ใฝ่ฝันที่จะสร้างอาณาจักรแห่งไฟทาร์ขึ้น แต่เขารู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หากสงครามกับพวกปีศาจยังไม่จบลง
“อีกไม่นานเอนโรธจะมาที่นี่”
“เอนโรธงั้นหรือ? ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของราชาปีศาจตนนี้อยู่บ้าง ด้วยนามของข้าเจ้าจงใช้มันเพื่อรวบรวมไฟทาร์ที่ยังหลงเหลืออยู่เถอะ ”
โอการ์ให้ความร่วมมือกับมูยองเป็นอย่างดี
หลังจากที่เขาประกาศว่าจะช่วยมูยอง ในแต่ละวันก็มีไฟทาร์หลายร้อยตนมาเข้าร่วมกับกองกำลัง
‘เราต้องเคลื่อนไหวให้เร็วกว่าเอนโรธ’
ก่อนที่เอนโรธจะทำอะไร เขาต้องชิงทำก่อน แม้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นสงครามเช่นเดียวกัน แต่หากกระบวนการแตกต่างกันผลของสงครามย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย
แต่การทำเช่นนั้นเขาจำเป็นต้องรวบรวมกองกำลังทหารให้ได้มากที่สุด ราวกับว่าเข้าใจความกังวลของมูยอง, โอการ์พูด
“ จ้าวแห่งหนองน้ำ ‘อาจสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ พวกนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ค่อยแสดงตัว แต่ถ้าเป็นเจ้าจะต้องหาพวกนั้นเจอแน่ เจ้าควรจะลองดู”
จ้าวแห่งหนองน้ำ?
มูยองไม่เคยได้ยินชื่อดังกล่าวเลย แต่ไม่มีทางที่โอการ์จะโกหก
หากพวกเขาแข็งแกร่งจนโอการ์ยังยอมรับ นั้นหมายความว่าอย่างน้อยพวกเขาก็ต้องมีระดับเดียวกับเหล่าไฟทาร์
เพื่อเอาชนะราชาปีศาจเหล็กเอนโรธ มูยองต้องเตรียมการสำหรับทุกสิ่ง

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท