ตอนที่ 89 ก็แซ่มู่เหมือนกัน
ระหว่างที่ขับรถไปด้วย มู่น่อนน่อนก็คอยสังเกตว่ารถของมู่ลี่เหยียนได้ตามเธอมาด้วยหรือเปล่า
ตอนที่ใกล้จะถึงโกดังรถรกร้างนั้น มีโค้งกะทันหัน
หลังจากที่มู่น่อนน่อนโค้งกะทันหันนั้น ก็ไม่เจอรถของมู่ลี่เหยียนพวกเขาอีกเลย
เธอจอดรถลงที่หน้าประตูโกดังรถเสร็จ
ประตูเหล็กของโกดังก็ได้ค่อยๆถูกคนเปิดขึ้นจากด้านใน มีผู้ชายตัวสูงเดินออกมาคนนึง เขาสวมหน้ากากเอาไว้ สายตาร้ายกาจจ้องมาที่มู่น่อนน่อน
“เธอก็คือมู่น่อนน่อนใช่มั้ย?”
“ใช่”มู่น่อนน่อนพยักหน้า
“เอาเงินมาด้วยหรือเปล่า?”
มู่น่อนน่อนพูดอย่างใจเย็น:“ฉันขอเจอหน้าแม่ก่อน!”
ผู้ชายมองดูรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอมาคนเดียว แล้วหันหน้าเดินไปข้างในไป:“ตามฉันเข้ามา”
มู่น่อนน่อนเดินตามเขาเข้าไป
โกดังร้างดูเก่าๆโทรมๆ บนพื้นเต็มไปด้วยฝุ่นหนาทึบ ข้างในกว้างและรกร้างมากมีของกองเต็มไปหมด
มู่น่อนน่อนที่เดิมตามหลังของเขา เห็นเซียวชู่เหอถูกมัดกับเก้าอี้แต่ไกล
ผมของเซียวชู่เหอที่ปกติถูกจัดทรงเป็นอย่างสวย ตอนนี้ได้ยุ่งเหยิงพันกันเป็นก้อนไปแล้ว ใบหน้าซีดเซียวดูแก่ขึ้นมาก
ถึงสวรรค์จะประทานใบหน้าอันงดงามมาให้ แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับกาลเวลาจนได้
แววตาของเซียวชู่เหอเผยความดีใจเมื่อเห็นมู่น่อนน่อนมา เสียงของเธอได้ร้องจนแหบแล้ว:“น่อนน่อน ในที่สุดเธอก็มาแล้ว!”
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปสองก้าว มองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เซียวชู่เหอใส่หัวแล้วยิ้มไปด้วย:“เธอมาแล้ว ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ เธอรีบเอาเงินให้พวกเขาเถอะ พวกเขาแค่ต้องการเงิน!”
เวลานี้ ผู้ชายที่ก่อนหน้านี้พาเธอเข้ามาก็ได้ยกมือกันเธอไว้:“พอแล้ว เงินล่ะอยู่ไหน?”
“เวลาที่คุณให้มันน้อยเกินไป ฉันหาเงินมากขนาดนั้นมาไม่ได้หรอก ”มู่น่อนน่อนพูดอย่างสงบ:“ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันเป็นคุณหญิงน้อยของตระกูลเฉิน ก็ต้องรู้ว่าตระกูลเฉินมีแบล็คการ์ดที่ใช้ได้ทั่วโลก ฉันสามารถเอาบัตรนั่นให้คุณได้?”
พอผู้ชายได้ยินที่เธอพูดแล้ว สีหน้าเปลี่ยนในทันที :“เธอจะเล่นกับฉันนั้นเหรอ?เธอคิดว่าฉันโง่หรือไงกัน?ถ้าฉันเอาแบล็คการ์ดใบนั้นไปจริง เธอก็จะสั่งให้คนอายัดบัตร จากนั้นก็แจ้งความจับพวกเราสิ!”
สีหน้าของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอมีความคิดแบบนั้นจริง!
คนติดตามของผู้ชายคนนั้น จู่ๆได้เข้ามากระซิบที่หูของเขาอะไรบางอย่าง
ผู้ชายที่สวมหน้ากากยื่นมือไปที่เธอ :“ฉันปล่อยยัยแก่คนนี้ไปได้ แต่เธอต้องไปถอนเงินกับฉัน”
“ได้”มู่น่อนน่อนไม่ได้มองหน้าของเซียวชู่เหอเลยด้วยซ้ำ ก็รับปากไป
หลังจากที่พวกเขาปล่อยหมัดให้เซียวชู่เหอ เซียวชู่เหอมองหน้ามู่น่อนน่อนทีนึง แววตาตื่นตกใจแล้วพูดทิ้งไว้คำนึง:“น่อนน่อน ระวังตัวด้วยนะ”
จากนั้นเธอก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
มุมปากของมู่น่อนน่อนยกขึ้น แล้วยิ้มอย่างประชด โดยไม่พูดอะไรเลย
เธอหยิบบัตรแบล็คการ์ดออกมายื่นให้กับผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นยื่นมือมารับ
จู่ๆ มือที่มาถึงครึ่งนึงกลับยกไปที่หลังของเธอแล้วทุบลงที่คอของเธอทีนึงอย่างแรง
มู่น่อนน่อนยังไม่ทันจะพูดอะไร หน้าก็มืดในทันที แล้วระหว่างเสี้ยววินาทีที่จะสลบไป ในหัวของเธอก็ได้นึกย้อนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างเร็ว
เพิ่งจะรู้ถึงความผิดปกติของเรื่องในตอนนี้ แต่ก็ช้าไปแล้ว
……
ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นมา สังเกตเห็นว่าเธอได้มาถึงที่ใหม่แล้ว ไม่ใช่โกดังรถร้างจากเดิมแล้ว
สมองยังไม่ทันได้ฟื้นเต็มที่ ก็ได้ยินเสียงคนพูดรางๆ
“คนที่จ้างเรามาก็แซ่มู่เหมือนกัน?”
“เป็นคนในครอบครัวของผู้หญิงคนนี้!”
“นี่มันโกรธแค้นอะไรกัน ถึงได้……ถ้าพวกเราจัดการผู้หญิงคนนี้ แล้ว……คนบ้านตระกูลเฉินจะมาเอาเรื่องพวกเราหรือเปล่า?”
“นายลืมไปแล้วเหรอ สิบกว่าปีก่อน เรื่องที่คุณนายเฉินถูกลักพาตัวไป ……สุดท้ายข่าวก็เงียบหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตระกูลไฮโซอย่างพวกเขา หน้าตาชื่อเสียงต้องมาเป็นอันดับแรก……”
มู่น่อนน่อนสะดุ้งทีนึง เหมือนถูกแช่ไว้ในตู้แช่แข็ง ความหนาวเย็นได้เข้าสู่ร่างกายทั่วในทันที
ตอนที่เธอไปถึงที่ตระกูลมู่ เขวี้ยงถ้วยของมู่หวั่นขี แต่มู่หวั่นขีกลับไม่มีท่าทีโกรธเลย
มู่หวั่นขีไม่ยอมให้เธอแจ้งความ
ตอนนั้นเธอกังวลมาก ชีวิตคนทั้งคน ถึงเธอจะไม่คาดหวังอะไรจากเซียวชู่เหอแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่สามารถทนเห็นเธอตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่สนใจอะไรเลย
สุดท้ายแล้วก็เธอมันอ่อนต่อโลกเอง ที่สู้มู่ลี่เหยียนและมู่หวั่นขีสองพ่อลูกไม่ได้
“พี่ใหญ่ เธอฟื้นแล้วครับ!”
คนที่กำลังพูดสังเกตเห็นว่ามู่น่อนน่อนฟื้นแล้ว
สีหน้าของมู่น่อนน่อนเย็นอย่างกับน้ำแข็ง สงบจนไม่เหมือนคนที่กำลังถูกจับอย่:“คำพูดที่พวกคุณพูดในเมื่อกี้ ฉันได้ยินหมดแล้ว คนที่จ้างพวกคุณมาก็คือมู่ลี่เหยียนกับมู่หวั่นขีใช่มั้ย?”
ผู้ชายคนนึงในนั้นรำคาญฮึขึ้นทีนึง:“ใกล้จะตายอยู่แล้วยังจะถามเยอะไปทำไม!”
“ฉันก็แค่อยากจะให้ฉันนอนตายตาหลับ”มู่น่อนน่อนพูดไปด้วยและระหว่างนั้นสายตาก็สังเกตดูรอบๆ
เห็นว่าที่ๆเธออยู่นั้น เป็นห้องรับแขกของบ้านหลังนึง มีทั้งโซฟาและเก้าอี้ เธอถูกมัดกับเก้าอี้เอาไว้ ตัวเธอถูกมัดจนแน่น รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“ถึงบอกเธอไปแล้วไง เธอจะทำอะไรได้?พวกเขาเป็นคนจ้างพวกเราเอง อย่าโทษพวกเราเลยนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เธอโชคไม่ดีเอง”ผู้ชายคนนั้นเห็นว่ามู่น่อนน่อนหน้าตาดี เลยยอมที่จะคุยกับเธอ
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเธอมันโชคร้ายจริง
เธอรู้จักมู่หวั่นขีพวกเขาน้อยไป
การลักพาตัวครั้งนี้ เซียวชู่เหอรับบทอะไรกันแน่?
เธอรู้แผนการของมู่หวั่นขีพวกเขาตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย แต่ก็ยอมช่วยพวกเขาหรอกบัตรแบล็คการ์ดของเธอไป โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะเป็นหรือตาย
ผู้ชายอีกคนเดินเข้ามา จ้องมู่น่อนน่อนด้วยสายตาหื่นกาม:“อย่าไปเสียเวลากับเธอเลย รีบจัดการให้เสร็จแล้วไปจากเมืองหู้หยางกัน!เราสองคนใครขึ้นก่อน!”
“พี่ใหญ่ พี่ก่อนเลย!”
ในตาของมู่น่อนน่อนหดในทันที หัวใจร่วงตกลงมาอย่างแรง ตามสัญชาตญาณ เธอพยายามดิ้นรนสองครั้ง แต่ถูกมัดไว้จนแน่น ขยับไม่ได้เลย
ครั้งก่อนที่อยู่คลับจื่อจีน มู่หวั่นขีอยากจะคิดทำร้ายเธอ สุดท้ายเธอโชคดีหนีไปได้ แต่ครั้งนี้ เธอหนีไม่พ้นจริงๆแล้วใช่มั้ย?
เธอไม่ยอมที่จะตายไปแบบนี้!
มู่น่อนน่อนบังคับตัวเองให้สงบลง เงยหน้าขึ้น เพื่อให้ตัวเองดูมั่งใจขึ้นมา“พวกคุณคิดว่าตระกูลเฉินจะรังแกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?คนที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวคุณนายเฉินในปีนั้น ตอนนี้จะยังมีชีวิตอยู่อีกงั้นหรอ?ถึงแม้ตระกูลเฉินจะเห็นหน้าตาของวงศ์ตระกูลสำคัญกว่า แต่คิดเหรอว่าพวกเขาจะยอมให้คนนอกขึ้นมาเหยียบหัวของพวกเขาน่ะ?”
“คุณนายเฉิน”ที่พวกเขาพูดถึงในเมื่อกี้ คงจะหมายถึงแม่ของเฉินถิงเซียว
เห็นแววตาของผู้ชายสองคนนั้นลังเลหน่อยๆ มู่น่อนน่อนเลยพูดต่อ:“ถึงมู่หวั่นขีจะให้เงินพวกคุณมากมาย พวกคุณก็อาจจะไม่มีชีวิติอยู่ใช้มันได้ ถ้าพวกคุณยอมปล่อยฉันไปในตอนนี้ แล้วไปจากเมืองหู้หยาง ตระกูลเฉินก็ไม่เอาเรื่องกับพวกคุณแน่”
“หึ ยัยนี่กำลังขู่พวกเราอยู่ว่ะ!”
“ชาตินี้กูก็ไม่เคยคิดจะมีชีวิตยืนไปหรอก ถึงตระกูลเฉินจะไม่เอาเรื่องฉัน ตำรวจก็ไม่ปล่อยฉันไว้แน่ กูยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงสวยขนาดนี้มาก่อน วันนี้กูต้องเอาเธอให้ได้……”
ระหว่างที่ผู้ชายกำลังพูดอยู่นั้น มือของเขาก็ได้เอื้อมไปดึงเสื้อของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนหน้าซีดในทันที
ห้ามกลัวนะ ต้องมีวิธีอื่นสิ !
เสื้อขนเป็ดสีขาวของเธอคือแบบรูดซิป คนร้ายดึงเสื้อของเธอออกได้เลยทันที ยื่นมือไปใต้เสื้อไหมพรมแล้วจะล้วนเข้าไปเลย