ตอนที่ 90 เดินตามผมไป
ด้วยความที่สัญชาตญาณเอาตัวรอด มู่น่อนน่อนขัดขืนสุดฤทธิ์ คนและเก้าอี้ล้มตามไปกับพื้นลงไป
“แม่ง!”
คนร้ายด่าขึ้นมาคำนึง แล้วใช้เท้าถีบไปที่ท้องของมู่น่อนน่อนทีนึง
แล้วยื่นมือไปดึงผมเธอเอาไว้ ก็กะจะดึงเธอลุกขึ้นมา
เขาใช้แรงถีบหนักไปหน่อย ทำให้มู่น่อนน่อนปวดจนเหงื่อแตก
ในสมองของเธอในตอนนี้คิดแต่จะหลุบให้พ้นจากน้ำมือสกปรกของคนร้าย ไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่น
คนร้ายได้ดึงผมของเธอไว้ ยังไม่ทันจะดึงเธอขึ้นมา ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกถีบออกจากด้านนอก
“ปั่ง”เสียงดังขึ้นมาทีนึง เสียงดังฟังชัดมาก
ศีรษะของมู่น่อนน่อนถูกผู้ชายดึงจนเจ็บ เธอเม้มปากไว้จนแน่นแล้วสายตามองไปยังประตู
ตอนเธอเห็นคนที่คุ้นเคยยืนอยู่หน้าประตู ตอนนั้น จู่ๆเธอก็ปล่อยให้ความหวัดกลัวราวกับกระแสน้ำพักเข้ามาท่วมตัวเธอจนมิด น้ำตาราวกับสร้อยไข่มุกที่ขาด หยดลงทีละเม็ดทีละเม็ด
ถึงแม้เธอกำลังน้ำตาไหล แต่ไม่มีเสียงร้องไห้เลยแม้แต่นิด กลับยิ้มแล้วพูดกับคนที่ยืนอยู่หน้าประตู:“เฉินเจียฉิน คุณมาแล้ว”
วินาทีที่เห็น“เฉินเจียฉิน” นั้น มู่น่อนน่อนถึงตระหนักถึง ก่อนหน้านี้สิ่งที่พยุงเธอให้สงบสติและต่อต้าน ก็คือจิตใต้สำนึกลึกๆของเธอคิดว่าจะมีใครสักคนที่มาช่วยเธอ
และคนที่มาช่วยเธอนั้น ก็ต้องเป็นคนเก่งกาจที่สุดที่เธอรู้จัก
และคนที่เก่งกาจที่สุดที่เธอรู้จักก็คือ“เฉินเจียฉิน”
ตอนที่เฉินถิงเซียวเห็นสภาพข้างในแล้ว สองมือก็ได้กำเป็นหมัดจนแน่น บนตัวเขาปกคลุมไปด้วยกลิ่นไออาฆาตราวกับยมทูตที่ออกมาจากนรกแค่เห็นก็ทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
ยิ่งคนร้ายสองคนกลัวจนเสียงสั่นไปหมด:“นาย……นายเป็นใคร?”
ตอนที่คนแซ่มู่จ้างวานพวกเขา ไม่เคยพูดถึงว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเธอหนิ!
“ชาติหน้าค่อยมาถามคำถามนี่กับฉัน”เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปหาพวกเขาทีละก้าวๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำราวกับความเย็นที่ทะลุออกมาจากน้ำแข็ง:“เพราะชาตินี้พวกแกไม่มีโอกาสได้รู้แน่”
เพิ่งจะพูดเสร็จ ชายที่เดิมที่เดินเข้าไปใกล้พวกเขาอย่างช้าๆ จู่ๆก็เร่งฝีเท้าก้าวเดินไปสองก้าว ก่อนที่พวกเขาจะมองเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเขา ก็ได้ล้มลงไปที่พื้นอย่างแรงแล้ว เจ็บจนขดตัวร้องอย่างน่าอนาถ
เฉินถิงเซียวย่อตัวลง พยุงมู่น่อนน่อนพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาอย่างระวัง แล้วแก้มัดมือเธออย่างรวดเร็ว
บนใบหน้าของเขาเผยให้เห็นแต่กลิ่นไออาฆาตทั้งตัว ไม่มีสีหน้าอื่นปะปนอยู่ ดูแล้วน่ากลัวกว่าปกติ
แต่ ณ ขนาดนี้ มู่น่อนน่อนกลับรู้สึกกังวลขึ้นมา เพราะเธอสังเกตเห็นว่าข้างหลังของ“เฉินเจียฉิน”ไม่มีใครเลย
ก็แปลว่า“เฉินเจียฉิน”มาคนเดียว
“เฉินเจียฉิน”ถามเธอ:“เป็นอะไรมั้ย?”
“ไม่ค่ะ ทำไมคุณถึงมาคนเดียวล่ะ?”แม้ไม่รู้ว่าเขาหาที่นี่เจอได้ยังไง แต่เขามาคนเดียวแบบนี้ มันอันตรายมากเลยนะ
“ผมคนเดียว ก็เพียงพอแล้ว”
ตอนที่เฉินถิงเซียวพูดอยู่นั้น ได้หลุบตาเล็กน้อย ทำให้เห็นแววตาของเขาได้ไม่ชัดเจนนัก
เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่ง:“คุณออกไปรอผมข้างนอก”
มู่น่อนน่อนเห็นท่าทางของเขามั่งใจมาก ค่อยยังรู้สึกวางใจขึ้นมา แต่ว่า พอตอนเธอกำลังจะยกขา ถึงสังเกตว่าร่างกายตัวเองอ่อนแรงไปหมด เดินไปได้เลยด้วยซ้ำ
ถึงภายนอกจะแกล้งทำเป็นสงบมาก แต่ร่างกายของเธอดูจะซื่อสัตย์กว่าใจของเธอซะอีก
เธอกลัวมาก
ทันใดนั้น เฉินถิงเซียวก็ได้ดึงเนคไทของตัวเองออกแล้วใช้มันปิดตาของเธอไว้ กดเธอนั่งกับเก้าอี้ แล้วค่อยเลื่อนเก้าอี้ไปข้างกำแพง
จากนั้น เขากระซิบที่ข้างหูของเธอคำนึง:“เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
หลังจากนั้น มู่น่อนน่อนก็ได้ยินเสียงต่อสู้และเสียงร้องอนาถตามมา และยังมี——กลิ่นคาวเลือด
ระหว่างนั้น กลิ่นเลือดยิ่งอยู่ยิ่งฉุนและเสียงกรีดร้องก็ค่อยๆจานหายไป
ในห้องได้สงบลงในที่สุด
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามือของตัวเองถูกมือใหญ่ข้างนึงกุมมือไว้ ตามมาด้วยเสียงของ“เฉินเจียฉิน”:“เรียบร้อยแล้ว เราไปกันเถอะ”
มู่น่อนน่อนยื่นมือจะไปแก้เนคไทที่ปิดตาตัวเองออก กลับถูก“เฉินเจียฉิน ”จับมือเอาไว้
“ออกไปก่อนค่อยว่ากัน ตามผมมา”
ถูกปิดตาเอาไว้แล้ว ตรงหน้ามองไม่เห็นอะไรเลย มู่น่อนน่อนถูก“เฉินเจียฉิน”จูงมือเดินอยู่ ในใจกลับรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ตัวเธอเองยังประหลาดใจ
พอออกไปถึงนอกประตู “เฉินเจียฉิน”ก็ยื่นมือไปแก้เนคไทที่ปิดตาเธอออก
มู่น่อนน่อนกระพริบตาไปหลายที ถึงปรับสายตาได้
ฟ้าได้มืดลงแล้ว แต่ก็สามารถมองเห็นต้นหญ้าที่แห้งตายรอบๆอย่างล่างๆ
เห็นชัดว่าตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ยังเป็นชานเมือง ก็แค่ย้ายจากโกดังร้างมาที่นี่
มือของทั้งสองคนยังกุมไว้เข้าด้วยกัน มือของเธอเย็นมา ของ“เฉินเจียฉิน”กลับอุ่นๆ
ครั้งแรก ที่มู่น่อนน่อนไม่ได้คิดหลีกเลี่ยง ปล่อยให้“เฉินเจียฉิน”จูงมือไปโดยไม่ขัดขืนเลยแม้แต่นิด
ปล่อยตามใจตัวเองครั้งนึง……
ก่อนจากไป เธอหันไปมองทีนึงด้วยความกลัว เห็นคนร้ายสองคนก่อนหน้านี้ นอนอยู่บนกองเลือดไม่ขยับตัวเลยจากประตูที่ปิดแค่ครึ่งนึงพอดี คนนึงลืมตาค้างจ้องมาที่เธอ เหมือนคนตายตาไม่หลับอย่างไรอย่างนั้น
นอนตายตาไม่หลับ?
มู่น่อนน่อนถูกความคิดของตัวเองทำจนกลัว ตัวเย็นไปหมด สองคนนั้นถูก“เฉินเจียฉิน”ตีจนตาย——ทั้งเป็น?
รู้สึกถึงว่าเธอแปลกๆ“เฉินเจียฉิน”หันไปมองเธอทีนึง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ก้มลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาทันที
“คุณ……ฉันเดินเองได้”มู่น่อนน่อนดึงสติกลับมาแล้ว กอดคอของเขาไว้
“เฉินเจียฉิน”ก็ยังไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่เขาปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ เหมือนเขาจะไม่ได้พูดอะไรเลย
“เฉินเจียฉิน”ได้อุ้มมู่น่อนน่อนขึ้นรถไปโดยตรง
มู่น่อนน่อนมีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่อุณหภูมิในรถอบอุ่นเกินไป แถมข้างกายก็ยังมี“เฉินเจียฉิน”เส้นประสาทที่ตึงตัวของเธอไม่สามารถผ่อนคลายลงได้ในทันที เธอเลยเหนื่อยจนนอนหลับไป
เฉินถิงเซียวขับรถออกไปได้ระยะนึง ถึงสังเกตเห็นว่ามู่น่อนน่อนได้หลับไปแล้ว
เธอไม่ได้ถูกทำร้ายอะไรมาก แค่ผมยุ่งไปนิดๆ แม้แต่รอยขีดข่วนบนหน้าและแขนก็ยังไม่มีแม้แต่น้อย
สถานการณ์คับขันมากแต่เคราะห์ยังไงดีที่ไม่ได้เป็นอะไร ทำให้เขาตกใจแทบตาย
เขาเกลียดที่สุด——ก็คือพวกคนร้ายที่ลักพาตัว
พวกเขาสมควรตายไปให้หมด
เวลานี้ จู่ๆโทรศัพท์ของเขาได้ดังขึ้น
สือเย่เป็นคนโทรมา
“คุณชายครับ คุณอยู่ไหนครับ?”น้ำเสียงของสือเย่ดูจะเป็นห่วง ก่อนหน้า เขาได้ยินว่าคุณชายขึ้นรถแล้วขับออกไปเลย ไม่รู้ว่าไปไหน
เฉินถิงเซียวพูดด้วยเสียงเบา สั่งว่า:“ฉันส่งที่อยู่ให้นาย นายพาคนมาจัดการที่เหลือ”
สือเย่อึ้งไปครู่นึง ถึงตอบด้วยความเคารพ:“ครับ”
……
เครื่องทำความร้อนเปิดสูงมาก มู่น่อนน่อนร้อนจนตื่น
ไม่เห็น“เฉินเจียฉิน”อยู่ข้างกาย เธอหันหน้าไป ก็เห็นนอกหน้าต่างมีผู้ชายร่างใหญ่ที่เกือบจะกลืนไปกับความมือยืนอยู่ และไฟส้มจุดนึง
มู่น่อนน่อนเปิดประตูรถออกไป ก็ถูกลมหนาวยามค่ำคืนพัดมาจนจามขึ้นมา
พอได้ยินเสียง “เฉินเจียฉิน”ก็หันกลับมา :“อย่าลงรถ ผมสูบบุหรี่ม้วนนี้เสร็จก็ขึ้นมาแล้ว