ตอนที่ 28-1 ลูกของท่านน้า
หลี่เว่ยหยางมีความรู้สึกชอบหลี่หมินเต๋อจากใจจริง
เพราะในแววตาของเขา นางสัมผัสได้ถึงความโหยหาที่มิต้องการจะแยกจากกัน
แม้ว่าฮูหยินสามจะเป็นมารดาบุญธรรมของเขา และปฏิบัติต่อเขาเหมือนบุตรชายแท้ ๆ ของนาง
แต่ลักษณะนิสัยของนางนั้น เป็นผู้ที่มิค่อยใส่ใจผู้อื่น และเงียบขรึมมากจนกลายเป็นเย็นชา
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มันทำให้หมินเต๋อ มีความรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
ภายในศาลาพักร้อนบริเวณสวนของบ้านตระกูลหลี่
หลี่เว่ยหยางกำลังเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองในหมู่บ้านให้เด็กน้อยฟังอย่างน่าตื่นเต้น
นางเล่าให้เขาฟังถึงช่วงเวลาที่นางจะต้องพับขากางเกง และเดินลุยน้ำเพื่อไปเก็บไข่เป็ดป่า
และยังเล่าอีกว่า นางได้ก่อกองไฟที่ริมทะเลสาบ และทำไข่ให้สุกโดยการฝังเอาไว้ในทรายที่ร้อนระอุ และได้กลืนกินทุกอย่างจนมิเหลืออันใดเลย
หลี่หมินเต๋อตั้งใจฟังด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
อาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่แห่งนี้ที่โดยมิเคยมีประสบการณ์เช่นนั้นมาก่อน
เขามิเพียงจะรู้สึกว่ามันเป็นชีวิตแบบใหม่ แต่ยังสามารถลิ้มรสอิสรภาพในคำบอกเล่าของเว่ยหยาง
หมินเต๋อกระพริบตาขณะที่กล่าวว่า
“พี่สาม สักวันหนึ่งข้าจะไปเยี่ยมชมสถานที่ ที่ท่านเคยอาศัยอยู่มาก่อน”
หลี่เว่ยหยางจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ซึ่งเผยให้เห็นว่า เขาต้องการที่จะกระพือปีกบินหนีไปจากตรงนี้มากเพียงใด
เว่ยหยางหัวเราะออกมาเบา ๆ และกล่าวว่า
“เด็กโง่ มันมิใช่สถานที่ที่น่าไปเลย”
หลี่หมินเต๋อเงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปยังหลี่เว่ยหยาง
ภายใต้ดวงอาทิตย์นั้น ใบหน้าของนางเผยให้เห็นความอ่อนเยาว์ราวกับท้องฟ้าในฤดูใบไม้ผลิที่แจ่มใส
แต่ในดวงตาสีดำมืดนั้น ยากที่จะกล่าวว่า นางกำลังมีความสุขหรือมีความเศร้า
มันเป็นดวงตาคู่หนึ่งที่ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจได้
พี่สามผู้นี้ นางมิเหมือนผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้คือสิ่งที่หมินเต๋อคิดอยู่ในใจ
อีกด้านหนึ่งของบริเวณสวนนั้น หลี่จางเล่อได้เดินผ่านสวนหินมา
และทันใดนั้น นางต้องรู้สึกตกใจเมื่อมีร่างหนึ่งกระโดดออกมาจากที่ใดสักที่
“น้องสาว !”
เสียงนี้ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มในชุดคลุมไหมตัวยาว
เขาออกมาจากด้านหลังหิน และก้าวออกมาขวางทาง
หลี่จางเล่อจำได้ว่าคนผู้นี้เป็นใครจึงยิ้มอย่างมีความหวัง
ท่านน้าแท้ ๆ ของหลี่จางเล่อได้แต่งงานกับท่านนายพลจงหยง
ต่อมานายพลจงหยงได้สืบทอดตำแหน่งท่านแม่ทัพแห่งบ่อ ชาง
เเละเกาหยวน บุตรชายคนโตของพวกเขาเข้าวังเพื่อเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนขององค์รัชทายาท
ในระหว่างการพยายามลอบสังหารองค์รัชทายาท เกาหยวนได้สละชีวิต
โดยการเข้ารับลูกศรแทนองค์รัชทายาท จึงทำให้ต้องเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
องค์รัชทายาทมีความรู้สึกเสียพระทัยเป็นอย่างมาก กับการจากไปของเกาหยวน
จึงอ้อนวอนจักรพรรดิเพื่อขอพระราชทานรางวัลแก่มารดาของเกาหยวนและทรงยกย่อง และให้เกียรติฮูหยินเกาเว่ย
ตั้งแต่บุตรชายคนโตจากไป ฮูหยินเกาเว่ยก็เริ่มให้ความสำคัญกับเกาจิน บุตรชายอีกคน
เกาจินเป็นผู้ที่หล่อเหลามาก และแม้ว่าเขาจะดูเหมือนคนตรงไปตรงมา แต่เขาเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากที่สุดคนหนึ่ง
พฤติกรรมของเขาทำให้ท่านแม่ทัพจงหยง ผู้ซึ่งเป็นบิดาเกิดความเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก
มีหลายครั้งที่บิดาของเขาโกรธมาก และต้องการที่จะสั่งสอนเกาจิน แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องฮูหยินเกาเว่ยจะเข้ามาปกป้องเกาจินเสมอ
เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเกาจินเคยเป็นนักเรียนคนโปรดของท่านอำมาตย์หลี่
ท่านแม่ทัพจึงมักจะมาเยี่ยมเยียนคฤหาสน์ของบ้านตระกูลหลี่ด้วยเหตุผลสองประการ
ประการแรกหวังว่าการศึกษาของเกาจินจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี เพื่อเป็นการก้าวไปสู่วงการขุนนาง
และประการที่สองเขาต้องการที่ผูกสัมพันธ์กับท่านอำมาตย์หลี่ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
แม้ว่าเกาหยวนและเกาจินจะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน แต่พวกเขาก็มิได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน
ในตอนที่เกาหยวนยังเด็กนั้น เขามีความสามารถและมีการศึกษา
ในทางตรงกันข้ามเกาจินเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เจ้าชู้ และไม่เอาไหน
ท่านอำมาตย์หลี่พยายามอบรมสั่งสอนเกาจินอยู่หลายครั้ง
แต่เมื่อเห็นว่าเขามิได้ตั้งใจศึกษาอย่างจริงจัง ท่านอำมาตย์จึงต้องยอมแพ้ไปในที่สุด
นอกจากนี้ ฮูหยินใหญ่ยังมีส่วนที่ทำให้หลานชายของนางผู้นี้ต้องเสียคน โดยการตามใจเขาทุกอย่าง
เป็นเพราะเขาเป็นบุตรชายผู้เดียวของพี่สาวนาง
ดังนั้นเกาจินจึงสามารถเข้ามาในบ้านตระกูลหลี่ได้ทุกเมื่อตามที่เขาต้องการ
“น้องสาว! เจ้ากำลังคิดถึงข้าอยู่ใช่หรือไม่ จึงให้คนไปตาม!”
เกาจินหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เดินเข้ามาหาหลี่จางเล่อ
“ปกติมันยากมากที่จะได้เห็นใบหน้าของเจ้า น้องสาว!เมื่อเติบโตขึ้น เจ้าช่างงดงามเช่นเดียวกับนางฟ้า . .”
ปกติแล้วหลี่จางเล่อเข้ากันได้ดีกับเกาจิน แต่วันนี้นางมีรอยยิ้มมากเป็นพิเศษ
“แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล ข้าจึงเชิญท่านพี่มาที่นี่”
เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหลี่จางเล่อเเล้ว หัวใจของเกาจินก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น
“ไม่ว่าน้องสาวต้องการอันใดก็ตามท่านพี่ของเจ้าจะต้องทำให้อย่างแน่นอน
แม้ว่ามันจะหมายถึงการบุก น้ำหรือว่าลุยไฟก็ตาม แน่นอนว่า ข้าจะต้องทำให้เจ้าทุกอย่าง!”
เกาจินมิค่อยชอบมาที่บ้านตระกูลหลี่มากนัก เพราะเขามิค่อยชอบนิสัยของอำมาตย์หลี่ และวิธีที่เขาพยายามที่จะให้ความรู้ผู้อื่นอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามเกาจินได้ค้นพบในภายหลังว่า ฮูหยินใหญ่จะช่วยเขาได้มากเพียงใด