ตอนที่11รูปลักษณ์เดิม
มู่น่อนน่อนไม่เคยละเมอ
หล่อนหน้าแดงหันไปหาเขา”เธอ……”
“ฉันเป็นผู้ป่วย”เฉินถิงเซียวหันหน้ามองหล่อน น้ำเสียงเรียบ
มู่น่อนน่อนไม่เคยร่วมเตียงกับผู้ชาย กลิ่นไอความเคร่งขรึมเข้มข้นเกินไป ออร่าที่ยิ่งใหญ่ทำเรี่ยวแรงกำลังของหล่อนหายหมด
หล่อนเม้มปากตื่นเต้นเล็กน้อย ดึกผ้าห่มออกจะลุกขึ้นลงจากเตียง นึกไม่ถึงว่าถูกผู้ชายข้างตัวจับข้อมือไว้
ดวงตาของเฉินถิงเซียวตกอยู่ใบหน้าหล่อในตามีความสำรวจเล็กน้อย”ทำไมมือเธอขาวขนาดนี้ สีหน้าถึงได้เหลือง?”
มู่น่อนน่อนดึงมือกลับอย่างตกใจ พูดเสียงต่ำว่า”เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”
หลังจากนั้น ก็กระโดดลงเตียงเหมือนกระต่าย ไปห้องน้ำ
ด้านหลัง ในตาเฉินถิงเซียวมีอารมณ์สนุกกำลังมา
…….
ในห้องน้ำ
มู่น่อนน่อนมองในกระจก สีหน้าเหลืองของตัวเอง ในตาแวบผ่านความเยาะเย้ยตัวเอง
หยิบน้ำยาล้างเครื่องสำอางจากตู้ที่อยู่ใต้แท่นล้างมือ เริ่มล้างเครื่องสำอางออก
ผ่านไปไม่นาน ในกระจกปรากฏใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ ผู้หญิงสวยงามที่มีดวงตาสดใสฟันขาว
ถ้าไม่ใช่ว่าหลังจากเรียบจบ เช่าห้องเองข้างนอก ล้างเครื่องสำอางทุกวัน หล่อนก็เกือบจะลืมรูปลักษณ์เดิมของตัวเองแล้ว
ลูกสาวหน้าตาสวยงาม เดิมทีแม่ต้องรู้สึกดีใจถึงจะถูก
แต่ตอนเด็ก เซียวชู่เหอกล่าวหาว่าเธอแย่งซีนมู่หวั่นขีตลอด ไม่ยอมซื้อเสื้อสวยให้เธอ
เธอในตอนนั้น เพื่อที่จะทำให้ดีใจ พูดได้ว่าพยายามอย่างหนัก
จากที่1ของชั้นกลายเป็นที่โหล่ จากดาวโรงเรียนกลายเป็นเด็กขี้เหร่ที่ไม่มีเพื่อนสักคน
แต่แล้วเซียวชู่เหอไม่ได้ดีใจจนมองหล่อนมากขึ้น
เธอไม่เชื่อมาโดยตลอด เซียวชู่เหอไม่รักเธอเลยสักนิด
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอจัดการตัวเองให้ดีอีกครั้ง ออกจากห้องน้ำ
เฉินถิงเซียวพิงบนหัวเตียง ถือโทรศัพท์เอียงข้างไม่รู้ว่าดูอะไรอยู่ สีหน้าท่าทางที่ไร้อารมณ์ดูเหมือนมีการหักห้ามใจเพิ่มขึ้น
เธอครุ่นคิด พูดว่า”ฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว เธอโทรหาคนมารับเธอกลับตระกูลเฉินเองเถอะ”
เฉินถิงเซียวไม่ตอบ
มู่น่อนน่อนก็ไม่สนใจ ถือกระเป๋าออกไปเลย
งานครั้งก่อน เพราะเซียวชู่เหอสั่งให้เธอกลับบ้านรอแต่งงาน เลยจบอย่างรีบร้อน
เธอต้องหาเลี้ยงตัวเอง ยังต้องหางานใหม่
……
ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เธอยืนรอรถที่ป้ายรถประจำทาง
ทันใดนั้น รถยนต์สีดำจอดอยู่ตรงหน้าเธอ
หน้าต่างรถลดลง ใบหน้าอ่อนโยนของชายหนุ่มโผล่ออกมา”น่อนน่อน จะไปไหนเหรอ?”
ในตาของมู่น่อนน่อนประกายออกมา ยากที่จะซ่อนความตื่นเต้นในน้ำเสียงได้”เสิ่นชูหาน?เธออยู่ที่นี่ได้ไง?”
“ขึ้นรถก่อนเถอะ ที่นี่จอดนานไม่ได้”
เสิ่นชูหานพูดอยู่ แล้วเปิดประตูรถให้เธอ
มู่น่อนน่อนตรงขึ้นรถไป พอปิดประตูรถ ก็ได้ยินเสิ่นชูหานพูด”พอดีฉันได้นัดพี่สาวเธอทานข้าว กินด้วยกันเถอะ”
เขานัดมู่หวั่นขี?
เธอน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่สมัยก่อนก็มีคนบอกว่ามู่หวั่นขีกับเสิ่นชูหานเป็นชายหญิงคู่กัน
แต่ทั้งสองไม่อยู่ด้วยกันสักที ดังนั้นเธอเลยแอบซ่อนความคิดของตัวเองได้ เป็นเพื่อนกับเสิ่นชูหานต่อไป
เธอฉีกมุมปากอย่างแข็งทื่อ”ฉันยังมีธุระ ก็ไม่ไปกับพวกเธอ……”
“ไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานแล้ว ฟังฉันนะ”ท่าทีเสิ่นชูหานแข็งกร้าว ไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธเลย
ถึงร้านอาหารอย่างรวดเร็ว
มู่หวั่นขีถึงอยู่แล้ว พอเธอเห็นมู่น่อนน่อนกับเสิ่นชูหานมาด้วยกัน สีหน้าบูดบึ้งทันที
เสิ่นชูหานกลับไม่รู้สึก”หวั่นขี ฉันเจอน่อนน่อนระหว่างทาง ก็เลยพาหล่อนมาทานข้าวด้วยกัน เธอไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
มู่หวั่นขีเผยยิ้มออกมา พูดเสียงอ่อนโยน”ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”
“ฉันไปห้องน้ำก่อน พวกเธอคุยกันก่อนเลย เสิ่นชูหานพูดทิ้งประโยคนี้ ก็หันหลังออกไปเลย
พอเขาออกไป รอยยิ้มบนหน้ามู่หวั่นขีหายไปเลย”ทำไม คนพิการตระกูลเฉินทำให้เธอพอใจไม่ได้ เลยมาอ่อยชูหาน?