ตอนที่ 27 ไออสูรที่แพร่ออกมา
ในสวนหินร้างคำพูดของผู้หญิงทั้งเจ็ดทำให้เมิ่งชวน,เหยียนจินและหลิวชีเยว่ค่อนข้างตกตะลึง
“ให้ผู้หญิงทุกคนในอาคารเหล่านี้ออกมา” เหยียนจินกล่าวอย่างเคร่งเครียด เขาปฏิเสธที่จะเชื่อ
เมื่อเขายังเด็กสาวใช้ที่ดูแลเขาเป็นอย่างดี ถูกทรมานจนตายในสถานที่แบบนี้
“นำพวกเขาทั้งหมดออกไป” ชายชราในเสื้อคลุมหลากสียิ้มขณะที่เขาสั่ง สตรีมากกว่าสามสิบคนถูกนำตัวมารวมกัน
“นายน้อยเมิ่งรึ”
“นั่นคือเมิ่งชวนของตระกูลเมิ่ง” ดวงตาของผู้หญิงหลายคนสดใสขึ้นเมื่อเห็นเมิ่งชวน
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างอิจฉาริษยาอัจฉริยะของเมืองตงหนิง เมิ่งชวนมักจะเดินทางระหว่างคฤหาสน์ตระกูลเมิ่งและสำนักเต๋ากระจกทะเลสาบ หลายคนเคยเห็นเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ถ้าพวกเจ้าถูกลักพาตัว เจ้าสามารถพูดออกมาดังๆ เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแก้แค้นของแก๊งหมาป่าดำ” เมิ่งชวนกล่าว “ พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้น”
“นายน้อยเมิ่ง แม้ว่าพวกเราบางคนจะร้องไห้และคร่ำครวญเมื่อตอนที่เรามา แต่ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับแก๊งหมาป่าดำ ข้ามาที่นี่ด้วยตัวเองเพราะการแต่งงานของพี่ชาย พี่สาวพี่สาวที่อยู่ข้างข้าทุกคนต่างมีเรื่องเศร้าของพวกเธอ แต่พวกเราทั้งหมดล้วนเต็มใจ” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายน้อยเมิ่ง…” ผู้หญิงเหล่านี้ต่างเต็มใจที่จะบอกเมิ่งชวน
ขณะที่เมิ่งชวน หลิวชีเยว่ และเหยียนจินฟัง ทั้งสามคนต่างก็สับสนยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาสามารถบอกได้ว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้มีความแค้นต่อแก๊งหมาป่าดำ พวกเขาตกใจมากเมื่อได้ยินเหล่าผู้หญิงพูดถึงความยากลำบากของตนเอง
พวกเขารู้ดีว่าชีวิตเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป เนื่องจากกฎที่กำหนดโดยข้าราชบริพาร ผู้ที่ไปไม่ถึงระดับชำระแก่นแท้จะต้องรับใช้ในกองทัพ มิฉะนั้นงานที่มีให้กับพวกเขาจะมีอย่างจำกัด อย่างไรก็ตามผู้ที่เปิดธุรกิจขนาดเล็กและทำงานแปลกๆก็อาจหากินอิ่มท้องได้ แต่วันนี้ พวกเขาพบว่ามีผู้คนจำนวนมากกว่าที่ใช้ชีวิตอย่างน่าอนาถในหมู่คนทั่วไป ผู้ที่ป่วยหนัก หรือมีคนในตระกูลที่ติดการพนัน ผู้ที่ผ่านความอดอยาก หรือบ้านเกิดของพวกเขาถูกอสูรทำลาย…
ผู้หญิงเหล่านี้น่ารักดังนั้นพวกเธอจึงมีเส้นทางเลือกนี้ หากพวกเธอไม่ได้มีความสวยงามตั้งแต่ต้น ก็คงจะเดินเส้นทางนี้ไม่ได้
“พี่สาว” ตี่เชิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที เขาไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อได้ยินพวกผู้หญิงบ่น เพราะพ่อของเขาเองก็เป็นคนติดการพนัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวของเขาทำงานเป็นคนรับใช้ในตระกูลใหญ่ ตระกูลของเขาก็คงจะจบสิ้นเช่นกัน
“ตี่เชิง” ผู้หญิงที่ถูกแก๊งหมาป่าดำพาตัวออกมา รีบวิ่งมาทันที
“ฮ่าฮ่า…” ชายชราหัวเราะ “เราพบตัวเธอแล้ว เกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนี้ถูกพามาที่สวนหินร้างของเราได้อย่างไรกัน ทำไมข้าจีงไม่รู้เรื่องนี้”
“ท่านผู้พิทักษ์” สมาชิกแก๊งกล่าวด้วยความเคารพ “พ่อของผู้หญิงคนนี้ชื่อหงหยู เป็นหนี้พวกเราแก๊งหมาป่าดำ300 หยวน นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราพาลูกสาวของชายคนนี้มาซ่อนที่นี่ชั่วคราว มันเป็นการบังคับให้พ่อของเธอหาเงิน”
เมื่อชายชราได้ยิน เขาก็จ้องมองไปที่หัวหน้าเว่ยและพวกทั้งสามคนและตะโกนว่า “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าซ่อนเธอไว้ที่นี่เพื่อเก็บหนี้ของเจ้า”
หัวหน้าเว่ยพลันตระหนักขึ้นมาได้ในทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มประจบประแจงว่า “ท่านผู้พิทักษ์ เราจะกล้ารบกวนท่านด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร พวกเราเพียงแค่วางแผนที่จะซ่อนเธอไว้ที่นี่เพียงไม่กี่วัน เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับนักพนันคนนั้น”
เมิ่งชวนและพวกขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้
อ่านบทล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com
เมื่อหนี้เพิ่มมาจนถึงจำนวนหนึ่ง เจ้าหนี้ที่กักขังคนในตระกูลของผู้อื่นไว้ชั่วคราวเพื่อบังคับให้ตระกูลคืนหนี้นั้นจะถูกลงโทษด้วยการปรับที่ศาลเท่านั้น เว้นแต่หญิงที่ถูกลักพาตัวไปถูกบังคับให้เป็นโสเภณี ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต จึงจะได้รับการลงโทษอย่างหนัก
สำหรับหงหยูพี่สาวของตี่เชิง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
“พี่ พวกเขารังแกเจ้าหรือเปล่า” ตี่เชิงกอดพี่สาวของเขาและถามในทันที
“เปล่าพวกเขาเพียงแค่ขังข้าไว้ในห้อง” หงหยูส่ายหน้า
“เราทำผิดพลาดไปหรือเปล่า” หลิวชีเยว่กระซิบเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้
เหยียนจินขมวดคิ้ว
เมิ่งชวนมองไปที่กลุ่มผู้หญิง ทุกคนมีเรื่องราวของตนเอง แต่ไม่มีใครบังคับ สิ่งที่เขาประสบในวันนี้ ทำให้เขาได้เห็นอีกด้านหนึ่งของโลกใบนี้อย่างแท้จริง
“นายน้อย” บ่าวชราที่ยืนอยู่ข้างเหยียนจินหัวเราะเบาๆ “ถ้ามันผิดกฎหมาย แก๊งหมาป่าดำจะไม่ยอมให้เราเห็นได้ง่ายๆ”
ดวงตาของเหยียนจินสว่างขึ้น
“หงหยูผู้นี้ถูกบังคับอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้แก๊งหมาป่าดำก็ยังไม่มีสัญญาผูกมัดเธอ เนื่องจากมีตัวอย่าง แน่นอนว่ามันต้องไม่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว” บ่าวชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม “นอกจากนี้สถานที่ซึ่งหงหยูถูกคุมขังนั้นอยู่ด้านหลังของพื้นที่ ข้าค่อนข้างมั่นใจว่าต้องมีผู้หญิงน่าสงสารคนอื่นๆอยู่ในสถานที่นั้น”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของสมาชิกแก๊งหมาป่าดำเปลี่ยนไป ชายชราในชุดคลุมหลากสีมีใบหน้าที่ดูไม่ได้
“ใช่ เรื่องที่น่าสนใจจะต้องถูกซ่อนไว้อย่างรอบคอบมากกว่านี้” เหยียนจินกล่าวอย่างเย็นชา “ลุงหวัง ตรวจสอบพื้นที่นี้อย่างระมัดระวัง ข้าต้องการเห็นว่าแก๊งเล็กๆแบบนี้จะกล้าขนาดไหน”
“พวกท่านมิทำเกินไปรึ”
ใบหน้าของชายชรามืดลงขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่อยู่ข้างหลังเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว ขวางเส้นทางข้างหน้าพวกเขา ชายชราในชุดคลุมหลากสีกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ตอนนี้คนที่พวกท่านต้องการจะช่วยชีวิตก็อยู่กับพวกท่านแล้ว พวกท่านไม่ไว้หน้าเราบ้าง แต่จะบีบบังคับเราต่อไปอย่างงั้นรึ”
“ถอยออกไป” เหยียนจินกล่าวอย่างเย็นชา
“นี่คืออาณาเขตของแก๊งหมาป่าดำ ทั้งยังเป็นพื้นที่ของตระกูลไป๋ด้วย” ชายชราหัวเราะอย่างเย็นชา “ พวกท่านตั้งใจที่จะมีเรื่องมีราวกับพวกเราใช่หรือไม่”
“ฮ่าฮ่า เจ้าช่างกล้านักในฐานะผู้พิทักษ์” บ่าวชรากล่าวพร้อมกับหัวเราะ “จะมีใครกล้าข่มขู่วังหยกสุริยันในเมืองตงหนิงบ้าง”
ในเมืองตงหนิงวังหยกสุริยันมีสถานะสูงสุดและเป็นตัวแทนของเขาหยวนชู
“ถ้าเจ้ากล้าขัดขวางการปฏิบัติการของวังหยกสุริยัน ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้โดยตรง แก๊งหมาป่าดำของเจ้าควรรู้กฎนี้” บ่าวชราหยิบตราของวังหยกสุริยันออกมา และสีหน้าของสมาชิกในแก๊งก็ซีดลงในทันที พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถอยหลัง ชื่อเสียงของวังหยกสุริยันนั้นยิ่งใหญ่เกินไป มีการกล่าวกันว่าราชสำนักของจักรพรรดิเป็นผู้ดูแลเรื่องคนธรรมดา ในขณะที่วังหยกสุริยันเป็นผู้ดูแลในเรื่องอื่นๆทั้งหมด
หากมีใครล่วงเกินวังหยกสุริยันพวกเขาจะต้องตายอย่างไร้ค่า
“ ผู้พิทักษ์อย่าปะทะกับวังหยกสุริยัน”
“ทนหน่อย”
“ไปรายงานเรื่องนี้ให้กับแก๊งกันเถอะ เราจะไม่สามารถขวางพวกเขาได้” สมาชิกแก๊งกล่าวอย่างรีบร้อน แม้ว่าจะเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในการลักพาตัวผู้หญิง แต่แก๊งหมาป่าดำมีคนจำนวนมาก การลงโทษของข้าหลวงของจักรวรรดิอาจลงมาไม่ถึงตัวพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการลงโทษก็ตาม
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
ภายในสวนหินร้าง พวกผู้หญิงพากันเฝ้าดูอย่างกระวนกระวาย สมาชิกของแก๊งหมาป่าดำก็ถอยออกไปเช่นเดียวกัน หัวหน้าเว่ยและพวกทั้งสามคนไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
มีเพียงสีหน้าของชายชราเท่านั้นที่มืดหม่นลง เขายืนขวางทาง “ เราจะต้องปะทะกันจริงๆรึ”
“เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอรึ” บ่าวชราหัวเราะเบาๆ ในแง่ของประวัติความเป็นมา ตระกูลของเขาอยู่ไกลเกินกว่าที่ตระกูลเทพอสูรทั้งห้าในเมืองตงหนิงจะสามารถเทียบได้
“เปิดทาง” ดวงตาของเหยียนจินเย็นชา ความคิดที่ว่าผู้หญิงถูกทรมานจนตายนั้นกระตุ้นให้จิตสังหารของเขาเกิดขึ้น
“ฮ่าฮ่า ก็ได้ ข้าจะหลีกทางให้ เปิดทาง ปล่อยให้พวกเขาตรวจสอบ” ชายชราหัวเราะทำให้สีหน้าของบ่าวชราเปลี่ยนไป
ทันใดนั้น…
มีคนเดินออกมาจากเส้นทางที่ห่างออกไป
หลังของเขาค่อม แต่เขายังคงสูง ผมของเขากระเซิงและเขาเดินมาด้วยรอยยิ้มขณะที่เขามองไปยังเมิ่งชวน เหยียนจิน หลิวชีเยว่ และบ่าวชรา
แม้ว่าจะเห็นกระแสพลังของคนผู้นี้จำกัดอยู่แค่ระดับของคนธรรมดา แต่เมิ่งชวนก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่น่ากลัวอย่างยิ่งพุ่งเข้ามาหา ราวกับว่ามีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวกำลังเข้ามาใกล้
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังจะตรวจสอบสถานที่นี้รึ” คนหลังค่อมยิ้ม “มีเส้นทางมากมายนำไปสู่ชีวิต แต่เจ้ากลับเลือกเส้นทางที่นำไปสู่ความตาย”
ทันทีที่เขาพูดจบ กระแสพลังสีเขียวที่เต็มเปี่ยมก็ปะทุออกมาจากร่างกาย พร้อมกับดวงตาก็เปล่งประกายสีเขียว ร่างกายใหญ่โตขึ้นและมีกล้ามเนื้อ เล็บก็ยาวขึ้นเช่นกัน เขายื่นมือออกไปทำให้ก้อนกรวดบนพื้นลอยขึ้นไปในอากาศเข้าไปในมือของเขา
“ข้าจะส่งพวกเจ้าไปตามทางของเจ้า” ชายหลังค่อมโบกกรงเล็บอันแหลมคมของเขา
ฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้ว
ก้อนหินหลายสิบก้อนพุ่งออกไป กระแสพลังสีเขียวปกคลุมหินทุกก้อนและความเร็วของพวกมันก็น่าตระหนก
ตูม ตูม ตูม
หินบางก้อนทะลุผ่านเสาไม้ ในขณะที่ก้อนอื่นๆทะลุผ่านหินใหญ่ และทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นอย่างง่ายดาย
“อ๊ากกกก” ตามเส้นทางที่หินผ่าน สมาชิกแก๊งสามคนและหญิงที่ไม่รู้เรื่องราวอีกสองคนถูกก้อนหินเจาะทะลุ เลือดกระเซ็นไปทุกหนทุกแห่งขณะที่พวกเขาเสียชีวิตคาที่
“ระวัง”เมิ่งชวนเพ่งสมาธิ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าชีเยว่และปลดกระบี่ที่ข้างเอวของเขาทันที หลิวชีเยว่ก็ดึงสองพี่น้องมาอยู่ข้างหลังเธอทันที
“นิกายอสูรฟ้าอย่างงั้นรึ ปล่อยกระแสพลังอสูรออกมาด้วยรึ” สีหน้าของบ่าวชราเปลี่ยนไปอย่างมาก ขณะที่เขาถือกระบี่อ่อน นายน้อยระวังตัว”
เหยียนจินดึงกระบี่ทั้งสองออกจากด้านหลังของเขา เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยกระบี่ทั้งสองเล่ม
ตูม ตูม ตูม
หินที่น่าหวาดหวั่นหลายสิบก้อนปกคลุมไปด้วยกระแสพลังสีเขียวปะทะกับพวกเขาทันที เมิ่งชวน บ่าวชรา และเหยียนจิน ต้องใช้กำลังเต็มที่เพื่อสกัดกั้นหินที่อันตรายเหล่านี้ หินทุกก้อนรู้สึกเหมือนกับหนักมาก พวกมันรุนแรงยิ่งกว่าลูกธนูที่ยิงโดยจอมยุทธในระดับก่อกำเนิด หินเหล่านี้น่ากลัวยิ่งกว่านักรบในระดับก่อกำเนิดหนึ่งร้อยคนที่ยิงธนูออกมาพร้อมกัน