ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 423 น่อนน่อน เธอจำได้หมดแล้ว?

บทที่ 423 น่อนน่อน เธอจำได้หมดแล้ว?

พนักงานขายจำต้องรับเงินในมือของมู่น่อนน่อนมา

เธอทอนเงินห้าหยวนส่งไปในมือของมู่น่อนน่อน สีหน้าดูแข็งตึงออกมาเล็กน้อย “ค่อยๆเดิน โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”

มู่น่อนน่อนรับเงินมา เคลื่อนสายตาออกไปโดยไม่ตั้งใจ ก็เห็นมือของพนักงานขายแตะไปที่บริเวณใบหูเล็กน้อย

พนักงานขายเป็นเด็กสาววัยรุ่นผมสั้นคนหนึ่ง เมื่อกี้ตอนที่เธอยกมือขึ้นไปแตะที่ใบหู มู่น่อนน่อนก็เห็นว่าในใบหูของเธอเหมือนกับว่ามีอะไรอุดอยู่เลย

นึกโยงไปถึงตอนที่เพิ่งเข้าห้างมา คนในห้างก็น้อยมากเป็นพิเศษ…

ก้นบึ้งภายในใจของมู่น่อนน่อนเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที

เธอได้มองพนักงานขายไปอีกที พลางผันร่างรีบร้อนเดินออกไป

เมื่อกี้ตอนที่เธอเข้าห้างมา เพียงแค่รู้สึกว่าคนในห้างมันน้อยมากเท่านั้น

ในตอนนี้เธอได้ออกมาจากร้านขนมปัง ก็ได้ค้นพบว่าภายในห้างมีคนอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนกระจัดกระจายอยู่เป็นหย่อมๆเท่านั้น เงียบเชียบเสียจนดูผิดปกติไปบ้าง

มู่น่อนน่อนเดินไปที่หน้าบันได คิดว่าจะขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อลงไปที่ชั้นหนึ่ง

เธอเพิ่งจะยืนอยู่บนบันไดเลื่อน ก็ได้ยินเสียง “ติ๊ง” ดังชัดขึ้นมาจากทางด้านหลัง

ที่หน้าบันไดของห้าง สิ่งที่อยู่ตรงกับบันไดเลื่อนนั้นเป็นลิฟต์

มู่น่อนน่อนหันหน้าไปโดยอัตโนมัติ ก็เห็นชายสวมชุดสีดำคนหนึ่งเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป

ชายชุดดำก็เห็นมู่น่อนน่อนด้วยเช่นกัน

เขาสวมหมวกแก๊ปใบหนึ่ง มู่น่อนน่อนมองเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจนนัก แต่สามารถรู้สึกได้ว่าเขากำลังมองเธออยู่

ภายในใจของมู่น่อนน่อนรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงขึ้นมา

เธอมองไปรอบๆ พบว่ารอบๆเงียบสงัด

แสงไฟภายในห้างส่องสว่าง ร้านค้าที่อยู่รอบๆก็เปิดไฟสว่างไสวออกมาเช่นกัน แต่ไม่มีใครเลยสักคนเดียว

เธอนึกถึงที่ในร้านขนมปังร้านนั้นขึ้นมาได้ เด็กสาวที่ไม่ค่อยจะเหมือนพนักงานขายเท่าไหร่นักคนนั้น เหมือนกับจะเร่งให้เธอรีบๆไปอยู่ตลอด

ส่วนท่าทางระมัดระวังของเด็กสาวคนนั้น มองไปแล้วดูค่อนข้างที่จะเหมือนกับว่าเป็น…ตำรวจ!

ภายในห้างเงียบขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการเคลียร์พื้นที่เอาไว้

เมื่อกี้ตอนที่เธอเข้ามา ก็คงจะกำลังเคลียร์พื้นที่กันอยู่

เธอเป็นคนเขียนบทละครสืบสวนสอบสวน กับสถานการณ์จำพวกนี้มันไม่ได้ผิดหูผิดตาเลย

ในสถานที่ที่มีคนหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันอย่างห้างจำพวกนี้ จู่ๆก็เคลียร์พื้นที่ ปกติแล้วล้วนแล้วแต่จะเป็นการรักษาความปลอดภัยทั้งนั้น

ไม่ใช่ว่ามีคนดังมาแล้ว ก็จะมีคนที่คิดจะก่ออาชญากรรมขึ้นมาที่นี่

ภายในใจของมู่น่อนน่อนมีความคิดจำพวกนี้แวบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่บนใบหน้ากลับไม่ได้แสดงอาการออกมา

มือข้างหนึ่งเธอถือเค้กเอาไว้ มืออีกข้างค้ำยันอยู่บนราวจับบันไดเลื่อน ชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังคนนั้น ก็รักษาท่าทางที่เหมือนกับเธอแล้วขึ้นบันไดเลื่อนลงมาชั้นล่างด้วยเหมือนกัน

ชายชุดดำที่อยู่ข้างหลังคนนั้น ไม่เป็นตำรวจ ก็เป็นคนที่จะก่อเหตุที่นี่คนนั้น

บันไดเลื่อนลงมาถึงชั้นหนึ่ง

มู่น่อนน่อนตอนที่ลงจากบันไดเลื่อน ก็แสร้งทำเป็นหันหน้าไปมองผู้ชายคนนั้นไปแวบนึงอย่างไม่ได้ใส่ใจไปอีกที

ชายชุดดำคนนั้นยังคงอยู่บนบันไดเลื่อนไปอย่างช้าๆ ท่าทางดูไม่ได้เร็วเกินไปและก็ไม่ได้เชื่องช้าเกินไป มู่น่อนน่อนกำลังจะหันหน้าไป จู่ๆก็พบว่าชายชุดดำคนนั้นได้ถอดหมวกแก๊ปบนหัวของตัวเองออก พลางฉีกยิ้มมาให้เธอ

รอยยิ้มนั้นมันดูมืดครึ้มทั้งยังดูบ้าคลั่งอีกด้วย

ภายในใจของมู่น่อนน่อนกระตุกขึ้นมาทันที พลางรีบก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า วิ่งออกไปทางประตูทางเข้าห้างไปอย่างรวดเร็ว

ตรงชั้นหนึ่งของห้างกว้างขวางมาก แต่บันไดเลื่อนห่างออกมาจากประตูห้างไกลมาก เหมือนกับไม่ว่าเธอจะวิ่งเร็วแค่ไหนก็ยังมีระยะห่างจากประตูทางเข้าอีกยาวไกลอยู่ตลอดเลย

ในตอนนี้ ภายในห้างได้มีเสียงดังผ่านโทรโข่งดังขึ้นมา “สวีลี่ชิง ตอนนี้นายโดนล้อมเอาไว้แล้ว ขอเพียงแค่ตอนนี้นายหยุดไปเสีย พวกเราจะผ่อนปรนความผิดนายให้!”

มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น พบว่ารอบๆไม่รู้ว่ามีกลุ่มตำรวจปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงออกมา “ใครมันจะอยากให้พวกแกผ่อนปรนโทษให้กัน ฉันอยากจะให้พวกแกชิบหายไปด้วยกัน!”

มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ว่าเสียงนั้นเหมือนกับว่าจะอยู่ที่ข้างๆใบหูของเธอ เธอหันหน้ากลับไป ก็เห็นชายชุดดำไม่รู้ว่าถอดเสื้อคลุมตัวนอกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มัดระเบิดอยู่ตามลำตัว

ชายชุดดำเห็นมู่น่อนน่อนหันหน้ามา จึงเอ่ยเสียงเหี้ยมออกมา “พวกแกอพยพกลุ่มคนไปแล้วมันยังไงกัน? ไม่ใช่ว่ายังตกอยู่คนนึง ลากสาวสวยคนหนึ่งมาฝังพร้อมกับฉันก็ไม่ขาดทุนเหมือนกันนะ”

เขาพูดออกมา พลางยื่นมือไปดึงเส้นบางเส้นที่อยู่บนร่างตัวเองเอาไว้…

เสียงของตำรวจได้ดังออกมาจากโทรโข่งอีกครั้ง “หมอบลง! รีบหมอบลงเร็ว!”

มู่น่อนน่อนเบิกตากว้างออกมา เอาเค้กในมือโยนไปทางชายชุดดำ หันหน้าพุ่งกระโจนเข้าไปข้างหน้าอย่างกุลีกุจอ

ข้างหูได้ยินเสียงดังสนั่นดัง “ตูม” ขึ้นมา

มู่น่อนน่อนคิดว่าหูของตัวเองถูกการสะเทือนจนชาไปหมด โลกทั้งใบต่างกำลังเกิดเสียงดังหึ่งๆขึ้นมา

“…หกปีแล้ว ชิงหนิงอยู่คนเดียวก็โดดเดี่ยวมากแล้ว พวกเราควรจะไปหาเธอได้แล้ว”

“ไป!”

“…”

“ไม่มีประโยชน์ ใต้สนามกอล์ฟฉันฝังระเบิดเอาไว้หมดแล้ว พวกเราไปหาชิงหนิงด้วยกัน…”

“ดูแลมู่มู่ให้ดี ไม่ต้องสนใจฉัน”

“…”

จู่ๆความทรงจำก็พุ่งออกมา

นาทีก่อนที่มู่น่อนน่อนจะสลบไป สิ่งที่แวบขึ้นมาในหัว เป็นภาพเหตุการณ์การระเบิดที่บนเกาะเมื่อสามปีก่อนครั้งนั้น

“เจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

“เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาลอยู่ที่ไหน?”

“…”

โลกหลังจากที่เกิดเสียงอึกทึกขึ้นมาในชั่วเวลาสั้นๆ ก็ได้กลับมาเงียบดังเดิม

……

——น่าเกลียดเกินไปแล้ว

——คุณเป็นใคร?

——เธอไม่รู้ว่าใครที่ตัวเองแต่งด้วย?

——แน่นอนว่าฉันจะต้องรู้อยู่แล้วว่าคนที่ฉันแต่งด้วยคือเฉินถิงเซียว!

——ที่แท้ก็เป็นภรรยาของพี่ชาย ฉันเป็นเฉินเจียฉินลูกพี่ลูกน้องของเฉินถิงเซียว คืนวันแต่งงาน สันนิษฐานว่าเธอเองก็คงไม่ยอมเฝ้าไอ้คนไร้ค่าคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน

ผู้ชายมีดวงตาเข้มประหนึ่งน้ำหมึกคู่หนึ่ง คมกริบแต่ก็ลึกซึ้งเสียจนอ่านยาก กลิ่นอายเยือกเย็นออกมา…

“เฉินถิงเซียว!”

มู่น่อนน่อนลืมตาออกมาทันที สิ่งที่เข้ามาอยู่ในสายตาเป็นเพดานสีขาวล้วน

เธออยู่ที่ไหน?

เฉินถิงเซียวล่ะ?

เธอได้พลิกตัวนั่งขึ้นมาทันที ทำเอาพยาบาลที่เปิดประตูเข้ามาตื่นตกใจกันไปหมด

พยาบาลเดินเข้ามา “คุณฟื้นแล้ว? ฉันจะไปเรียกคุณหมอมาเดี๋ยวนี้”

พยาบาลพอเปิดประตูเข้ามาแล้ว กลุ่มพวกเสิ่นเหลียงก็รีบพากันเข้ามา

“พยาบาล ผู้ป่วยที่ชื่อว่ามู่น่อนน่อนคนนั้น กำลังอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหมายเลขนี้ใช่หรือเปล่า?”

“ใช่แล้ว เธอเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ฉันกำลังจะไปเรียกคุณหมอมาตรวจดูอาการให้เธออยู่เลย”

“ขอบคุณค่ะ” เสิ่นเหลียงรีบเอ่ยขอบคุณออกไป แล้วเปิดประตูเข้าไปดูมู่น่อนน่อน

เสิ่นเหลียงเดินเข้ามาที่ข้างเตียง ประคองไหล่ของมู่น่อนน่อนมองขึ้นมองลง พลางถามออกไปด้วยความเป็นห่วง “น่อนน่อน เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

มู่น่อนน่อนขยับมือและเท้าไปเล็กน้อย พลางพูดพึมพำออกมา “เหมือนว่าจะไม่เป็นอะไรนะ”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เสิ่นเหลียงผ่อนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกออกมาอย่างเห็นได้ชัด “แต่ว่าต้องให้คุณหมอตรวจดูอาการอีกสักหน่อยแล้วค่อยว่ากันอีกที”

มู่น่อนน่อนไม่ฟังคำพูดของเสิ่นเหลียงเลย เธอเงียบอยู่หลายวิ ในทันใดนั้นเองก็ได้เงยหน้าขึ้นไปถามเสิ่นเหลียง “เฉินถิงเซียวล่ะ?”

“หา?” เสิ่นเหลียงช่วงนี้ได้เคยชินกับสภาพสูญเสียความทรงจำของมู่น่อนน่อนไปแล้ว มู่น่อนน่อนที่สูญเสียความทรงจำมีความรู้สึกที่จืดจางต่อเฉินถิงเซียว ปกติแล้วไม่มีทางที่จะใช้น้ำเสียงจำพวกนี้มาถามเธอ

เสิ่นเหลียงถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ “เธอหาเฉินถิงเซียวไปทำไม?”

“เขาไม่เป็นไรใช่มั้ย?” มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นมายันหน้าผากเอาไว้ “ในหัวมันยุ่งเหยิงขึ้นมาเล็กน้อย พวกเราไปหาซือเฉิงหยู้ที่เกาะ ต้องรับมู่มู่กลับมาหรือเปล่า? เหมือนกับว่าจะเกิดการระเบิดขึ้นมา…”

เสิ่นเหลียงปิดปากไม่พูดออกมาก่อน มองไปทางมู่น่อนน่อนอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ

น้ำเสียงของเธอเบามาก พลางถามออกไปอย่างหยั่งเชิง “น่อนน่อน เธอจำขึ้นมาได้หมดแล้ว?”

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วออกมา “ฉัน…”

เธอก้มหน้ามองตัวเองไปเล็กน้อย ท่าทางดูปกติดี ในหัวมันว่างเปล่าไปสักพักนึง ถึงจะเอ่ยออกไปต่อว่า “ลี่จิ่วเชียนช่วยฉันเอาไว้…”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท