ตอนที่ 64 ดาวคู่แห่งเจียงโจว (2)
ชายวัยกลางคนมองฉีหลินอยู่ครู่หนึ่งก่อนล้วงโทรศัพท์ออกมา
…
เวลาตีสี่
รถยนต์ไฮบริดสองคันแล่นมาจอดหน้าทางเข้าของแพลตตินั่มคาสเซิล โกโก้ที่สวมเสื้อกันหนาวขนแพะก้าวลงจากรถและเดินเข้าประตูอย่างสง่างามขณะคุยโทรศัพท์ด้วยความกังวล “อืม เฒ่าไป๋โทรมาบอกฉันว่าเขาสามารถหาโกดังของพี่คังได้…ใช่ ฉันถึงแล้ว ฉันจะไปเจอเขาเดี๋ยวนี้แหละ ไว้คุยกันทีหลังนะ”
โกโก้วางสาย
ในขณะที่โกโก้กำลังจะขึ้นบันได ฉินอวี่ก็เดินลากคอเสื้อของชายวัยกลางออกมาเสียก่อน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปบีบคอของเธอทันที “ว่าไง คนสวย…เจอกันอีกแล้วนะ”
โกโก้มองฉินอวี่ด้วยความประหลาดใจ
“ฉันบังคับให้เขาโทรเอง” ฉินอวี่ชี้ไปที่ชายวัยกลางคนพร้อมพูดว่า “อย่าโทษฉันสิ ฉันใช้ชีวิตพี่คังมาขู่เขาน่ะ”
โกโก้ไม่เผยสีหน้าตื่นตระหนก แต่กลับถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แกต้องการอะไร?”
“เราไปหาที่อื่นคุยกันไหม? ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้ในถิ่นของเธอ” ฉินอวี่ถามด้วยรอยยิ้ม
โกโก้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?”
“ถ้าเห็นแก่พี่คังก็ลองคิดดูดีๆ สิ”
“ถ้าพี่คังตาย เพื่อนของนายได้ไปนอนคุยกับพี่คังแน่”
“ฉันยังเหลือไพ่ใบอื่นในมือ…”ฉินอวี่พูดพร้อมบีบคอของโกโก้แน่นขึ้น ก่อนโน้มตัวไปกระซิบ “ไอ้เด็กจากตระกูลหลี่แห่งเจียงโจวอยู่ในกำมือของฉัน”
โกโก้นิ่งอึ้ง
“ฉันอ้างชื่อเธอเพื่อจับมันเลยนะ” ฉินอวี่หัวเราะ “อยากเจอมันไหมล่ะ?”
“ถ้าไม่มีหลักฐานฉันก็เชื่อคำพูดนายไม่ได้”
ฉินอวี่โบกมือส่งสัญญาณให้รถที่จอดอยู่ด้านนอก
ฉินอวี่ลดกระจกรถลงพลางดึงศีรษะของหลี่ถงขึ้น
“ตอนนี้เชื่อหรือยัง?” ฉินอวี่ถาม
เมื่อเห็นหลี่ถงอยู่บนรถ โกโก้ก็เผยสีหน้าประหลาดใจชั่วครู่ก่อนพยักหน้าและพูดว่า “ดีมาก แค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้ฉันไปด้วยแล้วล่ะ”
“ไปกันเถอะ”
“ปล่อย อย่าฉวยโอกาสสิ” โกโก้ชี้มือฉีหลินพร้อมพูด
“ไม่ทำอะไรหรอก ฉันยังต้องการให้เธอคุ้มกะลาหัวอยู่” ฉินอวี่พูดพลางเอาปืนจ่อเอวของโกโก้
โกโก้สูดหายใจเข้าลึก ก่อนหันไปสั่งการลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง “พาไอ้นั่นมาที่นี่ แล้วรอฉันติดต่อไป”
“ลูกพี่อย่าไปเลยครับ!” คนขับพูดเตือนอย่างกังวล
แต่โกโก้โบกมือปฏิเสธและพูดว่า “ไม่เป็นไร แม้การเจรจาจะล้มเหลว พวกเขาสองคนก็คงไม่ทำร้ายผู้หญิงบอบบางหรอก”
ฉินอวี่พูดเย้ยหยันทันทีที่ได้ยิน “ฉันเห็นเธอส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เขาแล้ว อย่าเรียกตัวเองว่าผู้หญิงบอบบางเลย”
“ไปกันเถอะ!” โกโก้หัวเราะเบาๆ
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ณ ถิ่นกันดารในเมืองเจียงโจว โกโก้ก้าวลงจากรถตามฉินอวี่พร้อมพูดว่า “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่านายจะบังคับให้เฒ่าไป๋โทรมาล่อฉันออกมา ฉลาดกว่าที่คิดนะเนี่ย”
“พวกเราไม่ชินกับเส้นทางในเจียงโจว” ฉินอวี่ตอบพลางถูฝ่ามือเข้าด้วยกัน “ทำให้เราถูกปิดล้อมทันทีที่มาถึงเจียงโจว ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้เรารู้ว่าว่าการระมัดระวังตัวนั้นสำคัญแค่ไหน”
โกโก้นิ่งเงียบ
ฉินอวี่มองสำรวจรอบๆ ก่อนเดินไปที่หลังรถและยกฝาครอบขึ้น
โกโก้ขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดโชยออกมา
ฉินอวี่เปิดกระเป๋าสีดำพลางก้มหน้าพูดว่า “เราพยายามสุดความสามารถแล้ว…แต่ก็ช่วยเขาไว้ไม่ได้”
โกโก้มองศพของพี่คังด้วยสายตาเย็นชา
ฉินอวี่สังเกตเห็นความเกลียดชังในแววตาของโกโก้จึงกล่าว “ฟังนะ การตายของพี่คังไม่เกี่ยวกับพวกเราเลย และฉันกลัวว่าเธอจะคิดไปไกลถ้าฉันเป็นคนโทรไปเอง”
“อธิบายมาสิ ฉันฟังอยู่” โกโก้เดินเข้าไปใกล้กระบะก่อนปิดกระเป๋าโดยไม่รังเกียจศพของพี่คัง
ฉินอวี่รวบรวมคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนอธิบายทุกอย่างให้โกโก้ฟัง
โกโก้เบิกตากว้างด้วยความตกใจหลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมด “หลี่ถงเป็นคนจับตัวพี่คังงั้นเหรอ?”
“อืม และอีกอย่างทำไมฉันถึงต้องจับตัวมันมาด้วยล่ะ?” ฉินอวี่ตอบ “แม้จะช่วยชีวิตพี่คังไม่ได้ แต่การพาหลี่ถงมาด้วยก็น่าจะยืนยันความบริสุทธิ์ของพวกเราได้”
โกโก้เหลือบมองหลี่ถงที่ถูกปิดปากนอนสลบอยู่ในรถอย่างเงียบๆ ก่อนขอตัวอยู่คนเดียวสักครู่จากนั้นพูดว่า “ฉันจะปล่อยเพื่อนของนาย…มาจบเรื่องนี้กันเถอะ”
“นั่นไม่ช่วยอะไรหรอก” ฉินอวี่ตอบพลางส่ายศีรษะ “ฉันมาที่นี่เพื่อเจรจาเรื่องช่องทางการค้ายา”
“ฉันไม่เคยอนุมัติให้พี่คังสร้างเส้นทางการค้ายาเส้นใหม่ในซ่งเจียง” โกโก้ปฏิเสธอย่างเย็นชา “ที่นั่นวุ่นวายและมีผู้อิทธิพลเยอะเกินไป ฉันรู้ว่าตระกูลหยวนหรือใครก็ตามกำลังสืบเรื่องเส้นทางการค้าของอาหลงอยู่ ฉันจึงไม่อยากเสี่ยง นอกจากนี้พี่คังก็ตายไปแล้วจึงไม่มีใครดูแลเส้นทางการค้ายาในซ่งเจียงอีกต่อไป”
ฉินอวี่ขมวดคิ้วพลางมองโกโก้ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “พวกเรากลับซ่งเจียงไม่ได้ ถ้าสร้างเส้นทางการค้ายาไม่สำเร็จ”
“เรื่องของนายสิ” โกโก้ตอบอย่างกระจ่างชัด “ส่งตัวหลี่ถงมา แล้วฉันจะปล่อยเพื่อนของนาย…ให้มันจบแค่นี้เถอะ”
ในขณะเดียวกัน ฉินอวี่ถอนหายใจก่อนชี้ไปที่โกโก้ “ยังไม่เข้าใจที่ฉันพูดอีกเหรอ?”
“อะไร?”
“ถ้าเธอล้มเลิกเส้นทางค้ายาในซ่งเจียง ฉันก็จะไม่ส่งตัวหลี่ถงให้”
“นายจะทิ้งเพื่อนเหรอ?” โกโก้เย้ยหยัน
“ฉันบอกไปแล้วว่าถ้าสร้างเส้นทางการค้ายาในซ่งเจียงไม่สำเร็จ พวกเราสามคนก็กลับไปไม่ได้” ฉินอวี่ยืนยัน “เราก็จะพาหลี่ถงไปด้วย เพราะเขาบอกตอนอยู่บนรถว่าตระกูลหลี่สนใจจะร่วมมือกับเราถ้าเธอไม่ตกลง”
โกโก้ตกตะลึงเมื่อได้ยิน
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าทำไมพี่คังถึงถูกฆ่า?” ฉินอวี่มองโกโก้ก่อนเยาะเย้ย “ตระกูลหลี่สนใจการค้ายา และนั่นทำให้พวกเขามีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างเธอกับพี่คังใช่ไหม?”
โกโก้ยังคงนิ่งเงียบ
“ถ้าเธอไม่ทำ ตลาดยาในซ่งเจียงก็ตกอยู่ในมือของตระกูลหลี่” ฉินอวี่เย้ยหยัน “อย่าเสียเวลาอีกเลย ฉันจะถามเธอครั้งสุดท้ายว่าจะร่วมมือกับเราหรือไม่? ถ้าไม่…ฉันจะพาตัวหลี่ถงไปทันที”
“ชีวิตของเพื่อนนายไม่สำคัญเหรอ?”
“ตายคนเดียวดีกว่าตายกันทั้งสามคน” ฉินอวี่ตอบอย่างเย็นชา
โกโก้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามอีกครั้งว่า “นายไม่กลัวเหรอว่าฉันจะกลับคำ หลังจากได้ตัวหลี่ถง?”
“คิดว่าฉันโง่เหรอ? ทำไมฉันต้องส่งตัวหลี่ถงให้เธอก่อนที่สินค้าจะถึงซ่งเจียง?”
จู่ๆ โกโก้ก็ระเบิดหัวเราะก่อนพูดว่า “นายฉลาดกว่าอาหลงเยอะเลย!”
“ฉันแค่จนตรอกกว่าอาหลงเท่านั้นเอง” ฉินอวี่ตอบ
“ก็ได้ นายทำสำเร็จ” โกโก้พูดพลางชี้ไปที่ฉินอวี่ “แต่เหตุผลที่ฉันร่วมมือไม่ใช่เพราะว่ากลัวตระกูลหลี่แย่งตลาดยาของเราไปหรอกนะ”
ฉินอวี่เอียงศีรษะด้วยความสับสน
“ฉันเห็นแก่ความพยายามในการชิงตัวหลี่ถงของพวกนาย” โกโก้พูดด้วยรอยยิ้ม “มันเป็นเรื่องสำคัญนะว่าคู่หูของเราเป็นคนยังไง ก่อนตัดสินใจร่วมงาน”
“ถ้างั้นเธอควรดีใจนะที่ไม่ผิดหวัง” ตอนนี้ฉินอวี่ตระหนักได้แล้วว่าโกโก้ยอมร่วมมือแต่แรก เพียงแค่เธอต้องการทดสอบว่าพวกเขาจะทำสิ่งที่บอกได้สำเร็จหรือไม่เท่านั้น
ทั้งสองมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่โกโก้จะหัวเราะออกมา “คำพูดของนายแทงใจดำมากเลยนะ”
“หืม?” ฉินอวี่รู้สึกสับสน
“เอ้า นี่!” โกโก้ล้วงโทรศัพท์ออกมาและยื่นให้ฉินอวี่
ฉินอวี่นิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนมองโทรศัพท์และเห็นว่ามันอยู่ในระหว่างการโทร
“เขากำลังถือสายอยู่น่ะ พูดอะไรหน่อยสิ” โกโก้กล่าว
ฉินอวี่ขมวดคิ้วแน่นก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพูดว่า “ฮะ…ฮัลโหล?”
“ฮัลโหลบ้านแม่แกสิ! ไอ้เวรฉินอวี่ ฉันมองแกผิดไปจริงๆ แกนับถือฉันเป็นพี่ แต่แกกลับขายฉันให้ผู้หญิงคนนี้เนี่ยนะ แล้วตายคนเดียวดีกว่าตายสามคนหมายความว่ายังไงวะ? ทำไมแกไม่ตายๆ ไปซะ?” แมวเฒ่าด่าทอไม่หยุดราวกับปืนกล “เขาว่ากันว่าให้เลือกคบเพื่อน…ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันหมายความว่ายังไง!”
ฉินอวี่พูดไม่ออก เขาเดินไปด้านข้างก่อนพูดว่า “นายปัญญาอ่อนเหรอ? พวกเรากำลังเจรจากันอยู่ ฉันจะให้ยัยนั่นรู้จุดอ่อนไม่ได้! นายจะบ่นอะไรนักหนา…”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันอารมณ์เสีย ไม่อยากคุยด้วยแล้ว…ไปให้พ้น อย่าเสนอหน้าให้ฉันเจออีก!” แมวเฒ่าวางสายด้วยความขุ่นเคือง
“ไอ้สัตว์เอ๊ย!” ฉินอวี่กลอกตาพลางสบถออกมา
ในขณะเดียวกัน โกโก้เปิดประตูรถและมองเข้าไปข้างใน “ว่าไง นายน้อยหลี่…ตื่นแล้วเหรอ?”
หลี่ถงมองโกโก้ด้วยสายตาหวาดกลัว
…………………………………..