ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 145 คนบางคนที่หมายถึงคนตระกูลเฉิน

บทที่ 145 คนบางคนที่หมายถึงคนตระกูลเฉิน

บทที่ 145 คนบางคนที่หมายถึงคนตระกูลเฉิน

เฉินถิงเซียวได้ยินดังนั้น ก็ปล่อยมือจากเธอ

เขาถอยออกมาครึ่งก้าวมองไปที่เธอ“แต่พวกเขาสมควรตาย”

“คุณพยายามทำทุกวิถีทางบีบให้คุณปู่ของฉันกลับมา ก็เพื่อที่จะฆ่าคุณปู่ฉันใช่มั้ย”ก้นบึ้งหัวใจของมู่น่อนน่อนเจ็บปวดเล็กน้อย

เธอหลงคิดไปเองว่าตนเองก็พอจะมีตัวตนอยู่บ้างในใจของเฉินถิงเซียว แต่คำพูดของเฉินถิงเซียวกลับปฏิเสธความคิดของเธอไปแล้ว

“ไม่มีทาง”เฉินถิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า“ผมไม่มีทางลงมือกับคุณปู่คุณแน่นอน เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดีนั้น เขาก็แค่คนที่ถูกตระกูลเฉินซื้อตัวไว้เท่านั้น”

“อย่างนั้นที่คุณบีบเขากลับมาตกลงคุณคิดจะทำอะไรกันแน่”

มู่น่อนน่อนไม่ค่อยเข้าใจเฉินถิงเซียวนัก แต่กลับเข้าใจเรื่องหนึ่งเป็นอย่างดี

แม่ของเฉินถิงเซียวตอนนั้นถูกคนพวกนั้นข่มขืนจนตาย และพ่อของเถาปิงก็รู้เรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเหตุเพราะความบังเอิญ เขาเองก็เข้าร่วมอยู่ในนั้นด้วย

โลกใบนี้ไม่ใช่สีดำก็ต้องเป็นสีขาวมาแต่ไหนแต่ไร มู่น่อนน่อนไม่รู้จะประเมินการกระทำของเฉินถิงเซียวว่าอย่างไร

แต่ เธอยังรู้สึกสงสารเห็นใจเขานิดหน่อย

แม่ที่เป็นคนเก่งโดดเด่นขนาดนั้น หากแม่เขายังอยู่ วันนี้เฉินถิงเซียวก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน

เขาต้องเป็นคนที่ผู้ชายทุกคนยกย่องชื่นชมในนิตยสารทางธุรกิจการเงิน เป็นผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนบ้าคลั่ง

แต่ว่า เพราะเรื่องแม่ของเขา สิ่งที่เขาทำทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของชีวิตก็เพียงเพื่อค้นหาผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคดีลักพาตัว

มีชีวิตอยู่ในความเคียดแค้นและรู้สึกผิด ต่อให้เขาจะมีสถานะสูงส่งแค่ไหน มีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด เขาก็ไม่มีความสุข

“ทำไมคนตระกูลเฉินต้องให้เขาเดินทางไปต่างประเทศด้วย เพราะเขาอยู่ในประเทศทำให้คนพวกนั้นรู้สึกไม่สบายใจเหรอ”เฉินถิงเซียวชะงักไปเล็กน้อย พูดต่อไปว่า“พอเขากลับมา มีบางคนอาจจะนั่งไม่ติด”

เฉินถิงเซียวไม่รู้ว่านึกอะไรได้ กระตุกมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้ม

แต่ว่า รอยยิ้มนั้น ไม่ได้ออกมาจากดวงตา ที่มีความเย็นชากระหายเลือดแฝงอยู่

ที่ทำให้มู่น่อนน่อนกลัวจนขนลุกซู่ไม่ใช่รอยยิ้มของเฉินถิงเซียว แต่เป็นคำพูดของเขา

“ที่คุณพูด ‘คนบางคน’หมายถึงคนตระกูลเฉินเหรอ”

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าตนเองต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ๆ

แต่ว่า รอยยิ้มที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆของเฉินถิงเซียวบอกเธอว่า คำพูดของเฉินถิงเซียวเป็นเรื่องจริงจัง

มู่น่อนน่อนจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้สิ่งที่มู่หวั่นขีทำในตอนแรก แม้ว่าเธอจะยังคงตกใจ แต่เธอก็ไม่สงสัยอีกต่อไป

……

วันต่อมา

มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยความเคยชิน ก็พบว่าพบว่าแพลตฟอร์มหลักและหน้าเว็บทั้งหมดถูกเหตุการณ์การกลับประเทศของคุณปู่มู่กลบไปทั้งหมดแล้ว

มีข่าวเศรษฐกิจ และก็มีข่าวบันเทิง

ทันใดนั้น ก็คึกคักขึ้นมาอย่างมาก

สิบห้าปีก่อน คุณปู่มู่ถือว่าเป็นผู้มีชื่อเสียงของเมืองหู้ไห่ รู้จักผู้คนกว้างขวาง หลายคนมีเงินมีอำนาจมากกว่าเขา ก็ยอมที่จะคบหากับเขา

แต่ว่า ในตอนที่ตระกูลมู่กำลังเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด จู่ๆคุณปู่มู่กลับเดินทางไปต่างประเทศ

พอไปต่างประเทศครั้งนี้ก็เป็นเวลาสิบห้าปี ตอนนี้จู่ๆก็กลับมา สร้างความสนใจให้กับสื่อต่างๆก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

แต่สามารถทำให้สื่อมากมายหลายแห่งแย่งกันนำเสนอข่าวของเขา กลับดูมากเกินความพอดีไปบ้าง

เฉินถิงเซียวที่อยู่ข้างๆก็ตื่นขึ้นมา

เมื่อคืนเขานอนโอบกอดเธอหลับไป เมื่อครู่หลังจากที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา ก็เอามือของเขาออก ค่อยๆเขยิบไปข้างๆเตียง ตอนนี้ในอ้อมกอดเขาคือความว่างเปล่า

เฉินถิงเซียวสีหน้าไม่พอใจ เอาตัวมู่น่อนน่อนเข้าไปในอ้อมกอดอีกครั้ง เอาคางกดไว้ที่ศีรษะของเธอ สายตามองปราดมาที่มือถือของเธอ พูดเสียงเรียบว่า“ผมให้คนทำ คิดว่าเป็นยังไงบ้าง”

น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความภาคภูมิใจ เหมือนเด็กที่ได้ทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองคิดว่ายอดเยี่ยมกำลังขอคำชม

มู่น่อนน่อนหัวเราะเยาะ“คุณให้สื่อตีข่าวที่คุณปู่ฉันกลับประเทศทำไม”

เธอไม่ได้ฉลาดเหมือนเฉินถิงเซียว บางครั้งเธอก็ตามความคิดของเขาไม่ทัน

“ไม่มีอะไร ก็แค่ให้คนที่ควรจะรู้พวกนั้น รู้ว่าคุณปู่มู่กลับมาแล้ว”

เฉินถิงเซียวพูดจบ ทันใดนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอไป ดึงมือเธอเข้าไปในผ้าห่ม พูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “พวกเราสามารถทำอะไรที่สนุกได้”

มู่น่อนน่อนได้ยินความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา แต่ก็สายเกินไป

มือของเธอถูกเฉินถิงเซียวควบคุมกดเอาไว้บนร่างกายของเขาตรงนั้น มือของเธอดูเหมือนจะละลายหายไปด้วยความร้อนที่แผดเผา

“ฉันต้องลุกไปทำงานที่บริษัท!”หน้าของมู่น่อนน่อนแดงขึ้นมาทันที

ตอนกลางคืนปิดไฟ ควรจะทำอะไรก็ทำ

ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว ในห้องก็สว่างโล่ง เธอไม่ได้หน้าด้านเหมือนกับเฉินถิงเซียว

“อืม อย่างนั้นพวกเราก็รีบหน่อย ไม่อย่างนั้นก็จะสาย”

“ไม่……อื้อ……”

……

ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งมีชีวิตอย่างผู้ชาย แม้ว่าโดยปกติดูแล้วสงบเยือกเย็น แต่บนเตียงก็เหมือนกันหมด—— ไร้ยางอาย

หลังจากที่ทั้งสองเสร็จภารกิจ ก็ใกล้ถึงเวลาทำงานแล้ว

หาโอกาสได้ยากที่ทั้งสองจะตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกัน

มู่น่อนน่อนนั่งแต่งหน้าที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เฉินถิงเซียวยืนอยู่ข้างๆเธอด้วยความสนใจ

เธอเร่งเขาอย่างอดไม่ได้“คุณเสร็จแล้วก็ไปก่อนเถอะ”

เฉินถิงเซียวกระตุกมุมปาก น้ำเสียงแผ่วเบาแฝงด้วยความอ่อนโยนอย่างจริงจังแบบที่หาได้ยากยิ่ง“คุณไม่แต่งหน้าก็สวยพออยู่แล้ว”

เขาชมเธอแบบนี้ จริงจังอย่างยิ่ง

มู่น่อนน่อนหันหน้าไปไม่มองเขา“ตอนครั้งแรกที่คุณเจอฉัน ยังบอกว่าฉันน่าเกลียดมากเลย”

“ตอนก็ก็น่าเกลียด”เฉินถิงเซียวยอมรับตรงไม่มีลังเล

มู่น่อนน่อน“……”ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าปากอย่างเฉินถิงเซียวนี้ มีเธอมาแต่งงานกับเขา เขาก็โชคดีมากแล้ว

“แต่……”เฉินถิงเซียวเอ่ยปากพูดอีกว่า“น่าเกลียดขนาดนั้นก็ไม่ใช่ว่าจูบไปแล้วเหรอ เปลี่ยนเป็นเสิ่นชูหาน เขาจะจูบลงเหรอ”

มู่น่อนน่อนโต้แย้งเขาว่า“เพราะคุณมีรสนิยมประหลาด”

“ถึงผมจะรสนิยมแปลกกว่านี้อีก ก็ไม่ใช่ว่าผู้หญิงน่าเกลียดแบบไหนก็จะอยู่ในสายตาผมได้”น้ำเสียงแบบนี้ของเฉินถิงเซียวฟังดูแล้วมีความพอใจไม่น้อย

มู่น่อนน่อนกลับฟังแล้วหัวใจเต้นโครมคราม

ผู้ชายที่เย็นชาเวลาบอกรัก ก็ไม่ด้อยเลยสักนิด

……

ตอนที่ทั้งสองคนลงมาชั้นล่าง เฉินเจียฉินสะพายกระเป๋ายืนอยู่ในห้องโถงมองพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง

เขาส่ายหน้าพูดว่า“พวกคุณสองคนช่วงนี้นับวันยิ่งจะมากเกินไปแล้วนะ ตอนแรกก็พี่น่อนน่อนตื่นสาย ต่อมาตอนนี้ก็ตื่นสายพร้อมกันทั้งสองคนเลยเหรอ”

มู่น่อนน่อนยิ้มอย่างเขินๆ ไม่ได้พูดอะไร

เฉินถิงเซียวเหล่มองเฉินเจียฉินอย่างเย็นเยือก เขาหมุนตัวเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว และยังพูดด้วยว่า“อากาศยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็นอนตื่นสาย นี่มันเป็นเรื่องปกติ”

มู่น่อนน่อนไปบริษัท พบว่าวันนี้ มู่ลี่เหยียนและมู่หวั่นขีต่างก็ไม่ได้มาทำงาน

ตอนเที่ยง มู่น่อนน่อนรับสายของเซียวชู่เหอ

“น่อนน่อนคุณปู่เธอกลับมาแล้ว ตอนเที่ยงเธอกลับกินข้าวที่บ้านเถอะ”

มู่น่อนน่อนตอบรับทันที“ได้สิ”

เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับคุณปู่มู่จำได้ว่าคุณปู่มู่เป็นคนจิตใจดี เทียบกับคนอื่นในตระกูลมู่แล้ว คุณปู่มู่ถือว่าดีต่อเธอไม่น้อย

แต่ตอนนั้น เพราะงานของคุณปู่มู่ยุ่งมาก ข้างบนก็ยังมีมู่หวั่นขีสองคนพี่น้อง เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมู่น่อนน่อนมากนัก

เธอเก็บโทรศัพท์ออกจากประตูใหญ่ของบริษัทตระกูลมู่ก็มองเห็นเฉินถิงเซียว

เขายืนพิงอยู่ข้างรถ ร่างสูงใหญ่กำยำ

“คุณมาได้ยังไง”มู่น่อนน่อนวิ่งเหยาะๆไป

“คนตระกูลมู่โทรหาคุณ ให้คุณกลับไปกินข้าวที่บ้าน”

“อืม”

“ผมไปกับคุณ”เฉินถิงเซียวพูดจบก็เปิดประตูรถ ผลักเธอเข้าไปในรถ

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท