เฉินจิ่งหยุ้นไม่ชอบมู่น่อนน่อนอยู่แล้ว แต่เมื่อเธอเห็นภาพนี้ เธอก็ก้าวไปทางด้านหน้าด้วยความดุดัน
มู่น่อนน่อนได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของเฉินจิ่งหยุ้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่เฉินถิงเซียวกลับกัดริมฝีปากของเธอไว้แน่น และเขาก็ยังพูดอย่างคลุมเครือว่า “ถ้าคุณกล้าผลักผมออกก็ลองดู”
มู่น่อนน่อนไม่กล้า
สิ่งที่เฉินถิงเซียวถนัดมาตลอดก็คือการข่มขู่เธอ
เขาเป็นผู้ชายที่หยิ่งผยองและไม่สนโลก
เฉินถิงเซียวลืมตาขึ้นช้าๆ เขาเห็นว่าเฉินจิ่งหยุ้นเดินมาถึงข้างหน้าเขาแล้ว จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อผลักมู่น่อนน่อนออกอย่างรุนแรง
เขาควบคุมแรงของเขาไว้ มู่น่อนน่อนแค่ถูกผลักถอยหลังเพียงสองก้าวเท่านั้น
หลังจากที่ผลักมู่น่อนน่อนออกไป เฉินถิงเซียวก็ยื่นมือออกไปเพื่อจัดเสื้อผ้าอย่างเฉยเมย ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เดาอารมณ์ไม่ออก “มู่น่อนน่อน นี่คุณจะตามตอแยผมไปอีกนานแค่ไหน”
คำพูดแบบนี้เมื่อคนอื่นได้ยิน คงอาจจะรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวไม่ชอบมู่น่อนน่อนเลย
แต่เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยิน เธอกลับรู้สึกว่าเขาได้ใจเล็กน้อย
เมื่อผลักเธอออกไป เฉินถิงเซียวคงได้ใจมากใช่ไหม?
มู่น่อนน่อนทำได้เพียงร่วมมือกับเขา “คงจะตามตอแยคุณไปตลอดชีวิตนั่นแหละ”
ดวงตาของเฉินถิงเซียวเปล่งประกาย มู่น่อนน่อนที่คุ้นเคยเขาเป็นอย่างดี เธอสังเกตเห็นความได้ใจของเขาแล้ว
เมื่อเฉินจิ่งหยุ้นที่อยู่ข้างๆ ได้ยินสิ่งนี้ เธอก็โกรธมาก “มู่น่อนน่อน ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน เธอรู้จักยางอายหน่อยได้ไหม!”
มู่น่อนน่อนหันไปมองที่เฉินจิ่งหยุ้น ก่อนจะยิ้มอย่างไม่เป็นอันตราย “แม้ว่าเฉินถิงเซียวกับฉันจะแยกจากกันแล้ว แต่เพราะความเคารพ ฉันก็ยังต้องการเรียกคุณว่าพี่สาวเหมือนเดิม นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันและเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวก็อายุ 27 ปีแล้ว นี่พี่สาวนี่พี่จะต้องมาดูแลเรื่องส่วนตัวของเขาด้วยเหรอ? นี่มันเกินไปหน่อยไหม?”
ยิ่งเฉินจิ่งหยุ้นมองไปที่มู่น่อนน่อนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจเธอมากเท่านั้น “นี่เธอยังคิดว่าตัวเธอเป็นเป็นคุณนายแห่งตระกูลเฉินอยู่อีกเหรอ? เรื่องระหว่างฉันกับเฉินถิงเซียว เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งวุ่นวายด้วยซ้ำ?”
“ไม่นะ เพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นคุณนายแห่งตระกูลเฉินแล้ว ก็เลยคิดที่จะเอาหัวใจของเฉินถิงเซียวกลับมา”
หลังจากมู่น่อนน่อนพูดจบ เธอก็หันไปมองที่เฉินถิงเซียว ก่อนจะหรี่ตาลงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันคิดว่าอดีตสามีของฉัน น่าจะรับรู้แล้วว่าฉันต้องการให้เขากลับมามากแค่ไหน?”
เธอรู้ว่าเฉินถิงเซียวชอบดวงตาของเธอมากที่สุดโดยเฉพาะตอนที่เธอหัวเราะ และตอนที่เธอมองเขาอย่างตั้งใจ
เธอจ้องไปที่เฉินถิงเซียวเพียงไม่กี่วินาที เฉินถิงเซียวก็ยื่นมือไปดึงเน็คไทลง ดวงตาของเขากลมลึก แต่เขาก็เก็บสีหน้าของเขาได้เป็นอย่างดี เขามีท่าทีที่ดูเฉยเมย “การเป็นสามีภรรยากันมันก็คงจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน เรื่องของวันนี้ ผมจะไม่เอาเรื่องกับคุณแล้วกัน”
มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะขยับยิ้มมุมปากของเธอ
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวฟังดูใจกว้างจริงๆ
เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยินที่เฉินถิงเซียวพูด เธอก็เหลือบไปที่เฉินจิ่งหยุ้น จากนั้นก็พูดว่า “มันดึกมากแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอหันไปมองเฉินถิงเซียว “เฉินถิงเซียว ลาก่อน”
เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธอด้วยท่าทีที่เฉยเมย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ทันทีที่มู่น่อนน่อนจากไป เฉินจิ่งหยุ้นก็อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนเฉินถิงเซียว แต่เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าซูเหมียนยังอยู่ที่นี่ เธอก็ทำได้เพียงแค่อดทนไว้ ก่อนจะพูดเสนอว่า “ถิงเซียว ไปส่งซูเหมียนกลับแทนฉันหน่อย”
ถ้าจะเรียกว่านี่คือการเสนอ ควรจะเรียกว่าคำสั่งจะดีกว่า
เฉินจิ่งหยุ้นเป็นคนที่ไม่ยอมคน และสำหรับน้องชายคนนี้แล้ว เธอก็ยังมีความคิดที่อยากจะควบคุมเขา
“ก็บอกไปแล้วนี่ ว่าให้สือเย่ไปส่งเธอกลับ เวลาของผมมีค่ามาก ไม่ใช่ปล่อยให้มันสูญเปล่าไปแบบนี้” เฉินถิงเซียวเหลือบมองเฉินจิ่งหยุ้น จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินไปที่รถของเขา
เฉินจิ่งหยุ้นรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวทำให้เธอเสียหน้า สีหน้าของเธอจึงดูแย่มากๆ
เธออดไม่ได้ที่จะหันมองไปยังทิศทางที่มู่น่อนน่อนเดินจากไป
เธอรู้สึกเสมอว่าท่าทีของเฉินถิงเซียวที่มีต่อมู่น่อนน่อนนั้นแปลกมาก แต่เธอไม่สามารถอธิบายออกมาได้
เฉินจิ่งหยุ้นจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองทางซูเหมียน “ซูเหมียน ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เธอต้องมาเจออะไรแบบนี้”
ซูเหมียนยิ้ม ก่อนจะพูดปลอบเธอ “ฉันชื่นชอบน้องชายของเธอมาก ฉันไม่เคยเจอผู้ชายแบบเขามาก่อน ในสายตาของเขาไม่มีใคร และก็หยิ่งผยองมากด้วย”
“ก็เป็นเพราะแม่จากไปตั้งแต่ยังเด็กน่ะ เขาจึงเป็นแบบนี้ ตอนที่เขาเด็กๆ เขาไม่ได้เป็นแบบนี้” เมื่อเฉินจิ่งหยุ้นพูดถึงวัยเด็กของเฉินถิงเซียว เธอก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ซูเหมียนก็เป็นเช่นเดียวกับเฉินจิ่งหยุ้น พวกเธอต่างก็มีฐานะทางครอบครัวที่ดี และรอบข้างก็มีคนที่ยอดเยี่ยมตามจีบอยู่มากมาย
เธอเคยพบเจอผู้ชายที่หวังผลประโยชน์จากเธอมามากมาย การที่เธอได้มาเจอผู้ชายแบบเฉินถิงเซียว มันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
ผู้ชายอย่างเฉินถิงเซียว ผู้หญิงที่ฉลาดเลือกยังไงก็ต้องการจะครอบครองเขาอยู่แล้ว
เธอตั้งตารอวันที่เฉินถิงเซียวจะถูกเธอครอบครอง วันนั้นเธอคงจะรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
……
ระหว่างทางกลับ มู่น่อนน่อนก็ยังคงสาปแช่งเฉินถิงเซียวอยู่ในใจ
เขาเอาแต่ข่มขู่เธอทุกครั้งเลย
ทำตัวเป็นเด็กไปได้!
ตอนนี้มู่น่อนน่อนนึกถึงสิ่งที่เฉินถิงเซียวพูดก่อนหน้านี้ และเธอก็เข้าใจความหมายของคำพูดของเฉินถิงเซียวแล้ว เขารู้สึกว่ามู่น่อนน่อนละเลยเขา
หลังจากกลับมาที่เมืองหู้หยาง และหลังจากตกลงกับเฉินถิงเซียวว่าจะแยกกันอยู่ชั่วคราว เวลาเธอไม่มีธุระอะไรเธอก็ไม่ไปหาเฉินถิงเซียวเลย
ที่สำคัญพวกเขาทั้งสองตกลงกันตั้งแต่แรกว่าจะแสร้งทำเป็นแยกจากกัน
เห็นได้ชัดว่าเขาก็เห็นด้วย แต่ตอนนี้กลับเป็นเขาที่โทษว่าเธอละเลยต่อเขา
นิสัยที่คาดเดาอะไรไม่ได้แบบนี้ของเขา เอาใจยากกว่าผู้หญิงเสียอีก
เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เฉินถิงเซียวก็โทรมาหาเธอราวกับว่าเขาได้ตั้งเวลาไว้
เดิมทีมู่น่อนน่อนอยากจะทำให้เขาตกใจ แต่พอเธอนึกถึงตอนที่เฉินถิงเซียวไม่รับสายเธอ และเธอก็กังวลตลอดทั้งคืน สุดท้ายเธอเลยกดรับสาย
เฉินถิงเซียวถามเธอ “ถึงแล้วใช่ไหม?”
“เพิ่งมาถึง” มู่น่อนน่อนตอบ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เธอถูกเขาข่มขู่เพื่อให้แสดงละครฉากนั้น เธอเลยพูดอย่างโกรธเคือง “คุณเฉินถิงเซียว ฉันคิดว่าคุณมีพรสวรรค์ในการเป็นผู้กำกับ”
เฉินถิงเซียวเงียบไปสองวินาที ราวกับว่าเขาได้ครุ่นคิดทุกอย่างแล้ว เขาจึงพูดว่า “ผู้กำกับเหรอ? ผมไม่สนใจ”
เธอกำลังเยาะเย้ยเขา แต่เขากลับไม่เข้าใจ
“ชั่งเถอะ ไม่เป็นไร ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว คุณอย่าลืมเรื่องการตรวจDNAละ ต้องรีบหน่อยนะ” หลังจากที่มู่น่อนน่อนพูดจบ น้ำเสียงของเธอก็เศร้าเล็กน้อย “เขาว่ากันว่าเด็กทารกโตเร็วมาก ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในแต่ละวัน”
ถ้าเธอเจอเฉินมู่ เธอจะจำเฉินมู่ได้หรือไม่?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกเศร้าอีกครั้ง
เฉินถิงเซียวตอบอย่างราบเรียบ “ผมไม่รู้ แต่ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปแบบไหนยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของผมเฉินถิงเซียวอยู่ดี”
เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยิน เธอก็ยิ้มออกมา
……
วันถัดมา
เฉินถิงเซียวกลับมาที่บ้าน เพื่อไปหาเฉินชิงเฟิง
เมื่อวานเฉินชิงเฟิงไปที่คอนโดของเขา แต่เขาไม่ได้เจอเฉินถิงเซียวเลย และเขาก็ไม่รู้สึกโกรธมากนัก
เพราะอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉินถิงเซียวมันก็เฉยชาต่อกันมาตลอด
เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวจะกลับมาที่บ้านเพื่อมาหาเขา
เมื่อเฉินชิงเฟิงเห็นเฉินถิงเซียว ความประหลาดใจเผยอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างเห็นได้ชัด “ทำไมวันนี้อยู่ดีๆ ถึงกลับมาละ?”
“เมื่อวานคุณไปหาผมที่คอนโดเหรอ?” เฉินถิงเซียวพูด ในขณะที่มองสำรวจเฉินชิงเฟิงอย่างใจเย็น