ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 534 ก่อนหน้านี้เขามัวไปทำอะไรอยู่?”

บทที่ 534 ก่อนหน้านี้เขามัวไปทำอะไรอยู่?”

อีกทั้ง ความร้อนแรงของWeiboนี้ สูงมากเป็นประวัติการณ์

จำนวนการส่งต่อและการคอมเมนต่างก็เกินแสนกันไปหมดแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นมาไม่หยุด

มู่น่อนน่อนเมื่อก่อนหน้านี้หลังจากที่ถูกจับขึ้นคำค้นหายอดนิยมไปแล้ว เฉินถิงเซียวก็ได้กดคำค้นหายอดนิยมพวกนั้นลงไปทันทีโดยไม่ยั้งคิด

เฉินถิงเซียวเป็นคนที่อะไรเด็ดเดี่ยวคนหนึ่ง คร้านจะไปสนใจพวกเธอ ให้ความสนใจเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น

แต่ครั้งนี้หลักๆเป็นเพราะว่าซูเหมียนทำเขารำคาญขึ้นมาแล้ว เขาจึงจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปซึ่งๆหน้าเลย

ทางWeiboออฟฟิเชียลของบริษัทเฉินซื่อเองก็มีแฟนคลับที่เป็นบัญชีผู้ใช้จริงๆหลายสิบล้านคนเช่นกัน บัญชีทางการออกมาชี้แจง ก็สามารถโน้มน้าวชวนให้น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

มู่น่อนน่อนกดเปิดคอมเมนด้านล่าง แทบจะทั้งหมดต่างเป็นการปรบมือชื่นชมกันทั้งนั้นเลย แต่ทว่าก็ยังมีข้อยกเว้นอื่นอยู่บ้าง

“Weiboออฟฟิเชียลอันนี้คงไม่ได้ถูกแฮคมาหรอกมั้งใช่มั้ย?”

“การหมั้นหมายของเฉินถิงเซียวกับคุณหนูซูท่านนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงได้รอให้ถึงตอนนี้ถึงได้ออกมาชี้แจง ก่อนหน้านี้เขามัวไปทำอะไรอยู่?”

“ฉันคิดเหมือนกับข้างบน ฉันสงสัยว่าเฉินถิงเซียวคนนี้จะต้องเป็นชู้กับคุณหนูซูท่านนี้…”

เป็นชู้กัน เป็นชู้บ้านย่าเธอสิ

มู่น่อนน่อนยิ้มเย็นออกมา แล้วก็ได้เลื่อนลงไปอีก

ตอนหลังยังมีบางคนที่มองดูความวุ่นวายไปพลางเสี้ยมให้เรื่องราวมันใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิมไปพลางอยู่บ้าง

“@อดีตภรรยาคุณชายเฉิน โอกาสของคุณมาแล้ว”

“มาเริ่มพนันกันถึงความเป็นไปได้ที่เฉินถิงเซียวกับอดีตภรรยาของเขาจะกลับมาคบกันใหม่สักหน่อย”

“แล้วตกลงแล้วเด็กคนนั้นเป็นของใครกันแน่?”

“Weiboออฟฟิเชียล แม่ของเจ้าหญิงน้อยของพวกคุณตกลงแล้วเป็นใครกันแน่?”

เห็นพวกเขาได้พูดถึงเฉินมู่กันขึ้นมาอีก มู่น่อนน่อนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา

มู่น่อนน่อนกลับมาที่หน้าWeiboของตัวเอง การแจ้งเตือนข่าวสารก็ยังเป็น99+

เธอโพสต์Weiboน้อยมาก แต่หลายวันนี้การแจ้งเตือนข่าวสารของเธอมีมาไม่หยุดเลย อ่านไม่จบไม่สิ้นเลย

มู่น่อนน่อนออกจากWeiboไป กลับไปคุยกับเสิ่นเหลียงในวีแชทต่อ

เมื่อกี้ตอนที่เธอไปเลื่อนดูในWeibo เสิ่นเหลียงก็ได้ส่งข้อความมาให้เธอเยอะมากอีกครั้ง

“ตอนนี้ฉันอยากรู้มากเลยว่าซูเหมียนมีสีหน้ายังไงออกมา”

“เธอไม่รู้ว่าเมื่อสามปีที่ผ่านมา ซูเหมียนนั้นมักจะซื้อบทความข่าวอยู่เป็นประจำ…”

เรื่องเมื่อสามปีก่อนนั้น ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว มู่น่อนน่อนเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคิดเล็กคิดน้อยอีก

ตอนนี้สิ่งที่เธอกังวลคือคนพวกนั้นให้ความสนใจไปกับเฉินมู่กันด้วยใจแรงกล้ามากเกินไป

เฉินมู่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเปิดเผยใบหน้ามาก่อน แต่ก็ยากที่จะรับประกันว่าจะมีนักข่าวที่มีความอาจหาญมากจะคิดหาทุกวิถีทางเพื่อแอบถ่ายเฉินมู่ขึ้นมาด้วยเหมือนกัน

เดิมทีมันก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ แต่กลับเอาเด็กเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย

ภายในใจของมู่น่อนน่อนเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

“วันนี้เธอไม่ยุ่งเหรอ?” เธอส่งข้อความนี้ไปหาเสิ่นเหลียง แล้วก็เอาโทรศัพท์ไปห้องน้ำไปล้างหน้าบ้วนปาก

วันนี้เธอยังต้องไปหาฉินสุ่ยซานเพื่อพูดคุยกันเรื่องบทละครอีก

บนอินเทอร์เน็ตอยู่ในความร้อนแรงไปหมด แต่สำหรับชีวิตจริงของเธอ มันไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรเลย

ตอนนี้เรื่องนี้ได้ใหญ่โตขึ้นมาขนาดนี้แล้ว เธอในฐานะที่เป็น “อดีตภรรยา” ของเฉินถิงเซียว แน่นอนว่าสื่อเหล่านั้นไม่มีทางจะปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน

วันนี้เธอออกจากบ้านมาต้องระมัดระวังสักหน่อยถึงจะได้

มู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงคุยกันหลายประโยค แล้วก็ได้วางโทรศัพท์ลง

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เธอก็ได้ไปที่ห้องของเฉินมู่

เฉินมู่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว กำลังนั่งขยับตุ๊กตาสองตัวเล่นพ่อแม่ลูกเสียงพึมพำอยู่บนเตียง

คนใช้เฝ้าอยู่ที่ข้างๆเตียง พอเห็นมู่น่อนน่อนเข้ามา ก็ได้เดินเข้ามาหาเธอทันที “คุณหญิง คุณหนูน้อยไม่ให้ดิฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอค่ะ บอกว่าจะรอให้คุณมา”

ที่บ้านมีสาวใช้คอยดูแลเฉินมู่โดยเฉพาะ ตอนที่มู่น่อนน่อนไม่อยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ของเฉินมู่ล้วนมีสาวใช้เป็นคนดูแลให้ทั้งหมด

เฉินมู่เล่นจนใจจดใจจ่อไปหน่อย ตอนนี้จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่ามู่น่อนน่อนมาแล้ว

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป ถามสาวใช้เสียงเบาออกไป “ตอนที่ฉันไม่อยู่ล่ะ? เธอกินข้าวสวมเสื้อผ้าไปอย่างว่าง่ายหรือเปล่า?”

สาวใช้ได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พลางเอ่ยออกมาว่า “ว่าง่ายสุดๆไปเลยค่ะ”

“ฉันเข้าใจแล้ว” มู่น่อนน่อนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย “ฉันจัดการเอง เธอไปทำงานของเธอเถอะ”

“ค่ะ” สาวใช้ถอยออกไป

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนออกมา “มู่มู่ ตื่นแล้ว”

เฉินมู่เงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นมู่น่อนน่อน ดวงตาก็สว่างวาบออกมาทันที “คุณแม่!”

มู่น่อนน่อนยิ้มออกมาเล็กน้อย โน้มตัวไปอุ้มเธอขึ้นมา

“ยืนให้ดี คุณแม่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนู” มู่น่อนน่อนเอาหุ่นในมือเธอลง “เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน อีกเดี๋ยวค่อยเล่น”

มู่น่อนน่อนช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงพาเธอลงไปกินข้าวเช้าที่ข้างล่าง

เห็นภาพเฉินมู่กินข้าวไปอย่างว่าง่าย มู่น่อนน่อนเกิดความอาลัยอาวรณ์ไม่อยากไปขึ้นมาบ้างจริงๆ

อยากจะพาเฉินมู่ออกไปด้วยกัน แต่เธอกังวลว่าระหว่างทางจะถูกนักข่าวเข้ามาขวางเอาไว้

ในช่วงเวลาแบบนี้ ยังต้องระมัดระวังเอาไว้สักหน่อยดีกว่า

ตอนที่มู่น่อนน่อนไป กล่อมเฉินมู่อยู่สักพักใหญ่ๆกว่าจะกล่อมเธอเสร็จ

จากนั้นมู่น่อนน่อนก็ได้ขับรถออกจากบ้านไป

เธอไปได้ไม่ไกล ก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังมีรถตามเธอมา

หรือว่าจะเป็นนักข่าวงั้นเหรอ?

นักข่าวคนไหนกันที่ข่าวไวขนาดนี้ แม้แต่ที่อยู่ของบ้านใหม่ของเฉินถิงเซียวก็ยังหาเจอหมด?

ออกจากบ้านมาก็ตามเธอมาเลย จะต้องแอบซุ่มตัวอยู่ที่นี่มาก่อนแน่ๆเลย

มู่น่อนน่อนพยายามที่จะสลัดรถคันข้างหลังไป แต่เธอพบว่านั่นมันไร้ประโยชน์เอาเปล่าๆ ไม่ว่าจะยังไงก็สลัดไปไม่ได้เลย

ในที่สุด เธอก็มาถึงที่หน้าประตูสตูดิโอของฉินสุ่ยซานแล้ว

เธอมองกระจกมองหลัง รถคันนั้นที่ตามเธอมาตลอด ได้จอดอยู่ในที่ไม่ไกลออกไปเช่นกัน

มู่น่อนน่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาฉินสุ่ยซาน “มีคนตามฉันมา เธอเรียกรปภ.สักสองคนออกมารับฉันหน่อย”

ฉินสุ่ยซานในฐานะที่เป็นคนทำงานบันเทิงด้วยครึ่งนึง จึงมีความรู้สึกไวต่อข่าวบันเทิงเป็นอย่างมาก

เรื่องที่ช่วงก่อนเช้าตรู่ของเมื่อคืนวานWeiboออฟฟิเชียลของบริษัทเฉินซื่อได้ชี้แจงออกมา แน่นอนว่าฉินสุ่ยซานก็รู้เช่นกัน

ไม่ต้องให้มู่น่อนน่อนอธิบายมาให้มากมาย ฉินสุ่ยซานก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปมากมาย ก็ได้เอ่ยพูดออกไป “ฉันจะนำคนลงไปเดี๋ยวนี้”

ฉินสุ่ยซานลงมาเร็วมาก เธอไม่เพียงจะพารปภ.มา แต่ยังพาพนักงานสองคนของสตูดิโอของเธอมาด้วย เป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นรูปร่างสูงใหญ่

เธอเดินเข้ามาตรงหน้ามู่น่อนน่อน ตบลงไปที่ประตูรถไปเบาๆ “ลงมาเถอะ คนที่ตามเธอมาที่เธอบอกอยู่ที่ไหนล่ะ?”

มู่น่อนน่อนชี้ไปที่รถคันสีดำทางข้างหลัง

ฉินสุ่ยซานหันมองไปทางพนักงานทั้งสองคนทางข้างหลัง ใช้คางชี้ไปที่มู่น่อนน่อน “พาพี่มู่ขึ้นไปข้างบนก่อน”

มู่น่อนน่อนลงจากรถ เห็นฉินสุ่ยซานเหมือนกับว่าไม่คิดจะขึ้นไป จงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปด้วยความอยากรู้ “เธอจะทำอะไร?”

“ไม่มีอะไร จะช่วยเธอดูสักหน่อยว่าคนที่ไม่มีตาคนไหน ที่แม้แต่คนของฉันก็กล้ามาแตะต้อง”

ฉินสุ่ยซานสวมชุดสูททำงาน มือข้างหนึ่งค้ำยันไปที่บนตัวรถ แต่ดูมีพลังความยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากออกมา

มู่น่อนน่อนมองเธอไปแวบนึง “อะไรที่เรียกฉันว่าเป็นคนของเธอกัน?”

ฉินสุ่ยซานเข้าไปตรงหน้าเธอ พูดเสียงเบาออกมา “ล้อเล่นมั้ยล่ะ มีหนุ่มน้อยอยู่ที่ตรงนี้ ไว้หน้ากันหน่อยสิ”

มู่น่อนน่อนยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ตอนที่เธอหันหน้าไปมองรถที่ตามเธอมาคันนั้นไปอีกที ก็ได้พบว่ารถคันนั้นได้ขับออกไปเรียบร้อยแล้ว

ฉินสุ่ยซานเข้ามายืนข้างๆเธอ มองตามสายตาเธอออกไป พลางถามออกไปด้วยใบหน้าสงสัย “รถคันนั้นเกิดอะไรขึ้น? เธอแน่ใจนะว่าขับตามเธอมาใช่มั้ย? ไม่แน่ว่ารถคันนั้นอาจจะผ่านทางเดียวกันกับเธอพอดีก็ได้? มันจะไปมีอย่างที่ไหนที่นักข่าวบันเทิงจะปล่อยเนื้อชิ้นโตอย่างเธอไปง่ายๆอย่างนี้กัน?”

ข่าวบันเทิง เป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนชีวิตให้มีสีสันมากขึ้นที่เหล่าผู้คนชอบมากที่สุดตลอดกาล

ซูเหมียนได้ถูกเฉินถิงเซียวปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว งั้นตอนนี้ผู้หญิงที่มีความเกี่ยวพันกับเฉินถิงเซียว ก็เหลือเพียงแค่มู่น่อนน่อนเท่านั้นแล้ว

ก็หมายความว่าตัวเธอมีมูลค่าข่าวเยอะมากเลย

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท