ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 63.2

ตอนที่ 63.2

ตอนที่ 63-2 ช่วยข้าด้วย

หลี่เว่ยหยางจับตัวเขาและดึงเขากลับมาได้สำเร็จ นางถอนหายใจอย่างช่วยมิได้

“น้องสาม เจ้าต้องการให้ข้าเป็นหวัดพร้อมกับเจ้าเช่นนั้นหรือ?”

หลี่หมินเต๋อกุมใบหน้าของตนเองและเขายังคงอารมณ์เสียอยู่

“เจ้ามีอันใดอยู่ในอ้อมแขน? มันปูดออกมา” หลี่เว่ยหยางเอ่ยถามอย่างสงสัย

“มิมีอันใด…”

นางจ้องมองเขาอย่างสงสัย

“มันมิมีอันใดจริง ๆ หรือ”

เขากอดอกขณะที่กล่าวว่า:

“…มันเป็นเพียงของเล่นล้ำค่าของข้า…แต่มันเปรียบมิได้กับสิ่งที่รัชทายาทมอบให้ท่านหรอก!”

หลี่เว่ยหยางนิ่งไป:

“เจ้า…เตรียมของขวัญให้ข้าด้วยหรือ?”

ความเขินอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่หมินเต๋อทันที หลังจากนั้นมินานเขาก็พยักหน้ายืนยัน

หลี่เว่ยหยางตกใจเล็กน้อย และรู้สึกมิสบายใจอยู่ภายใน

นางทราบว่าหมินเต๋อเป็นเด็กขี้เหงาเพราะความแก่แดดเขาฉลาดและอ่อนไหวกว่าผู้ใหญ่มากซึ่งทำให้คนอื่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรักใคร่

หลี่หมินเต๋อหยิบไม้แกะสลักออกจากอกของเขาช้า ๆ

หลี่เว่ยหยางจ้องมองสิ่งนั้นด้วยความงุนงง:

“…อืม”

มันเป็นตุ๊กตาที่ดูเหมือนจะเป็นรูปกระต่าย…

“มันดูเหมือนท่านหรือไม่?” หลี่หมินเต๋อเอ่วถามนางอย่างพอใจ

หลี่เว่ยหยางมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เขาเสียใจ จึงกล่าวเพียงว่า:

“ใช่มันดูคล้ายมาก เจ้าทำเองหรือ?”

“ใช่!” หลี่หมอนเต๋อกล่าวขณะที่ยิ้มอย่างมีความสุข

“มันงดงามมาก”

หลี่เว่ยหยางยกของขวัญของเขาขึ้นมาดูอย่างพิจารณา

แม้ว่างานไม้จะขาด ๆ หาย ๆ แต่ทุกเส้นและมุมก็มีความโค้งมน จะเห็นได้ว่ามีความพยายามอย่างมากในเรื่องนี้

“หมินเต๋อมีน้ำใจกับข้ามากเกินไป”

หลี่หมินเต๋อยิ้มกว้าง และนางสังเกตเห็นนิ้วมือของเขางอเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วขึ้น

นางคว้ามือของเขาทันที และที่ปลายนิ้วนั้น เห็นว่ามีรอยแผล และมีร่องรอยด้านที่นิ้วนั้น

“นี่เจ้าได้รับบาดเจ็บที่นิ้วหรือ?”

หลี่หมินเต๋อดึงมือของตนเองกลับมาซ่อนทันที:

“ข้ามิได้เป็นอันใด!”

เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บที่นิ้ว แต่เขาปฏิเสธ

ดวงตาของหลี่เว่ยหยางมืดมิดราวกับกลางคืน ขนตาที่งอนยาวของนางกระพริบอยู่ใต้ดวงตาของนางจนกลายเป็นเงา ในที่สุดนางก็ยิ้มอย่างร่าเริงและกล่าวว่า:

“ข้าจะเก็บรักษาของขวัญชิ้นนี้ให้ดีที่สุด”

ดังคำกล่าวที่ว่าไปซุบซิบนินทาซ้ำบ่อยพอ2ก็จะยอมรับว่าเป็นความจริง

เหตุการณ์ที่แพร่กระจายผ่านปากของผู้คนจำนวนมากย่อมเกินจริงอย่างหลีกเลี่ยงมิได้

นอกจากนี้ในคืนนั้นในงานเลี้ยงยังมีขุนนางและสุภาพสตรีในครอบครัวหลายคนมาร่วมตัวด้วยและพวกนางก็ชอบนินทาคนอื่น

ในไม่ช้าทั้งเมืองหลวงก็ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายคนโตของท่านอำมาตย์หลี่ที่กลับมาจากการศึกษาที่เมืองอื่นแล้ว

แท้จริงแล้ว เขาเป็นคนเสเพลที่มีสาวใช้เป็นนางบำเรอก่อนที่จะแต่งงาน แล้วยังเป็นต้นเหตุการตายของสาวใช้ผู้นั้นอีก

ฮูหยินใหญ่คิดหาวิธีทุกอย่างเพื่อระงับข่าวลือนี้มิให้แพร่กระจายออกไป แต่ข่าวลือก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผู้คนต่างก็ซุบซิบนินทา และกระจายข่าว อีกทั้งยังเพิ่มรายละเอียดของตนเองอย่างต่อเนื่อง

ทำให้เหตุการณ์นี้มีสีสันมากขึ้นและกลายเป็นหัวข้อยอดนิยมในหมู่สาธารณชน

ในท้ายที่สุด ข่าวลือนี้ได้พัฒนาไปสู่สิ่งนี้…ลูกชายคนโตของบ้านตระกูลหลี่ และกระทำชำเราสาวใช้ จนทำให้สาวใช้ผู้นี้ฆ่าตัวตายในวันที่มีงานเลี้ยง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ข่าวลือนี้ได้แพร่กระจายไปยังพระราชวังซึ่งทำให้จักรพรรดิโกรธเคืองมาก

เนื่องจากพระองค์มีความตั้งใจที่จะแต่งตั้งให้หลี่หมินเฟิงเป็นข้าราชการในราชสำนัก

พระองค์มิเพียงระงับแผนการทั้งหมดที่สนับสนุนความตั้งใจของตนเองเท่านั้น แต่ยังทรงดุด่าองค์ชายสาม ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอนี้ด้วย

องค์ชายสามซึ่งเป็นผู้ที่มีความคิดรอบคอบอยู่เสมอคิดว่า หากพระองค์ทรงทูลเสนอเพื่อช่วยเหลือหมินเฟิง

ตนเองจะได้รับความกรุณาจากท่านอำมาตย์หลี่ และจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่สามารถนำไปใช้ได้ในภายหน้า

เขามิคาดคิดว่า จะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น นี่เป็นความผิดพลาดที่หาได้ยากในรอบหลายปี

ในตอนบ่ายของวันนั้น ฮูหยินใหญ่พาหลี่จางเล่อมาที่ห้องโถงของบรรพบุรุษเพื่อเยี่ยมหลี่หมินเฟิงที่ถูกขังไว้

หลี่หมินเฟิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยความสับสน ผิวของเขาหมองคล้ำและดวงตาของเขาขาวซีด อีกทั้งใบหน้าของเขานั้นช่างหม่นหมอง

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เขาเฝ้าแต่ครุ่นคิด และมิเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น

จากความรู้ที่สั่งสมมาทั้งทางด้านวิชาการและประสบการณ์การเดินทางเขานั้นเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าเด็กสาวอายุสิบสามปีผู้นี้มาก

แล้วเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร?

เขามิอยากจะเชื่อเลยว่า ตนเองตกหลุมพรางของหลี่เว่ยหยางซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ซึ่งนางเป็นเพียงเด็กสาวจากชนบทที่มิมีความสามารถอันใดเลย และมิมีมุมมองทางด้านการเมืองด้วยซ้ำ

มิหนำซ้ำเรื่องนี้ยังแพร่กระจายเข้าไปถึงทางราชสำนักอีก

“พี่ใหญ่ ท่านกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” หลี่จางเล่อแทบจะกล่าวมิออก

เมื่อคุณชายใหญ่เห็นผู้เป็นมารดาจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทันที:

“ท่านแม่ ช่วยข้าออกไปจากที่นี่..ข้ามิสามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว!”

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท