ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 358 คู่หมั้นของคุณ

บทที่ 358 คู่หมั้นของคุณ

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูเบาๆได้ขัดความคิดของเฉินจิ่งหยุ้น

เฉินจิ่งหยุ้นเก็บอารมณ์ทางสีหน้าขึ้น:“เข้ามา”

บอดี้การ์ดได้ผลักประตูเข้ามา แล้วกล่าวอย่างนอบน้อม:“คุณหนูเฉิน ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้วครับ”

“ไม่ต้องรอให้ถึงตอนกลางคืนแล้ว ออกเดินทางตอนนี้เลย”

เฉินจิ่งหยุ้นออกคำสั่ง ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้ามาเคลื่อนย้ายเฉินถิงเซียว

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่งตัวเฉินถิงเซียวขึ้นไปบนเครื่องบิน ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเฉินถิงเซียวเหมือนมีสัญญาณว่าจะฟื้นขึ้นมา

“คุณหนูเฉิน ตุณชายเฉินน่าจะอีกไม่นานก็คงจะฟื้นขึ้นมา”

คุณหมอบอกเรื่องนี้กับเฉินจิ่งหยุ้นด้วยใบหน้าที่ดีใจ แต่กลับไม่เห็นความดีใจบนใบหน้าของเฉินจิ่งหยุ้นสักนิดเดียว

เธอเพียงกล่าวประโยคเบาๆ:“รับทราบแล้วค่ะ”

เฉินจิ่งหยุ้นไล่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คนอื่น ๆ ออกไป เหลือหนึ่งในนั้นไว้เพียงคนเดียว แล้วกล่าวกำชับ:“ความเป็นไปที่เขาจะฟื้นขึ้นมาในช่วงนี้นั้นบ่อยขึ้น จงเพิ่มปริมาณยาให้เขา ก่อนที่จะไปอเมริกา อย่าให้เขาได้ฟื้นตื่นขึ้นมา”

ความจริงแล้วอาการบาดเจ็บของเฉินถิงเซียวดูไม่ได้สาหัสขนาดนั้น

หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เฉินถิงเซียวนั้นสามารถฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เป็นเพราะเฉินจิ่งหยุ้นสั่งให้คนวางยาเฉินถิงเซียว จึงทำให้เขาไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้

คำพูดของกู้จือหยั่นก่อนหน้านี้ได้ทิ่มแทงหัวใจของเฉินจิ่งหยุ้น

ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินถิงเซียวจะจืดชืด แต่ว่าในใจเธอก็รู้ดี หากเฉินถิงเซียวฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเธอไม่ได้ส่งคนไปช่วยค้นหามู่น่อนน่อน จะต้องโกรธแค้นเธออย่างแน่นอน

เธอจะต้องไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

แต่โชคดีตรงที่เธอสามารถติดต่อกับนักสะกดจิตที่เชี่ยวชาญมีชื่อเสียงที่สุดในโลก

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินจิ่งหยุ้นก็ยกริมฝีปากขึ้น แววตาประกายความมุ่งมั่นแน่วแน่

……

เครื่องบินได้จอดลงที่ลานจอดส่วนตัวในประเทศM เฉินจิ่งหยุ้นได้ติดต่อทางฝั่งนักสะกดจิต และฝั่งนั้นก็ได้ส่งคนมารับแล้ว

ชายหนุ่มใบหน้าเย็นชาได้เดินมาที่ด้านหน้าของเฉินจิ่งหยุ้น:“ขออนุญาตถามว่าใช่คุณคุณหนูเฉินหรือเปล่าครับ”

“ใช่ค่ะฉันเอง”

เมื่อยืนยันตัวตนกันแล้ว พวกเขาก็พาเฉินถิงเซียวกับเฉินจิ่งหยุ้นจากไปพร้อมกัน

ในใจของเฉินจิ่งหยุ้นยังคงไม่เชื่อใจนักสะกดจิตผู้เชี่ยวชาญคนนั้นสักเท่าไหร่ :“พวกคุณเป็นลูกน้องของผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเหรอ”

ชายหนุ่มที่เป็นคนขับรถได้กล่าวอย่างเฉยเมยว่า:“คุณหนูเฉินยังคงไม่เชื่อใจเจ้านายของพวกเราหรือครับ แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณก็ต้องเชื่อเขา ถึงแล้วครับ เชิญคุณหนูเฉินลงจากรถได้เลยครับ”

เฉินจิ่งหยุ้นกัดฟันแล้วเดินลงจากรถ

ด้านหน้าเป็นวิลล่าทรงกลมสีดำที่มีสไตล์แปลกๆ

เฉินจิ่งหยุ้นเกิดความอยากถดถอยขึ้นในใจ ทั้งวิลล่านี้ รวมไปถึงลูกน้องสองคนที่ผู้เชี่ยวชาญส่งมารับนั้นดูแปลกประหลาดเกินไป

คนที่อยู่ด้านหลังเปล่งเสียงเร่งรัดเธอ:“คุณหนูเฉิน เชิญครับ”

ตอนที่เฉินจิ่งหยุ้นมานั้นไม่ได้พาลูกน้องมาด้วย เพียงเพราะว่าต้องการให้คนที่รู้เรื่องนี้นั้นยิ่งน้อยก็ยิ่งดี

ไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะต้องลองสักตั้ง

เฉินจิ่งหยุ้นยกเท้าเดินเข้าไปด้านใน

พวกเขาพาเธอเดินเข้าไปข้างใน

ผ่านระเบียงทางเดินจนกระทั่งเข้าไปในห้องว่างห้องหนึ่ง

ในห้องมีการเปิดไฟไว้ มีผนังด้านหนึ่งที่ทั้งแถบเป็นตู้ชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ ด้านหน้าตู้เป็นโต๊ะหนังสือที่ทำมาจากไม้ ด้านหน้าโต๊ะหนังสือมีร่างของชายหนุ่มที่สูงใหญ่นั่งอยู่

ชายหนุ่มสวมแว่นตาใส่ผ้าปิดปากไว้ และทั้งร่างสวมใส่ด้วยชุดสูทสีดำล้วน ทำให้ดูลึกลับมาก

ลูกน้องเดินเข้ามาที่ด้านหน้าของชายหนุ่มอย่างนอบน้อม:“MR.Li ได้พาคนมาถึงแล้วครับ”

ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินมาที่ด้านหน้าของเฉินจิ่งหยุ้น ยื่นมือมาหาเธออย่างสุภาพ:“สวัสดีครับ คุณหนูเฉิน”

เขานั้นพูดภาษาจีน

เฉินจิ่งหยุ้นยื่นมือออกไป แล้วถามหยั่งเชิง:“คุณหลี่?”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“เริ่มต้นกันได้แล้ว”

“คุณหลี่ ปกติแล้วคุณสวมหน้ากากตลอดเวลาเหรอคะ” เฉินจิ่งหยุ้นค่อนข้างระแวดระวัง ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ดูแล้วเด็กเกินไป

“พาคุณหนูเฉินออกไปดื่มน้ำชา” ชายหนุ่มออกคำสั่ง ลูกน้องของเขาจึงได้เชิญแกมบังคับเฉินจิ่งหยุ้นออกไป

ประตูถูกปิดลง สายตาของชายหนุ่มตกกระทบไปที่เรือนร่างของเฉินถิงเซียว

เขาถอดแว่นออก ในแววตาประกายความสนใจ แล้วพึมพำ :“ดูน่าสนุกแฮะ”

……

“เมื่อเร็วๆนี้ มีปาปารัสซี่ถ่ายติดรูปการเดินทางของเฉินถิงเซียวประธานแห่งบริษัทเฉินซื่อ ในรูปเขาดูสนิทสนมกับสาวน้อยคนหนึ่งมากประหนึ่งว่าเป็นลูกสาว……”

ในห้องวีไอพี ทีวีกำลังนำเสนอข่าวบันเทิง

พยาบาลที่กำลังเปลี่ยนยาให้กับผู้ป่วยที่อยู่บนเตียง เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็เริ่มซุบซิบกันอย่างเงียบๆ

“ข่าวจริงหรือเปล่าเนี่ย ที่ว่าเฉินถิงเซียวมีลูกสาว”

“ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีข่าวว่ามีคู่หมั้นไม่ใช่เหรอ เด็กนั้นจะใช่ลูกที่เกิดจากเขากับคู่หมั้นหรือเปล่า”

หนึ่งในพยาบาลชี้ไปทางผู้ป่วยหญิงที่นอนอยู่บนเตียงแล้วกล่าวเตือนสติ:“……เธอระวังหน่อย อย่าฉีดลึกเกินไป……”

พยาบาลอีกคนกล่าวอย่างไม่พอใจ :“ฉีดลึกหน่อยเธอก็ไม่รู้สึกหรอก คนป่วยที่นอนติดเตียงมาสามปี เกรงว่าคงจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วมั้ง”

“อย่าพูดแบบนี้…….มาฉันทำเอง”

พยาบาลกำลังจะนำเข็มฉีดยาฉีดเข้าไปในข้อมือของผู้ป่วย ก็รู้สึกว่าข้อมือที่ถูกเจาะฉีดมาเป็นเวลานานแรมปีจนเขียวช้ำไปหมดนั้นเหมือนกับมีการขยับเขยื้อน

“เมื่อกี้นี้ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า”

พยาบาลอีกคนกล่าวถามเธอ:“อะไรเหรอ”

เวลานี้ เสียงผู้หญิงที่อ่อนแอแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินได้ดังขึ้น:“พวกคุณ……คือ……”

พยาบาลสองคนต่างก้มมองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงพร้อมกัน:“คุณฟื้นแล้วเหรอ!”

มู่น่อนน่อนกะพริบตาขึ้น เนื่องจากนอนมาสามปี การพูดจาจึงค่อนข้างลำบาก

ยังไม่ทันรอให้เธอได้พูดขึ้นอีกครั้ง พยาบาลทั้งสองคนก็ได้วิ่งออกไปแล้ว

“ฉันจะไปโทรศัพท์บอกคุณลี่!”

“ฉันจะไปบอกคุณหมอ!”

……

ลี่จิ่วเชียนที่เพิ่งจะเดินออกมาจากลิฟต์ ก็มีพยาบาลที่วิ่งเข้ามาแจ้งข่าวกับเขาด้วยความดีใจ:“คุณลี่ คู่หมั้นของคุณฟื้นแล้ว ฟื้นเมื่อกี้นี้เอง!”

สามปีก่อน โรงพยาบาลมีผู้ป่วยหญิงคนหนึ่งได้เข้ามาทำการรักษา สามปีผ่านไปแล้วก็ยังนอนไม่ฟื้น แต่ว่าชายหนุ่มที่ชื่อลี่จิ่วเชียนไม่ว่าฝนจะตกลมจะแรงอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดการมาเยี่ยมดูผู้ป่วยหญิงคนนี้ได้ และเขาก็ไม่เคยทอดทิ้งเธอ

ถึงแม้ว่าลี่จิ่วเชียนจะไม่เคยบอกความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ป่วยหญิงคนนั้นว่าเป็นอะไรกัน แต่พยาบาลเหล่านี้ต่างรู้สึกว่าผู้ป่วยหญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นของลี่จิ่วเชียน

ลี่จิ่วเชียนได้ยินดังนั้นแววตาก็ประกายรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงกลับไม่รู้สึกประหลาดใจ:“จริงเหรอครับ”

พยาบาลเห็นลี่จิ่วเชียนเป็นแบบนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยขึ้น เขาควรจะดีใจมากไม่ใช่เหรอ

“ผมจะดูไปเธอก่อน” ลี่จิ่วเชียนเฉยเมยกับความสงสัยของพยาบาล และก็เดินตรงเข้าไปในห้องผู้ป่วย

ในห้องผู้ป่วยมีแพทย์หลายคนที่กำลังตรวจดูอาการของมู่น่อนน่อน

ลี่จิ่วเชียนเดินเข้าไป เห็นมู่น่อนน่อนที่ใบหน้าซูบผอมนอนมึนงงอยู่บนเตียง จึงเปล่งเสียงกล่าวขึ้น:“มู่น่อนน่อน ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้ว”

ผู้ป่วยหญิงที่นอนอยู่บนเตียงได้เงยหน้าขึ้นมองลี่จิ่วเชียน คู่ดวงตาที่เดิมทีงดงามสดใสประหนึ่งดวงตาแมวแต่ตอนนี้ไร้ซึ่งราศีหันมามองลี่จิ่วเชียน น้ำเสียงแหบแห้งจนแทบจะไม่ได้ยิน :“คุณเรียกฉันเหรอ”

ลี่จิ่วเชียนได้ยินเสียงของเธอ สีหน้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

แววตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย ยื่นมือชี้มาที่ตัวเอง :“คุณรู้จักผมไหม ผมเป็นใคร”

มู่น่อนน่อนส่ายหน้า:“คุณเป็นใคร”

ลี่จิ่วเชียนหรี่ตาลง แล้วยกริมฝีปากขึ้น:“คู่หมั้นของคุณ”

มู่น่อนน่อนจ้องมองเขาอยู่สองสามวินาที แล้วแววตาผุดความสงสัย:“จริงเหรอ”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท