ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 51.2

ตอนที่ 51.2

ตอนที่ 51-2 รอหายนะ

นางยังมีความกล้าที่จะยอมรับว่าความคิดเหล่านี้เป็นของตนเอง

ซึ่งทำให้หลี่เว่ยหยางเกือบจะหัวเราะออกมาให้ดังที่สุดด้วยความละอายใจแทน

ในชาติที่แล้ว ครึ่งเดือนก่อนที่ ทัวเป่าเจิ้นจะขึ้นครองบัลลังก์

พื้นที่ทางตะวันออกของเมืองหลวงได้ถูกน้ำท่วมโดยฉับพลัน

ทัวเป่าเจิ้นจึงเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยด้วยตนเอง และนางก็ได้ไปกับเขาด้วย

เมื่อไปถึงที่นั่น และได้เผชิญกับสายตาที่เจ็บปวดของคนจรจัด และผู้หิวโหยนับล้าน

จึงได้มีพระราชโองการให้นักยุทธศาสตร์สิบห้าคนรวมตัวกันและวางแผนแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์

หลังจากปฏิบัติภารกิจเป็นเวลาสามวันโดยมิได้พักผ่อนด้วยความมุ่งมั่น

แต่แผนการรับมือกับอุทกภัยในครั้งนั้นกลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

แต่ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่ยังมิสามารถปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลได้ในสถานการณ์จริง

แต่หลังจากจัดระเบียบแผนการรับมือใหม่แล้ว โดยการใช้กลวิธีดังกล่าว ทุกอย่างจึงเป็นไปได้ด้วยดี

หลี่เสี่ยวหรันเหลือบมองไปยังหลี่เว่ยหยางด้วยสายตาแห่งความเสียใจ

เขามิเคยทราบมาก่อนเลยว่า บุตรสาวที่ตนเองมองข้าม จะฉลาดปราดเปรื่องถึงเพียงนี้

แต่…เขาอบรมเลี้ยงดูหลี่จางเล่อมาหลายปีแล้ว และตอนนี้นับได้ว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับนางที่จะเปล่งประกายให้โลกได้รับรู้

สิ่งนี้มิเพียงแต่จะดึงดูดความสนใจจากราชวงศ์ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้นางได้รับชื่อเสียงที่ดีในหมู่ผู้คนอีกด้วย

หากมีเพียงเว่ยหยางที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่เคียงข้างเขา…

หากเพียงแต่นางมีใบหน้าที่งดงามเขาก็คงจะมิละเลยการทำงานหนักของเธอ

แต่เนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้เขาจึงทำได้เพียงแค่ไหลไปตามน้ำ เพื่อเป็นพยานเกี่ยวกับแผนการรับมือภัยพิบัตินั้น

จากนั้นทัวเป่าเจิ้นกล่าวอย่าง

ยิ้มแย้มว่า:

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะรีบเข้าไปในพระราชวัง และทูลเกล้าถวายนโยบายการบรรเทาภัยพิบัติห้าขั้นตอนนี้ให้กับพระบิดาด้วยตนเอง

ในเวลานั้น ข้าแน่ใจว่า คุณงามความดีของคุณหนูใหญ่จะได้รับการตอบแทนอย่างแน่นอน”

หลี่จางเล่อคิ้วขึ้น พร้อมด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจเป็นครั้งแรก

ตั้งแต่เริ่มต้นที่ผู้เป็นบิดาได้ย่างกรายเข้ามา หลี่เว่ยหยางยังมิได้กล่าวอันใดแม้เพียงสักคำ

เมื่อกลับมาจากศาลาแล้ว ไป๋จื่อมีความรู้สึกโกรธเคืองมาก ขณะที่หลี่เว่ยหยางจ้องมองไปที่นางพร้อมกับรอยยิ้ม:

“เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า?”

“คุณหนู ท่านทำราวกับว่ามิมีอันใดเกิดขึ้นได้อย่างไร?!

เห็นได้ชัดว่า ท่านคือผู้ที่วางแผนแล้วท่านปล่อยให้คุณหนูใหญ่ชุบมือเปิบไปได้อย่างไร!

บ่าวได้ยินมาว่า เพราะมิมีขุนนางและเจ้าหน้าที่ผู้ใดสามารถคิดแผนการที่ดีได้

ดังนั้นจักรพรรดิจึงได้มีราชโองการมาแล้วว่า มิว่าจะเป็นชายหรือหญิงผู้ใดก็ตามที่สามารถคิดแผนแก้ไขวิกฤตในครั้งนี้ได้

หากเขาเป็นชายเขาก็จะได้รับตำแหน่งทางราชการ หากเป็นหญิง นางก็จะได้รับพระราชทานรางวัล!”

“เป็นเช่นนั้นหรือ?”

หลี่เว่ยหยางรับฟัง แต่นางมิได้เกิดความกังวลใจแต่อย่างใด

ไป๋จื่อเป็นผู้ที่มีนิสัยเงียบขรึมอยู่เสมอ และเป็นเรื่องยากที่จะเห็นนางเกิดอารมณ์หงุดหงิด:

“ในครอบครัวตอนนี้คุณหนูมีเพียงผู้อาวุโสหลี่เท่านั้นที่อยู่เคียงข้างท่าน

แต่คุณหนูใหญ่ต้าก็เป็นหลานสาวของท่านเช่นกัน

ไม่ว่าจะให้ความสำคัญกับคุณหนูมากเพียงใด แต่ท่านผู้อาวุโสก็มิสามารถมองข้ามคุณหนูใหญ่และคุณหนูคนอื่น ๆ ได้

ท่านมีอายุมากแล้ว จึงมิสามารถปกป้องคุณหนูได้ตลอดไป แล้วคุณหนูจะทำอย่างไร?!”

หลี่เว่ยหยางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไป๋จื่อจะกล่าวเช่นนี้ จึงจ้องมองนางขณะที่กล่าวว่า:

“ไป๋จือ ข้าดีใจมากที่เจ้าหวังดีกับข้าจากใจจริง”

ทันใดนั้นไป๋จื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้

“คุณหนู เรารีบไปตำหนักเหอเซียนหยวนเพื่อไปหาท่านผู้อาวุโสหลี่จะดีกว่า!

ท่านอย่ามัวใจเย็นอยู่เลย เราควรรีบไปขอความเห็นใจจากท่าน!”

โม่ฉู ผู้ซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง ได้พยายามเกลี้ยกล่อมนาง:

“คุณหนู เราควรเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในวันนี้ให้ท่านรับรู้ จะดีหรือไม่“

“มิจำเป็น ท่านย่าต้องปวดหัวเกี่ยวกับปัญหาที่ข้าสร้างขึ้นหลายครั้งแล้ว

เรามิควรรบกวนท่านอีก ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้”

หลี่เว่ยหยางลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปยังพายุหิมะนอกหน้าต่าง ขณะที่ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมา

นโยบายการบรรเทาสาธารณภัย 5 ขั้นตอน?

หลี่จางเล่อรอรับรางวัลของเจ้าได้เลย

จากนั้นตัวเปล่าเติ้ลจึงได้ทูลเกล้าเสนอแผนการนั้นต่อองค์จักรพรรดิในทันที

เมื่อฝ่าบาทเห็นดังนั้น เขาจึงมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

และหลังจากได้ยินว่า บุตรสาววัยสิบห้าปีของท่านอำมาตย์หลี่เป็นผู้คิดค้นขึ้น พระองค์จึงทรงยกย่องท่านอำมาตย์หลี่เป็นอย่างมาก

และทรงประทานคำมั่นว่า เมื่อภัยพิบัติสิ้นสุดลง จะมีการพระราชทานรางวัลตามที่ได้เคยตรัสเอาไว้

หลังจากนั้นมินานนัก นักวิชาการและนักดนตรีทั่วทั้งเมืองหลวงได้แต่งบทกวีและบทเพลง

เพื่อพรรณนาถึงความงดงามและความเฉลียวฉลาดของหลี่จางเล่อ ตลอดจนความรักชาติที่นางมีต่อแว่นแคว้นและราษฎรทั้งหลาย

อาจกล่าวได้ว่า ความสามารถทางด้านวรรณคดีและศิลปะของบุตรสาวคนโตของท่านอำมาตย์หลี่นั้น เทียบมิได้เลยกับความสามารถที่น่าประทับใจของนาง

ชื่อของหญิงสาวผู้นี้ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ฮูหยินใหญ่จึงมิสามารถเก็บซ่อนความสุขบนใบหน้าของตนเองเอาไว้ได้เป็นเวลาถึงครึ่งเดือน

มิเพียงแต่นางเท่านั้น แต่คนรับใช้ของคุณหนูใหญ่ต่างก็ได้รับเบี้ยเลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย

ทำให้พวกนางมีความสุขเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้คนรับใช้ในตำหนักอื่นแต่ความรู้สึกอิจฉาตาร้อนเป็นอย่างมาก

ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องด้วยความยินดี มีเพียงหลี่เว่ยหยางเท่านั้นที่เฝ้ารอบางอย่างด้วยความใจเย็น

นางกำลังรอให้หายนะมาถึงหลี่จางเล่อในเร็ววันนี้…

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท