บทที่ 248 ราชาปีศาจแห่งเถ้าสีเทา (6)
หลังออกจากน้ำพุ มูยองใช้เวลามองดูตัวเองในห้องแต่งตัว
‘มีหลายสิ่งที่ได้มาจากการสังหารเลราเจ’
เทียบกับพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วเขาเก็บเกี่ยวได้มากกว่าที่คาดไว้ จากความทรงจำของดันดาเลี่ยนเลราเจมีของขวัญทิ้งไว้ให้มากมาย
อันดับแรกมูยองมองฉายาของเขา
ฉายา ->นักล่าเทพปีศาจ(สเตตัสทั้งหมด +60, เพิ่มขึ้นครั้งละ 30 ต่อการกำจัดเทพปีศาจ 1 ตน)
ฉายาที่วิวัฒนาการได้! มันดีกว่าฉายาก่อนหน้าของเขามาก ฉายานี้ถือเป็นฉายาระดับอัลติเมตได้เลย
ดูเหมือนค่าสเตตัส 60 ได้มาจากการสังหารดันดาเลี่ยนและเลราเจ จากความสามารถของมันยิ่งมูยองได้รับชัยชนะเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างทวีคูณ
‘การบังคับใช้ความยุติธรรม,คิงสเลเยอร์’
มันมีความสามารถด้านการสนับสนุน และเลื่อนระดับขึ้นเนื่องจากผลกระทบชัยชนะของมูยอง
ผลกระทบของชัยชนะ –>ดาบเทวะ/ดาบพลังวิญญาณ
(???, คุณจะกลายเป็นนักดาบเทวะหรือนักดาบพลังวิญญาณ)
ดวงดาวแห่งความสัมบูรณ์ (S+++,สเตตัสทั้งหมด+50)
คิงสเลเยอร์ (S+++, ความฉลาดและสติปัญญา+50,ผลกระทบของมันตรา)
กฎแห่งเปลวเพลิง (S++, ความสามารถอันบริสุทธิ์+40)
เดธลอร์ด (S,พลังแห่งความตาย+50,ความแข็งแกร่งของอันเดธขึ้นอยู่กับเลเวลของศิลปะแห่งความตายด้วยอัตรา 0.1%ต่อ 4 ,จากค่าพลัง 500 ตอนนี้เพิ่มมา 12.5%)
ดราก้อนสเลเยอร์ (A++, ค่าความฉลาด-สติปัญญา+15 ศัตรูโดยธรรมชาติของเหล่ามังกร)
โอม (A+, ค่าพละกำลังเพิ่มขึ้น 10 ผู้ปกครองเหล่าโดเกบิ)
ความเจ็บปวดของเกรโมรี่ (S, สเตตัสทั้งหมด +15)
ผู้พิชิตปีศาจ (A, เพิ่มพลังแห่งความตายตามกฎของคนตาย และจากพลังปีศาจ 10)
หลอมจิต (B+ เมื่อวิญาณหลอมเข้ากับอันเดธ ความสามารถของอันเดธจะค่อยๆเพิ่มขึ้น)
ผู้สืบทอดของเมอร์ร็อค (B+ การเติบโตของเมอร์ร็อคถูกกระตุ้น)
พรของเหล่าภูติ (B เหล่าภูติรู้สึกสนิทสนมใกล้ชิด)
เพื่อนร่วมสาบานของคนแคระ (B, คนแคระรู้สึกสนิทสนม)
นักล่าปีศาจ (B++, ความน่าจะเป็นในการตกผลึกจากการล่าปีศาจเพิ่มขึ้น)
–> ผลรวมของเอฟเฟคทั้งหมด 14 อย่าง
สเตตัสทั้งหมด+65, ความสามารถบริสุทธิ์+40, สติปัญญา+55, ความฉลาด+55, พลังแห่งความตาย+60, พละกำลัง+10
มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สองอย่างคือดวงดาวแห่งความสัมบูรณ์ และความเจ็บปวดของเกรโมรี่
‘มันคงเกิดขึ้นเพราะได้รับการชี้นำจากดวงดาว และการยอมรับจากเกรโมรี่’
ถึงรางวัลความสามารถที่ได้รับจะดูมั่วไปหมด แต่นั่นก็เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของมูยอง เพราะเขาต้องการพลังทั้งหมดเท่าที่จะสามารรับได้ ซึ่งอันที่จริงแล้วถือว่าเขาประสบความสำเร็จ เมื่ออาวุธและความสามารถทั้งหมดเหล่านั้นเพิ่มขึ้น ในท้ายที่สุดย่อมไม่มีใครสามารถทัดเทียมมูยองได้
มูยองหมุนหน้าปัดตัวแสดงสถานะเพื่อดูข้อมูลที่เหลือ
ผลกระทบเกี่ยวกับอาชีพ –>
เดธลอร์ด (ระดับลอร์ด)
คิงสเลเยอร์ (ระดับลอร์ด)
ทูตสวรรค์ (ระดับลอร์ด)
ค่าความสามารถ –>
พละกำลัง 1,059(585+474) ความว่องไว 827 (398+429)
ความอึด 816 (401+415) สติปัญญา 850 (385+465)
ความฉลาด 880 (355+525) พลังโจมตี 802 (397+405
ต้านทานเวท 885 (240+645) พลังวิญญาณ 855 (410+445)
แนวโน้มปีศาจ 950 (555+395) ความเป็นเทพ 861 (516+345)
พลังแห่งเพลิง 805 (460+345) เลเวลความพิเศษทั้งหมด 877
หมายเหตุ : พลังของลูซิเฟอร์ถูกผนึก
ได้รับการสืบทอดพลังจากกาเบรียล
คุณกำลังสร้างวิชาดาบมูยอง
หอกของกาเบรียลถูกสลักไว้ในหัวใจของคุณ
ได้รับการสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์
อาวุธที่ใช้และสวมใส่ในปัจจุบัน :
ดาบแห่งความโกรธเกรี้ยว
(สเตตัสทั้งหมด+15 พละกำลัง+75 สติปัญญา+45 จิตวิญญาณการต่อสู้+30 )
เซ็ตธนู 3 ใน 12 ชิ้น
(สเตตัสทั้งหมด+30 ต้านทานเวท+140 พลังแห่งความตาย+40 ความว่องไว+50)
เกราะอกราชันย์อมตะ
(พละกำลัง+15 โจมตี+30 ความอึด+50 ต้านทานเวท+80)
รองเท้าเฮอมีสต์
(ความว่องไว+30 ความชื่นชอบในปัญญา=50 )
สร้อยกระดูก
(พละกำลัง+19 ความว่องไว+4)
เกราะหุ้มขาราชันย์อัศวิน
(สเตตัสทั้งหมด+40 ความภักดี)
เซ็ตความบ้าคลั่ง
(ต้านทานเวท+80 สติปัญญา-ความฉลาด+20)
แสงจากดวงดาว
(ดวงดาวแห่งความสัมบูรณ์ – สเตตัสทั้งหมด+20)
มันอาจดูยุ่งเหยิงสักหน่อยเพราะมีหลายเงื่อนไขที่มูยองสามารถบรรลุได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความสามารถที่ได้รับ ผลรวมเลเวลทั้งหมดถึง 800 เลเวล มูยองกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ไม่มีใครในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเคยฝันถึง โดยเฉพาะค่าความเป็นเทพกับแนวโน้วความเป็นปีศาจ
‘แนวโน้วความเป็นปีศาจเพิ่มขึ้นมากทีเดียวหลังจากที่ดูดซับพลังเทวะของเลราเจ และดันดาเลี่ยน’
ค่าพละกำลังที่ไปถึงเลขสี่หลักแล้ว นั่นคือ 1,059…
ถึงแม้ว่าค่าพลังต่างๆจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกถึงพลังเท่าที่ควร โดยเฉพาะพลังความเป็นเทพที่เพิ่มพละกำลังพื้นฐานถึง 1.5 เท่า มันน่าเหลือเชื่อที่สามารถเพิ่มพละกำลังพื้นฐานได้ถึง 1.5 เท่า เพราะนั่นยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีทักษะไหนที่เพิ่มพลังพื้นฐานได้แบบทวีคูณ
‘ยังไม่พอ’
อย่างไรก็ตามมันยังไม่เพียงพอ การเอาชนะเลราเจได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ เขาเอาชนะเลราเจได้จากการแทรกแทรงของพลังการเบรียล และนอกจากนั้นยังต้องเดิมพันอยู่หลายครั้ง หากล้มเหลวเพียงครั้งเดียว ผู้ที่พ่ายแพ้คงกลายเป็นมูยอง ในปัจจุบันหากสู้กับเทพปีศาจระดับต่ำคงพอเป็นไปได้ แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกเทพปีศาจระดับสูงคงไม่ไหว
เขาอยากไปล่าเทพปีศาจตนอื่นๆเพื่อดูดซับความแข็งแกร่งและพลังอำนาจของพวกมันมา และเพื่อที่จะทำเช่นนั้นได้…
‘จำเป็นต้องใช้เกรโมรี่’
เกรโมรี่เป็นผู้นำของฝ่ายต่อต้าน เทพปีศาจหญิงพวกตนเดียว และเธอได้รับการสนุนจากเทพปีศาจอีก 4 ตนที่เก่งกาจเรื่องการป้องกัน
มูรุมูรุ โพเนียส ซีทรี แอสโมดาย
ถ้ารวมพลังของพวกมันเอาไว้ด้วยกันความคิดของมูยองก็เป็นไปได้ ปัญหาคือพวกมันจะเห็นด้วยกับเกรโมรี่หรือไม่
‘โอกาสที่จะไม่เห็นด้วยมีสูงมาก’
ไม่สำคัญว่าปีศาจพวกนั้นจะติดตามเกรโมรี่มานานแค่ไหน เผ่าพันธุ์ปีศาจต่างมีความเย่อหยิ่งเป็นการยากที่จะให้พวกมันเข้าร่วมกองกำลังเพื่อช่วยเหลือกันและกัน
ความคิดเห็นของฝ่ายปฏิปักษ์ส่วนมากแค่อยากให้เผ่าพันธุ์อื่นเป็นทาสชีวิต และไม่มีวันปฏิบัติต่อเผ่าพันธุ์อื่นอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตามพวกเขาจะต้องยอมรับความจริงเพราะจากนี้ไปจุดยืนของมูยองจะสำคัญมาก
‘ศักยภาพของฉันยังสามารถพัฒนาได้’
มูยองมีความทรงจำของดันดาเลี่ยน พลังของเลราเจ พลังของกาเบรียล และพลังของลูซิเฟอร์ ไหนจะวิชาดาบที่ตนเองคิดค้นขึ้นถึงระดับที่ 51 นอกเหนือจากนั้นยังมีอาร์คโนวา
ที่สำคัญที่สุด เผ่าพันธุ์ของมูยองคือ‘มนุษย์’
มูยองมีอาวุธมากมายนับไม่ถ้วน ยิ่งถ้าเขาได้รับความเชื่อใจของเกรโมรี่อีก นั่นจะทำให้มูยองเป็นดั่งเสือติดปีกเลยทีเดียว