ความดูถูกที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของมู่น่อนน่อน ถึงคนโง่ก็ยังฟังออก
ผู้หญิงแบบไหนบ้างที่เจียงซ่งไม่เคยเจอ เคยเจอผู้หญิงหน้าตาสวย และเคยเจอผู้หญิงที่มองข้ามความหวังดีของคนอื่น
แต่ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยอย่างมู่น่อนน่อนมาก่อน จะตายอยู่แล้วยังปากดี
ความสนใจที่เขามีต่อมู่น่อนน่อนได้เพิ่มมากขึ้นอีกในชั่วขณะ
เจียงซ่งโบกมือ ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดถอยหลังไปหน่อย
บอดี้การ์ดถอยไปด้านหลัง เจียงซ่งเดินมาที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อน ส่ายหัวทีนึง แล้วพูดอย่างนักเลง:“ทำไม?สี่คนหาว่าเยอะเหรอ?งั้นเธอก็เชื่อฟังซะดีๆ ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดแล้วคุกเข่าสำนึกผิดกับฉันดีๆ ก็เป็นสิริมงคลทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
มู่น่อนน่อนจะฟังความหมายชั้นต่ำในคำพูดของเจียงซ่งไม่ออกได้อย่างไร
ตอนนี้เธอแทบอยากจะเหยียบเจียงซ่งให้ตายคาตีนไปเลย
แต่ตรงหน้าคนเยอะเกินไป เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ถ้ามีแค่เจียงซ่งคนเดียว เธอไม่กลัวหรอก
เธอสูดหายใจลึกๆ เม้มริมฝีปากด้วยความอดทน แล้วพูดอย่างสงบเยือกเย็น:“เหรอคะ?ง่ายขนาดนี้เลย?”
“ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันเป็นคนที่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อผู้หญิง โดยเฉพาะกับเธอที่หน้าตาสวยอย่างนี้ ก็ยิ่งใจกว้างอยู่แล้ว ชี้ทางให้เธอแล้ว เธอเลือกเองเลย”
ต่างก็บอกว่ามองสาวสวยใต้แสงไฟ มู่น่อนน่อนในนาทีนี้ยืนอยู่ใต้แสงไฟ แถมเจียงซ่งยืนอยู่ใกล้ขนาดนั้น มองใบหน้าสวยสะพรั่งของมู่น่อนน่อนแล้ว เขาแทบอยากจะกระโจนไปทันที
แต่ผู้หญิงชั้นเยี่ยมอย่างมู่น่อนน่อนแบบนี้ อย่ารีบร้อนเกินไปดีกว่า
ถึงเวลาพอได้มาแล้ว มีเวลาค่อยๆเล่นอยู่ถมเถไป
เจียงซ่งเลียริมฝีปากตัวเอง สายตาลามกจ้องอยู่ที่มู่น่อนน่อน ไม่ปกปิดแผนการของเขาเลย
เวลานี้ คนที่เข้าออกชุมชน ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ไม่ก็พนักงานออฟฟิศที่กลับมาดึก ไม่ก็คนแก่ที่กลับมาจากข้างนอก คนพวกนั้นเห็นมู่น่อนน่อนถูกคนกลุ่มนึงห้อมล้อมไว้ ต่างก็มองมาทางนี้ด้วยความแปลกใจ แต่กลับไม่มีใครเดินมาถามเธอเลยว่าต้องการความช่วยเหลือเปล่า
ดูท่า คาดหวังให้คนอื่นมาช่วยเธอนี่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ส่วนเจียงซ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ความมั่นใจเต็มเปี่ยม หน้าตาอย่างกับทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือตัวเองหมด
ความจริงก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
มู่น่อนน่อนแค่ไม่ระวังนิดหน่อย ก็อาจจะถูกเจียงซ่งจับตัวไปจริงๆ
นาทีนี้เธออดนึกุึงคำพูดที่ซูเหมียนพูดในก่อนหน้านี้ไม่ได้
ใช่สิ ตอนนี้เฉินถิงเซียวไม่ใช่เกราะป้องกันของเธอแล้ว
ไม่มีคนมีประสิทธิภาพสูงเหมือนอย่างเฉินถิงเซียวอีกแล้ว ที่สามารถหาเธอเจอภายในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุด หลังจากที่เธอเกิดเรื่อง
เป็นไปไม่ได้แล้ว
แต่เธอก็ทำยังไงได้ล่ะ?
ได้แต่ต่อสู้ให้ถึงที่สุด
มู่น่อนน่อนเดินมาข้างหน้าก้าวนึง ยกมุมปากขึ้นยิ้มให้กับเจียงซ่ง:“ประธานเจียงเป็นคนฉลาด ฉันเองก็ไม่ได้โง่ ก็รู้ว่าผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้ฉลาด ประธานเจียงคิดว่าฉันจะเลือกยังไงคะ?”
เจียงซ่งหัวเราะอย่างได้ใจ:“ฮื้อ พวกผู้หญิงก็ชั้นต่ำแบบนี้แหละทำไมต้องโวยวายที่จีนติ่งด้วย!เพราะไหนๆผลสุดท้ายมันก็เหมือนกันหมด”
“ใช่ค่ะ”มู่น่อนน่อนหัวเราะต่อ
เจียงซ่งปล่อยวางความระแวง แล้วจะยื่นมือไปจับหน้าของมู่น่อนน่อน
แต่ว่า ในขณะที่มือของเขาจะแตะมาที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อน ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนได้ยกเท้าขึ้นมาเตะช่วงล่างของเจียงซ่งทีนึง
“ซี๊ด……โอ๊ย……”เจียงซ่งเบิกตากว้างและเจ็บจนก้มลงไปทันที หมุนอยู่กับที่อย่างไม่หยุด เจ็บจนพูดไม่ออก
บอดี้การ์ดของเจียงซ่งคือคนที่เขาจ้างมาส่วนตัว หลักๆคือคอยคุ้มกันความปลอดภัยของเขา
บอดี้การ์ดเป็นผู้ชายหมด เห็นเจียงซ่งเป็นแบบนี้ ได้ห้อมล้อมไปถามว่า:“ประธานเจียง!ประธานเจียงเป็นยังไงบ้างครับ?”
“กู……แม่ง……จะตายอยู่แล้ว……”เจียงซ่งไม่พอใจ คำนี้แทบจะเบียดออกมาจากซอกฟัน
มู่น่อนน่อนฉวยโอกาสตอนที่บอดี้การ์ดไปห้อมล้อมเจียงซ่งหมด ได้วิ่งออกไปนอกชุมชน
คนเฝ้าประตูชุมชน มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่แค่สองคน ก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
มู่น่อนน่อนพุ่งออกมาจากชุมชน โดยตรง เตรียมนั่งรถวิ่งหนี
เจียงซ่งที่อยู่อีกฝั่งเจ็บจนเหงื่อท่วมหัว เขาได้ปัดมือของบอดี้การ์ดทิ้ง พร้อมกัดฟันพูดว่า:“ไปให้พ้น!ไปจับผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉัน ขอแค่พวกแกไปจับเธอมา ไม่ว่าเป็นหรือตาย ฉันให้รางวัลพวกแกคนละล้าน”
บอดี้การ์ดฟังคำพูดของเจียงซ่งแล้ว ได้ออกไปตามจับมู่น่อนน่อนในทันที
ยังไงก็เป็นถึงผู้ฝึกบู๊ อีกทั้งยังมีสิ่งล่อใจหนึ่งล้านหยวน ศักยภาพล้วนถูกกระตุ้นออกมาหมดแล้ว
ออกมาจากชุมชน พวกเขาก็เห็นมู่น่อนน่อนเลย
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน!ตามโว้ย!”
มู่น่อนน่อนได้ยินเสียงของพวกเขาแล้วแอบพูดอยู่ในใจว่าแย่แล้ว บอดี้การ์ดพวกนี้เท้าเหยียบล้อไฟมารึไง แต่ละคนวิ่งไวจังเลย
เธอก็ไม่มีเวลาโบกรถแท็กซี่แล้ว ถนนของที่นี่แคบ กลัวว่าเธอแค่เพิ่งขึ้นรถ รถยังไม่ทันได้ขับออกไป ก็ถูกบอดี้การ์ดพวกนั้นกระชากลงไปแล้ว
หัวใจมู่น่อนน่อนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขาสองข้างล้วนค่อนข้างชาแล้ว รู้แค่ว่าต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างไว ขาสองข้างวิ่งจนสูญเสียการรับรู้แล้ว
แต่ยังไงแรงของเธอก็สู้บอดี้การ์ดพวกนั้นไม่ได้
มู่น่อนน่อนวิ่งไปได้ระยะทางช่วงนึง ก็วิ่งไม่ไหวแล้ว แต่บอดี้การ์ดเหล่านั้นกลับยิ่งวิ่งยิ่งไว อีกไม่นานก็จะตามเธอทันแล้ว
ในขณะนี้เอง ไม่รู้มีผู้ชายคนนึงโผล่มาจากไหน ได้ชนเข้ากับบอดี้การ์ดกลุ่มนั้นอย่างจัง
บอดี้การ์ดได้ด่าทันที:“เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ตาบอดหรือไงวะ!”
ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ถูกพวกบอดี้การ์ดชนได้พูดอะไร จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้ปะทะกันขึ้นมา
มู่น่อนน่อนค่อนข้างประหลาดใจ
ผู้ชายกลุ่มนึงชกต่อยกันกลางถนน คนที่เดินผ่านล้วนขาดต้องมีไปมุงดูกัน
มู่น่อนน่อนอยากฉวยโอกาสหนี แต่ถ้าหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาล่ะ?
เธอคิดๆแล้ว ได้ตัดสินใจหยุดลงมาช่วยผู้ชายคนนนั้นแจ้งความก่อนแล้วค่อยเผ่น
พูดจากอีกแง่หนึ่ง ผู้ชายคนนั้นก็ถือว่าได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แต่ว่า ตอนที่มู่น่อนน่อนหยิบมือถือออกมาเตรียมโทรศัพท์ ก็พบว่าบอดี้การ์ดพวกนั้นของเจียงซ่งได้ทยอยกันล้มลงไปที่พื้นแล้ว
เก่ง……เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?
เทคนิคที่ผู้ชายคนนั้นต่อสู้โหดมากเป็นพิเศษ ลงมือล้วนไว โหดและแม่นยำมาก ไม่ให้โอกาสบอดี้การ์ดพวกนั้นได้ไหวตัวเลย
มู่น่อนน่อนค่อนข้างทึ่ง นอกจากเฉินถิงเซียวแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นใครที่ชกต่อยโหดขนาดนี้มาก่อนเลย
เธอเก็บมือถือ คงไม่ต้องแจ้งความแล้ว
เธอวิ่งไปอย่างไว:“คุณ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อครู่ผู้ชายหันหลังให้กับเธอ บนหัวสวมหมวกของเสื้อโค้ตไว้ แถมยังใส่แมสปิดปากไว้ด้วย มู่น่อนน่อนเห็นหน้าของเขาไม่ชัดเจน
พอเดินเข้ามาใกล้แล้ว เธอมองดวงตาที่เผยอยู่ด้านนอกของผู้ชาย แล้วเรียกอย่างค่อนข้างไม่แน่ใจ:“ฉีเฉิง?”
ฉีเฉิงไม่ได้ถอดแมสออก แววตาก็ไม่มีคลื่นที่เห็นได้ชัดอะไร:“คุณมู่ เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”มู่น่อนน่อนมองสำรวจฉีเฉิงอยู่ครู่นึง พบว่าเขาดูแล้วไม่เหมือนได้รับบาดเจ็บเลย
คนที่ได้รับบาดเจ็บคือบอดี้การ์ดของเจียงซ่ง
พวกเขาต่างก็ล้มไปที่พื้นพร้อมหดตัวเป็นก้อน เจ็บจนร้องโอดโอย
ฉีเฉิงส่ายหัวทีนึงแล้วจะหันหลังไปเลย
ในใจมู่น่อนน่อนเกิดความสงสัย ฉีเฉิงควรอยู่ในวิลล่าของเฉินถิงเซียว คอยเฝ้าอยู่ที่ข้างกายเฉินจิ่งหยุ้นไม่ใช่เหรอ?
มาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไง?
วันนี้เธอไปหากู้จือหยั่นถามเรื่ององค์กรXพอดี ก็ถามไม่ได้ใจความอะไรเลย ตอนนี้เจอฉีเฉิงพอดี สู้หลอกถามเขาดูดีกว่า