ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 409 มีตาแล้วมองไม่เห็นเหรอ?

บทที่ 409 มีตาแล้วมองไม่เห็นเหรอ?

ความเงียบงันเต็มไปในอากาศ

มู่น่อนน่อนแคะนิ้วพร้อมกับสบตาเฉินถิงเซียว แล้วก็พ่ายแพ้ต่อสายตาที่ลึกซึ้งของเฉินถิงเซียว

เธอหันหน้าหนีก่อน พร้อมกับเม้มปากและพูดว่า “แล้วแต่คุณว่าแล้วกัน”

เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะว่าหมอเข้ามาแล้ว

หมอทักทายด้วยความสุภาพก่อน “คุณเฉิน”

หลังจากนั้น ถึงได้ส่งรายงานสรุปให้เฉินถิงเซียว

“ร่างกายของคุณมู่ฟื้นฟูได้ไม่เลวเลย การทำงานของร่างกายทั้งหมดมักจะเป็นปกติ แต่เรายังต้องใส่ใจกับการพักฟื้น……” หมอพูดจบ ก็ชะงักไปแล้วเอ่ยถามว่า “คุณมู่ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกจริงๆ เหรอคะ? ”

พอสิ้นเสียงของหมอ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศภายในห้องไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าเฉินถิงเซียวกำลังจ้องมองเธอ แววตาของเขาดูหม่นหมองเล็กน้อย

“ขอโทษด้วยค่ะ คุณเฉิน ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย ปกติแล้วถ้าสถานการณ์อย่างคุณมู่เนี่ย หลังจากฟื้นขึ้นมาแล้ว น่าจะมีอาการอะไรตกค้างบางอย่าง……”

ตอนที่หมอผู้หญิงพูดประโยคนี้ สายตาก็มองไปที่มู่น่อนน่อนอย่างไม่รู้ตัว

อาการของมู่น่อนน่อนถือว่าไม่ปกติ ในฐานะที่เป็นหมอก็ต้องรู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา

ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนที่ไม่ควรเข้าไปยั่ว แต่ว่าเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามประโยคนี้ออกมา

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามันก็สามารถเข้าใจได้ที่หมอจะถามแบบนี้ ถึงยังไงเธอก็ยังคงมีอาการค้างอยู่จริงๆ

ความจำเสื่อม ถือว่าเป็นอาการที่คงเหลือของเธอไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า เฉินถิงเซียวไม่ได้คิดแบบนั้น

เฉินถิงเซียวหัวเราะอย่างเย็นชา แววตาดุร้าย “มีอาการคงเหลือรึเปล่า ตัวเองมีตาแล้วมองไม่เห็นงั้นเหรอ? ”

หมอผู้หญิยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าถูกหมออีกคนหนึ่งดึงออกไป กลัวว่าเธอพูดอะไรไปแล้วจะไปทำให้เฉินถิงเซียวคับข้องใจเข้า

ถึงแม้ว่าจะมองไม่ออกว่ามู่น่อนน่อนมีอาการคงเหลือรึเปล่า แต่ว่ามองออกว่าตอนนี้เฉินถิงเซียวรู้สึกไม่มีความสุขแล้ว

มู่น่อนน่อนรู้สึกได้อย่างเห็นได้ชัด

เธอไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฉินถิงเซียวถึงไม่มีความสุข แต่ว่าก็ไม่กล้าถาม

หมอผู้หญิงพวกนั้นเล่าอาการของมู่น่อนน่อนให้เฉินถิงเซียวฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ออกไป

ตอนนี้เอง มีลูกน้องคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เฉินถิงเซียว แล้วก็กระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา

เฉินถิงเซียวได้ยินแล้วก็พูดว่า “พาเขาเข้ามา”

ยังมีคนมาอีกเหรอ?

มู่น่อนน่อนเห็นว่าลูกน้องคนนั้นเดินออกไป แล้วก็เอียงคอมองไปที่ประตู

ผ่านไปไม่นาน ลูกน้องคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับหมอผู้ชายเสื้อกาวน์สีขาว

หมอผู้ชายคนนั้นดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเด็กน้อยแต่ก็ยังทำให้คนรู้สึกสงบได้ อายุประมาณ 50 ปี ดูดีมีสง่าราศี

เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินถิงเซียว สีหน้าจริงจัง “คุณคือคุณเฉิน?”

ผู้ชายคนนี้ ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านสมองที่สือเย่กลับมาให้เฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวค่อยๆ ยืนขึ้น “ผมชื่อเฉินถิงเซียว”

“ขอโทษด้วยค่ะ พอดีผมเพิ่งผ่าตัดเสร็จ พรุ่งนี้เช้าจะต้องผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง พวกเราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”เขาเดินไปอีกฝั่งหนึ่งและนั่งลง

สีหน้าของเขาดูแน่วแน่และมั่นใจ คิดว่าน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้

เขาเลยนะขึ้นมองมู่น่อนน่อน “ดูท่าทางคุณมู่จะฟื้นฟูได้ไม่เลวเลย”

มู่น่อนน่อนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ผู้เชี่ยวชาญธานีรู้จักเธอด้วย

แต่พอมาคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไร เพราะยังไงเขาก็คือคนที่เฉินถิงเซียวนัดล่วงหน้า

“ก็โอเคค่ะ”มู่น่อนน่อนค่อยๆ คลี่ยิ้ม

“ก่อนหน้านี้หลังจากที่คุณสือติดต่อผมมานั้น ผมก็วิเคราะห์อาการของคุณมู่อย่างละเอียด ก่อนหน้านี้คิดอยากจะหาเวลามาเจอคุณมู่ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะมาหาผมก่อน”

คุณหมอมองมู่น่อนน่อนอย่างใจจดใจจ่อ

คนที่ฟื้นตัวอย่างมู่น่อนน่อนมีไม่มากนัก คนในวงการแพทย์ยอมต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว

หลังจากที่หมอพูดจบก็หันมามองเฉินถิงเซียว แล้วก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สาเหตุของความจำเสื่อม แบ่งคร่าวๆ ได้เป็น 3 ประเภท ประเภทแรกคือการบาดเจ็บทางร่างกายอย่างรุนแรงต่อสมอง ประเภทที่สองคือการบาดเจ็บทางจิตใจ และประเภทที่สามคือการสูญเสียความจำที่เกิดจากยาบางชนิด ในกรณีของคุณมู่ ถือว่าอยู่ในประเภทแรก”

เขาพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็ชะงักไป ของสะพานไฟมองมู่น่อนน่อนอย่าพูดต่อ “ผมเคยดูไฟล์สแกนพักสมองของคุณมู่ในขั้นตอนการรักษาต่างๆ เป็นเรื่องปกติที่อาการบาดเจ็บรุนแรงปานกลางจะทำให้ความจำเสื่อม ในขั้นตอนนี้ ร่างกายของคุณจะหายดี ส่วนความทรงจำที่หายไปจะกลับคืนมาเมื่อใด มันเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอัตราความเป็นไปได้……”

มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที

ถึงแม้จะไม่ได้พูดอย่างตรงไปตรงมา แปลว่ามู่น่อนน่อนก็ฟังออกว่าเขาต้องการที่จะซื้ออะไร

หมายความว่า เธอจะเป็นความทรงจำได้หรือไม่ ต้องดูที่ดวงตาของเธอ

ถ้าเกิดว่าสามารถฟื้นความทรงจำได้ง่าย หมอไม่มีทางพูดคำพูดที่คลุมเครือแบบนี้หรอก

ถึงแม้ว่าจะเตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่ามู่น่อนน่อนก็ยังคงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เธอเงียบ ต่อมาก็ได้ยินเขาพูดว่าจะสั่งยาเพื่อช่วยในการรักษา

หลังจากนั้นเฉินถิงเซียวก็พูดอะไรกับหมอบางอย่าง เธอก็ไม่สนใจฟัง

จนตอนที่เธอออกมาจากห้อง ฉันได้พบว่าเธอออกมาคนเดียว

เธอหันกลับไป คนที่อยู่ด้านหลังของเธอคือลูกน้องของเฉินถิงเซียว แต่ว่ากลับไม่เห็นเฉินถิงเซียว

มู่น่อนน่อนเอ่ยปากถาม “เฉินถิงเซียวล่ะ? ”

ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเธอตอบด้วยความเคารพว่า “คุณผู้ชายยังมีธุระอีกนิดหน่อยครับ”

มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้มีอารมณ์จะไปสนใจว่าเฉินถิงเซียวมีเรื่องอะไร เธอแค่ออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับลูกน้องของเฉินถิงเซียว แล้วก็นั่งรอเขาอยู่บนรถ

……

หลังจากที่มู่น่อนน่อนออกไป ภายในห้องก็เหลือแค่เฉินถิงเซียวกลับมาอีก 2 คน

เฉินถิงเซียวเอาซองเอกสารที่วางอยู่ข้างๆ อีกซองหนึ่งส่งให้กับหมอ “คุณดูอันนี้หน่อยครับ”

คุณหมอรับส่งเอกสารไปด้วยความสงสัย เปิดออกดู แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียว “นี่คือประวัติการรักษาของเฉินถิงเซียว?”

“อืม” เฉินถิงเซียวตอบกลับนิ่งๆ แล้วก็พิงโซฟา เป็นสัญลักษณ์ว่าให้เขาอ่านก่อน

หมอไม่ค่อยเข้าใจว่าเฉินถิงเซียวหมายความว่ายังไง แต่ก็จำเป็นต้องอ่านจนหมด

“หลังจากที่เขาอ่านแล้ว ก็เห็นว่าเฉินถิงเซียวยังคงมีสีหน้าแบบเดิม เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ดูท่าทาง ตอนนั้นอาการบาดเจ็บของคุณเฉินจะเบากว่าคุณมู่อยู่มาก ดูจากประวัติการรักษาแล้วเนี่ย ตอนนั้นคุณเฉินไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิตอะไร แต่ว่าคุณมู่เกือบจะเสียชีวิตได้เลย การมีชีวิตอยู่ต่อได้นั้นไม่ง่ายเลย ตอนนี้เธอสามารถฟื้นฟูได้ขนาดนี้ ถือว่าโชคดี”

เฉินถิงเซียวได้ยินสิ่งที่เขาพูดแล้ว สีหน้าก็หมองหม่นลงในทันที ดวงตาเขาเย็นชา ทำให้คนดูหวาดผวา

หมอเม้มปาก สีหน้าดูไม่สบายใจ

เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสมองที่ดีที่สุดในประเทศ และได้ติดต่อกับคนดังมากมายนับไม่ถ้วน แต่ชายตรงหน้าเขามีออร่ามากกว่าใครๆ ที่เขาเคยติดต่อมาก่อน

เขาจำได้ว่าก่อนจะมาที่นี่ มีคนเตือนเขาว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนที่ไม่ควรไปยั่วเลย……

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงที่ทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวก็ดังขึ้นภายในห้อง “ดูจากอาการแล้ว ผมความจำเสื่อมเพราะความเสียหายทางสมองหรือไม่? ”

“คุณก็ความจำเสื่อมเหรอ? ” หมออึ้งไป “จะไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออก แต่ก็จะไม่ตัดความเป็นไปได้อื่นออกเหมือนกัน”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท